สวัสดีครับ
วันนี้ผมจะมาเล่าถึงที่เที่ยวแนวลุยธรรมชาติที่มีความดีงามแห่งนี้
เนื่องจากตัวผมเป็นคนชอบเที่ยวแนวธรรมชาติ พอเที่ยวมาซักพักก็จะพบว่า
ที่เที่ยวไม่ได้ทำให้เราประทับใจได้ทุกที่ ไปบางที่ก็ไม่ชอบ บางที่ก็ไม่มีอะไร
แต่ที่นี่มันดีจนอยากบอกต่อครับ
วันนี้สิ่งที่ผมจะเล่าถึงก็คือเส้นทางศึกษาธรรมชาติ ถ้ำธารลอดน้อย-ถ้ำธารลอดใหญ่
ซึ่งอยู่ในอุทยานแห่งชาติเฉลิมรัตนโกสินทร์นั่นเองครับ
FB https://www.facebook.com/theworldsobig/
อุทยานแห่งชาติเฉลิมรัตนโกสินทร์
ครั้งแรกที่ได้ยินชื่อนี้บอกตรงๆว่าไม่คุ้น คิดว่าคงไม่น่าสนใจ
น่าจะเป็นแหล่งท่องเที่ยวเกรตรอง ไม่น่าจะมีอะไรด้วยซ้ำ
แต่พอได้ลองหาข้อมูลพบว่าที่นี่มีถ้ำเว้ยเฮ้ย เอาหละถ้าไปอย่างน้อยก็ได้รูปสวยๆในถ้ำแน่ๆ
ก็เลยตัดสินใจไปเที่ยวที่นี่
นอกจากลานกางเต็นท์แล้วที่นี่ยังมีบ้านพักไว้บริการนักท่องเที่ยวอีกด้วย
ซึ่งผมเลือกจะเช่าบ้านพักเพราะช่วงนี้ฝนตกบ่อยมาก เกรงว่าถ้ากางเต็นท์จะทุลักทุเลเกินไป
บ้านพักที่ผมเข้าพักเป็นขนาดสำหรับ 4 คน ราคาอยู่ที่ 1200 บาท ต่อหนึ่งคืน
บ้านพักดีครับ มีหมอนผ้าห่มผ้าเช็ดตัว เครื่องทำน้ำอุ่น
โทรไปจองล่วงหน้าได้ที่เบอร์ 095 619 8981
มาเล่าถึงเส้นทางศึกษาธรรมชาติกันต่อ
เส้นทางนี้มีความยาวทั้งสิ้น 2.5 km เริ่มจากถ้ำธารลอดน้อยซึ่งอยู่ห่างจากบ้านพักราวๆ 200 เมตร
หน้าถ้ำจะมีเวลาเปิด-ปิดไฟประกาศเอาไว้
เปิดไฟในถ้ำเวลา 8.30น. และ ปิดไฟเวลา 16.00น. เราควรกลับออกมาก่อนสี่โมงเย็นนั่นเอง
ผมมาถึงที่อุทยานเวลาบ่ายโมง กว่าจะกินข้าว จัดของเข้าที่พัก ทำให้มาถึงหน้าถ้ำก็บ่ายสองแล้ว
ถ้าจะเดินไป-กลับ ถ้ำธารลอดน้อย-ถ้ำธารลอดใหญ่ จะใช้เวลาอย่างน้อยๆก็สามชั่วโมงกว่า
ซึ่งวันนี้คงไม่ทัน วันแรกจึงเดินเล่นอยู่แค่แถวถ้ำธารลอดน้อยนี้เท่านั้น
ไฟในถ้ำจะไม่ค่อยสว่างนัก ทางที่ดีเราควรมีไฟฉายติดตัวไปด้วย
เพราะในถ้ำมีงู และทางเดินบางจุดเป็นสะพานโครงเหล็กที่พื้นไม่ค่อยดีนัก
ถ้าเดินไม่ระวังอาจจะเกิดอุบัติเหตุได้
วันแรกพวกเราจบกิจกรรมเดินศึกษาธรรมชาติและรีบเข้าที่พักทำกับข้าวกินกัน
วันที่สองเรารีบตื่นนอน เก็บของขึ้นรถ คืนกุญแจห้องพักแล้วเตรียมตัวไปเดินเส้นทางศึกษาธรรมชาติแต่เช้า
