เนื่องจากโรงหนังลิโด จะปิดตัว31พค.นี้
หลังจากเปิดมากว่า50ปี เลยอยากเขียนอะไรไว้เป็นการอำลา
คงต้องมาเขียนไว้ในนี้ด้วย เพราะทั้งลิโดและพันทิปเป็น2อย่าง
ที่เรามีความทรงจำด้วยมากมาย นับเป็นระยะเวลาเท่าๆกันอีกต่างหาก
ที่หนึ่งเป็นสถานที่จริง on the ground อีกที่หนึ่งเป็น online
ไม่มีงานเลี้ยงใดไม่เลิกรา สิ้นเดือนนี้แล้ว นับถอยหลังอีกไม่กี่วัน
พอคิดว่าจะไม่มีโรงหนังที่เราผูกพันมานานก็ใจโหวงๆ
เศร้า แต่ก็เข้าใจความเป็นไป
ถ้ารวยล้นฟ้าจะใช้เงินแก้ปัญหา จะออกเงินให้ทำต่อไปฟรีๆเลย
แต่มันก็เป็นไปไม่ได้ ก็ได้แค่เก็บทุกอย่างไว้เป็นความทรงจำ
แม้จะรู้ว่าทุกอย่างต้องมีจุดจบ
และการเปลี่ยนแปลงเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต
ก็ยังยากที่จะทำใจว่าต่อไปจะไม่ได้ดูหนังที่นี่อีกแล้ว
โรงหนังเครือ Apex มีความหมายกับเรามาก
เราย้ายเข้ามาอยู่กทม.ตอนปี 2001
ก่อนหน้านั้นอยู่เชียงใหม่ก็ดูโรงวิสต้า
เราชอบดูหนังมากๆ ดูได้หมดทุกแนว
ไม่เกี่ยงเนื้อหาและไม่เกี่ยวว่าฟอร์มเล็กฟอร์มใหญ่
แต่จะชอบดูในโรง ถ้าดูที่บ้านมักจะดูไม่จบเรื่องในครั้งเดียว
(ทุกวันนี้ยังใช้เมมเบอร์Netflixไม่คุ้มเลย)
เราชอบบรรยากาศการดูหนังในโรง
ซึ่งคือการที่เราเข้าไปใช้พื้นที่มืดสลัวร่วมกับคนกลุ่มหนึ่งที่เราไม่รู้จัก
ทุกคนนั่งเงียบไม่ส่งเสียง โฟกัสไปที่ภาพที่ฉายบนจอใหญ่
และในช่วงเวลานั้นทุกคนหลุดจากโลกความจริงชั่วขณะ
ท่องไปในเรื่องราวที่เห็นบนจอ
ต่างคนต่างเก็บเกี่ยวอารมณ์ความรู้สึกที่ได้จากการชม
ไปตามแบบของตัวเอง
ตอนฉากบนจอตลกขบขัน เสียงหัวเราะก็ดังขึ้นพร้อมกัน
ตอนฉากรันทด จะได้ยินเสียงสูดน้ำมูกฟุดฟิดทั้งของตัวเองและคนอื่น
หนังสยองขวัญมีพวกฉากที่ทำให้ตกใจ จะได้ยินเสียงอุทานพร้อมกัน
ทำให้รู้ว่าไม่ได้มีเราจิตอ่อนอยู่คนเดียว
บางครั้งหนังทำให้เกิดความรู้สึกหนักอึ้งหลังดูจบ
เราก็มีคนแปลกหน้านั่งตกตะกอนความคิดเป็นเพื่อนกัน
และหลายครั้งที่หนังได้เปลี่ยนแปลงบางอย่างในตัวเราไปตลอดกาล
เรามักจะอยากรู้ว่าคนอื่นๆ เป็นเหมือนกันไหม
ช่วงเวลากว่า 2 ชั่วโมงในที่มืดนั้น
คนแปลกหน้ากลุ่มหนึ่งแชร์ประสบการณ์ในการรับชม
และหลุดเข้าไปในโลกของหนังเรื่องนั้นร่วมกัน
