คบกับแฟนมา7ปีค่ะ แต่งงานกันได้4ปีกว่า ตั้งแต่เริ่มแรกที่คบกันแฟนเราเทคแคร์เราดีมาตลอด
จนแต่งงานแฟนทำงานได้กี่บาทก็ยกให้เราหมด แต่มีข้อแม้คือ ถ้าวันไหนเขาหาได้100บาทเราต้องหักให้เขา20บาท
สมมติวันนี้เขาหาได้200บาท เขายกให้เรา160บาทและแฟนเราได้40บาท เงินที่ได้มาจากแฟนเรา เราเอาไปเก็บใส่กระปุก50% นอกนั้นจะเป็นเรื่องของกับข้าว ของใช้ในบ้าน อาหารแมว และค่าเน็ตค่าไฟ บางวันหาได้เยอะได้น้อย เราก็เฉลี่ยกันไป มีบ้างที่ต้องควักเงินเก็บมาช่วยแต่เราพยายามควักออกมาไม่เยอะ เราเองก็ขายของหน้าร้านแฟนพอจุกจิก ได้เงินมาก็เอามาช่วยเหลือค่าใช้จ่ายภายในบ้าน ไม่เคยมีซื้อของฟุ่มเฟือยเลย ตั้งแต่เราแต่งงานมา4ปีเราแมบไม่ซื้อเสื้อผ้าใหม่เพราะเราไม่มีเงินพอจะซื้ออะไรแบบนั้น อย่างมากก็แค่ะซื้อชุดชั้นถูกๆในปีละครั้ง งานบ้านเราก็รับภาระหมดเลยทุกอย่าง ตื่นเช้ามาล้างจานหุงข้าว หากับข้าว ซักผ้า กวาดบ้านถูบ้าน เก็บทรายแมวให้อาหารแมว ขัดห้องน้ำ กวาดร้านถูร้าน เช็ดขี้ฝุ่น ตกเย็นปิดร้าน กินข้าวเก็บจาน ปัดที่นอน เราทำแบบไม่เคยเกี่ยง
         แต่พอมาวันนี้ถึงเวลาที่ต้องเปิดร้าน แฟนก็มาบอกว่า พี่เหนื่อยนะไม่อยากทำแล้ว ทำแล้วไม่ได้เงิน ได้ทีก็20บาท ไม่อยากทำแล้วบางทีไปไหนก็ต้องจ่ายเงินเองไม่มีเงินจะเก็บ แต่คนได้เยอะก็ไม่จ่าย เราก็เลยบอกไปว่าก็อยากให้จ่ายอะไรก็บอก (แต่เราจ่ายเองตลอด95% แฟนเราจะออกแค่ของกินเล่นที่เขาอยากกิน หรือบางทีเราไม่ได้พกเงินออกไปก็จะขอแฟนจ่าย 20-30บาท) เราไม่รู้จะต้องทำยังไง ถ้าเราขายของได้เงินเยอะเราก็แบ่งให้แฟนนะคะ แต่อาจจะไม่บ่อยเพราะสภาพอากาศไม่อำนวย เราได้ยินคำพูดจากแฟนในเรื่องวันนี้ทำให้เรารู้สึกว่า แฟนเรากำลังจะบอกว่าเขาไม่อยากให้เงินเราแล้วใช่มั้ยคะ เราดูแลเขาไม่เคยเห็นความดีเราเลยใช่มั้ย อนาคตเราคงต้องตัวคนเดียวใช่หรือเปล่า หรือเราต้องแยกออกไปจากแฟนหางานรับจ้างเป็นรายเดือนดีคะ