เมื่อความรักที่มีต่อแมว ภาพถ่ายสารพัดแมวที่มีอยู่เต็มเครื่อง และบทความบอกเล่าภาษาแมวที่ได้เขียนหลายต่อหลายครั้ง ทั้งหมดนี้ไม่ได้หมายความว่า ตัวผู้เขียนคนนี้มีแมวเป็นของตัวเอง หรือเคยเลี้ยงแมวมาก่อน ไม่เลยค่ะ เราไม่เคย!
ซึ่งไม่รู้ด้วยความไว้ใจหรืออะไรก็ตามของเจ้าของแมวที่เรากำลังจะเล่าต่อไปนี้ ทำให้ประสบการณ์ครั้งนี้กินเวลาร่วมครึ่งเดือนที่เราอยู่กินกันฉันประสาแมว นึกภาพตามนะคะ แมวสองตัว กับคนที่ไม่เคยเลี้ยงแมวมาก่อน ด้วยจิตใจที่รักแมวอย่างเปี่ยมล้น สุดท้ายก็หวั่นเล็กๆว่าจะรอดไหม ซึ่งเราจะขอแนะนำตัวเอกของเรื่องนี้ทั้งสองตัว เริ่มจากหนุ่มตัวข้างบนที่นอนหงายผึ่งบนพรมสีเทาชื่อว่า “ฮิโหมะ” แมวพันธุ์หิมาลายัน ขนยาวสีสวยเข้ากับสีพรมสีผ้าม่านเป็นอย่างดี ในด้านนิสัยส่วนตัว งานหลักคืออ้อน งานรองคือนอน นี่ล่ะ “ฮิโหมะ”
ส่วนแม่สาวผิวสีนัยน์ตาสุดลึกลับน่าค้นหา เพราะไม่เคยหาตัวเจอเลย สาวผู้นี้ชื่อว่า “เมญ่า” แมวพันธุ์ไทย เปอร์เซีย ขนดำขลับนุ่มนวลชวนขยำ ในด้านนิสัยชอบพรางตัวในที่ต่างๆให้กลมกลืนไปกับสิ่งนั้น เช่น ใต้โซฟา , ช่องชั้นวางทีวี , หลังผ้าม่าน และทุกที่ที่เราหาไม่เจอ นั่นล่ะ “เมญ่า”
เมื่อเรารู้กำหนดการณ์ที่แมวสองตัวนี้จะมาอยู่ในบ้านร่วมกัน สิ่งที่เตรียมตัวได้เป็นอย่างแรกคือ การติดมุงลวด เพราะถ้าไม่มีมุงลวด เราก็จะไม่ได้เปิดประตูรับลม แล้วแมวคงอึดอัด นั่นล่ะค่ะ ภาวะเข้าสู่โหมดทาสแมว แต่เพื่อนที่เลี้ยงแมวด้วยกันก็บอกว่า อย่าเพิ่งติดเลยเพราะแมวอาจข่วนจนพังได้ แต่ไม่ค่ะ เรามั่นใจดีว่า แมวทั้งสองน่ารักและจะไม่ทำแบบนั้น ซึ่งก็เป็นอย่างนั้น เพราะสิ่งที่ฮิโหมะและเมญ่าทำนั่นคือ การเดินมานั่งดูนก ดูแมลงบินไปมาและฟังเสียงนกร้อง เสียงใบไม้ไหว ทุกเช้า ทุกวัน ไม่มีวันไหนที่จะไม่มา แล้วนั่งไปนั่งมาก็หลับกันตรงนั้นเลย ส่วนเราก็นั่งมองเขาทั้งสอง แบบไม่ต้องอธิบายอะไรมาก คนรักแมวน่าจะรู้ถึงความรู้สึกนี้ได้ดี
เห็นไหม บอกแล้วว่า ดูนกมันเพลิน หลับเลยดีกว่า ตาก็จะพริ้มหน่อยๆ
ในส่วนของเมญานั้นหันมาอีกทีก็หายไปแล้ว การเดินหาทั่วบ้านและการร้องเรียกจะไม่เป็นผลอะไร ถ้าคุณไม่ได้ก้มดูตามช่องต่างๆ ใช่ค่ะ เมญ่าอยู่ใต้โซฟา
