สวัสดีครับ นี่คือการเขียนรีวิวการเดินทางครั้งแรกในชีวิต อยากจะเขียนหลายครั้งมากๆ แต่ยังไม่มีโอกาสสักที วันนี้ประสบการณ์การเดินทาง สู่จันทบุรี มาเล่าสู่กันฟังครับ
ในวันที่ 24 พฤษภาคม 2561 ที่ผ่านมา ผมมีความจำเป็นที่จะต้องเดินทางไปสอบที่จังหวัด จันทบุรี เมืองผลไม้ ทางภาคตะวันออกของประเทศไทยของเรา
การเดินทางครั้งนี้ผมต้องเดินทางร่วมกันเพื่อนอีก 1 คนครับ  บ้านเกิดเมืองนอน อยู่ที่จังหวัดอุดรธานี (อีสานตอนบน) ซึ่งไกลจากที่จะไปสอบมากๆ
ด้วยงบที่มีอันน้อยนิด แต่มีความมุ่งมั่นอันแรงกล้าที่จะไป จึงต้องหาวิธีการต่างๆ เพื่อให้ประหยัดค่าใช้จ่ายมากที่สุด
การเดินทางจากจังหวัดอุดรธานี สู่ จันทบุรี สามารถเดินทางได้หลายวิธีครับ
     1. เดินทางด้วยรถไฟ อุดรธานี - โคราช (นครราชสีมา) (56 บาท)>> รถทัวร์ โคราช - จันทบุรี (254 บาท)  รวม 310 บาท (เป็นวิธีที่ถูกที่สุด)
     2. เดินทางแบบไม่ต้องต่อรถ ด้วยบริษัท 407 พัฒนา หนองคาย - จันทบุรี  (ราคา 556 บาท)
     3. เดินทางรถทัวร์ อุดรธานี - กรุงเทพ (ประมาณ 500 บาท) รถตู้/รถทัวร์ กรุงเทพ-จันทบรี (ประมาณ 200) รวม 700 บาท
ผมขอเลือกรีวิวตามเส้นทางและวิธีการที่ผมใช้แล้วกันนะครับคือวิธีที่ 1 ครับ
วันที่ 24 พฤษภาคม 2561 (วันเดินทาง)
พวกผมพิจารณาไตร่ตรองดูแล้วว่า ไม่มีขนส่งมวลชนใดจะถูกเท่า "การรถไฟแห่งประเทศไทย" ของเราอีกแล้ว แต่ก็เคยได้ลองนั่งรถไฟดูบ้าง แต่ไม่เคยนั่งรถไฟ ด้วยระยะทางไกลขนาดนี้  จึงตัดสินใจเลือกใช้บริการของการรถไฟแห่งประเทศไทย
รถไฟมีรถหลายประเภทมากๆ ครับ ซึ่งผมขอแนะนำราคาที่ถูกที่สุดคือ รถที่มี Tag บอกว่า "ท้องถิ่น" ครับ จะเป็นรถที่ถูกที่สุด (สามารถเช็คเวลาการเดินรถ และราคาได้ที่ http://www.railway.co.th/checktime/checktime.asp)
รถไฟ มีเที่ยวรถจากอุดรธานี - โคราช (นครราชสีมา) ดังนี้ครับ

พวกผมเลือกเวลาเดินทาง รถท้องถิ่น เวลา 13.40-19.00 น. ระยะทาง 305 กิโลเมตร ราคา 56 บาท ที่เลือกรอบนี้เพราะว่า พวกผมต้องการจะให้เดินทางไปถึงจันทบุรี เช้าพอดี เลยเลือกรอบนี้ครับ

สิ่งที่จะเกิดขึ้นได้เสมอในการเดินทางคือความล่าช้า สำหรับรถไฟก็เช่นกัน แต่ไม่ใช่การล่าช้าธรรมดาครับ 55+ คราวนี้ช้าไป 1 ชั่วโมง 20 นาที ครับ
ผมได้ขึ้นรถเวลา 15.00 น. พอดีเลยครับ สิ่งที่อยากจะบอกให้เตรียมรับมือและเตรียมใจกับการเดินทางด้วยรถไฟนะครับ

