สวัสดีค่ะ ภาพยนตร์เรื่องต่างๆนี้ดิฉันเพิ่งได้ดูแล้วรู้สึกอิน เพราะตามมาจากแท็กทวิตเตอร์แล้วรู้สึกน่าสนใจ
ดิฉันก็จะมารีวิว ภาพยนตร์แนวการเมืองที่ซึ้งกินใจกันค่ะ
1.May 18
คะแนน 9.5/10
ภาพยนตร์เรื่องนี้ เป็นภาพยนตร์ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากเหตุการณ์ 18 พฤษภาคม ที่ประชาชนออกมาประท้วงทหารเรื่องการเลือกตั้ง ดิฉันรู้สึกว่าภาพยนตร์เรื่องนี้กินใจมากซึ้งมาก ร้องไห้ตามได้ มีฉากสะเทือนใจเยอะ ที่ตัดคะแนน0.5ออกไปเพราะฉากยิงพระเอก(Kang min woo)ตอนสุดท้ายดิฉันรู้สึกว่าไม่สมจริงเท่าไหร่ แต่ให้อภัยได้ นอกนั้นดีหมด เพอร์เฟคมาก ฉากที่สะเทือนใจที่สุดคือฉากที่นักศึกษาและประชาชนกำลังยืนเคารพธงชาติแต่เพลงยังไม่ทันจบทหารก็เล็งปืนมาที่ประชาชนและเกิดเหตุชุลมุนกันคนตายเยอะมาก สะเทือนใจร้องไห้ตาม โดยเฉพาะเด็กคนที่มีครอบครัวอยู่ในเหตุการณ์นั้น เศร้ามากค่ะ หดหู่ ส่วนฉากที่ประทับใจก็คือตอนที่นางเอกยืนอยู่บนรถและพูดใส่ไมค์โดยคนขับน่าจะเป็นเพื่อนนางเอก พูดประมาณว่า"พี่น้องเรา ควังจู พวกเราจะปกป้องกวังจู ได้โปรดอย่าลืมพวกเรา" ซึ่งฉากนี้ลีโยวอนแสดงออกมาได้ดีมาก น่าประทับใจมากค่ะ
2.The last princess
คะแนน 10/10
ภาพยนตร์เรื่องนี้สร้างมาจากอัตชีวประวัติของเจ้าหญิงด็อกฮเย จะมีเรื่องการเมืองการปกครองเข้ามาแทรกระหว่างประเทศญี่ปุ่นและเกาหลีใต้จนต้องเปลี่ยนระบอบการปกครอง ภาพยนตร์เรื่องนี้ฉากสะเทือนใจเก็เยอะพอควร ลุ้นมากว่าตอนไหนเจ้าหญิงจะได้กลับประเทศของตนเอง ซนเยจินเล่นเข้าถึงบทและเล่นได้น่าสงสารมาก ฉากที่สะเทือนใจคือฉากที่ นางสนองพระโอษฐ์ของเจ้าหญฺิงถูกส่งกลับเกาหลีซึ่ง ณ ตอนนั้นเจ้าหญิงไม่มีใครแล้ว ต้องหลบหนีออกจากประเทศเท่านั้น ฉากที่สอง คือฉากที่เจ้าหญิงกำลังจะหนีไปกับ Jang han แต่ถูกกลุ่มญี่ปุ่นทำร้าย ฉากที่ประทับใจคือ เจ้าหญิงตั้งโรงเรียนให้กับเด็กซึ่งฉากนี้น่ารักมากๆ และฉากที่เจ้าหญิงทนไม่ได้ที่เห็นประชาชนของตนเจ็บปวดจากการทำงานให้พวกญี่ปุ่น เลยประกาศต่อหน้าประชาชนว่า"ฉันรู้สึกอับอายยิ่งนัก ที่ทุกคนต้องมาเจอความลำบากเช่นนี้ โปรดอย่าลืม ว่าพวกเรามีบ้านที่รอคอยอยู่ พวกเรายังมีครอบครัวที่รอคอยพวกเรา เราต้องสู้ ต้องมีวันหนึ่งที่พวกเราจะได้กลับบ้าน"ซึ่งฉากนี้หลายคนที่ไปดูอาจมองว่าไม่มีไรมากแต่ความพีคคือเจ้าหญิงทนไม่ได้ จนไม่พูดสิ่งที่อยู่ในสคริปส์ซึ่งพลทหารญี่ปุ่นได้จัดไว้ให้ แล้วฉากนี้ก็นำไปสู่เหตุการณ์ต่างๆ ภาพยนตร์เรื่องนี้ประทับใจมากๆๆ เพราะนอกจากจะได้ความรู้เรื่องชีวประวัติของบุคคลสำคัญในเกาหลี ยังรู้ที่มาที่ไปของบุคคลที่เป็นหน่วยงานของเกาหลีและเรื่องการเมืองต่างๆ