แต่ในส่วนของที่ประจำแล้ว เราขอยกพื้นที่ช่องชั้นวางทีวีให้เป็นคอนโดส่วนตัวของเมญ่าค่ะ อยู่ได้ทั้งวัน เราสามารถทักทายเธอได้ที่นี่ แต่เธอจะไม่ทักคุณกลับแค่นั้นค่ะ
แต่บางทีช่องแคบๆก็ไม่สนุกพอเท่าการมีของเล่นใหม่ ใช่ค่ะที่เห็นในภาพ นั่นคือเป้ที่ใส่สัมภาระไปทำงาน ไปที่ต่างๆ เปื้อนอะไรทีก็เช็ดแล้วเช็ดอีก แต่พอแมวขอนอนยอมแบบไม่มีเงื่อนไข บางทีเราก็ไม่เข้าใจตัวเอง แมวมีอิทธพลหรืออำนาจมืดอะไรกัน มาอยู่ได้ไม่กี่วันก็ยอมได้ทุกอย่างแล้ว
บางทีเมญ่าก็จะขอมานั่งดูเราทำงาน ไม่ได้ดูเฉยๆด้วยนะคะ ดูเสร็จมาจุ๊บมือหนึ่งทีแล้วก็เดินจากไป ไม่เคยรู้เลยว่า แมวก็โรแมนติกนะ = .. =
และบางทีการนั่งพักผ่อนของเรา ก็จะมีแมวเป็นส่วนหนึ่งในนั้นเสมอ ใช่แล้วค่ะ ที่เห็นแว๊บๆนั่นคือแมวเอง
ช่วงฝนตกจะเป็นอีกเวลาที่แมวชอบ เขาจะมานั่งที่มุมเดิม นั่งดูฝนตกโปรยปราย ไม่รู้เหมือนกันว่าในใจตอนนั้นคิดอะไรอยู่ แต่แค่เรานั่งมองอยู่ข้างหลังแบบในภาพนี้ แค่นี้ก็นั่งยิ้มไปทั้งวัน
นิสัยจะเป็นอย่างไร จะเลี้ยงดูมาแบบไหน แมวก็คือแมว ก็จะน่ารักให้เรานั่งดูแบบนี้อยู่เรื่อยๆ
เล่าเรื่องเมญ่ามาได้ครึ่งทางพอดี คราวนี้มาต่อที่ฮิโหมะ ใครเห็นก็ต้องหลงรักหนุ่มน้อยผู้นี้ อย่างที่บอกว่า เขาจะอ้อนทุกอย่างเท่าที่โลกนี้จะยอมให้แมวทำได้ ถ้าเป็นคนละก็ หนุ่มคนนี้สาวๆที่ไหนก็ต้องติด!
ด้วยนิสัยขี้อ้อน แน่นอนว่าฮิโหมะจะไม่อยู่แค่ที่ใดที่หนึ่งของบ้าน แต่เขาจะตามติดเราไปทุกที่อย่างเป็นห่วงเป็นใย ตามไปเรื่อยๆแล้วก็ขอนั่งมองอะไรแบบนี้ นี่คือสิ่งที่ฮิโหมะทำ
ถ้าคุณอยากรู้ว่าความอ้อนของฮิโหมะอยู่ในระดับไหน กรุณาดูภาพนี้ได้เลยค่ะ ทำเราไม่กล้าขยับแม้แต่นิดเดียว
ความเพลินของฮิโหมะในทุกวัน คือการนั่งฟังเสียงนก ดูแมลงอย่างที่เราว่าไปตอนแรก
ถ้าฮิโหมะหายไปขอให้ไปหาที่หลังม่านริมกระจก ชอบนั่งดู นั่งมอง อยากรู้จริงๆคิดอะไรอยู่ตอนนั้น
แม้แต่ตอนกลับมาบ้านก็จะเห็นภาพนี้ พอเปิดประตูเข้าไปก็วิ่งมาร้องเรียกอย่างเร็ว อย่างนี้จะไม่ให้รักได้ยังไง
อะไรดูแปลกไปในภาพ กรุณาจับผิดได้เลย ฮาฮ่าา
ยังไม่ได้แกะซองเลย แมวรู้ได้ไงว่ามันอร่อย!!
