ห่างการรีวิวละครญี่ปุ่นไปหลายปีดีดักมาก (หมายถึงว่าห่างการดูละครด้วยอีกต่อหนึ่ง) ช่วงนี้จะว่าว่างก็ไม่ถูก ไม่ว่างก็ไม่ใช่ อะไรไม่รู้ดลใจ search หาละครของ คิมุระ ทาคุยะ หลังจากมีอันต้องยุติบทบาทในฐานะสมาชิก smap ลงไป ใครที่คุ้นเคยกับคุณป๋า .... ก็คงพอทราบว่าคุณป๋าเป็นมาทุกอย่างที่ในสากลโลกนี้จะเป็นได้ หลายอาชีพที่รับบทบาทมา หลากหลายคาแร็คเตอร์ตลอดชีวิตการทำงานในวงการบันเทิง เท่าไหร่แล้วล่ะ 30 ปีได้กระมัง นับตั้งแต่เริ่มฟอร์มวง smap ในปี 1988 จากหนุ่มน้อยนักดนตรี เป็นครีเอทีฟหัวร้อน เป็นอัยการเด็กแนว เป็นฆาตกรโรคจิต นักบินสุดคูล นักกีฬาฮอกกี้แสนเท่ นักธุรกิจมีปม เป็นแม้กระทั่งนายกรัฐมนตรี และ วันนี้ในวัย 45 คิมุระ ทาคุยะ เป็นบอร์ดี้การ์ด (เอกชน)
และ คิมุระ ทาคุยะ ก็ยังคงเป็น คิมุระ ทาคุยะ ไม่เคยทำให้ผิดหวังซักครั้ง ป๋าก็ยังเป็นป๋า พ่อก็ยังเป็นพ่ออยู่ยังวันยังค่ำ กับตัวละคร ชิมาซากิ อากิระ ผู้ชายที่ผ่านมาแล้วในทุกรสชาติของความเป็นคน ด้วยความที่คิมุระเป็นนักแสดงที่มีคาแร็คเตอร์ติดตัว เรียกว่า บทฮีโร่ แบบ anti-hero แทบจะปะหน้าผากตลอดมา โดยเฉพาะยุครุ่งเรือง ละครหลาย ๆ เรื่อง จริง ๆ เกือบจะทุกเรื่องแหละนะ ป๋าก็จะเป็นชายหัวแข็งไม่ยี่หระสังคม จนมาถึงช่วงหลัง ๆ 2008 เป็นต้นที่มีการฉีกตัวตนออกไป อย่างเรื่องนี้ .... มีกลิ่นอายของความฮีโร่นิด ๆ หากอวลด้วยความสุขุม เข้าใจโลกในอีกมุมหนึ่ง รวมถึงความเจ็บปวดจากอดีต ผสมผสานรวมกัน
ความผิดพลาดเมื่อ 6 ปีก่อน ทำให้ชิมาซากิ call it quit ในอาชีพบอร์ดี้การ์ดส่วนตัว และ ทำงานรักษาความปลอดภัยในบริษัทแห่งหนึ่ง จนวันดีคืนดี .... บริษัทที่ว่านั้นเกิดผุดไอเดียบอร์ดี้การ์ดส่วนตัวขึ้นมา ท่านประธานก็ชักชวนให้ ชิมาซากิ กลับเข้าสู่วงการอีกครั้ง ซึ่ง .... มันก็ไม่ดราม่าฟูมฟาย หรือ conflict เว่อร์วังนะ ก็กลับมาทำอาชีพปกติ และ ตั้งใจว่าจะไม่พลาดอีก สิ่งที่เด่น ๆ ใน BG คือ อารมณ์มันดูธรรมชาติ นัว ๆ อึม ๆ เจ้าตัวเข้ามาทำงานอีกครั้งในฐานะมือใหม่ (ทั้งที่จริง ๆ อยู่ในอาชีพนั้นมาเกือบตลอดชีวิต) ซึ่ง ... มันก็ปิดได้ไม่นานหรอก เพราะ ฝีมือ .... ก็พอตัว ข้อนี้เป็นอีกข้อที่ขอชมเชย ความคิวบู๊ที่ไม่ใช่ฉากแอ๊คชั่นยิมนาสติกลีลา หรือ ระเบิดภูเขาเผากระท่อม แต่สื่อถึงความ "เก๋า" ของ Main Bodyguard อย่างชิมาซากิ ที่ไม่ได้ใช้แรงเข้าสู้ แต่ใช้สมองเข้าช่วย ทั้งโค้ด ทั้งการวางแผน การสังเกต ความรอบรู้ สัญชาตญาณ และ "ความกลัว"
