อุทัยธานี? อยู่ที่ไหน? คำถามที่ผุดอยู่ในหัวครั้งแรกตอนหัวหน้างานได้สั่งคำสั่งสายฟ้าแลบให้เตรียมตัวเดินทางไปดูโรงแรมในวันรุ่งขึ้น
ไม่เคยมีข้อมูลอยู่ในหัวหรือความคิดที่จะไปจังหวัดนี้ เหมือนว่าลืมไปแล้วว่าที่นี่คือหนึ่งในจังหวัดของประเทศไทยที่ใช้เวลาประมาณ
สองชั่วโมงครึ่งจากกรุงเทพฯ จังหวัดที่เพิ่งจะนึกถึงและหันกลับมาหาที่เที่ยว จนได้เห็นด้วยตาตัวเอง และต้องบอกตัวเองว่า เฮ้ย!
ต้องจัดทริปด่วนๆ เพราะมันมีอะไรมากกว่าที่เราคิดเยอะมาก! เมืองภาคกลางตอนบนที่เต็มไปด้วยภูเขาและทุ่งนาสวยๆให้ได้ชมกันตลอดทาง
แถมยังมีมรดกโลกอย่างอุทยานห้วยขาแข้งตั้งอยู่อีกด้วย ทริปเที่ยวอุทัยแบบจัดเต็มหน่อยๆก็ได้บังเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 8-11 ธันวาคม 2560
ที่ผ่านมา เป็นเวลา 4 วัน 3 คืน เพื่อพักผ่อนและตะลุยจังหวัดนี้เท่าที่จะทำได้

ติดตามกันต่อได้ที่:
www.facebook.com/shortywander
www.wordpress.shortywander.com
https://www.instagram.com/shortywander/

Day 1: 8 December 2017
เราออกกันมาจากกรุงเทพฯในช่วงเช้าวันศุกร์ ช่วงวันหยุดยาว อุทัยธานีเป็นจังหวัดที่ไม่ใหญ่ไม่เล็ก แต่ก็ใช้เวลาพอสมควรจาก
แต่ละอำเภอที่สำคัญ วันนี้เราจะมาเริ่มเที่ยวกันเบาะๆที่อำเภอเมืองอุทัยธานีกันก่อนโดยใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่ง ที่แรกที่
เราไปคือวัดท่าซุง ปกติเราไม่ใช่คนที่ชอบเที่ยววัดจ๋า แต่วัดนี้ต้องขอแนะนำจริงๆว่าไม่มาไม่ได้ บริเวณวัดมีขนาดกว้างใหญ่
มีทั้งวิหารแก้วที่สวยงามมาก โดยยังมีร่างของหลวงพ่อฤาษีลิงดำอยู่ในโลงแก้ว วิหารแก้วนี่ทำจำลองจากสวรรค์ค่ะ
เพราะฉะนั้นวิหารจะมีความสวยมากก มีผู้มากราบไหว้ตลอดไม่ขาดสาย ประดับด้วยโมเสกสีขาวและกระจกทั้งหลัง


วิหารแก้ว สร้างโดยมีต้นแบบมาจากสวรรค์ เปิดทุกวัน 9.00-11.45 และ 14.00-16.00

เราขับรถออกมาอีกทางส่วนหนึ่งเพื่อที่จะไปส่วนของปราสาททองคำสีทอง ผ่านไปก็เจอส่วนของที่นั่งวิปัสสนาสำหรับผู้ที่มาปฏิบัติธรรม
คือเป็นฮอล์ใหญ่มากกกจนงง ใหญ่ประมาณ challenger hall อิมแพคอะไรประมาณนั้น  คุณป้าที่มานั่งวิปัสนาเล่าว่า ห้องน้ำที่นี่มีประมาณ 1,000 ห้องได้ อันนี้ไปเข้ามาแล้ว ยอมรับเยอะจริง 555


ว่าด้วยเรื่องของปราสาททองคำ เป็นอาคารขนาดใหญ่ที่มีคสวยงาม โดยมีการประกอบด้วย ทองคำเปลว ติดกระจก ได้สร้างขึ้นเพื่อ
ถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในวาระที่ทรงเสวยราชย์เป็นปีที่ 50 พื้นที่ภายในปราสาทจะใช้เป็นสถานที่เป็นพระพุทธรูปที่ญาติโยมนำมาถวายวัด ปัจจุบันบริเวณภายในยังคงเป็นพื้นที่โล่งกว้าง ซึ่งเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมได้ (ขอบคุณข้อมูลจาก thetrippacker ด้วยค่ะ)


