เพิ่งเจอเหตุการณ์ช๊อคมาค่ะ ตอนนี้ยังสับสนไม่รู้เอายังไงกับชีวิตดี เมื่อวานซืนเราจับได้ว่าสามีติดยา เราคบกันและแต่งงานกันมา7ปีแล้วค่ะ เราอายุ33 สามี35 ยังไม่มีลูก ตอนคบกันใหม่ๆเขาเคยพลั้งมือตบเรา จนเราบอกเลิกแล้วขนของออกจากบ้านเขาไปเลย หลังจากนั้นไม่นานเขามาง้อ และยอมรับกับเราว่าเขาติดยาจึงควบคุมตัวเองไม่ได้ เราก็บอกว่าถ้าจะคบกันต่อเขาต้องเลิกทุกอย่าง เรารับไม่ได้ เขาก็สัญญาว่าจะเลิก เขาจะเป็นคนใหม่ จะไม่กลับไปเป็นแบบนั้นอีกแล้ว หลังจากนั้นเราก็คบกันก็ปกติดี แต่ก็มีทะเลาะกันบ่อยๆ เพราะเขาเป็นคนอารมณ์ร้อน โมโหง่าย ส่วนเราก็ใจร้อน ปากร้าย แต่ก็อยู่ด้วยกันจนแต่งงานกัน ยอมรับว่าชีวิตก็มีทั้งสุขและทุกข์ปนกันไป บางทีเขาก็ดีมาก บางทีเขาก็ร้ายมาก เคยจะเลิกหลายครั้งแต่ก็ไม่เลิก ได้แต่ปลงว่านิสัยเขาคงเป็นแบบนี้ นึกถึงวันเวลาดีๆก็ไม่อยากเลิก อีกอย่างเราอยู่บ้านเขา ถ้าเลิกก็ต้องไปฝ่ายออกไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ ไม่รู้จะไปอยู่ที่ไหน เราอยู่ที่นี่มาเกือบ10ปีแล้ว สร้างครอบครัวสร้างฐานะมาด้วยกัน ธุรกิจเราก็ต้องทำที่นี่ เราไม่อยากทิ้งไป ก็อยู่มาเรื่อยๆสุขทุกข์ตามประสา ข้อดีเขาก็มี แต่ข้อเสียก็เยอะ เราก็รับได้ จนกระทั่งเมื่อวานซืนเรากำลังจะออกไปกินข้าวกัน ก็โดนตำรวจตั้งด่านตรวจฉี่ ปรากฎว่าสามีฉี่ม่วง ตอนนั้นเรายังงงๆ เห้ย สีม่วงแปลว่าเสพยาหรอ ตำรวจก็ถาม นี่ไม่รู้หรอแฟนเสพยา เราก็ยังเถียงด้วยความอินโนเซ้นว่าไม่ใช่หรอก แต่ตำรวจก็ว่าไม่ต้องเถียงหรอกว่าไม่เสพไปถามแฟนตัวเองละกัน เค้าแอบเราเสพยานะ เรานี่ช๊อคมาก ร้องไห้ต่อหน้าตำรวจ ตำรวจก็ต่อว่าแฟนเราว่าไม่สงสารแฟนบ้างหรืองัย ตอนนั้นเราสับสนมาก ทำอะไรไม่ถูก สักพักตำรวจก็ปล่อยให้กลับ เราก็ถามเค้าว่าสรุปยังไง เค้าก็ไม่ยอมรับ บอกว่าฉี่ม่วงไม่ได้แปลว่าเสพยาสักหน่อย มันมีหลายอย่างต้องรอให้ตำรวจเขาส่งไปแยกสารก่อน วันนั้นเราเสิร์จหาข้อมูลทั้งวันทั้งคืน แต่ก็ยังสรุปไม่ได้ว่าแฟนเสพยาหรือไม่ จนเราไปปรึกษากับเพื่อนและหลายๆคน มีบางคนสนิทกับแฟนเราเขาก็รู้ว่าแฟนเรายังเล่นอยู่ เรายิ่งช็อคไปใหญ่ นี่คนเค้ารู้กันทั้งนั้นว่าแฟนเราติดยา มีแต่เราที่ไม่รู้ คือที่เราไว้ใจเขามากเพราะเขาไม่สุงสิงกับใครเลย เพื่อนๆชวนไปกินเหล้าก็ไม่ไป อยู่แต่บ้าน แล้วเงินก็อยู่ที่เราให้เค้าใช้วันไม่กี่บาทเอง ให้ซื้อบุหรี่ ขนม แล้วเค้าก็อ้วนมาก คนติดยาจะผอมไม่ใช่หรอ หลังจากนั้นเราเริ่มประติดประต่อเรื่องราว จนสรุปได้ว่าเขาเสพแน่ๆ แต่ไม่แน่ใจว่าเป็นช่วงหลังๆมานี้หรือไม่ เพราะเริ่มออกไปกับเพื่อน มีเพื่อนกลุ่มนึงชอบหาปลาหากุ้งกลางคืนแล้วมาชวนแฟนเรา เค้าก็ไปบ้างไม่ไปบ้าง ไปก็ไปแป๊บเดียว