3.Gulaab gang
คะแนน 9/10
ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นภาพยนตร์อินเดียค่ะ เป็นภาพยนตร์ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากบุคคลในกลุ่มกุหลาบ ภาพยนตร์เรื่องนี้ทำรายได้ไม่ดีเท่าที่ควร แต่ดิฉันไม่ทราบสาเหตุว่าเป็นเพราะอะไร ซึ่งภาพยนตร์เรื่องนี้ดีมากๆ ที่ตัดไป1.0 คะแนน เพราะความไม่สมจริงของฉากที่แก๊งกุหลาบกำลังฆ่ากลุ่มผู้ชายที่กำลังขโมยข้าว ตอนฟันเลือดไม่มีสักหยด ซึ่งมันไม่สมจริง แต่ประเด็นอื่นๆถือว่าทำพล๊อตออกมาได้ดีเลยค่ะ ฉากเจรจาการเมืองระหว่าง คุณRajjo(madhuri dixit)กับคุณ Sumitra(juhi chawla) ฉากแข่งกันทางการเมืองมันสะท้อนให้เห็นว่านางเอกกับตัวร้ายใช้กลยุทธ์ไหนทางการเมือง และเรื่องนี้ดำเนินเรื่องโดยกลุ่มผู้หญิงซึ่งผู้ชายเป็นเพียงหมากในเกมส์เท่านั้น สะท้อนให้เห็นว่า ผู้หญิงก็สามารถทำอะไรได้เท่าๆกับผู้ชายหรืออาจมากกว่าก็เป็นได้
สำหรับการรีวิวก็พอแต่เพียงเท่านี้ ไว้วันหลังจะมารีวิวอีกสักเรื่องที่ยังไม่ได้รีวิวของค้างไว้ก่อนนะคะ ขอบคุณค่ะ
[SR] รีวิววภาพยนตร์แนวการเมือง
ดิฉันก็จะมารีวิว ภาพยนตร์แนวการเมืองที่ซึ้งกินใจกันค่ะ
1.May 18
คะแนน 9.5/10
ภาพยนตร์เรื่องนี้ เป็นภาพยนตร์ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากเหตุการณ์ 18 พฤษภาคม ที่ประชาชนออกมาประท้วงทหารเรื่องการเลือกตั้ง ดิฉันรู้สึกว่าภาพยนตร์เรื่องนี้กินใจมากซึ้งมาก ร้องไห้ตามได้ มีฉากสะเทือนใจเยอะ ที่ตัดคะแนน0.5ออกไปเพราะฉากยิงพระเอก(Kang min woo)ตอนสุดท้ายดิฉันรู้สึกว่าไม่สมจริงเท่าไหร่ แต่ให้อภัยได้ นอกนั้นดีหมด เพอร์เฟคมาก ฉากที่สะเทือนใจที่สุดคือฉากที่นักศึกษาและประชาชนกำลังยืนเคารพธงชาติแต่เพลงยังไม่ทันจบทหารก็เล็งปืนมาที่ประชาชนและเกิดเหตุชุลมุนกันคนตายเยอะมาก สะเทือนใจร้องไห้ตาม โดยเฉพาะเด็กคนที่มีครอบครัวอยู่ในเหตุการณ์นั้น เศร้ามากค่ะ หดหู่ ส่วนฉากที่ประทับใจก็คือตอนที่นางเอกยืนอยู่บนรถและพูดใส่ไมค์โดยคนขับน่าจะเป็นเพื่อนนางเอก พูดประมาณว่า"พี่น้องเรา ควังจู พวกเราจะปกป้องกวังจู ได้โปรดอย่าลืมพวกเรา" ซึ่งฉากนี้ลีโยวอนแสดงออกมาได้ดีมาก น่าประทับใจมากค่ะ
2.The last princess
คะแนน 10/10