-------------------------------------------------------------------------------------------------------
ข้อมูลเพิ่มเติม
วัดท่าซุง
ที่อยู่: หมู่ที่ 2 ตำบลน้ำซึม อำเภอเมืองอุทัยธานี จังหวัดอุทัยธานี
เบอร์ติดต่อ: 099-936-2975
Tips: ถ้าไม่ได้เอารถมา สามารถขึ้นรถรางของวัดเที่ยวชมตามสถานที่ต่างๆ ได้ ราคาไม่แพงค่ะ
หลักๆมีสองแห่งที่แนะนำให้ไปค่ะ
1. วิหารแก้ว
เวลาเปิด-เปิด: 9.00-11.45 และ 14.00-16.00 ทุกวัน
2. ปราสาททองคำ
เวลาเปิด-เปิด: 8.00-16.00 ทุกวัน
*นอกจากสถานที่สวยงามทั้งสองที่นี้ ยังมีสิ่งปลูกสร้างสวยๆอย่างอื่นอีกมากมายให้ได้ไปดู
ใครมีเวลาสามารถชมได้ทุกส่วนของวัดนะคะ

อยู่วัดถ่ายรูปได้ซักพัก กองทัพก็ต้องเดินด้วยท้องง เราจึงออกมาหาอะไรกินกลางวันกัน จากที่ได้อ่านรีวิวมา
เราเลยตามมากินร้านอาหารป้าสำราญ ซึ่งเป็นร้านอาหารติดแม่น้ำ ดูอากาศน่าจะดีเลยไปซะหน่อย เราได้พบว่า
อาหารเด็ดๆของที่นี่จะเป็นปลาแรด ไปร้านไหนก็มักจะเจอปลาแรดทั้งๆที่ปกติกรุงเทพฯก็ไม่เจอนะ อันนี้ไปลองมาแล้ว
ต้องบอกว่าเด็ดจิงงง แถมยังมีเมนูหลายแบบให้เลือกตามใจชอบล่วย เราสั่งกันมาสองสามอย่าง ปลาคือกินขาด
บรรยากาศบ้านๆแต่ได้อารมณ์มาก ร้านคือติดน้ำจริงซึ่งเป็นส่วนที่เป็นแม่น้ำเส้นหลักเลย


เมืองอุทัยส่วนอำเภอเมืองไม่ได้ใหญ่มาก แต่สถานที่ท่องเที่ยวแต่ละที่ก็ไม่ได้ใกล้ขนาดเดินได้ ส่วนใหญ่
จะใช้เวลาขับรถประมาณ 10-15นาที ส่วนใหญ่นอกจากจะไปไกลเกิน หลังจากกินข้าวเสร็จกะจะไปหมุดโลก
แต่เปลี่ยนใจไปวัดวัดสังกัสรัตนคีรีที่อยู่บนเขาแทน ซึ่งเป็นวัดคู่บ้านคู่เมืองของชาวอุทัยธานีเลยทีเดียวมีพระ
บรมรูปสมเด็จพระปฐมบรมมหาชนกนาถซึ่งเป็นที่มาของชื่อเมืองพระชนกจักรีอีกด้วย

ไฮไลท์สำหรับเราไม่ใช่วัด แต่เป็นวิวอีกฝั่งนึงของอุทัยธานีที่เห็นทุ่งเขียวๆสวยงามเต็มไปหมด กับต้นไม้ใหญ่
หน้าตาแปลกๆข้างๆวัดแต่สวยดี เลยถ่ายเก็บมาด้วย ทางเข้าวัดจะมีสองทาง อยากสารภาพว่าตอนแรกเรากะจะเดินขึ้น (มี 449 ขั้น)
สรุปว่า หาทางขึ้นไม่เจอจ้าา แห้วกันไป คิดว่าขึ้นเขาแล้วต้องเดินขึ้นต่อไป สรุปว่า ขึ้นมาคือจบละ โง่มาก 555
ใครอยากเดินก็สามารถเดินขึ้นหรือเอารถขึ้นตามสะดวกได้เลยนะฮับ ข้างบนจะมีโบสถ์และมีศาลาจีนอยู่ด้วย


วัดสังกัสรัตนคีรีเป็นที่นับถือมากของชาวอุทัยธานี
--------------------------------------------------------------
วัดสังกัสรัตนคีรียอดเขาสะแกกรัง
ที่อยู่ : บ้านน้ำซึม อำเภอเมืองอุทัยธานี จังหวัดอุทัยธานี
เบอร์ติดต่อ : 0 5651 2916, 0 5652 0826
เวลาเปิด-ปิด : 6.00 – 20.00 ทุกวัน
ค่าเข้า : ไม่เสียค่าธรรมเนียม
ช่วงเวลาแนะนำ : 6.00 น. (พระอาทิตย์ขึ้น), 18.00 – 20.00 น. (พระอาทิตย์ตกและชมแสงไฟของบ้านเรือนในเมืองอุทัยฯ)
----------------------------------------------------------------------------------------
ถึงเวลากลับโรงแรม! เพื่อที่จะไปทำการเชคอินซะที คราวนี้เสียใจนิดนึงเพราะจริงๆเราอยากนอนที่บ้านสวน
จันทิตากับอยู่แพ แพเสตย์ แต่ห้องเต็มหมดเลยจ้าา เนื่องจากวันเสาร์จะเป็นวันที่ตลาดตรอกโรงยาเปิดและผู้คนต่างจับ
จองที่พักกันตั้งแต่เนิ่นๆ เลยได้รู้ว่าที่นี่จริงๆคือบูมใช้ได้อยู่นะ โรงแรมวันนี้ของเราชื่อ อิงน้ำ รีสอร์ท เป็นโรงแรมเล็กๆมีประมาณ
7 ห้อง แต่บริเวณอบอุ่นน่ารักดีค่ะ มีสระว่ายน้ำอยู่ตรงกลาง ประมาณว่าเปิดประตูออกจากห้อง ก็กระโดดลงได้เลย
ที่โรงแรมมีจักรยานให้เช่าฟรี ส่วนใหญ่รีสอร์ทที่นี่มีให้ฟรีเพราะทางตัวเมืองจะมีเลนจักรยานให้ขี่ได้ ทั้งมี routing ให้ขี่ด้วย
รีสอร์ทนี้อยู่ในเกาะเทโพเลยค่ะ ใครตั้งใจจะขี่จักรยานสามารถเริ่มจากที่นี่ได้เลย วัดโบสถ์และตลาดห่างไปแค่ 800 เมตร
โดยรีสอร์ทจะอยู่างวัดโบสถ์และข้ามไปฝั่งตลาดได้เลยค่ะ
----------------------------------------------------------------------------------------
โรงแรมอิงน้ำรีสอร์ท
Website: http://www.บ้านอิงน้ํา.com
Facebook: https://www.facebook.com/ingnum
ID Line: บ้านอิงน้ำรีสอร์ท
ที่อยู่: 128 ตำนล สะแกกรัง อำเภอเมือง จ.อุทัยธานี
เบอร์โทร: 080-839-9499, 056-980-199
----------------------------------------------------------------------------------------