มารอหน้าทางเข้าถ้ำก่อนเจ้าหน้าที่จะมาซะอีก
และเนื่องจากเมื่อคืนฝนตกหนักมาก ไฟในถ้ำเกิดขัดข้องทำให้เช้านี้
ผมได้เข้าถ้ำในสภาพที่เป็นธรรมชาติแบบสุดๆ นั่นคือเข้าไปทั้งๆที่ไม่มีไฟในถ้ำนั่นเอง
ออกจากถ้ำมาเราก็จะเจอกับทางเดินที่ขนานไปกับลำน้ำเล็กๆครับ
น้ำใสไหลเย็นไม่ลึก สามารถเดินพับขากางเกงลงเล่นน้ำให้พอชื่นใจได้
ตรงนี้ก็จะมีมุมสวยๆให้เราได้ถ่ายรูปกันอีกด้วยครับ
ทางเดินในช่วงแรกนี้จะเป็นทางราบให้ได้เดินกันแบบชิวๆ ชมธรรมชาติสองข้างทางกันไป
ช่วงนี้ก็จะได้รูปเห็ดรูปต้นไม้ใบหญ้าเยอะหน่อย พอถึงช่วงทางขึ้นเขาบอกเลยว่าเหนื่อยแน่ๆครับ
ถ้าแบกกล้องแบกเลนส์ใหญ่ๆมาอาจจะเหนื่อยใจจนไม่มีแรงยกกล้องขึ้นมาถ่ายก็เป็นไปได้
แนะนำให้คิดดีๆว่าจะเอาอุปกรณ์อะไรไปบ้าง เน้นคล่องตัวจะดีที่สุดครับ
พอถึงจุดพักบริเวณน้ำตกไตรตรึงษ์ชั้นที่ 1 ตรงนี้ควรจะพักกันซักหน่อยนะครับ
เพราะทางข้างหน้าจากตรงนี้ไปจะเริ่มเป็นทางขึ้นเขาที่ค่อนข้างโหดเลยทีเดียว
ถ้าใครออกกำลังกายประจำก็คงชิวๆ ไม่รู้สึกอะไรเท่าไหร่
สำหรับใครที่ไม่ค่อยได้ออกกำลังกายก็อาจจะหนักหน่อยครับ
ขาขึ้นก็ใจเย็นๆอย่าลืมว่าเราต้องเดินกลับด้วย ขาลงถ้ากล้ามเนื้อล้าจะงอขาลำบาก
อันนี้เตือนกันไว้ก่อน
เมื่อเดินขึ้นเขามาจนถึงจุดชมวิวสุดท้าย จากตรงนี้เราเดินอีกเพียง 350 เมตร ก็จะถึงถ้ำธารลอดใหญ่
หลายคนอาจจะโอดครวญเพราะน่าจะเริ่มมีอาการเหนื่อยล้ากันบ้างแล้ว
บอกให้ใจชื้นก่อนว่า 350 เมตรที่เหลือนั้น ทางไม่โหด และสองข้างทางก็สวยมากอีกด้วย
พักให้หายเหนื่อยแล้วเตรียมเดินชื่นชมธรรมชาติชิวๆได้เลยครับ
ในที่สุดเราก็เดินทางมาจนถึงถ้ำธารลอดใหญ่
ซึ่งตรงนี้นอกจากตัวโถงถ้ำสูงใหญ่ที่สวยงามแล้วแหล่งน้ำที่ไหลผ่านก็ยังมีความสวยงามมากไม่แพ้กัน
ลองดูนะครับ สำหรับใครที่ชอบการเดินศึกษาธรรมชาติ ผมว่าเส้นทางนี้ดีมากเลยทีเดียว
สวยงามทั้งต้นทาง กลางทาง และ ปลายทาง วันเสาร์อาทิตย์คนก็ยังไม่เยอะไม่แออัดด้วย
เหมาะสมต่อการผจญภัยเป็นอย่างยิ่งครับ
ถ้าชอบรีวิวแบบนี้สามารถติดตามใน FB ก็ได้ครับ
https://www.facebook.com/theworldsobig/ ขอบคุณครับ
[CR] เส้นทางศึกษาธรรมชาติ อุทยานแห่งชาติเฉลิมรัตนโกสินทร์ สวย ครบ จบในที่เดียว