ภาพยนตร์เรื่องนี้สร้างมาจากอัตชีวประวัติของเจ้าหญิงด็อกฮเย จะมีเรื่องการเมืองการปกครองเข้ามาแทรกระหว่างประเทศญี่ปุ่นและเกาหลีใต้จนต้องเปลี่ยนระบอบการปกครอง ภาพยนตร์เรื่องนี้ฉากสะเทือนใจเก็เยอะพอควร ลุ้นมากว่าตอนไหนเจ้าหญิงจะได้กลับประเทศของตนเอง ซนเยจินเล่นเข้าถึงบทและเล่นได้น่าสงสารมาก ฉากที่สะเทือนใจคือฉากที่ นางสนองพระโอษฐ์ของเจ้าหญฺิงถูกส่งกลับเกาหลีซึ่ง ณ ตอนนั้นเจ้าหญิงไม่มีใครแล้ว ต้องหลบหนีออกจากประเทศเท่านั้น ฉากที่สอง คือฉากที่เจ้าหญิงกำลังจะหนีไปกับ Jang han แต่ถูกกลุ่มญี่ปุ่นทำร้าย ฉากที่ประทับใจคือ เจ้าหญิงตั้งโรงเรียนให้กับเด็กซึ่งฉากนี้น่ารักมากๆ และฉากที่เจ้าหญิงทนไม่ได้ที่เห็นประชาชนของตนเจ็บปวดจากการทำงานให้พวกญี่ปุ่น เลยประกาศต่อหน้าประชาชนว่า"ฉันรู้สึกอับอายยิ่งนัก ที่ทุกคนต้องมาเจอความลำบากเช่นนี้ โปรดอย่าลืม ว่าพวกเรามีบ้านที่รอคอยอยู่ พวกเรายังมีครอบครัวที่รอคอยพวกเรา เราต้องสู้ ต้องมีวันหนึ่งที่พวกเราจะได้กลับบ้าน"ซึ่งฉากนี้หลายคนที่ไปดูอาจมองว่าไม่มีไรมากแต่ความพีคคือเจ้าหญิงทนไม่ได้ จนไม่พูดสิ่งที่อยู่ในสคริปส์ซึ่งพลทหารญี่ปุ่นได้จัดไว้ให้ แล้วฉากนี้ก็นำไปสู่เหตุการณ์ต่างๆ ภาพยนตร์เรื่องนี้ประทับใจมากๆๆ เพราะนอกจากจะได้ความรู้เรื่องชีวประวัติของบุคคลสำคัญในเกาหลี ยังรู้ที่มาที่ไปของบุคคลที่เป็นหน่วยงานของเกาหลีและเรื่องการเมืองต่างๆ
3.Gulaab gang
คะแนน 9/10
ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นภาพยนตร์อินเดียค่ะ เป็นภาพยนตร์ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากบุคคลในกลุ่มกุหลาบ ภาพยนตร์เรื่องนี้ทำรายได้ไม่ดีเท่าที่ควร แต่ดิฉันไม่ทราบสาเหตุว่าเป็นเพราะอะไร ซึ่งภาพยนตร์เรื่องนี้ดีมากๆ ที่ตัดไป1.0 คะแนน เพราะความไม่สมจริงของฉากที่แก๊งกุหลาบกำลังฆ่ากลุ่มผู้ชายที่กำลังขโมยข้าว ตอนฟันเลือดไม่มีสักหยด ซึ่งมันไม่สมจริง แต่ประเด็นอื่นๆถือว่าทำพล๊อตออกมาได้ดีเลยค่ะ ฉากเจรจาการเมืองระหว่าง คุณRajjo(madhuri dixit)กับคุณ Sumitra(juhi chawla) ฉากแข่งกันทางการเมืองมันสะท้อนให้เห็นว่านางเอกกับตัวร้ายใช้กลยุทธ์ไหนทางการเมือง และเรื่องนี้ดำเนินเรื่องโดยกลุ่มผู้หญิงซึ่งผู้ชายเป็นเพียงหมากในเกมส์เท่านั้น สะท้อนให้เห็นว่า ผู้หญิงก็สามารถทำอะไรได้เท่าๆกับผู้ชายหรืออาจมากกว่าก็เป็นได้
สำหรับการรีวิวก็พอแต่เพียงเท่านี้ ไว้วันหลังจะมารีวิวอีกสักเรื่องที่ยังไม่ได้รีวิวของค้างไว้ก่อนนะคะ ขอบคุณค่ะ