และที่สำคัญอีกอย่างคือความ "จริง" ความจริงที่ว่า ชิมาซากิ อากิระ อายุ 40 ต้น ๆ และ ถูกเรียกว่าลุง ก็น้อยครั้งนะที่จะได้ยิน "พระเอก" ถูกตัวละครอีกเรียกว่าลุง และ ตัว "ลุง" เองก็ยอมรับสภาพสังขารของตัวเองด้วยดี ดังนั้นถ้าจะหาคิวบู๊ที่ตัวเอกเดินเท่ ๆ ไม่เจ็บไม่ปวด บอกเลยว่าเรื่องนี้ไม่มี มีแต่ความจริงว่าคนก็ยังเป็นคนไม่ใช่เหล็กไหล การออกปฏิบัติการบางครั้งก็รอด บางครั้งก็มีรอยขีดข่วน บางครั้งจบงานก็ขากระเผลก ๆ เป็นเรื่องที่ทุกคนพบเจอในชีวิตประจำวัน เหมือนกับเรามองผ่านตัวละครไปเจอความจริงรอบตัวที่เผชิญทุกเมื่อเชื่อวัน
อีกทั้งยิ่งจริงในจริง ว่าชีวิตของคนไม่ได้ขาวสุดดำสุด แต่ละคนล้วนมีสิ่งสมใจ มีสิ่งที่ติดค้าง มีสิ่งที่ผิดหวัง มีก้าวที่พลาดพลั้ง มีแยกที่สามารถเลี้ยวกลับตัว หรือ มีสภาวะที่ถลำลึกและไม่อาจหวนกลับคืนดีได้ อารมณ์ความรู้สึกต่าง ๆ ที่ซับซ้อนผสมผสานไม่ชัดเจน อย่างชิมาซากิกับก้าวที่พลาดเมื่อ 6 ปีที่แล้ว ทากานาชิกับก้าวที่พลาดเหมือนกันกับรุ่นน้องในรั้วทหาร ตัวละครทุกตัวต่างผ่านรสชาติความเป็นคน หากสิ่งที่พวกเขาทำได้ คือ เรื่องที่ต้องปล่อยผ่านก็ต้องปล่อย เรื่องไหนแก้ได้ก็แก้ เมื่อผิดหวังเสียใจได้แต่อย่าจมอยู่กับมันนานนัก
เพราะท้ายที่สุด .... ชีวิตก็ยังดำเนินต่อไป
พอเจอกับรสชาติแห่งชีวิต รสชาติของความ
เป็นคนต่อไป
ก็มีแต่ต้องเชิดหน้าต้านคลื่นลมตราบลมหายใจสุดท้ายนั่นเอง
ป.ล. รักป๋าเสมอ และ ให้ตายเหอะ ป๋าจะแก่จะอะไรยังไง ออร่าก็ยังพุ่งอยู่ดี ละครป๋าก็มาตรฐานทุกเรื่องจริง ๆ เป็น 9 ตอนที่น้องหยุดดูไม่ได้ กราบความเลือกบท และ ความแมตช์กับบทนี้
(J-dorama) BG : Personal Bodyguard (กึ่งรีวิว) : ทาคุยะ บอร์ดี้การ์ด และ รสชาติความเป็นคน
และ คิมุระ ทาคุยะ ก็ยังคงเป็น คิมุระ ทาคุยะ ไม่เคยทำให้ผิดหวังซักครั้ง ป๋าก็ยังเป็นป๋า พ่อก็ยังเป็นพ่ออยู่ยังวันยังค่ำ กับตัวละคร ชิมาซากิ อากิระ ผู้ชายที่ผ่านมาแล้วในทุกรสชาติของความเป็นคน ด้วยความที่คิมุระเป็นนักแสดงที่มีคาแร็คเตอร์ติดตัว เรียกว่า บทฮีโร่ แบบ anti-hero แทบจะปะหน้าผากตลอดมา โดยเฉพาะยุครุ่งเรือง ละครหลาย ๆ เรื่อง จริง ๆ เกือบจะทุกเรื่องแหละนะ ป๋าก็จะเป็นชายหัวแข็งไม่ยี่หระสังคม จนมาถึงช่วงหลัง ๆ 2008 เป็นต้นที่มีการฉีกตัวตนออกไป อย่างเรื่องนี้ .... มีกลิ่นอายของความฮีโร่นิด ๆ หากอวลด้วยความสุขุม เข้าใจโลกในอีกมุมหนึ่ง รวมถึงความเจ็บปวดจากอดีต ผสมผสานรวมกัน
