小樽市: Otaru
โอตารุ
จากทริปยาวนานที่สุดของเราสองคน กับฮอกไกโด 8 วัน
ที่หมีอยากจะพาเจ้าหมูไปเดินทางตามหาความฝัน กับการพบเจอหิมะปุยนุ่มที่ตกลงมาจากฟากฟ้า ซึ่งเป็นความฝันอันยิ่งใหญ่สำหรับเด็กน้อยคนนึง
หมีที่เป็นแฟน ก็มีหน้าที่ พาเจ้าหมูน้อยไปเดินทางตามหาความฝัน
ครั้งนี้ เราจะมาเริ่มกันตามตารางที่เราวางไว้กันเลยยยย
โดยแพลนสำหรับเมืองโอตารุนี้ก็ไม่มีอะไรมาก แค่เราอยากจะไปถ่ายรูปที่จุดมหาชนของเมือง และหาของอร่อยๆแห่งแดนอาทิตย์อุทัยกินกัน
โดยแพลนเรามีดังนี้
สถานที่
- คลองโอตารุ
- นาฬิกาไอน้ำ
- Otaru Music Box Museum
- ถนนคนเดิน
ร้านอาหาร
- Kantaro Sushi
- Sankaku Fish Market
- LeTAO
มาดูกันครับ ว่าเราไปเจออะไรกันมาบ้าง
บอกเลย สายกิน ห้าม พลาด!!!
เมื่อมาถึงฮอกไกโด เราก็รีบมุ่งหน้าไปโอตารุโดย JR Rail หรือรถไฟประจำฮอกไกโดนั่นเอง
ซึ่งมาถึง ก็ไม่พลาดเลยที่จะลิ้มลองของขึ้นชื่อประจำรถไฟญี่ปุ่น
"ข้าวกล่องนั่นเอง"
กล่องซ้าย 1,xxx เยน (จำไม่ได้ >< แต่ไม่ถึง 2,000 เยนแน่นอน)
ประกอบไปด้วย
- Uni ไข่หอยเม่น
- เนื้อปู
- Ikura ไข่ปลาแซลม่อน
กล่องขวา 1,400 เยน
ประกอบไปด้วย
- ไข่หอยเม่น
- เนื้อปู
- ไข่ปู
- หอยเชล
- ปลาหมึก
- ไข่ปลาแซลม่อน
- ไข่หวาน
- ปลาแซลม่อน
อิ่มหนำสำราญกันไปกับมื้อแรกของพวกเรา
เดินทางจากสนามบิน New Chitose ประมาณ 1 ชั่วโมงนิดๆ
เราก็มาถึงที่หมาย
"เมืองโอตารุ" กันแล้ว
The Planners เที่ยว กับ แฟน
Published by Turk ThanaSri
Like This Page · January 25 · Edited ·
ไม่รอช้าครับ
มุ่งหน้าสู่ Kantaro Sushi
ซึ่งเป็นร้านซูชิสายพานที่มีชื่อเสียงของโอตารุ
ร้านซูชิ ส่วนใหญ่ที่เราเจอ
จะมีผงชาเขียวบริการฟรีบนโต๊ะ
พร้อมมีก๊อกน้ำร้อน ให้กดชงกันได้อย่างอิสระ
เพิ่งจะหัวค่ำ แต่เนื่องจากเป็นฤดูหนาว
พระอาทิตย์ก็ลาลับขอบฟ้าไปอย่างรวดเร็ว
ทำให้วิวแรกของเมืองที่เราเจอ
เป็นคลองโอตารุยามค่ำคืน
ที่มีผู้คนไม่คึกคักนัก อาจจะเป็นเพราะอากาศหนาว
แต่ยอมรับครับ
ว่าคลองโอตารุนั้น เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่นักว่าสวยงามใช่ย่อยเลยทีเดียว
ก่อนกลับที่พัก ด้วยความตั้งใจจะมาลุยกินแล้ว
มีเหรอที่ซูชิแค่นั้นจะหยุดเราสองคนได้
มาลอง ทาโกะยากิ ของแท้กันสักหน่อย
6 ลูกใหญ่ๆ กันหนวดปลาหมึกชิ้นโตๆ
ราคาเพียง 400 เยนเท่านั้น
แต่ความอร่อยแบบดั้งเดิม พร้อมทั้งความร้อนของอาหารปรุงใหม่