     1. รถไฟ "ท้องถิ่น" จอดทุกสถานี เพราะเป็นรถท้องถิ่น จึงต้องบริการประชาชนอย่างทั่วถึงครับ อิอิ
     2. ห้องน้ำรถไฟ มีกลิ่นไม่พึงประสงค์เลยครับ ฉะนั้นควรงดการดื่มน้ำ หรืออาหารที่อาจจะส่งผลให้เกิดการปวดท้องเฉียบพลัน นะครับ
     3. รถไฟ มีการบริการขายสินค้าตลอดเส้นทาง จากการรถไฟ? ไม่ครับ จากแม่ค้า พ่อค้าชาวบ้านเรานี่แหละครับ เราสามารถช่วยอุดหนุนได้ แต่ราคาอาจจะแพงกว่าท้องตลาดซักนิดครับ
     4. บนรถไฟนอนไม่ได้ครับ ถ้าไม่เหนื่อยและง่วงจริงๆ นอนไม่ได้เลยครับ เสียงรถค่อนข้างดัง แนะนำว่าถ้าต้องการเงียบเสียงจากเครื่องยนต์หน่อย ห้ามเลือก ตู้แรกของขบวน นะครับ เพราะเครื่องอยู่ตรงนั้นพอดี พวกผมจะอยู่ไหนหล่ะครับ? ก็อยู่ตู้แรกไงหล่ะ ฮ่าๆๆ


ไปต่อกันเลยครับ ผมเดินทางมาถึงโคราช เวลา 21.30 น. ครับ ใช้เวลาเดินทาง รวม  6 ชั่วโมง 30 นาที โดยประมาณครับ

จากนั้นจะต้องเดินทางจากสถานีรถไฟนครราชสีมา - สถานีขนส่งผู้โดยสารนครราชสีมาแห่งที่ 2 ซึ่งอยู่ห่างกันประมาณ 3-4 กิโลเมตร ครับ 1 สัปดาห์ก่อนหน้านี้ได้เดินทางมาสมัครแล้วรอบนึง ซึ่งผมใช้วิธีการเดินเท้าครับ ความรู้สึกก็แค่ 3 กิโลเอง คงไม่ไกลมาก ฮ๋าๆๆ แต่ความจริงนั้น เหนื่อยและไกลมากๆ ครับ  ฮ่าๆๆ



ผมใช้เส้นทางนี้เดินครับ ลองเดินดูได้ครับ ประสบการณ์ อิอิ
แต่เจ็บแล้วจำคือคนครับ รอบนี้ พวกผมไม่เดินครับ ฮ่าๆๆ  พอดีว่า โคราชมีบริการ Grab แล้ว เลยใช้บริหาร Grab ครับ จากสถานีรถไฟ - บขส.2 ประมาณ 70 บาท ครับ ใช้ส่วนลด 20 บาท เหลือ 50 บาทครับ นิดหน่อย ดีกว่าเดินละกันครับ อันนี้ยืนยัน นอนยันเลยครับ ฮ่าๆๆ
**แต่มีอีกทางเลือกคือ รถตุ๊กๆ โคราช แต่ไม่ทราบราคาครับ แต่คิดว่าน่าจะแพงเลยเลือกอันที่ชัวๆ ดีกว่าครับ ใครจะลองใช้ตุ๊กๆ ดูก็ได้ครับ
พอมาถึง บขส.2 โคราช แล้ว พวกผมต้องนั่งรอขึ้นรถทัวร์ โคราช-จันทบุรี รอบ 01.00 น. ครับ เพระาอยากจะเดินทางให้ถึง ตอนเช้าพอดีครับ แต่วันนี้มีรถแค่รอบเดียวครับ คือเวลา 02.00 น. โอเครครับ เลือกรอบนี้ จะได้ถึงสายไปอีก นิดๆ


สำหรับรอบรถมีดังนี้ ครับ โคราช-จันทบุรี >> จันทบุรี - โคราช ของบริษัท วิศวกรเสนา จำกัด ครับ ก่อนจะถึงจันทบุรี รถจอดจังหวัดสระแก้วก่อนนะครับ ใครจะเที่ยวสระแก้ว ก็ขึ้นรถบริษัทนี้ได้ครับ