วันนี้ผมจะมาเล่าถึงที่เที่ยวแนวลุยธรรมชาติที่มีความดีงามแห่งนี้
เนื่องจากตัวผมเป็นคนชอบเที่ยวแนวธรรมชาติ พอเที่ยวมาซักพักก็จะพบว่า
ที่เที่ยวไม่ได้ทำให้เราประทับใจได้ทุกที่ ไปบางที่ก็ไม่ชอบ บางที่ก็ไม่มีอะไร
แต่ที่นี่มันดีจนอยากบอกต่อครับ
วันนี้สิ่งที่ผมจะเล่าถึงก็คือเส้นทางศึกษาธรรมชาติ ถ้ำธารลอดน้อย-ถ้ำธารลอดใหญ่
ซึ่งอยู่ในอุทยานแห่งชาติเฉลิมรัตนโกสินทร์นั่นเองครับ
FB https://www.facebook.com/theworldsobig/
อุทยานแห่งชาติเฉลิมรัตนโกสินทร์
ครั้งแรกที่ได้ยินชื่อนี้บอกตรงๆว่าไม่คุ้น คิดว่าคงไม่น่าสนใจ
น่าจะเป็นแหล่งท่องเที่ยวเกรตรอง ไม่น่าจะมีอะไรด้วยซ้ำ
แต่พอได้ลองหาข้อมูลพบว่าที่นี่มีถ้ำเว้ยเฮ้ย เอาหละถ้าไปอย่างน้อยก็ได้รูปสวยๆในถ้ำแน่ๆ
ก็เลยตัดสินใจไปเที่ยวที่นี่
นอกจากลานกางเต็นท์แล้วที่นี่ยังมีบ้านพักไว้บริการนักท่องเที่ยวอีกด้วย
ซึ่งผมเลือกจะเช่าบ้านพักเพราะช่วงนี้ฝนตกบ่อยมาก เกรงว่าถ้ากางเต็นท์จะทุลักทุเลเกินไป
บ้านพักที่ผมเข้าพักเป็นขนาดสำหรับ 4 คน ราคาอยู่ที่ 1200 บาท ต่อหนึ่งคืน
บ้านพักดีครับ มีหมอนผ้าห่มผ้าเช็ดตัว เครื่องทำน้ำอุ่น
โทรไปจองล่วงหน้าได้ที่เบอร์ 095 619 8981
มาเล่าถึงเส้นทางศึกษาธรรมชาติกันต่อ
เส้นทางนี้มีความยาวทั้งสิ้น 2.5 km เริ่มจากถ้ำธารลอดน้อยซึ่งอยู่ห่างจากบ้านพักราวๆ 200 เมตร
หน้าถ้ำจะมีเวลาเปิด-ปิดไฟประกาศเอาไว้
เปิดไฟในถ้ำเวลา 8.30น. และ ปิดไฟเวลา 16.00น. เราควรกลับออกมาก่อนสี่โมงเย็นนั่นเอง
ผมมาถึงที่อุทยานเวลาบ่ายโมง กว่าจะกินข้าว จัดของเข้าที่พัก ทำให้มาถึงหน้าถ้ำก็บ่ายสองแล้ว
ถ้าจะเดินไป-กลับ ถ้ำธารลอดน้อย-ถ้ำธารลอดใหญ่ จะใช้เวลาอย่างน้อยๆก็สามชั่วโมงกว่า
ซึ่งวันนี้คงไม่ทัน วันแรกจึงเดินเล่นอยู่แค่แถวถ้ำธารลอดน้อยนี้เท่านั้น
ไฟในถ้ำจะไม่ค่อยสว่างนัก ทางที่ดีเราควรมีไฟฉายติดตัวไปด้วย
เพราะในถ้ำมีงู และทางเดินบางจุดเป็นสะพานโครงเหล็กที่พื้นไม่ค่อยดีนัก
ถ้าเดินไม่ระวังอาจจะเกิดอุบัติเหตุได้
วันแรกพวกเราจบกิจกรรมเดินศึกษาธรรมชาติและรีบเข้าที่พักทำกับข้าวกินกัน
วันที่สองเรารีบตื่นนอน เก็บของขึ้นรถ คืนกุญแจห้องพักแล้วเตรียมตัวไปเดินเส้นทางศึกษาธรรมชาติแต่เช้า