ความผิดพลาดเมื่อ 6 ปีก่อน ทำให้ชิมาซากิ call it quit ในอาชีพบอร์ดี้การ์ดส่วนตัว และ ทำงานรักษาความปลอดภัยในบริษัทแห่งหนึ่ง จนวันดีคืนดี .... บริษัทที่ว่านั้นเกิดผุดไอเดียบอร์ดี้การ์ดส่วนตัวขึ้นมา ท่านประธานก็ชักชวนให้ ชิมาซากิ กลับเข้าสู่วงการอีกครั้ง ซึ่ง .... มันก็ไม่ดราม่าฟูมฟาย หรือ conflict เว่อร์วังนะ ก็กลับมาทำอาชีพปกติ และ ตั้งใจว่าจะไม่พลาดอีก สิ่งที่เด่น ๆ ใน BG คือ อารมณ์มันดูธรรมชาติ นัว ๆ อึม ๆ เจ้าตัวเข้ามาทำงานอีกครั้งในฐานะมือใหม่ (ทั้งที่จริง ๆ อยู่ในอาชีพนั้นมาเกือบตลอดชีวิต) ซึ่ง ... มันก็ปิดได้ไม่นานหรอก เพราะ ฝีมือ .... ก็พอตัว ข้อนี้เป็นอีกข้อที่ขอชมเชย ความคิวบู๊ที่ไม่ใช่ฉากแอ๊คชั่นยิมนาสติกลีลา หรือ ระเบิดภูเขาเผากระท่อม แต่สื่อถึงความ "เก๋า" ของ Main Bodyguard อย่างชิมาซากิ ที่ไม่ได้ใช้แรงเข้าสู้ แต่ใช้สมองเข้าช่วย ทั้งโค้ด ทั้งการวางแผน การสังเกต ความรอบรู้ สัญชาตญาณ และ "ความกลัว"
และที่สำคัญอีกอย่างคือความ "จริง" ความจริงที่ว่า ชิมาซากิ อากิระ อายุ 40 ต้น ๆ และ ถูกเรียกว่าลุง ก็น้อยครั้งนะที่จะได้ยิน "พระเอก" ถูกตัวละครอีกเรียกว่าลุง และ ตัว "ลุง" เองก็ยอมรับสภาพสังขารของตัวเองด้วยดี ดังนั้นถ้าจะหาคิวบู๊ที่ตัวเอกเดินเท่ ๆ ไม่เจ็บไม่ปวด บอกเลยว่าเรื่องนี้ไม่มี มีแต่ความจริงว่าคนก็ยังเป็นคนไม่ใช่เหล็กไหล การออกปฏิบัติการบางครั้งก็รอด บางครั้งก็มีรอยขีดข่วน บางครั้งจบงานก็ขากระเผลก ๆ เป็นเรื่องที่ทุกคนพบเจอในชีวิตประจำวัน เหมือนกับเรามองผ่านตัวละครไปเจอความจริงรอบตัวที่เผชิญทุกเมื่อเชื่อวัน
อีกทั้งยิ่งจริงในจริง ว่าชีวิตของคนไม่ได้ขาวสุดดำสุด แต่ละคนล้วนมีสิ่งสมใจ มีสิ่งที่ติดค้าง มีสิ่งที่ผิดหวัง มีก้าวที่พลาดพลั้ง มีแยกที่สามารถเลี้ยวกลับตัว หรือ มีสภาวะที่ถลำลึกและไม่อาจหวนกลับคืนดีได้ อารมณ์ความรู้สึกต่าง ๆ ที่ซับซ้อนผสมผสานไม่ชัดเจน อย่างชิมาซากิกับก้าวที่พลาดเมื่อ 6 ปีที่แล้ว ทากานาชิกับก้าวที่พลาดเหมือนกันกับรุ่นน้องในรั้วทหาร ตัวละครทุกตัวต่างผ่านรสชาติความเป็นคน หากสิ่งที่พวกเขาทำได้ คือ เรื่องที่ต้องปล่อยผ่านก็ต้องปล่อย เรื่องไหนแก้ได้ก็แก้ เมื่อผิดหวังเสียใจได้แต่อย่าจมอยู่กับมันนานนัก
พอเจอกับรสชาติแห่งชีวิต รสชาติของความ
เป็นคนต่อไป
ก็มีแต่ต้องเชิดหน้าต้านคลื่นลมตราบลมหายใจสุดท้ายนั่นเอง
ป.ล. รักป๋าเสมอ และ ให้ตายเหอะ ป๋าจะแก่จะอะไรยังไง ออร่าก็ยังพุ่งอยู่ดี ละครป๋าก็มาตรฐานทุกเรื่องจริง ๆ เป็น 9 ตอนที่น้องหยุดดูไม่ได้ กราบความเลือกบท และ ความแมตช์กับบทนี้