วันที่ 25 พฤษภาคม 2561
รถทัวร์เข้าเทียบชานชาลา ของสถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดจันทบุรี เวลา 07.30 น. ใช้เวลาเดินทาง ประมาณ 5 ชั่วโมง 30 นาที (ตอนกลางคืนจะเร็วมากๆ ครับ เพราะไม่ค่อยมีรถ)

จังหวัดจันทบุรี เป็นจังหวัดไม่ใหญ่มากครับ ตัวเมืองมีแค่นิดเดียว มีห้างใหญ่ๆ 3 ที่ คือ โลตัส บิ๊กซี และห้างโรบินสัน (ถามเจ้าถิ่นมาครับ) ในตัวเมืองเงียบสงบดีครับ ผู้คนไม่พลุกพล่านมากนัก รถไม่เยอะ ในตัวเมือง จะเป็นเนิน สูงต่ำ สลับเป็นบางช่วง คาดการณ์ว่าในอดีตที่ตรงนี้อาจจะเคยเป็นภูเขาเล็กๆ มาก่อนที่ผู้คนจะเข้ามาพักอาศัย ถ้าอยากจะเที่ยวหาด ก็อยู่ห่างจากตัวเมืองประมาณ 30 กิโลเมตร ครับ
การเดินทางในตัวเมืองบอกเลยครับ ค่อนข้างยาก จะขอบอกเล่าให้ฟังดังนี้
  1. เช่ารถ เป็นวิธีการที่คิดว่าน่าจะสะดวก และคุ้มสุดครับ ราคา 200-300 บาท/วัน แต่ราคามัดจำมหาโหด 1,000-2,000 บาท ครับ อาจจะเป็นเพราะอยู่ใกล้ชายแดนแล้วรถหายบ่อยครับ ส่วนราคารถยนต์ผมไม่ได้ถามครับ แหะๆ
  2. รถโดยสาร (ไม่ประจำทาง 55+) คนท้องถิ่นเรียกรถ Mazda ครับ ราคาจะแพงๆ หน่อย การใช้บริการ แจ้งสถานที่ แล้วเหมาเอาครับ อารมณ์คล้ายๆ รถแดงเชียงใหม่ครับ
  3. รถวินมอเตอร์ไซต์ ครับ อันนี้ราคาชัดเจนครับ ว่าไปไหนราคาเท่าไหร่ แต่ !! ถ้าเราเป็นนักท่องเที่ยวควรจะระวังเป็นอันมาก เพราะผมโดนกับตัว เดี๊ยวจะเล่าให้ฟังในข้างล่างต่อๆ ไปครับ
มีแค่ 3 ทางเท่านี้ครับ อย่างที่แนะนำคือ ให้เช่ารถเถอะครับ สะดวกสุดแล้วครับ ไปไหนก็ได้ ตามใจเรา
>>ต่อกันเลยครับ หลังจากลงจากรถเรียบร้อย ผมก็เดินมาปั๊มหอยเหลือง ข้างๆ บขส เพื่อล้างหน้า แปรงฟัน ครับ ลืมบอกไปครับ ก่อนหน้านี้ตอนมาสมัคร ได้เดินหาโรงแรมด้วยตัวเอง อยากจะบอกว่าโรงแรมในตัวเมืองที่ถูกๆ น้อยมากกกกกก หายากจริงๆ ครับ โรงแรมไม่ค่อยเยอะครับ ผมคิดว่าโรงแรม น่าเยอะแถวๆ หาด มั้งครัง แต่ด้วยความโชคดี เดินผ่านโรงแรมนึงครับ เลย Walk IN เข้าไปถามราคา ชื่อโรงแรม เกียรติขจร ครับ อยู่ข้างๆ กับโรงพยาบาลกรุงเทพ ครับ สภาพโรงแรมข้างนอกหน้ากลัวนิดๆ ครับ ในใจก็หวั่นๆ ครับ แต่คิดในใจ เพื่อความประหยัดต้องทนได้ อิอิ หลังจากเดินเข้าไปสอบถามพนักงานต้อนรับน่ารักดีครับ พูดแนะนำดี ราคาโรงแรมมีดังนี้ ครับ
   1. ห้องพัดลม เตียงเดี่ยว/คู่ 200 บาท
   2. ห้องแอร์เตียงเดี่ยว/คู่ 350 บาท
   3. ห้อง VIP  550 บาท
พวกผมเลยตัดสินใจจองห้อง เตียงคู่ 350 บาท ไว้ตั้งแต่อาทิตย์ที่แล้วที่มาสมัคร โรงแรมนี้ จองไม่ต้องจ่ายเงินครับ โทรจองได้ แจ้งชื่อ กับเบอร์โทรไว้เฉยๆ ครับ วันเข้าพักค่อยจอง (คิดในใจครั้งที่ 1 ทำไมใจดีจังวะ หรือว่าจะมีอะไร?)
>> หลังจากล้างหน้า แปรงฟันที่ปั๊มหอยเหลืองเรียบร้อย พวกผมก็เดินเท้าจาก บขส มาที่โรงแรมครับ ประมาณ 1 กม. (ขอบอกเลยว่ามาครั้งนี้เน้นเดินจริงๆ ครับ)


