โอ๊ยยย ตื่นเต้นมากค่ะ ตอนที่ได้เจ้า X21 มารีวิว คือเหมือนได้ก้าวข้ามผ่านอีกหนึ่งเทคโนโลยีของวงการมือถืออีกครั้ง เมื่อปีที่แล้ว เราตื่นเต้นกับการขยายหน้าจอแบบไร้กรอบไร้ปุ่มโฮม จนไปถึงการไว้ติ่งจนเป็นเทรนด์ แต่วันนี้อุ้มจะเอา มือถือที่สามารถสแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอได้ ตัวแรกของโลก มาเล่าให้ฟังกัน ลุยกันเลยค่ะ
In-Display Fingerprint Sensor
จำแทบไม่ได้เลยนะคะ ว่าเราสแกนนิ้วบนมือถือกันมากี่ปีแล้ว นึกได้อีกทีก็คือ เราได้ติดที่สแกนลายนิ้วมือจนเคยชิน จนเครื่องไหนไม่มี เราเริ่มรู้สึกไม่ปลอดภัยขึ้นมาซะงั้น … จากการวางที่สแกนนิ้วไว้ด้านหน้า บางเจ้าก็โยกไปไว้ข้างหลังตามความเหมาะสม จนเทคโนโลยีการสแกนหน้า สแกนม่านตาเข้ามา แต่ต้องยอมรับว่า ยังแทนที่การสแกนนิ้วแบบ 100% ไม่ได้
จนในที่สุด Vivo สามารถทำ In-Display Fingerprint Sensor หรืออธิบายง่ายๆคือ ไม่ต้องมีปุ่ม แต่สแกนนิ้วของเราไปบนหน้าจอเลย กลายเป็นเจ้าแรกของโลกที่ทำได้ แซงหน้าหลายๆแบรนด์ที่มีข่าวออกมาก่อนหน้านี้
ซึ่งการสแกนนิ้วบนหน้าจอนี้ ก็ไม่ต่างจากการสแกนบนแถบสแกนลายนิ้วมือที่เราคุ้นเคยเท่าไหร่ค่ะ เพียงแค่ครั้งแรกที่ทำการตั้งค่า อาจจะต้องกดนิ้วหนักกว่าเดิมนิดนึง หลังจากตั้งค่าเสร็จเรียบร้อย การสแกนก็จะเข้ามาสู่ภาวะปกติ โดยให้เราวางนิ้วบนกราฟฟิกลายนิ้วมือบนหน้าจอเพื่อปลดล็อคได้เลยค่ะ
โดยเจ้ากราฟฟิกนี้ก็จะแสดงขึ้นมาตอนที่เรายกมือถือขึ้นมาสแกนเท่านั้น ทำให้ประหยัดพลังงานและไม่ต้องเสียเวลากดปุ่ม Power ให้หน้าจอติดก่อนทำการสแกน ซึ่งตอนนี่เราสามารถเลือกกราฟฟิกได้ 3 แบบ ส่วนตัวอุ้มว่ามันเก๋ดี เหมือนในหนังเลย 555
Super Fullview Display
การที่ Vivo X21 ถูกออกแบบมาให้ไร้แถบสแกนลายนิ้วมือ ทำให้หน้าจอมีขนาดใหญ่มากยิ่งขึ้น ในขณะที่ขนาดตัวเครื่องเล็กลงกว่าเดิม เราจะได้เห็นหน้าจอ Amoled ขนาด 6.28 นิ้ว โดยมากับอัตราส่วน 19:9 เป็น Fullview Display ความคมชัดระดับ Full HD+ (2280x1180) บอกเลยว่า สวยมากกก
ถ้าเทียบหน้าจอกับตัวเครื่องแล้ว หน้าจอของ X21 จะเป็น 85.2% เมื่อเทียบกับ Body Ratio โดยขอบด้านล่างและซ้ายขวา เหลือน้อยมาก และด้านบนจะเหลือพื้นที่เป็นแค่สำหรับลำโพง เซนเซอร์ และกล้องหน้าเท่านั้น (มีติ่งตามเทรนด์)
