[CR] รีวิว Villa Mahabhirom สถานที่ๆเป็นมากกว่าโรงแรม เป็น Hidden gems ที่แท้จริงของเชียงใหม่

สวัสดีค่ะ วันนี้เราจะพาไปเที่ยว "เชียงใหม่" จังหวัดที่ไปกี่ครั้งก็ประทับใจ 😉 ✨🌿
ครั้งนี้เราไปเชียงใหม่แค่ไม่กี่วัน กะจะแค่หาร้านคาเฟ่นั่งเล่นๆสัก 2-3 ร้าน แต่เราได้บังเอิญมาแวะกินขนมที่โรงแรมนึง
ซึ่งมันทำให้เราต้องกรี๊ดดดดแบบเฮ้ย ที่นี่มันที่ไหนเนี่ย ทำไมอยู่ในเชียงใหม่แล้วไม่ค่อยมีใครรู้!?
เอาละ บอกก่อนเลยว่าโพสนี้จะเขียนยาวหน่อย เราอยากให้เพื่อนๆได้เห็นถึงความละเอียดละออของ
ทุก Details ที่โรงแรมนี้ได้จัดสรรที่ใช้เวลาเกือบ 7 ปีในการสร้าง!

เราทำเพจท่องเที่ยว แชร์เรื่องกุ๊กกิ๊กต่างๆกับเพื่อน
ชื่อ "Neighbor" ถ้าเพื่อนๆชอบยังไงขอฝากไว้ในอ้อมใจด้วยนะคะ
http://www.facebook.com/neighborhoodd


เราทำ VDO เล็กๆเผื่อเพื่อนๆจะได้เห็นบรรยากาศกันนะคะยิ้ม



Villa Mahabhirom (วิลลา มหาภิรมย์ ) แปลว่า A villa of great pleasure สถานที่แห่งความสุขอันยิ่งใหญ่
ชื่อสถานที่ตรงกับความรู้สึกที่เราได้รับหลังจากไปที่นี่มา วิลล่า มหาภิรมย์ เป็น ART HOTEL ที่เชียงใหม่ อยู่ในย่านประวัติศาสตร์ใกล้วัดร่ำเปิง (วัดอุโมงค์ ) อยู่ไม่ไกลจากบ้านข้างวัดค่ะ ใครกำลังหาที่พักในเชียงใหม่สำหรับทริปปลายปีนี้ เรารับประกันว่าจะได้ทั้งความรู้สึก ความประทับใจแบบพิเศษที่ไม่เคยสัมผัสมาก่อนที่ไหนแน่นอน






เราขอนิยามที่นี่สั้นๆว่าเป็น One of a kind ไม่เคยจินตนาการ หรือพบเจอที่ไหนที่ผสมผสานของหลายสิ่งที่ต่างกันสุดขั้วให้ออกมาได้ลงตัวและสวยงามขนาดนี้ ที่ว่าต่างกันสุดขั้ว เพราะสถาปัตยกรรมหลักของโรงแรมนี้เป็นเรือนไทยภาคกลาง ไม่ใช่ภาคเหนือนาจา (แค่เรือนไทยภาคกลางที่เอามาตั้งอยู่ภาคเหนือก็จี๊ดแล้ว) มาผสมกับศิลปะยุโรป ทั้งของตกแต่งวินเทจ แอนทีคเฟอร์นิเจอร์ ภาพวาดและประติมากรรมงานปั้น modern art ของคุณจำเนียร ทองมา และที่เราชอบเป็นพิเศษคือ Landscape ใครจะไปคิดว่าเรือนไทย traditional จะเข้ากับต้นไม้ฝรั่งอย่างกระบองเพชร และมอนสเตล่า เสริมกันให้อาคารที่งามอย่างไทยๆดูโมเดิร์นขึ้นอย่างลงตัวกำลังดี




7 ปี กว่าจะเป็น วิลล่า มหาภิรมย์
.
จุดเริ่มต้นของการทยอยซื้อเรือนไทย เพียงเพราะชอบสะสมของเก่าและอยากอนุรักษ์ พอไปเจอเรือนไทยเก่าๆตามทุ่งนา หรือชิ้นส่วนเรือนแยกประกอบสวยๆจึงซื้อเก็บไว้ วิลล่าทุกหลังถูกประยุกต์ให้ร่วมสมัยโดยช่างฝีมืออยุธยาแท้ๆ ที่เรียกได้ว่าย้ายภูมิลำเนาจากอยุธยามาเป็นคนเหนือไปแล้ว เพราะกว่าจะออกแบบก่อสร้าง ปรับจนลงตัวสมบูรณ์ กว่าจะคลอดออกมาเป็นโรงแรมก็ร่วม 7 ปี


ไปดูข้างในกันค่า สวยตั้งแต่ประตูทางเข้าเลย!!