พอมาถึงโรงแรมเวลาประมาณ 08.00 น. ครับ คุยกับเพื่อนไว้ว่า จะไปฝากกระเป๋าไว้ที่โรงแรมก่อน แล้วจะออกเที่ยว เพราะพนักงานบอกว่าให้เช็คอิน 12.00 เป็นต้นไป ก็เลยเดินไปไปหาพนักงาน แต่พนักงานโคตรใจดีครับ บอกว่า เข้าเลยก็ได้ มีห้องว่างอยู่ (คิดในใจครั้งที่ 2 จะใจดีเกินไปปะว่ะ เข้าก่อนเวลา 4 ชั่วโมงเลยในเว้ย หรือว่าจะมีอะไรอย่างว่าจริงๆ แหะๆ) พวกเรา โอเค ตกลงครับ ชำระค่าห้อง 2 คืน 700 บาท + ค่าประกัน รีโมทแอร์ ทีวี และกุญแจ 100 บาท ครับ ในใจก็กลัว อีกใจก็เพลียครับ เดินทางมาหลายชั่วโมง ก็อยากพักครับ
พวกเราได้ห้องชั้น 3 ครับ ภายในอาคาร หน้ากลัวหน่อยๆ ครับ แต่แต่ละห้องมีคนพักอยู่ เลยลดความกลัวลงมานิดนึงครับ พอถึงห้องเปิดเข้ามา ก็โอเคครับ ไม่ถือว่าแย่ ก็ใช้ได้ครับ ผมลืมถ่ายรูป ขออนุญาตยืมรูปจาก Google นะครับ


จะประมาณนี้ครับ ถ้าอยากได้ห้องดีๆ แนะนำ ห้อง VIP 550 บาท นะครับ
หลังจากเข้าห้อง เปิดแอร์ (เย็นดีมากครับ) อาบน้ำ แล้วก็นอนเลยครับ อยากจะบอกว่า.....หลับสบายมากครับ 55+ ไม่มีอะไรเลย ไม่ฝัน ไม่อะไรเลยครับ  รู้สึกโล่งใจมากครับ แหะๆ ตื่นมาประมาณบ่าย 2 ครับ สดชื่นจริงๆ แอร์ก็เย็นสบาย เลยชวนกันกับเพื่อนว่าอยากไปซื้อของที่ห้างโลตัส ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากโรงแรมเท่าไหร่ครับ แค่ 600 เมตร สำหรับนักประหยัดอย่างพวกผมจะมีทางไหนหล่ะครับ? เดินไงครับ แหะๆ


ที่โลตัส ได้ลองสอบถามคนพื้นที่ เกี่ยวกับแหล่งเดินช็อบปิ้ง หรือเดินยามเย็นมีไหม เขาเลยแนะนำว่าให้ไปชุมชนริมน้ำจันทบูร และ เซนทริค ครับ โอเครครับ พวกเรากลับโรงแรมและตัดสินใจว่าวันนี้จะไปชุมชนริมน้ำจันทบูรกันครับ

** เดี๊ยวมาต่อครับ มาวันละนิด ขออภัยด้วยครับ