ทำให้บรรยากาศหนาวๆที่เราเดินผ่านมานั้น แอบไม่สามารถทำให้อุณหภูมิร่างกายของพวกเราลดลงได้เลย
เช้าวันที่สอง
ได้เวลาไปลุยเมืงอกันจริงจังแล้ว
สถานที่แรกของวันคือ
Sankaku Fish Market
ตลาดปลาประจำเมืองโอตารุ
หลังจากเดินเล่นในตลาดสักพัก ก็ได้เวลาอาหารเช้ากันแล้ว
โฮตาเตะ สดๆ ที่หาได้ยากในเมืองไทย
Don นี้เพียง 2,000 เยนเท่านั้น
อิ่มหนำสำราญกันไป เราก็พร้อมย้ายจุดไปเดินเล่นในโซนยอดฮิตของเมืองอีกโซนหนึ่งกันแล้ว
แต่การเดินทางจาก Otaru Station (ใกล้กับตลาดปลา)
ง่ายกว่าที่จะนั่งรถไฟไป หากใครซื้อ JR Pass ไว้ ก็สามารถขึ้นได้เลย
**ที่ญี่ปุ่น มีอีกสิ่งที่น่ารักสำหรับนักสะสม ก็คือเหล่าตราประทับตามสถานที่ต่างๆ ที่หากนักท่องเที่ยวผ่านไปมา ก็สามารถแวะปั๊มเก็บไว้เป็นที่ระลึกได้
อีกหนึ่งร้านที่น่ามาโดนให้ได้
ซึ่งมีสาขาอยู่ที่เมืองไทย
เป้นร้านขนมหวาน ที่ของขึ้นชื่อคือเช้สเค้กเนื้อนุ่ม ละลายคาลิ้น
ซึ่งสินค้าอีกหนึ่งอย่างที่น่าสนใจ
คือ ไฮศกรีม รส LeTAO นั่นเอง
หลังลิ้มรสชีสเค้กเนื้อนุ่มแล้ว
เราก็เดินเล่นในเมืองเพื่อจะไปเก็บภาพคลองโอตารุอีกครั้งหนึ่ง ก่อนจะจากเมืองนี้ไปสู่จุดหมายต่อไป
เราก็ได้พบกับร้านสีเขียวนี้ให้
เดินเล่นกลางเมืองสักแปป ก็เจอร้านสีสะดุดตาจนต้องเข้าไปดูว่าข้างในมันขายอะไร
ก็บอกได้เลยว่าขายทุกอย่างที่มาจากชาเขียว
โดยของเราหมีหมูเลือกมานั้น ก็เป็นโมจิไส้ชาเขียว
ราคา 250 เยน
บอกเลยว่า ไส้เยอะมาก และก็อร่อยมากเช่นกัน
รู้สึกประทับใจที่ขนมของทางญี่ปุ่นนั้นไม่หวานแหลม
แต่เน้นไปที่คุณภาพของวัตถุดิบเป็นหลัก
ทำให้ผู้บริโภคอย่างเรา รู้สึกคุ้มค่าที่จะเสียเงินให้
ก่อนจากกันไป เราสองคนก็มาเดินเล่นที่คลองโอตารุอีกครั้ง
บอกเลยว่ายามสว่าง คนก็พร้อมใจแห่กันมาถ่ายที่มุมมหาชนนี้
แต่แม้คนจะเยอะแค่ไหน ก็อย่าลืมแวะมาถ่ายรูปกันนะครับ
ไม่งั้นจะเหมือนมาไม่ถึงโอตารุเลยก็ว่าได้
สุดท้ายก่อนจากกันไป เรามาดูหน้าตาของเด็กน้อยที่ได้เห็นหิมะแท้ๆเป็นครั้งแรก
แม้ในวันนี้ หิมะ จะยังไม่ตกมาตามที่เจ้าหมูหวังใจจะได้เจอ
แต่แค่นี้ก็สามารถเติมเต็มความสุขเล็กๆของเด็กน้อยคนนึงได้แล้ว
(ดูหน้านางสิ ฟินอย่าบอกใคร)
แล้วไว้พบกับพวกเราในรีวิวฉบับหน้านะครับ
รอดูกันว่าเราสองคนจะเดินทางไปที่ไหนในฮอกไกโดกันอีก
#theplanners
#เที่ยวกับแฟน
[CR] O-T-A-R-U :: โอตารุ เที่ยวและกิน ให้ฟินกันไป