ผลจากการเลี้ยงแมวครั้งแรกในชีวิต เราไม่ต้องอธิบายเป็นตัวอักษรอะไรมาก แค่เห็นภาพก็จับได้หลากหลายความรู้สึก ความกลัวที่รู้สึกว่าเราจะดูแลเขาได้ดีไหม หรือแมวจะอยู่บ้านเราได้ไหม เรื่องพวกนั้นกลายเป็นเรื่องเล็กนิดเดียวไปเลย เมื่อเทียบกับบ้านโล่งๆที่ไม่ได้ยินเสียงของพวกเขาและการเดินหาว่าแต่ละตัวอยู่ที่ไหนกัน เพราะนั่นคือช่วงเวลาที่เจ้าของมารับกลับบ้าน มันทำให้เราไม่แปลกใจเลยว่า แมวมีอิทธิพลกับเรามากจริงๆ เห็นเฉยๆนิ่งๆ แค่ตอนพวกเขานอนหลับเราก็นั่งมองไปยิ้มไป ตอนร้องเรียกก็วิ่งกันอย่างน่ารัก แล้วโชคดีที่ทั้งสองไม่ดื้อไม่ซน แต่กลับเติมเต็มให้หัวใจเราอบอุ่นอย่างไม่น่าเชื่อ คนรักแมวอ่านถึงประโยคนี้คงรีบคว้าแมวมากอดไปมา แต่สำหรับคนไม่มีแมวอย่างเรา นี่ก็นับเป็นประสบการณ์ที่ดีครั้งหนึ่งของการเลี้ยงสิ่งที่มีชีวิต และหลงรักซ้ำแล้วซ้ำเล่า อย่างไม่รู้สึกว่าความรักนี้จะหักอกเราหรือไม่ วอลเปเปอร์แหว่งไปยังไม่คิดจะโทษเลย ก็นี่แหละที่เรียกว่าความรักของเจ้าแมว
ภาพโดยส่วนมากถ่ายโดย Fuji XT1+35mm
cr : www.johjaionline.com
คำสารภาพจากฉันที่เลี้ยงแมวครั้งแรก พร้อมภาพเยอะมาก
เมื่อความรักที่มีต่อแมว ภาพถ่ายสารพัดแมวที่มีอยู่เต็มเครื่อง และบทความบอกเล่าภาษาแมวที่ได้เขียนหลายต่อหลายครั้ง ทั้งหมดนี้ไม่ได้หมายความว่า ตัวผู้เขียนคนนี้มีแมวเป็นของตัวเอง หรือเคยเลี้ยงแมวมาก่อน ไม่เลยค่ะ เราไม่เคย!
ซึ่งไม่รู้ด้วยความไว้ใจหรืออะไรก็ตามของเจ้าของแมวที่เรากำลังจะเล่าต่อไปนี้ ทำให้ประสบการณ์ครั้งนี้กินเวลาร่วมครึ่งเดือนที่เราอยู่กินกันฉันประสาแมว นึกภาพตามนะคะ แมวสองตัว กับคนที่ไม่เคยเลี้ยงแมวมาก่อน ด้วยจิตใจที่รักแมวอย่างเปี่ยมล้น สุดท้ายก็หวั่นเล็กๆว่าจะรอดไหม ซึ่งเราจะขอแนะนำตัวเอกของเรื่องนี้ทั้งสองตัว เริ่มจากหนุ่มตัวข้างบนที่นอนหงายผึ่งบนพรมสีเทาชื่อว่า “ฮิโหมะ” แมวพันธุ์หิมาลายัน ขนยาวสีสวยเข้ากับสีพรมสีผ้าม่านเป็นอย่างดี ในด้านนิสัยส่วนตัว งานหลักคืออ้อน งานรองคือนอน นี่ล่ะ “ฮิโหมะ”
ส่วนแม่สาวผิวสีนัยน์ตาสุดลึกลับน่าค้นหา เพราะไม่เคยหาตัวเจอเลย สาวผู้นี้ชื่อว่า “เมญ่า” แมวพันธุ์ไทย เปอร์เซีย ขนดำขลับนุ่มนวลชวนขยำ ในด้านนิสัยชอบพรางตัวในที่ต่างๆให้กลมกลืนไปกับสิ่งนั้น เช่น ใต้โซฟา , ช่องชั้นวางทีวี , หลังผ้าม่าน และทุกที่ที่เราหาไม่เจอ นั่นล่ะ “เมญ่า”