ด้านหน้าว่าสวยแล้ว ด้านหลังก็ดูดีค่ะ โดยฝาหลังจะทำจากกระจกโค้ง 3 มิติ สามารถจับได้กระชับถนัดมือ สิ่งที่ชอบมากๆคือ ถึงจะเป็นสีดำ ก็เป็นการดีไซน์สีดำแบบพิเศษ เงางามแต่ไม่เป็นรอยนิ้วมือ ยิ่งถ้าเทียบกับเรือธงหลายๆรุ่นที่อุ้มถืออยู่ตอนนี้ ก็ต้องบอกเลยว่า อิจฉา 555 รอยนิ้วมือน้อยจริงๆ
โดยรวมคือ สวย และบาลานซ์ดีมาก อันนี้ความคิดเห็นส่วนตัวนะคะ อุ้มว่าสวยที่สุดในปีนี้แล้ว ตั้งแต่ที่ได้เล่นมา ที่สำคัญอีกอย่างคือ ทำน้ำหนักได้ดีมาก หนักเพียงแค่ 156 กรัมเท่านั้น
AI SHOT
นาทีนี้เรื่องของกล้อง อุ้มว่าเราต้องเลิกแข่งกันด้วยความละเอียดแล้วนะคะ แต่กล้องที่เก่ง คือต้องมี AI ที่ฉลาดนั่นเอง สำหรับ Vivo X21 จะมาพร้อมกับกล้องหน้าความละเอียด 24 ล้านพิกเซล และกล้องหลังแบบคู่ ตัวนึงความละเอียด 24 MP และอีกตัวความละเอียด 5 MP โดยมี Dual Pixel Focus ทำให้โฟกัสได้รวดเร็วมากยิ่งขึ้น
- AI Beauty : ตอนนี้กล้องของ X21 สามารถวิเคราะห์การแต่งภาพให้เหมาะกับเพศ อายุ สีผิว ทำให้การถ่ายภาพและวิดีโอออกมาสวยงาม ไม่หลอกตาอีกต่อไป
- AI HDR : นอกจากโหมดบิวตี้แล้ว ยังมีเทคโนโลยี HDR วิเคราะห์สภาพแสงในเวลาถ่ายภาพได้เลยค่ะ
- AI Bokeh : สามารถทำภาพหน้าชัดหลังเบลอ ได้ทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง เพียงแค่กดที่ปุ่ม Portrait Bokeh โดยกล้องหลังจะปรับแต่งความเบลอของภาพได้หลังถ่ายอีกด้วย
อยากให้ลองชมตัวอย่างภาพที่อุ้มถ่ายจริง ทั้งกล้องหน้าและกล้องหลังดูนะคะ บอกเลยว่าฟรุ้งฟริ้ง ดูเด็กกว่าอายุจริงเยอะเลย 555 อ่อ แล้วสำหรับสาวๆ ยังมี AR Stickers น่ารักๆ ช่วยให้การถ่ายภาพของเราสนุกขึ้นอีกด้วย
Hi-End Spec
การที่ Vivo กระโดดมาเล่นในตลาดหมื่นๆปลายๆ นอกจากเทคโนโลยีหลายๆอย่างที่น่าสนใจแล้ว ยังใส่สเปคมาให้แบบจัดเต็ม ตั้งแต่ใช้ชิปประมวลผล Snapdragon 660AIE สามารถเรียนรู้และการใช้งานของเรา รันอยู่บน Android 8.1 เวอร์ชั่นล่าสุด และครอบด้วย Funtouch OS 4.0 รองรับการใช้งานภาษาไทยเต็มระบบ
ใส่แรมมาให้ 6GB และความจุภายในตัวเครื่อง 128GB สามารถใส่ได้ 2 ซิม รองรับ 4G ทั้งสองซิมเลย สะดวกสบายสุดๆ