แม้แต่ทางเข้าก็ใช้กรอบซุ้มประตูโบราณเป็นช่องเปิดให้เห็นภาพเบื้องหลังแค่นิดเดียว และค่อยๆเปิดมุมมองเมื่อเดินผ่าน สำหรับเรามันเจ๋งมาก ที่นี่เหมือนมีกรอบภาพซ่อนอยู่ทุกที่ เมื่อได้ไปเดินอยู่ในที่นั้นๆ ความรู้สึกที่เกิดขึ้น ประสบการณ์จากการเดินผ่านและภาพที่มองเห็น แสดงถึงความละเอียดของผู้ออกแบบที่เล่า Sense of place ได้ดีมากๆ



นกยูงสตาฟบริเวณ Lobby มีอยู่สองตัว ท่าทางดูกำลังเกี้ยวกันอยู่ อีกตัวอยู่ตรงไหนและสีอะไรเราไม่บอก ใครมีโอกาสไปตามหากันด้วยนะๆ เดินเข้ามา Lobby แล้วเปิดประตูกระจกออกไป ทุกคนจะเจอกับมุม Landmark ที่ใครๆเห็นจะต้องตะลึงแน่นอน คอนเฟิร์ม! ที่นี่เป็นบริเวณสระว่ายน้ำ Reflecting Pool ลักษณะเป้นแบบ court โล่ง โอบล้อมด้วยเรือนไทยยกใต้ถุนสูง ดังนั้นไม่ว่าจะมองจากมุมไหน เงาสะท้อนในสระน้ำก็จะเห็นเรือนไทยและต้นไม้รอบๆเสมอเลยแหละ

สาเหตุที่เราเรียกที่นี่ว่า ART HOTEL เพราะที่นี่ไม่ใช่แค่โรงแรม แต่ทุกองค์ประกอบของวิลล่า มหาภิรมย์เรียกว่าเป็นงานศิลปะ น่าจะเห็นภาพได้ชัดที่สุด ไม่ว่าจะเป็นของตกแต่งภายใน องค์ประกอบทางสถาปัตยกรรม รวมถึงอาคารทุกชิ้นล้วนเป็นของเก่าเก็บสะสมของนักเดินทางผู้ก่อตั้งทั้ง 3 ท่าน คือ คุณพิษณุ สว่างเนตร, คุณปรีชา ตรรกพงศ์ และคุณนัฐวุธ โรจนพันธกุล ที่ใช้ประสบการณ์จากการเดินทางมาออกแบบรีสอร์ท! ตะกี้ทุกคนฟังไม่ผิดหรอก ทุกชิ้นเป็นของเก็บสะสมจริงๆรวมถึงตัวโรงแรม! สถาปัตยกรรมเรือนไทยภาคกลางอายุกว่าร้อยปีจำนวน 20 หลัง ที่นำมาประยุกต์เป็นห้องพักและพื้นที่ส่วนกลาง


การตกแต่งจะมีรูปปั้นสวยๆจากคุณจำเนียร ทองมา ที่ทุกคนอาจจะคุ้นชื่อกับ Thongma Studio เป็น gallery & cafeที่ดังมากๆแถวๆแม่ริม



เราเดินมาถึงห้องอาหาร ตกแต่งด้วยสีขาว เก้าอี้สาน ตัดกับของเครื่องครัวที่เป็นสีดำ มีทั้งความเท่แล้วก็สบายๆในตัว
หลักๆวันนี้เราจะมากินขนมกันค่า แต่ว่าทางโรงแรมเค้าก็มีอาหารไทยอย่างอื่นด้วยน้า น่ากินทุกอย่างเลย มารอบหน้าไม่พลาดแน่นอน! ส่วนเมนูของหวานที่แนะนำเลยก็คือ ขนม "มหาภิรมย์ เดอ กีมาร์ " เป็นเมนูของหวานที่ได้ Inspiration มาจาก แม่มะลิ หรือมารี กีมาร์ (Marie Guimar) มาดูกันว่าจะเป็นยังไงๆๆ


เมนูนี้เลยค่า! เป็นเหมือนไอศครีม Matcha กับฝอยทอง
อร่อยมาก ไม่หวานจนเกินไป เรามากับเพื่อนอีก 4 คนกินแปปเดียวหมด จนต้องสั่งมาอีกที่เลยแหละ อิอิ


อันนี้เป็น Bar ที่เต็มไปด้วยความหรูหราตกแต่งด้วย Antique Furniture จากยุโรป เราว่าถ้ามานั่งตอนเย็นๆน่าจะสบายมากเลย



ระหว่างทางเดินของโรงแรมจะเต็มไปด้วยโอ่ง ที่รองรับน้ำฝนไว้ ตาม style คนไทยสมัยก่อน น่ารักมากเลย



หลังจากที่ดุ้มๆมองๆความสวยของโรงแรมนี้ พี่อ้อ (พี่ที่เป็นผู้ดูแลโรงแรม) ก็เชิญชวนที่จะพาพวกเราทัวร์รอบๆ เย้ 5555
พี่อ้อพาเรามาที่ชั้นสอง เป็นทางเดินยาวที่เชื่อมเรือนไทยหลายๆหลังเข้าด้วยกัน