บ้านพักริมสระว่ายน้ำ

รีสอร์ทจะมีที่พักสองส่วน ทางบ้านติดสระว่ายน้ำและบ้านพักแพ

จักรยานให้เช่าฟรีของรีสอร์ท

เห็นแมงปอเกาะเต็มสายไฟเลยถ่ายเก็บไว้ซักหน่อย

ป้ายบอกเส้นทางจักรยาน

เราได้มีโอกาสอ่านบทความจาก paiduaykan.com เกี่ยวกับเส้นทางจักรยานและได้พบว่า ที่นี่ถูกรณรงค์ให้ใช้จักรยาน
เพื่ออนุรักษ์วิถีชีวิตท้องถื่นให้คงเสน่ห์ของที่นี่ไว้ ด้วยการทำเส้นทางจักรยานผ่านแม่น้ำสะแกกรัง ชุมชันริมฝั่ง ให้นักท่องเที่ยว
และผู้คนได้สัมผัสความเป็นอุทัยธ่นีที่แท้จริงได้ดียิ่งขึ้น เราก็กะจะไปขี่เนี่ยแหละ วางแผนไว้อย่างดี ก็เกิดเหตุที่ทำให้อดเพราะ
เรานั้นขาสั้นเกินไป T_T และจักรยานทางโรงแรมก็สนิมขึ้นจนไม่สามารถปรับได้ เราเลยอดขี่ ก็เลยได้แค่นั่งซ้อนท้ายปั่นไป
ตามถนนระยะสั้นๆ แค่นี้ก็เจ็บก้นจะแย่แล้ว.. สุดท้ายใช้วีธีขับรถ 5555 รถก็สามารถขับดูได้นะคะ แต่ะลอยากและไม่สามารถ
เข้าทางแคบๆได้ การจะได้เข้าถึงชาวบ้านจะยากกว่า

Tips:
เส้นทางจักรยานที่มีเริ่มตั้งแต่ 15 กิโลเมตรไปจนถึง 50 กิโลเมตร ใครใจรักในการปั่นจักรยานก็ลองดูได้นะคะ ทางในอุทัย
ค่อนข้างขี่ง่ายเพราะมี bike route แยกให้ได้ขี่เลยสะดวกมั่ก แต่ก็จะมีบางพื้นที่ๆขี่ตามถนนทั่วไป ต้องระวังกันด้วยนะ แต่ที่นี่รถ
ไม่เยอะและระวังกันค่อนข้างเป็นพิเศษ พอขับได้อยู่สำหรับมือใหม่ แนะนำมากๆให้ขี่รอบสะแกกรังและฝั่งที่เรียกว่าเกาะเทโพ
ซึ่งเป็นเส้นทางนี่แนะนำที่สุดในการขี่เพราะได้เห็นการเกษตรได้ค่อนข้างสมบูรณ์และมีวิวสวยงาม มีความร่มรื่นมาก เกาะเทโพ
จะอยู่ทางวัดโบสถ์และตลาดเทศบาลค่ะ
ถ้าไม่ขี่จักรยาน แนะนำให้ลอง google map จาก ถนนคนเดินตรอกโรงยา มาทางวัดโบสถ์หรือสลับกัน
โดยผ่านทางลุ่มน้ำสะแกกรัง เป็นrouteขับรถที่สวยมากๆ ทั้งสองฝั่งเป็นวิวทุ่งนา โดยเฉพาะช่วง 16.30-17.30
ถ้าอากาศดี สวยสุดๆไปเลยค่ะ ไม่ได้ถ่ายรูปมาก เพระตอนไปเริ่มมืดแล้ว


เดี๋ยวมาต่อนะคะ