อุ้มก็เอามาลองเล่นเกม RoV เป็นหนึ่งในทฤษฏีในการเทสตัวเครื่องตอนนี้ค่ะ โดยปรับสเปคให้เป็น Quality HD และ High Frame Rate สามารถเล่น RoV ได้ลื่นปรื๋อ ที่ 59-60 fps เอาจริงๆ เล่นเพลินเลย เพราะจอใหญ่ สวย และน้ำหนักเบา ไม่ปวดข้อมือเวลาเล่นนานๆ ด้วยน้า 555
และมีอีกเรื่องที่แปลกใจมาก คือระบบเสียง HiFi มากับชิปเสียง AK4376A มาพร้อมหูฟัง XE710 ซึ่งเจ้าระบบเสียง HiFi ทำให้อุ้มบันเทิงมาก มีการแยกเสียงหูฟังซ้ายขวาอย่างชัดเจน เบสดีงาม และเสียงเพราะมาก อยากให้ลองเลย
IMPRESSED
เออ เอาจริง ระหว่างนั่งทำรีวิว ก็จะรู้สึกในหัวว่า เปลี่ยนมาใช้ X21 ดีมั้ยว้าาา ข้อแรกคือมันเก๋ที่สแกนนิ้วบนหน้าจอได้ และการตัดแถบสแกนรายนิ้วมือ ก็ทำให้หน้าจอใหญ่เต็มตา ขอบเหลือเล็กนิดเดียว จนไปถึงด้านหลังที่เป็นสีดำ เงาดี แต่ไม่มีลายนิ้วมือมารบกวน โอ๊ย ชอบ
และยังสามารถใช้การสแกนใบหน้าเพื่อปลดล็อคได้ด้วยนะคะ ด้วย AI Face Access สามารถจดจำลักษณะใบหน้าถึง 1024 จุด และใส่ Infrared Sensor มาให้ด้วย สแกนไวมาก แอบไวกว่าสแกนลายนิ้วมืออี๊กกก
Vivo X21 ใส่แบตมาให้ 3,200 mAh แอบน้อยไปนิดนะคะ แต่ก็ถือว่าโอเคกับการใช้งาน 1 วัน และเสียดายที่ยังใช้พอร์ตเป็น Micro USB อยู่ ถ้าเปลี่ยนเป็น USB C จะเริ่ดมาก
ส่วนตัว อุ้มประทับใจมากค่ะ ทั้งความสวยงาม ลูกเล่น กล้องและ Performance เรียกว่าทำให้มุมมองที่มีต่อ Vivo เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง กับราคา 19,990 บาท กลายเป็นอีก 1 รุ่นไฮต์ไลท์ในใจอุ้มตอนนี้ไปแล้วจริงๆ เปลี่ยนไม่เปลี่ยนดีน้าาา
+++++++++++++++++++++++
จะมีรีวิวทำไม ถ้าไม่มีคนติดตาม
ฝาก
fb.com/iaumreview ด้วยนะค๊าาา
[SR] +=|||| รีวิว Vivo X21 |||=+ มือถือสแกนนิ้วบนหน้าจอได้ ตัวแรกๆ ของโลก อยู่ที่นี่แล้ว
โอ๊ยยย ตื่นเต้นมากค่ะ ตอนที่ได้เจ้า X21 มารีวิว คือเหมือนได้ก้าวข้ามผ่านอีกหนึ่งเทคโนโลยีของวงการมือถืออีกครั้ง เมื่อปีที่แล้ว เราตื่นเต้นกับการขยายหน้าจอแบบไร้กรอบไร้ปุ่มโฮม จนไปถึงการไว้ติ่งจนเป็นเทรนด์ แต่วันนี้อุ้มจะเอา มือถือที่สามารถสแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอได้ ตัวแรกของโลก มาเล่าให้ฟังกัน ลุยกันเลยค่ะ
In-Display Fingerprint Sensor