小樽市: Otaru
โอตารุ
จากทริปยาวนานที่สุดของเราสองคน กับฮอกไกโด 8 วัน
ที่หมีอยากจะพาเจ้าหมูไปเดินทางตามหาความฝัน กับการพบเจอหิมะปุยนุ่มที่ตกลงมาจากฟากฟ้า ซึ่งเป็นความฝันอันยิ่งใหญ่สำหรับเด็กน้อยคนนึง
หมีที่เป็นแฟน ก็มีหน้าที่ พาเจ้าหมูน้อยไปเดินทางตามหาความฝัน
ครั้งนี้ เราจะมาเริ่มกันตามตารางที่เราวางไว้กันเลยยยย
โดยแพลนสำหรับเมืองโอตารุนี้ก็ไม่มีอะไรมาก แค่เราอยากจะไปถ่ายรูปที่จุดมหาชนของเมือง และหาของอร่อยๆแห่งแดนอาทิตย์อุทัยกินกัน
โดยแพลนเรามีดังนี้
สถานที่
- คลองโอตารุ
- นาฬิกาไอน้ำ
- Otaru Music Box Museum
- ถนนคนเดิน
ร้านอาหาร
- Kantaro Sushi
- Sankaku Fish Market
- LeTAO
มาดูกันครับ ว่าเราไปเจออะไรกันมาบ้าง
บอกเลย สายกิน ห้าม พลาด!!!
เมื่อมาถึงฮอกไกโด เราก็รีบมุ่งหน้าไปโอตารุโดย JR Rail หรือรถไฟประจำฮอกไกโดนั่นเอง
ซึ่งมาถึง ก็ไม่พลาดเลยที่จะลิ้มลองของขึ้นชื่อประจำรถไฟญี่ปุ่น
"ข้าวกล่องนั่นเอง"
กล่องซ้าย 1,xxx เยน (จำไม่ได้ >< แต่ไม่ถึง 2,000 เยนแน่นอน)
ประกอบไปด้วย
- Uni ไข่หอยเม่น
- เนื้อปู
- Ikura ไข่ปลาแซลม่อน
กล่องขวา 1,400 เยน
ประกอบไปด้วย
- ไข่หอยเม่น
- เนื้อปู
- ไข่ปู
- หอยเชล
- ปลาหมึก
- ไข่ปลาแซลม่อน
- ไข่หวาน
- ปลาแซลม่อน
อิ่มหนำสำราญกันไปกับมื้อแรกของพวกเรา
เดินทางจากสนามบิน New Chitose ประมาณ 1 ชั่วโมงนิดๆ
เราก็มาถึงที่หมาย
"เมืองโอตารุ" กันแล้ว
The Planners เที่ยว กับ แฟน
Published by Turk ThanaSri
Like This Page · January 25 · Edited ·
ไม่รอช้าครับ
มุ่งหน้าสู่ Kantaro Sushi
ซึ่งเป็นร้านซูชิสายพานที่มีชื่อเสียงของโอตารุ
ร้านซูชิ ส่วนใหญ่ที่เราเจอ
จะมีผงชาเขียวบริการฟรีบนโต๊ะ
พร้อมมีก๊อกน้ำร้อน ให้กดชงกันได้อย่างอิสระ
เพิ่งจะหัวค่ำ แต่เนื่องจากเป็นฤดูหนาว
พระอาทิตย์ก็ลาลับขอบฟ้าไปอย่างรวดเร็ว
ทำให้วิวแรกของเมืองที่เราเจอ
เป็นคลองโอตารุยามค่ำคืน
ที่มีผู้คนไม่คึกคักนัก อาจจะเป็นเพราะอากาศหนาว
แต่ยอมรับครับ
ว่าคลองโอตารุนั้น เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่นักว่าสวยงามใช่ย่อยเลยทีเดียว
ก่อนกลับที่พัก ด้วยความตั้งใจจะมาลุยกินแล้ว
มีเหรอที่ซูชิแค่นั้นจะหยุดเราสองคนได้
มาลอง ทาโกะยากิ ของแท้กันสักหน่อย
6 ลูกใหญ่ๆ กันหนวดปลาหมึกชิ้นโตๆ
ราคาเพียง 400 เยนเท่านั้น
แต่ความอร่อยแบบดั้งเดิม พร้อมทั้งความร้อนของอาหารปรุงใหม่
