สวัสดีครับ นานๆผมจะตั้งกระทู้สักที ... เข้าเรื่องเลยละกันรวบรัด

ผมขายสินค้า online มา 3 ปีเต็ม หลังจากที่ออกจากกงาน เพราะคิดว่าเราสามารถหารายได้จากทางอื่นได้ไม่ใช่แค่พนักงานบริษัท ...

ส่งที่ผมทำคือขายสินค้าผ่านทาง facebook และ เว็ปไซด์ ผมทำเพจ และเว็ปไซด์ให้กับสินค้าของตัวเอง แยกตามชนิดสินค้าที่ขาย ไม่รวมกันในเว็ปหรือเพจเดียวกัน

ในระหว่างที่ผมทำในช่วงแรก ก็ค่อนข้างหาข้อมุลด้านการทำตลาด online ค่อนข้างมาก สนใจพวกกูรู ที่เปิดอบรมสอนการยิง ads และการทำตลาดผ่าน google  และ facebook ที่เปิดขายคอร์สกันหลักพันถึงหลักหมื่น แต่ผมไม่เคยได้เข้าร่วมสัมมนาแบบซื้อคอร์สกับเขาสักทีนะครับ เพราะคิดว่า "มันแพง"

เลยอาศัยการหาดูใน youtube และอ่านตามบทความต่างๆที่พอจะหาอ่านได้มาประดับความรู้เอา

สินค้าที่ผมขาย แบ่งเป็น 3 ประเภทหลักๆครับ
1.เครื่องสำอาง
2.สินค้าเกี่ยวกับแม่และเด็ก
3.ผลิตภัณฑ์ยาสมุนไพร  

สินค้าที่ผมทุ่มและคาดหวังมากที่สุด คือ เครื่องสำอางครับ เนื่องจากมูลค่าในตลาดที่มหาศาลทำให้เราพุ่งไปที่จุดนี้ และลงทุนการตลาดการสร้างแบรนด์ค่อนข้างมาก เรียกได้ว่าละเอียดทุกอย่าง ตั้งแต่การเลือกบรรจุภัณฑ์ แพ็คเกจ และบริษัทฯที่ผลิต ...

ผมเสียเงินกับการตลาดเช่นการยิง ads และ  google ไปหลายแสนบาท รวมถึงลงทุนทำแบรนด์เนอร์และส่งสินค้าให้บรรดาบล๊อกเกอร์รีวิวด้วย (จ้างรีวิวเสียเงินนะครับ)

ในขณะที่ผมกำลังมุ่งไปที่เครื่องสำอาง เวลาที่ผมหมดไอเดีย เช่นคิดแค๊ปชั่นไม่ออก ผมก็จะลงมาปั่น สินค้าแม่และเด็ก และ ยาสมุนไพรบ้าง แต่ผมไม่ได้ยิง ads และ google เลย ใน 2 อย่างหลัง

สิ่งที่ผมทำกับสินค้าเครื่องสำอางเช่น

เทคนิคการคิดหัวข้อให้คนแต่ละระดับอยากอ่าน

เทคนิคการวางแผน content

เทคนิคการคิดหัวข้อ content

เทคนิคการเขียนให้คม

เทคนิคการใช้ภาพ
เลือกภาพ วางแคปชั่นบนภาพ
การจัดเรียงภาพ

รูปแบบภาพและวิดีโอที่เหมาะกับแต่ละสื่อ

ตามหัวข้อที่กูรู ชื่อดังๆเปิดสอนกัน ผมทำมาหมดแล้ว บอกเลยว่า แทบจะทุกวิธีครับ แต่สุดท้ายผลตอบรับคือไม่ดีเลย ... คือ คนสนใจมาดูที่เพจเยอะแต่ไม่สามารถสร้างยอดขายได้ .... ยอดไลท์เป็นหมื่นครับ แต่คนไม่ซื้อ ....

และในขณะที่ผมทำเครื่องสำอางก็ได้ค้นพบวัฏจักรของธุรกิจเครื่องสำอางคือ การทำตลาดตัวแทน แต่สุดท้ายแล้วผมก็ไม่คิดเลือกเดิมทางนี้ครับ เพราะแท้จริงแล้วการตลาดตัวแทน เจ้าของแบรนด์รวยครับ แต่ตัวแทนจะค่อยๆตาย เพราะสินค้าขายไม่ได้ ... เอาทองเอารถมาล่อให้เค้าสต๊อก สุดท้ายสินค้าไม่เดิน ตัวแทนก็มาโวยกับแบรนด์ ปวดหัวไปตามๆกันผมจึงไม่คิดเดินทางนี้ครับ

ในขณะที่ผมตั้งหน้าตั้งตาแก้ปัญหากับเครื่องสำอาง ปรากฏว่า สินค้าแม่และเด็ก และยาสมุนไพรของผม กลับทำยอดขายได้ ทั้งๆที่ผมแทบไม่ได้ทำการตลาดอะไรเลย ... มีคน inbox เข้ามาถามรายละเอียด และโอนเงินซื้อแบบง่ายๆ ไม่ต้องอ้างเยอะ เพียงส่งรูปสินค้า และสรรพคุณให้ทราบ ลูกค้าก็โอนเงินซื้อทันที ...