จำแทบไม่ได้เลยนะคะ ว่าเราสแกนนิ้วบนมือถือกันมากี่ปีแล้ว นึกได้อีกทีก็คือ เราได้ติดที่สแกนลายนิ้วมือจนเคยชิน จนเครื่องไหนไม่มี เราเริ่มรู้สึกไม่ปลอดภัยขึ้นมาซะงั้น … จากการวางที่สแกนนิ้วไว้ด้านหน้า บางเจ้าก็โยกไปไว้ข้างหลังตามความเหมาะสม จนเทคโนโลยีการสแกนหน้า สแกนม่านตาเข้ามา แต่ต้องยอมรับว่า ยังแทนที่การสแกนนิ้วแบบ 100% ไม่ได้
จนในที่สุด Vivo สามารถทำ In-Display Fingerprint Sensor หรืออธิบายง่ายๆคือ ไม่ต้องมีปุ่ม แต่สแกนนิ้วของเราไปบนหน้าจอเลย กลายเป็นเจ้าแรกของโลกที่ทำได้ แซงหน้าหลายๆแบรนด์ที่มีข่าวออกมาก่อนหน้านี้
ซึ่งการสแกนนิ้วบนหน้าจอนี้ ก็ไม่ต่างจากการสแกนบนแถบสแกนลายนิ้วมือที่เราคุ้นเคยเท่าไหร่ค่ะ เพียงแค่ครั้งแรกที่ทำการตั้งค่า อาจจะต้องกดนิ้วหนักกว่าเดิมนิดนึง หลังจากตั้งค่าเสร็จเรียบร้อย การสแกนก็จะเข้ามาสู่ภาวะปกติ โดยให้เราวางนิ้วบนกราฟฟิกลายนิ้วมือบนหน้าจอเพื่อปลดล็อคได้เลยค่ะ
โดยเจ้ากราฟฟิกนี้ก็จะแสดงขึ้นมาตอนที่เรายกมือถือขึ้นมาสแกนเท่านั้น ทำให้ประหยัดพลังงานและไม่ต้องเสียเวลากดปุ่ม Power ให้หน้าจอติดก่อนทำการสแกน ซึ่งตอนนี่เราสามารถเลือกกราฟฟิกได้ 3 แบบ ส่วนตัวอุ้มว่ามันเก๋ดี เหมือนในหนังเลย 555
Super Fullview Display
การที่ Vivo X21 ถูกออกแบบมาให้ไร้แถบสแกนลายนิ้วมือ ทำให้หน้าจอมีขนาดใหญ่มากยิ่งขึ้น ในขณะที่ขนาดตัวเครื่องเล็กลงกว่าเดิม เราจะได้เห็นหน้าจอ Amoled ขนาด 6.28 นิ้ว โดยมากับอัตราส่วน 19:9 เป็น Fullview Display ความคมชัดระดับ Full HD+ (2280x1180) บอกเลยว่า สวยมากกก
ถ้าเทียบหน้าจอกับตัวเครื่องแล้ว หน้าจอของ X21 จะเป็น 85.2% เมื่อเทียบกับ Body Ratio โดยขอบด้านล่างและซ้ายขวา เหลือน้อยมาก และด้านบนจะเหลือพื้นที่เป็นแค่สำหรับลำโพง เซนเซอร์ และกล้องหน้าเท่านั้น (มีติ่งตามเทรนด์)
ด้านหน้าว่าสวยแล้ว ด้านหลังก็ดูดีค่ะ โดยฝาหลังจะทำจากกระจกโค้ง 3 มิติ สามารถจับได้กระชับถนัดมือ สิ่งที่ชอบมากๆคือ ถึงจะเป็นสีดำ ก็เป็นการดีไซน์สีดำแบบพิเศษ เงางามแต่ไม่เป็นรอยนิ้วมือ ยิ่งถ้าเทียบกับเรือธงหลายๆรุ่นที่อุ้มถืออยู่ตอนนี้ ก็ต้องบอกเลยว่า อิจฉา 555 รอยนิ้วมือน้อยจริงๆ
โดยรวมคือ สวย และบาลานซ์ดีมาก อันนี้ความคิดเห็นส่วนตัวนะคะ อุ้มว่าสวยที่สุดในปีนี้แล้ว ตั้งแต่ที่ได้เล่นมา ที่สำคัญอีกอย่างคือ ทำน้ำหนักได้ดีมาก หนักเพียงแค่ 156 กรัมเท่านั้น
AI SHOT