มารอหน้าทางเข้าถ้ำก่อนเจ้าหน้าที่จะมาซะอีก
และเนื่องจากเมื่อคืนฝนตกหนักมาก ไฟในถ้ำเกิดขัดข้องทำให้เช้านี้
ผมได้เข้าถ้ำในสภาพที่เป็นธรรมชาติแบบสุดๆ นั่นคือเข้าไปทั้งๆที่ไม่มีไฟในถ้ำนั่นเอง
ออกจากถ้ำมาเราก็จะเจอกับทางเดินที่ขนานไปกับลำน้ำเล็กๆครับ
น้ำใสไหลเย็นไม่ลึก สามารถเดินพับขากางเกงลงเล่นน้ำให้พอชื่นใจได้
ตรงนี้ก็จะมีมุมสวยๆให้เราได้ถ่ายรูปกันอีกด้วยครับ
ทางเดินในช่วงแรกนี้จะเป็นทางราบให้ได้เดินกันแบบชิวๆ ชมธรรมชาติสองข้างทางกันไป
ช่วงนี้ก็จะได้รูปเห็ดรูปต้นไม้ใบหญ้าเยอะหน่อย พอถึงช่วงทางขึ้นเขาบอกเลยว่าเหนื่อยแน่ๆครับ
ถ้าแบกกล้องแบกเลนส์ใหญ่ๆมาอาจจะเหนื่อยใจจนไม่มีแรงยกกล้องขึ้นมาถ่ายก็เป็นไปได้
แนะนำให้คิดดีๆว่าจะเอาอุปกรณ์อะไรไปบ้าง เน้นคล่องตัวจะดีที่สุดครับ
พอถึงจุดพักบริเวณน้ำตกไตรตรึงษ์ชั้นที่ 1 ตรงนี้ควรจะพักกันซักหน่อยนะครับ
เพราะทางข้างหน้าจากตรงนี้ไปจะเริ่มเป็นทางขึ้นเขาที่ค่อนข้างโหดเลยทีเดียว
ถ้าใครออกกำลังกายประจำก็คงชิวๆ ไม่รู้สึกอะไรเท่าไหร่
สำหรับใครที่ไม่ค่อยได้ออกกำลังกายก็อาจจะหนักหน่อยครับ
ขาขึ้นก็ใจเย็นๆอย่าลืมว่าเราต้องเดินกลับด้วย ขาลงถ้ากล้ามเนื้อล้าจะงอขาลำบาก
อันนี้เตือนกันไว้ก่อน
เมื่อเดินขึ้นเขามาจนถึงจุดชมวิวสุดท้าย จากตรงนี้เราเดินอีกเพียง 350 เมตร ก็จะถึงถ้ำธารลอดใหญ่
หลายคนอาจจะโอดครวญเพราะน่าจะเริ่มมีอาการเหนื่อยล้ากันบ้างแล้ว
บอกให้ใจชื้นก่อนว่า 350 เมตรที่เหลือนั้น ทางไม่โหด และสองข้างทางก็สวยมากอีกด้วย
พักให้หายเหนื่อยแล้วเตรียมเดินชื่นชมธรรมชาติชิวๆได้เลยครับ
ในที่สุดเราก็เดินทางมาจนถึงถ้ำธารลอดใหญ่
ซึ่งตรงนี้นอกจากตัวโถงถ้ำสูงใหญ่ที่สวยงามแล้วแหล่งน้ำที่ไหลผ่านก็ยังมีความสวยงามมากไม่แพ้กัน
ลองดูนะครับ สำหรับใครที่ชอบการเดินศึกษาธรรมชาติ ผมว่าเส้นทางนี้ดีมากเลยทีเดียว
สวยงามทั้งต้นทาง กลางทาง และ ปลายทาง วันเสาร์อาทิตย์คนก็ยังไม่เยอะไม่แออัดด้วย
เหมาะสมต่อการผจญภัยเป็นอย่างยิ่งครับ
ถ้าชอบรีวิวแบบนี้สามารถติดตามใน FB ก็ได้ครับ https://www.facebook.com/theworldsobig/ ขอบคุณครับ
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น