เมื่อเรารู้กำหนดการณ์ที่แมวสองตัวนี้จะมาอยู่ในบ้านร่วมกัน สิ่งที่เตรียมตัวได้เป็นอย่างแรกคือ การติดมุงลวด เพราะถ้าไม่มีมุงลวด เราก็จะไม่ได้เปิดประตูรับลม แล้วแมวคงอึดอัด นั่นล่ะค่ะ ภาวะเข้าสู่โหมดทาสแมว แต่เพื่อนที่เลี้ยงแมวด้วยกันก็บอกว่า อย่าเพิ่งติดเลยเพราะแมวอาจข่วนจนพังได้ แต่ไม่ค่ะ เรามั่นใจดีว่า แมวทั้งสองน่ารักและจะไม่ทำแบบนั้น ซึ่งก็เป็นอย่างนั้น เพราะสิ่งที่ฮิโหมะและเมญ่าทำนั่นคือ การเดินมานั่งดูนก ดูแมลงบินไปมาและฟังเสียงนกร้อง เสียงใบไม้ไหว ทุกเช้า ทุกวัน ไม่มีวันไหนที่จะไม่มา แล้วนั่งไปนั่งมาก็หลับกันตรงนั้นเลย ส่วนเราก็นั่งมองเขาทั้งสอง แบบไม่ต้องอธิบายอะไรมาก คนรักแมวน่าจะรู้ถึงความรู้สึกนี้ได้ดี
เห็นไหม บอกแล้วว่า ดูนกมันเพลิน หลับเลยดีกว่า ตาก็จะพริ้มหน่อยๆ
ในส่วนของเมญานั้นหันมาอีกทีก็หายไปแล้ว การเดินหาทั่วบ้านและการร้องเรียกจะไม่เป็นผลอะไร ถ้าคุณไม่ได้ก้มดูตามช่องต่างๆ ใช่ค่ะ เมญ่าอยู่ใต้โซฟา
แต่ในส่วนของที่ประจำแล้ว เราขอยกพื้นที่ช่องชั้นวางทีวีให้เป็นคอนโดส่วนตัวของเมญ่าค่ะ อยู่ได้ทั้งวัน เราสามารถทักทายเธอได้ที่นี่ แต่เธอจะไม่ทักคุณกลับแค่นั้นค่ะ
แต่บางทีช่องแคบๆก็ไม่สนุกพอเท่าการมีของเล่นใหม่ ใช่ค่ะที่เห็นในภาพ นั่นคือเป้ที่ใส่สัมภาระไปทำงาน ไปที่ต่างๆ เปื้อนอะไรทีก็เช็ดแล้วเช็ดอีก แต่พอแมวขอนอนยอมแบบไม่มีเงื่อนไข บางทีเราก็ไม่เข้าใจตัวเอง แมวมีอิทธพลหรืออำนาจมืดอะไรกัน มาอยู่ได้ไม่กี่วันก็ยอมได้ทุกอย่างแล้ว
บางทีเมญ่าก็จะขอมานั่งดูเราทำงาน ไม่ได้ดูเฉยๆด้วยนะคะ ดูเสร็จมาจุ๊บมือหนึ่งทีแล้วก็เดินจากไป ไม่เคยรู้เลยว่า แมวก็โรแมนติกนะ = .. =
และบางทีการนั่งพักผ่อนของเรา ก็จะมีแมวเป็นส่วนหนึ่งในนั้นเสมอ ใช่แล้วค่ะ ที่เห็นแว๊บๆนั่นคือแมวเอง
ช่วงฝนตกจะเป็นอีกเวลาที่แมวชอบ เขาจะมานั่งที่มุมเดิม นั่งดูฝนตกโปรยปราย ไม่รู้เหมือนกันว่าในใจตอนนั้นคิดอะไรอยู่ แต่แค่เรานั่งมองอยู่ข้างหลังแบบในภาพนี้ แค่นี้ก็นั่งยิ้มไปทั้งวัน
นิสัยจะเป็นอย่างไร จะเลี้ยงดูมาแบบไหน แมวก็คือแมว ก็จะน่ารักให้เรานั่งดูแบบนี้อยู่เรื่อยๆ
เล่าเรื่องเมญ่ามาได้ครึ่งทางพอดี คราวนี้มาต่อที่ฮิโหมะ ใครเห็นก็ต้องหลงรักหนุ่มน้อยผู้นี้ อย่างที่บอกว่า เขาจะอ้อนทุกอย่างเท่าที่โลกนี้จะยอมให้แมวทำได้ ถ้าเป็นคนละก็ หนุ่มคนนี้สาวๆที่ไหนก็ต้องติด!