ทำให้บรรยากาศหนาวๆที่เราเดินผ่านมานั้น แอบไม่สามารถทำให้อุณหภูมิร่างกายของพวกเราลดลงได้เลย
เช้าวันที่สอง
ได้เวลาไปลุยเมืงอกันจริงจังแล้ว
สถานที่แรกของวันคือ
Sankaku Fish Market
ตลาดปลาประจำเมืองโอตารุ
หลังจากเดินเล่นในตลาดสักพัก ก็ได้เวลาอาหารเช้ากันแล้ว
โฮตาเตะ สดๆ ที่หาได้ยากในเมืองไทย
Don นี้เพียง 2,000 เยนเท่านั้น
อิ่มหนำสำราญกันไป เราก็พร้อมย้ายจุดไปเดินเล่นในโซนยอดฮิตของเมืองอีกโซนหนึ่งกันแล้ว
แต่การเดินทางจาก Otaru Station (ใกล้กับตลาดปลา)
ง่ายกว่าที่จะนั่งรถไฟไป หากใครซื้อ JR Pass ไว้ ก็สามารถขึ้นได้เลย
**ที่ญี่ปุ่น มีอีกสิ่งที่น่ารักสำหรับนักสะสม ก็คือเหล่าตราประทับตามสถานที่ต่างๆ ที่หากนักท่องเที่ยวผ่านไปมา ก็สามารถแวะปั๊มเก็บไว้เป็นที่ระลึกได้
อีกหนึ่งร้านที่น่ามาโดนให้ได้
ซึ่งมีสาขาอยู่ที่เมืองไทย
เป้นร้านขนมหวาน ที่ของขึ้นชื่อคือเช้สเค้กเนื้อนุ่ม ละลายคาลิ้น
ซึ่งสินค้าอีกหนึ่งอย่างที่น่าสนใจ
คือ ไฮศกรีม รส LeTAO นั่นเอง
หลังลิ้มรสชีสเค้กเนื้อนุ่มแล้ว
เราก็เดินเล่นในเมืองเพื่อจะไปเก็บภาพคลองโอตารุอีกครั้งหนึ่ง ก่อนจะจากเมืองนี้ไปสู่จุดหมายต่อไป
เราก็ได้พบกับร้านสีเขียวนี้ให้
เดินเล่นกลางเมืองสักแปป ก็เจอร้านสีสะดุดตาจนต้องเข้าไปดูว่าข้างในมันขายอะไร
ก็บอกได้เลยว่าขายทุกอย่างที่มาจากชาเขียว
โดยของเราหมีหมูเลือกมานั้น ก็เป็นโมจิไส้ชาเขียว
ราคา 250 เยน
บอกเลยว่า ไส้เยอะมาก และก็อร่อยมากเช่นกัน
รู้สึกประทับใจที่ขนมของทางญี่ปุ่นนั้นไม่หวานแหลม
แต่เน้นไปที่คุณภาพของวัตถุดิบเป็นหลัก
ทำให้ผู้บริโภคอย่างเรา รู้สึกคุ้มค่าที่จะเสียเงินให้
ก่อนจากกันไป เราสองคนก็มาเดินเล่นที่คลองโอตารุอีกครั้ง
บอกเลยว่ายามสว่าง คนก็พร้อมใจแห่กันมาถ่ายที่มุมมหาชนนี้
แต่แม้คนจะเยอะแค่ไหน ก็อย่าลืมแวะมาถ่ายรูปกันนะครับ
ไม่งั้นจะเหมือนมาไม่ถึงโอตารุเลยก็ว่าได้
สุดท้ายก่อนจากกันไป เรามาดูหน้าตาของเด็กน้อยที่ได้เห็นหิมะแท้ๆเป็นครั้งแรก
แม้ในวันนี้ หิมะ จะยังไม่ตกมาตามที่เจ้าหมูหวังใจจะได้เจอ
แต่แค่นี้ก็สามารถเติมเต็มความสุขเล็กๆของเด็กน้อยคนนึงได้แล้ว
(ดูหน้านางสิ ฟินอย่าบอกใคร)
แล้วไว้พบกับพวกเราในรีวิวฉบับหน้านะครับ
รอดูกันว่าเราสองคนจะเดินทางไปที่ไหนในฮอกไกโดกันอีก
#theplanners
#เที่ยวกับแฟน
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น