เมื่อ Agoda ตัดเงินออกจากบัตร"เดบิต"ธนาคารม่วงเกือบ 17,000 ทั้งที่ยังไม่ได้ใช้

เรื่องมีอยู่ว่า นอนอยู่บ้านดีๆในบ่ายวันเสาร์ (26 พค 2018) แล้วก็มี sms เข้ามาบอกว่า Agoda ได้ตัดเงินไปจากบัตรเดบิตเป็นยอด 16,313.32 บาท ย้ำว่าบัตรเดบิตนะคะ ไม่ใช่บัตรเครดิต รู้สึกช็อคมากค่ะ เพราะไม่ได้ใช้ ไม่ได้จับบัตรเลย บัตรเดบิตก็อยู่ในกระเป๋าตังค์เฉยๆ ไม่มีใครเอาไปใช้ค่ะ เลยรีบไปเช็คเงินในบัญชีธนาคารม่วง ปรากฏว่าเงินโดนตัดออกไปจากบัญชีออมทรัพย์จริงเป็นยอด 16,313.32 บาท หลังจากนั้นได้รับอีเมลล์จาก Agoda ยืนยันการจองห้องพักที่โรงแรมหรูระดับห้าดาว แต่ปรากฏว่า ชื่อผู้เข้าพัก ไม่ใช่ชื่อเราค่ะ กลายเป็นชื่อ FU P ANG และสักพักก็มีอีเมลล์อีกฉบับเข้ามาบอกว่า "สวัสดีคุณ FU P ANG ขอบคุณที่ติดต่อฝ่ายลูกค้าสัมพันธ์อโกด้าเพื่อยกเลิกการจองห้องพัก การยกเลิกการจองของท่านที่ Conrad Bangkok ได้รับการยืนยันแล้ว"

ทางเราก็เลยโทรเข้าไปติดต่อธนาคารม่วงที่ Call Center ซึ่งทาง Call Center เอง ก็ดูไม่กระตือรือร้นในการช่วย และตอบได้แต่เพียงว่าต้องใช้เวลา 90 วันในการตรวจสอบ เงินหมื่นหกกว่าๆโดนตัดออกไปจากบัญชีเฉยๆโดยที่เราไม่ได้ใช้ ดิฉันไม่สามารถรอได้ถึง 90 วันค่ะ ถ้าต้องการใช้เงินจะทำอย่างไร และความปลอดภัยอยู่ที่ไหนคะ หลังจากพยายามเจรจา กลับได้แต่คำตอบเพียงว่า ต้องรอ 90 วัน และรอเจ้าหน้าที่ธนาคารม่วงติดต่อกลับมาเอง เหนื่อยใจค่ะ

หลังจากนั้น เราก็ติดต่อทาง Agoda ซึ่งติดต่อยากมาก มากแบบไม่รู้จะยังไงดี รอสายฟังเพลงไปกว่าจะได้พูดกับคน ทาง Agoda บอกว่าจะทำเรื่องคืนเงินให้ ซึ่งจะใช้เวลาในการทำคืนเงิน 14 วัน

สิ่งที่เราทำหลังจากนั้น คือ
- อายัดบัตรเดบิตธนาคารม่วง
- เอาข้อมูลบัตรที่บันทึกไว้ใน Agoda ออกให้หมด (อันตรายมากๆค่ะ อย่าบันทึกข้อมูลบัตรไว้เด็ดขาด)
- เปลี่ยน password ของ Agoda

วันนี้ (วันจันทร์ที่ 28 พค 2018) ยังไม่มีใครจากธนาคารม่วงติดต่อกลับมาเลยค่ะ ทางเราจึงไปที่ธนาคารม่วง เพื่อทำบัตร ATM ใหม่ โดยบัตรนี้จะใช้กดเงินได้อย่างเดียว แต่ใช้รูดซื้อของไม่ได้ และขอความช่วยเหลือจากทางสาขาของแบงค์ม่วงอีกครั้ง ทางพนักงานที่สาขาบอกว่าตัวเขาไม่สามารถดูข้อมูลได้เพราะบัตรอายัติไปแล้ว ต้องติดต่อทาง Call Center ซึ่งเราก็กดโทรไป Call Center โดยที่มีพนักงานของสาขานั่งข้างๆช่วยคุยให้กับทาง Call Center ซึ่งทาง Call Center ก็ดูมึนๆงงๆ เราต้องมานั่งอธิบายใหม่ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง ให้ข้อมูลใหม่อีกครั้ง ทั้งๆที่วันเสาร์ก็โทรไปแจ้งมาแล้ว คุยกับ Call Center ไปเกือบครึ่งชั่วโมง ก็ยังไม่ได้คำตอบว่าเกิดอะไรขึ้น และเมื่อไหร่จะได้เงินคืน