พอแสงไฟสว่างขึ้นหลังหนังจบ ทุกคนก็แยกย้าย
สำหรับเราแล้วนี่คือความงามของการดูหนังในโรง
ช่วงที่เครือ Apex มี 3 โรงคือ สยาม ลิโด สกาลา
ถ้าไม่ติดธุระ เสาร์-อาทิตย์เราจะสิงอยู่แถวนั้น
ดูหนังให้เยอะที่สุดเท่าที่ทำได้ใน 1 วัน
เท่าที่จำได้ เคยดูสูงสุด 6 เรื่องในวันเดียว
วิ่งรอกไปมา เข้าโรงนู้นออกโรงนี้
สมัยยังสาวๆแข็งแรง ไม่ต้องพักกินข้าวก็ยังได้เลย
กินนมกินขนมที่เอาเข้าโรงได้ก็อยู่ได้ทั้งวัน
บางทีหนังที่จะดูรอบไม่ตรงกับที่ต้องการ
ก็จะข้ามไปดูฝั่ง EGV (สมัยนั้นอยู่ Siam Discovery)
แล้วก็กลับมาดูต่อที่ลิโด บางทีก็ไป World Trade (CTW)
แล้วก็รีบจ้ำกลับมาดูต่อที่สยาม
ที่นี่บางรอบมีคนดูคนเดียวเค้าก็ฉายนะ
เราไม่แปลกใจที่ต้องปิดตัว รู้ว่าเค้าก็ขาดทุนตลอดมานานแล้ว
ราคาตั๋วคูณด้วยจำนวนคนดูต่อให้เต็มเกือบทุกรอบ(ซึ่งไม่มีทาง)
ก็คงได้ไม่คุ้มค่าเช่า ค่าoperationทั้งหมดอยู่แล้ว
นับถือน้ำใจเจ้าของจริงๆที่ยืนหยัดเพื่อคนดูมานานขนาดนี้
ขอบคุณมากๆนะคะ ที่ยื้อธุรกิจนี้ไว้จนหยดสุดท้าย เราจะไม่ลืมเลย
#อำลาลิโด #FarewellLido #CinemaParadiso
Goodbye Lido อำลาลิโด โรงหนังที่รัก
หลังจากเปิดมากว่า50ปี เลยอยากเขียนอะไรไว้เป็นการอำลา
คงต้องมาเขียนไว้ในนี้ด้วย เพราะทั้งลิโดและพันทิปเป็น2อย่าง
ที่เรามีความทรงจำด้วยมากมาย นับเป็นระยะเวลาเท่าๆกันอีกต่างหาก
ที่หนึ่งเป็นสถานที่จริง on the ground อีกที่หนึ่งเป็น online
ไม่มีงานเลี้ยงใดไม่เลิกรา สิ้นเดือนนี้แล้ว นับถอยหลังอีกไม่กี่วัน
พอคิดว่าจะไม่มีโรงหนังที่เราผูกพันมานานก็ใจโหวงๆ
เศร้า แต่ก็เข้าใจความเป็นไป
ถ้ารวยล้นฟ้าจะใช้เงินแก้ปัญหา จะออกเงินให้ทำต่อไปฟรีๆเลย
แต่มันก็เป็นไปไม่ได้ ก็ได้แค่เก็บทุกอย่างไว้เป็นความทรงจำ
แม้จะรู้ว่าทุกอย่างต้องมีจุดจบ
และการเปลี่ยนแปลงเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต
ก็ยังยากที่จะทำใจว่าต่อไปจะไม่ได้ดูหนังที่นี่อีกแล้ว
โรงหนังเครือ Apex มีความหมายกับเรามาก
เราย้ายเข้ามาอยู่กทม.ตอนปี 2001
ก่อนหน้านั้นอยู่เชียงใหม่ก็ดูโรงวิสต้า
เราชอบดูหนังมากๆ ดูได้หมดทุกแนว
ไม่เกี่ยงเนื้อหาและไม่เกี่ยวว่าฟอร์มเล็กฟอร์มใหญ่
แต่จะชอบดูในโรง ถ้าดูที่บ้านมักจะดูไม่จบเรื่องในครั้งเดียว