แต่เราไม่เอะใจอะไรเพราะไว้ใจเค้ามากไม่เคยคิดถึงเรื่องนี้เลย และหลังๆมานี่เงินเริ่มขาดมือ เพราะเราปล่อยให้เค้าหยิบเงินใช้เอง เงินก็หายเยอะเค้าก็บอกว่าเค้าซื้อของออนไลน์ เราเห็นเค้าซื้อจริงก็ไม่ได้คิดอะไร ได้แต่บ่นว่าใช้เงินเปลือง และอีกอย่างเวลาเค้าไม่สบายเค้าจะนอนหลายวันเลย บางทีเป็นอาทิตย์ และเค้าเป็นคนที่อารมณ์ขึ้นๆลงๆ บางทีก็ดีใจหาย จนเราคิดว่านิสัยเค้าเป็นแบบนั้น ไม่เคยรู้เลยว่านั่นคืออาการคนติดยา คือเราโง่มากอ่ะ ด้านมืดแบบนี้เราไม่รู้เรื่องเลยอ่ะ เรียกว่าอินโนเซนต์เลย เป็นคนโลกสวยอยู่แล้ว จึงไม่เคยคิดถึงยาเสพติดเลย
อีกอย่างที่เขาไม่กลัวว่าเราจะจับได้คือ ตำรวจที่ตั้งด่านต้องการแค่ไถ่เงินตอนนั้นเลย แต่ไม่ได้ส่งไปตรวจแยกสารอะไร เพราะเค้าเล่าเคยโดนตรวจแล้วม่วงก็ไม่เห็นมีอะไร แสดงว่าเขารู้แกวแล้วว่าตำรวจไม่ได้จับเอาจริง เลยไม่กลัว ขนาดเรารู้แล้วก็ไม่ยอมรับ พอเรารู้แบบนั้นก็อยากเลิกกับเขาเลย เรารับไม่ได้ที่เขาโกหกเรามาตลอด เหมือนเราโง่เป็นควาย เขารักเราบ้างหรือเปล่า รู้ว่าเรารับไม่ได้แต่ยังทำ ตอนนี้เราสับสนมากๆ ไม่รู้จะทำยังไงดี ไม่รู้จะเลิกหรือจะให้โอกาสเขาดี เมื่อคืนก็ทะเลาะกันเขาก็ยอมรับว่าเค้าเล่นยา แล้วก็ไล่ให้เราออกไปจากชีวิตเขา ใจนึงเราก็อยากไปให้พ้นๆ อีกใจก็สงสาร และก็สงสารตัวเองด้วยที่ต้องมาร้องไห้ให้คนเลวๆแบบนี้อยู่เรื่อยไป เมื่อก่อนที่เขาอารมณ์ร้อน ก็อยากเลิกนะ แต่เหมือนเหตุผลมันไม่เพียงพอ คิดว่าคงปรับจูนเข้าหากันได้ แต่มาเจอเรื่องยานี่ไม่ไหวจริงๆ อายุก็ไม่ใช่น้อยๆ แต่ยังเป็นไอ้ขี้ยา เรารับไม่ได้จริงๆ เราควรทำยังไงดี
ทำยังไงดีเพิ่งรู้ว่าสามีติดยา เครียดมาก ควรให้โอกาสหรือเลิก
อีกอย่างที่เขาไม่กลัวว่าเราจะจับได้คือ ตำรวจที่ตั้งด่านต้องการแค่ไถ่เงินตอนนั้นเลย แต่ไม่ได้ส่งไปตรวจแยกสารอะไร เพราะเค้าเล่าเคยโดนตรวจแล้วม่วงก็ไม่เห็นมีอะไร แสดงว่าเขารู้แกวแล้วว่าตำรวจไม่ได้จับเอาจริง เลยไม่กลัว ขนาดเรารู้แล้วก็ไม่ยอมรับ พอเรารู้แบบนั้นก็อยากเลิกกับเขาเลย เรารับไม่ได้ที่เขาโกหกเรามาตลอด เหมือนเราโง่เป็นควาย เขารักเราบ้างหรือเปล่า รู้ว่าเรารับไม่ได้แต่ยังทำ ตอนนี้เราสับสนมากๆ ไม่รู้จะทำยังไงดี ไม่รู้จะเลิกหรือจะให้โอกาสเขาดี เมื่อคืนก็ทะเลาะกันเขาก็ยอมรับว่าเค้าเล่นยา แล้วก็ไล่ให้เราออกไปจากชีวิตเขา ใจนึงเราก็อยากไปให้พ้นๆ อีกใจก็สงสาร และก็สงสารตัวเองด้วยที่ต้องมาร้องไห้ให้คนเลวๆแบบนี้อยู่เรื่อยไป เมื่อก่อนที่เขาอารมณ์ร้อน ก็อยากเลิกนะ แต่เหมือนเหตุผลมันไม่เพียงพอ คิดว่าคงปรับจูนเข้าหากันได้ แต่มาเจอเรื่องยานี่ไม่ไหวจริงๆ อายุก็ไม่ใช่น้อยๆ แต่ยังเป็นไอ้ขี้ยา เรารับไม่ได้จริงๆ เราควรทำยังไงดี