มาถึงเรือนไทย หลังที่เป็นห้อง Afternoon Tea ก็จะเจอกับมุมสระน้ำ ที่มีระเบียงยื่นออกไปชมความงามของวิวสระน้ำได้ จะสังเกตได้ว่าที่นี่เป็นเรือนไทยแบบภาคกลางทั้งหมดเลย เพราะบริเวณหลังคาจะไม่มี 'กาแล' ที่เป็นศิลปะของทางเหนือ


เราเดินมาถึงบริเวณห้องพัก (Villas)
.
เรือนไทยแต่ละหลังคือบ้านพัก ทุกหลังมีพื้นที่สวนและโถงนั่งเล่นขนาดกว้างบริเวณชานบ้านหรือใต้ถุนบ้าน ต่างกันตามลักษณะของแต่ละวิลล่า บางหลังประยุกต์มาจากโรงครัวด้วยซ้ำ หรือเกิดจากการผสมผสานฝาผนังเรือนต่างๆกัน ภายในเรือนไทยได้ถูกปรับและประยุกต์ พื้นที่และการใช้งานสมัยใหม่ เพื่อให้อยู่สบาย ฝาเรือนภายในหรือผนังห้องผสมผสานลายกราฟฟิกร่วมสมัย ใช้ผ้าทอสีเปรี้ยวๆจาก Jim Thompson เพื่อให้ภายในมีสีสันเป็นมิตรอยู่สบาย เสียดายที่เราไปตอนกลางคืนแล้ว ถ่ายรูปออกมามืดเลยค่ะ หวังว่ารอบหน้าจะได้ไปพักสักคืน ;)

*Tips*
แต่เดิมห้องน้ำเรือนไทยจะแยกจากตัวบ้าน ที่นี่ปรับประยุกต์ต่อเติมส่วนห้องน้ำให้ติดกับเรือนนอน ภายในกรุหินอ่อน ตัดกับอ่างอาบน้ำสีทองแดง มีห้องพิเศษมาแอบบอก คือ Villa Doi Suthep ที่มีวิวส่วนตัวเป็นดอยสุเทพ และเปิดรับพระอาทิตย์ตก




ใครจะไปคิดว่าเรือนไทย traditional จะเข้ากับต้นไม้ฝรั่งอย่างกระบองเพชร และมอนสเตล่า
เสริมกันให้อาคารที่งามอย่างไทยๆดูโมเดิร์นขึ้นอย่างลงตัวกำลังดี


มุมนี้คือสปาค่า


ขอบคุณทุกคนที่อ่านมาถึงตรงนี้กันมากๆเลย การรีวิวที่นี่ก็จะมี Info เยอะหน่อย หวังว่าเพื่อนๆจะชอบกันนะ ;)
.
เสียดายที่รอบนี้เราไม่ได้มีโอกาสได้เข้าพัก ตั้งใจไว้ว่าจะมาอีกรอบแน่นอนเลย สำหรับใครที่มีแพลนจะมาเที่ยวเชียงใหม่ เราอยากจะแอบกระซิบบอกว่า มีห้องพิเศษที่ควรค่าแก่การมาพักมากเลยก็คือ Villa Doi Suthep ที่มีวิวส่วนตัวเป็นดอยสุเทพ และเปิดรับพระอาทิตย์ตก



Highlight!
- ช่วงที่แนะนำนอกจากฤดูหนาวปลายปี คือช่วงเดือนพฤษภาคม ซึ่งเป็น Low season ราคาถูกลงแถมไฮไลท์ต้นหางนกยูงสีทองบานในช่วงนี้พอดี ถือเป็นต้นพระเอกตั้งตระหง่านอยู่ริมสระ พิเศษที่เป็นพันธ์ุด่างกับพันธ์ุด้อย จะออกดอกสีส้ม เค้าว่าเด็ดมากกก! ต้องไปสักครั้ง
- ไฮไลท์อีกอย่างคือ ข้าวแช่มหาภิรมย์ ตำรับวังบ้านหม้อ ปรุงแบบชาววัง เราได้ฟังวิธีการทำอย่างละเมียดละไมจากคุณพี่อ้อแล้วเข้าใจเลยว่าต้องลองให้ได้ มีจำกัดวันละ 10 สำรับเท่านั้นค่า *แนะนำให้โทรจองก่อนน้า*
.
Villa Mahabhirom
Location : ก่อนถึงซอยเมตตา ใกล้กับวัดอุโมงค์ ตรงข้ามจะมีร้านขันโตกสิบสองปันนา
https://goo.gl/maps/WuPDWThh17E2
Tel: 053-271-200
www.villamahabhirom.com
ชื่อสินค้า:   เชียงใหม่ Villa mahabhirom, ที่พักเชียงใหม่ , โรงแรมเชียงใหม่
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่