(ทุกวันนี้ยังใช้เมมเบอร์Netflixไม่คุ้มเลย)
เราชอบบรรยากาศการดูหนังในโรง
ซึ่งคือการที่เราเข้าไปใช้พื้นที่มืดสลัวร่วมกับคนกลุ่มหนึ่งที่เราไม่รู้จัก
ทุกคนนั่งเงียบไม่ส่งเสียง โฟกัสไปที่ภาพที่ฉายบนจอใหญ่
และในช่วงเวลานั้นทุกคนหลุดจากโลกความจริงชั่วขณะ
ท่องไปในเรื่องราวที่เห็นบนจอ
ต่างคนต่างเก็บเกี่ยวอารมณ์ความรู้สึกที่ได้จากการชม
ไปตามแบบของตัวเอง
ตอนฉากบนจอตลกขบขัน เสียงหัวเราะก็ดังขึ้นพร้อมกัน
ตอนฉากรันทด จะได้ยินเสียงสูดน้ำมูกฟุดฟิดทั้งของตัวเองและคนอื่น
หนังสยองขวัญมีพวกฉากที่ทำให้ตกใจ จะได้ยินเสียงอุทานพร้อมกัน
ทำให้รู้ว่าไม่ได้มีเราจิตอ่อนอยู่คนเดียว
บางครั้งหนังทำให้เกิดความรู้สึกหนักอึ้งหลังดูจบ
เราก็มีคนแปลกหน้านั่งตกตะกอนความคิดเป็นเพื่อนกัน
และหลายครั้งที่หนังได้เปลี่ยนแปลงบางอย่างในตัวเราไปตลอดกาล
เรามักจะอยากรู้ว่าคนอื่นๆ เป็นเหมือนกันไหม
ช่วงเวลากว่า 2 ชั่วโมงในที่มืดนั้น
คนแปลกหน้ากลุ่มหนึ่งแชร์ประสบการณ์ในการรับชม
และหลุดเข้าไปในโลกของหนังเรื่องนั้นร่วมกัน
พอแสงไฟสว่างขึ้นหลังหนังจบ ทุกคนก็แยกย้าย
สำหรับเราแล้วนี่คือความงามของการดูหนังในโรง
ช่วงที่เครือ Apex มี 3 โรงคือ สยาม ลิโด สกาลา
ถ้าไม่ติดธุระ เสาร์-อาทิตย์เราจะสิงอยู่แถวนั้น
ดูหนังให้เยอะที่สุดเท่าที่ทำได้ใน 1 วัน
เท่าที่จำได้ เคยดูสูงสุด 6 เรื่องในวันเดียว
วิ่งรอกไปมา เข้าโรงนู้นออกโรงนี้
สมัยยังสาวๆแข็งแรง ไม่ต้องพักกินข้าวก็ยังได้เลย
กินนมกินขนมที่เอาเข้าโรงได้ก็อยู่ได้ทั้งวัน
บางทีหนังที่จะดูรอบไม่ตรงกับที่ต้องการ
ก็จะข้ามไปดูฝั่ง EGV (สมัยนั้นอยู่ Siam Discovery)
แล้วก็กลับมาดูต่อที่ลิโด บางทีก็ไป World Trade (CTW)
แล้วก็รีบจ้ำกลับมาดูต่อที่สยาม
ที่นี่บางรอบมีคนดูคนเดียวเค้าก็ฉายนะ
เราไม่แปลกใจที่ต้องปิดตัว รู้ว่าเค้าก็ขาดทุนตลอดมานานแล้ว
ราคาตั๋วคูณด้วยจำนวนคนดูต่อให้เต็มเกือบทุกรอบ(ซึ่งไม่มีทาง)
ก็คงได้ไม่คุ้มค่าเช่า ค่าoperationทั้งหมดอยู่แล้ว
นับถือน้ำใจเจ้าของจริงๆที่ยืนหยัดเพื่อคนดูมานานขนาดนี้
ขอบคุณมากๆนะคะ ที่ยื้อธุรกิจนี้ไว้จนหยดสุดท้าย เราจะไม่ลืมเลย
#อำลาลิโด #FarewellLido #CinemaParadiso