ด้วยนิสัยขี้อ้อน แน่นอนว่าฮิโหมะจะไม่อยู่แค่ที่ใดที่หนึ่งของบ้าน แต่เขาจะตามติดเราไปทุกที่อย่างเป็นห่วงเป็นใย ตามไปเรื่อยๆแล้วก็ขอนั่งมองอะไรแบบนี้ นี่คือสิ่งที่ฮิโหมะทำ
ถ้าคุณอยากรู้ว่าความอ้อนของฮิโหมะอยู่ในระดับไหน กรุณาดูภาพนี้ได้เลยค่ะ ทำเราไม่กล้าขยับแม้แต่นิดเดียว
ความเพลินของฮิโหมะในทุกวัน คือการนั่งฟังเสียงนก ดูแมลงอย่างที่เราว่าไปตอนแรก
ถ้าฮิโหมะหายไปขอให้ไปหาที่หลังม่านริมกระจก ชอบนั่งดู นั่งมอง อยากรู้จริงๆคิดอะไรอยู่ตอนนั้น
แม้แต่ตอนกลับมาบ้านก็จะเห็นภาพนี้ พอเปิดประตูเข้าไปก็วิ่งมาร้องเรียกอย่างเร็ว อย่างนี้จะไม่ให้รักได้ยังไง
อะไรดูแปลกไปในภาพ กรุณาจับผิดได้เลย ฮาฮ่าา
ยังไม่ได้แกะซองเลย แมวรู้ได้ไงว่ามันอร่อย!!
ผลจากการเลี้ยงแมวครั้งแรกในชีวิต เราไม่ต้องอธิบายเป็นตัวอักษรอะไรมาก แค่เห็นภาพก็จับได้หลากหลายความรู้สึก ความกลัวที่รู้สึกว่าเราจะดูแลเขาได้ดีไหม หรือแมวจะอยู่บ้านเราได้ไหม เรื่องพวกนั้นกลายเป็นเรื่องเล็กนิดเดียวไปเลย เมื่อเทียบกับบ้านโล่งๆที่ไม่ได้ยินเสียงของพวกเขาและการเดินหาว่าแต่ละตัวอยู่ที่ไหนกัน เพราะนั่นคือช่วงเวลาที่เจ้าของมารับกลับบ้าน มันทำให้เราไม่แปลกใจเลยว่า แมวมีอิทธิพลกับเรามากจริงๆ เห็นเฉยๆนิ่งๆ แค่ตอนพวกเขานอนหลับเราก็นั่งมองไปยิ้มไป ตอนร้องเรียกก็วิ่งกันอย่างน่ารัก แล้วโชคดีที่ทั้งสองไม่ดื้อไม่ซน แต่กลับเติมเต็มให้หัวใจเราอบอุ่นอย่างไม่น่าเชื่อ คนรักแมวอ่านถึงประโยคนี้คงรีบคว้าแมวมากอดไปมา แต่สำหรับคนไม่มีแมวอย่างเรา นี่ก็นับเป็นประสบการณ์ที่ดีครั้งหนึ่งของการเลี้ยงสิ่งที่มีชีวิต และหลงรักซ้ำแล้วซ้ำเล่า อย่างไม่รู้สึกว่าความรักนี้จะหักอกเราหรือไม่ วอลเปเปอร์แหว่งไปยังไม่คิดจะโทษเลย ก็นี่แหละที่เรียกว่าความรักของเจ้าแมว
ภาพโดยส่วนมากถ่ายโดย Fuji XT1+35mm
cr : www.johjaionline.com