จึงทำให้ผมต้องมานั่งคิดใหม่ พับตำราทั้งหมดของพวกกูรูทั้งหลายไว้ และวิเคราะจากที่เราทำ สรุปจากผลลัพท์ของสินค้า ทั้ง 3 แบบได้ว่า ..

-สินค้าที่จะขายได้ต้องเป็นสินค้าที่มีความต้องการของตลาด มีลูกค้ารอซื้อ มากกว่าพ่อค้าแม่ค้ารอขาย
-สินค้าดีมีความต้องการ ไม่ต้องบ้าการตลาดมากก็ได้
-สินค้าคู่แข่งมาก งบการตลาดยิ่งมาก ลูกค้ามีตัวเลือกเยอะการตัดสินใจซื้อเลยยากยิ่งขึ้น
-อย่าไปหลงกลพวกนักการตลาดที่เปิดอบรมมาก ไม่งั้นจะหลงทาง  

โดยเฉพาะประเด็นสุดท้ายที่ผมคิดว่าผมเสียเวลาจับจดเพราะมัวแต่หลงกลนักการตลาดที่สอนการตลาด online มากเกินไป โดยกล่อมประสาทตัวเองว่าที่เรายังขายไม่ได้เพราะเรายังทำไม่พอ ต้องเน้น ต้องอัด ต้องยิงads อย่าหยุด อย่ายอมแพ้ บลาๆ ...จนเราลืมที่จะหยุดคิดและตั้งสติใหม่ ...

สุดท้ายผมหยุดการทำตลาดของเครื่องสำอาง คือหยุดยิง ads และโฆษณาใน google ทันที .. และลงมาทำตลาดกับ 2 สินค้าที่ทำรายได้ให้กับผม มากขึ้น

งบการตลาดที่ผมใส่ให้กับ สินค้าแม่และเด็ก และ ยาสมุนไพร คิดเป็นเปอร์เซ็นท์เทียบกับเครื่องสำอาง ผมลงไปเพียง 5% ของที่ลงไปกับเครื่องสำอางเท่านั้น แต่มันสามารถสร้างรายได้แซงต้นทุนเครื่องสำอางได้หมดภายในเวลา 3 เดือน ..และที่สำคัณ คือมีลูกค้าซื้อซ้ำ และสร้างกลุ่มลูกค้าประจำได้อย่างง่ายดาย ....

และนั่นคือบทสรุปของการทำตลาด online และตบหน้าเหล่าบรรดากูรูที่สอนให้คนที่สนใจทำตลาดสินค้า online ไปขายกันแต่เครื่องสำอาง

ดังนั้นผมขอสรุปให้เพื่อนๆ เป็นข้อมูลไว้ดังนี้ครับ

1.ถ้าสินค้าคุณเป็นที่ต้องการของตลาด เป็นสินค้าที่มีคนรอซื้อ เป็นสินค้าที่การแข่งขันต่ำ
2.ถ้าสินค้าคุณมีคุณภาพ ตอบโจทย์เค้าได้จริง

คุณมี 2อย่างนี้ล่ะครับ ไม่ต้องเหนื่อยเลย สินค้าที่สร้างรายได้ให้ผม ไม่มีทั้งรีวิว ไม่มีแบรนด์เนอร์โฆษณา ไม่เคยลง google เพียงแค่ยิง ads ในเพสวันละ 30 บาท และที่สำคัณผมไม่ต้องมานั่งคิดคอนเทนต์บ้าๆทุกวัน เอาเวลาไปดูหนังฟังเพลงได้มากขึ้น

โพสขายมันตรงๆ สรรพคุณยังไงราคาเท่าไร จบครับ ไม่นาน inbox ตอบกันไม่ทัน

ฝากไว้ครับสำหรับใครที่ขายสินค้า online อยู่แล้วขายไม่ได้ หรือไม่ดีพอ ลองหาสินค้าที่มีความต้องการของตลาด สินค้าที่มีคนรอซื้อคุณอยู่มากมาย แต่ไม่มีใครขาย สินค้าที่จะสร้างลูกค้าประจำให้คุณได้ ลองค้นหาดูครับ