พอกลับมา เราจึงโทรไปหา Agoda อีก โทรไปทั้งหมด 7 รอบ เข้าระบบอัตโนมัติหมด รอสายเพื่อจะคุยกับคน รอเกิน20 นาทีทุกครั้งเลยวางและโทรใหม่ รอบสุดท้ายเราใช้เบอร์ 02 โทรไป และเปิด speaker รอไปเลยระหว่างนั่งเล่น จำได้ว่านานมาก ทั้งเดินไปเข้าห้องน้ำ เดินลงไปข้างล่างซื้อเต้าหู้ทอด คุยกับเพื่อนข้างบ้าน เดินไปให้อาหารแมว แล้วเดินขึ้นมาใหม่ ยังคงเป็นเพลงbob marley ที่ทางอโกด้าเปิดให้ฟังระหว่างรอสาย จนในที่สุดก็มีพนักงานรับสาย และก็ยืนยันว่า Agoda ได้ทำการคืนเงินให้ธนาคารแล้วเมื่อวันที่ 27 พค 2018 ตอนนี้ก็ขึ้นอยู่กับทางธนาคารม่วงว่าจะคืนเงินเราเมื่อไหร่

เหตุการณ์นี้ทำให้เราเกิดข้อสงสัยหลายอย่าง ซึ่งธนาคารม่วง หรืออโกด้าก็ตอบเราไม่ได้เลยค่ะ
1. เงินเราจะได้คืนเมื่อไหร่ (เคสนี้อโกด้าบอกขึ้นอยู่กะธนาคารเพราะได้ทำคืนเงินมาแล้ว ส่วนธนาคารก็บอกว่าต้องรออโกด้าว่าจะคืนเงินเมื่อไหร่ สรุปคือตกลงใครพูดจริง แล้วกลายเป็นดิฉันต้องเป็นคนตามเองทุกอย่างทั้งๆที่ไม่ได้ซื้อหรือทำอะไรเลย เงินโดยเอาไปอย่างไม่ชอบธรรม แถมต้องเสียเวลาและสุขภาพจิตมานั่งตาม ซึ่งตามแล้วก็โดนโยนความรับผิดชอบไปมาระหว่างอโกด้ากับธนาคารม่วง)
2. ปกติที่มีการซื้อของออนไลน์โดยใช้บัตรธนาคารอื่น มันต้องมี OTP มาให้เรากรอกยืนยัน แต่เคสนี้มันกลับตัดไปได้เลย โดยที่ไม่เห็นมี sms OTP อะไรมาเลย แต่เงินเราหายไปแล้ว แบงค์ม่วง เป็นแบงค์ที่ใหญ่มากนะคะ แถมมีมานาน แต่เราสงสัยในระบบการรักษาความปลอดภัยของผู้บริโภคมาก และ Call Center ดูมึนมาก ตกลงมีไว้ช่วยเหลือผู้บริโภคไหม หรือมีไว้บอกปัดๆให้ไปตามกันเองคะ
3. ทางเราจะสามารถไปขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานไหนได้อีกไหมคะ
4. คงไม่ใช้เวบ Agoda อีกแล้ว เพราะไปค้นมามีหลายเคสมากที่เกิดแบบนี้ขึ้น ทำให้สงสัยว่า ระบบ Security ของอโกด้ามีไหม ทั้งๆที่มีหลายเคสที่มีการ hack Account ของ Agoda แต่ Agoda ได้ทำอะไรบ้างไหม ในการป้องกันไม่ให้เกิดการต้มตุ๋นในโลกออนไลน์แบบนี้ได้

เหนื่อยใจค่ะ ไม่รู้ต้องรออีกกี่วันกว่าจะได้เงินคืน และจะได้คืนไหม ไม่รู้จะติดต่อไปที่ไหนแล้วค่ะ ขอบคุณทุกท่านที่อ่านมาถึงตอนนี้นะคะ และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะไม่เกิดเหตุการณ์นี้ไม่ว่ากับใครอีกเลย เรื่องการบันทึกบัตรไว้สำคัญมากๆ เสียเวลาพิมพ์เองทุกครั้งเวลาซื้อเถอะค่ะ อย่าให้เว็บมันบันทึกไว้เลย เพราะก็ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง และเมื่อเกิดขึ้นแล้วจะไปตามได้กับใคร เสียทั้งเวลา เสียทั้งเงิน เสียทั้งสุขภาพจิต ไม่คุ้มเลยค่ะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 1
ทำธุรกรรมออนไลน์อย่าใช้บัตรเดบิต ให้ใช้บัตรเครดิต
บัตรเดบิตเงินเราธนาคารไม่กระตือรือล้นในการช่วยเหลืออะไร
ส่วนบัตรเครดิตเงินธนาคารจะไม่สนใจก็เรื่องของธนาคารเราเป็นลูกค้าไม่ได้ใช้ปฎิเสธรายการอย่างเดียว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่