นาทีนี้เรื่องของกล้อง อุ้มว่าเราต้องเลิกแข่งกันด้วยความละเอียดแล้วนะคะ แต่กล้องที่เก่ง คือต้องมี AI ที่ฉลาดนั่นเอง สำหรับ Vivo X21 จะมาพร้อมกับกล้องหน้าความละเอียด 24 ล้านพิกเซล และกล้องหลังแบบคู่ ตัวนึงความละเอียด 24 MP และอีกตัวความละเอียด 5 MP โดยมี Dual Pixel Focus ทำให้โฟกัสได้รวดเร็วมากยิ่งขึ้น
- AI Beauty : ตอนนี้กล้องของ X21 สามารถวิเคราะห์การแต่งภาพให้เหมาะกับเพศ อายุ สีผิว ทำให้การถ่ายภาพและวิดีโอออกมาสวยงาม ไม่หลอกตาอีกต่อไป
- AI HDR : นอกจากโหมดบิวตี้แล้ว ยังมีเทคโนโลยี HDR วิเคราะห์สภาพแสงในเวลาถ่ายภาพได้เลยค่ะ
- AI Bokeh : สามารถทำภาพหน้าชัดหลังเบลอ ได้ทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง เพียงแค่กดที่ปุ่ม Portrait Bokeh โดยกล้องหลังจะปรับแต่งความเบลอของภาพได้หลังถ่ายอีกด้วย
อยากให้ลองชมตัวอย่างภาพที่อุ้มถ่ายจริง ทั้งกล้องหน้าและกล้องหลังดูนะคะ บอกเลยว่าฟรุ้งฟริ้ง ดูเด็กกว่าอายุจริงเยอะเลย 555 อ่อ แล้วสำหรับสาวๆ ยังมี AR Stickers น่ารักๆ ช่วยให้การถ่ายภาพของเราสนุกขึ้นอีกด้วย
Hi-End Spec
การที่ Vivo กระโดดมาเล่นในตลาดหมื่นๆปลายๆ นอกจากเทคโนโลยีหลายๆอย่างที่น่าสนใจแล้ว ยังใส่สเปคมาให้แบบจัดเต็ม ตั้งแต่ใช้ชิปประมวลผล Snapdragon 660AIE สามารถเรียนรู้และการใช้งานของเรา รันอยู่บน Android 8.1 เวอร์ชั่นล่าสุด และครอบด้วย Funtouch OS 4.0 รองรับการใช้งานภาษาไทยเต็มระบบ
ใส่แรมมาให้ 6GB และความจุภายในตัวเครื่อง 128GB สามารถใส่ได้ 2 ซิม รองรับ 4G ทั้งสองซิมเลย สะดวกสบายสุดๆ
อุ้มก็เอามาลองเล่นเกม RoV เป็นหนึ่งในทฤษฏีในการเทสตัวเครื่องตอนนี้ค่ะ โดยปรับสเปคให้เป็น Quality HD และ High Frame Rate สามารถเล่น RoV ได้ลื่นปรื๋อ ที่ 59-60 fps เอาจริงๆ เล่นเพลินเลย เพราะจอใหญ่ สวย และน้ำหนักเบา ไม่ปวดข้อมือเวลาเล่นนานๆ ด้วยน้า 555
และมีอีกเรื่องที่แปลกใจมาก คือระบบเสียง HiFi มากับชิปเสียง AK4376A มาพร้อมหูฟัง XE710 ซึ่งเจ้าระบบเสียง HiFi ทำให้อุ้มบันเทิงมาก มีการแยกเสียงหูฟังซ้ายขวาอย่างชัดเจน เบสดีงาม และเสียงเพราะมาก อยากให้ลองเลย
IMPRESSED
เออ เอาจริง ระหว่างนั่งทำรีวิว ก็จะรู้สึกในหัวว่า เปลี่ยนมาใช้ X21 ดีมั้ยว้าาา ข้อแรกคือมันเก๋ที่สแกนนิ้วบนหน้าจอได้ และการตัดแถบสแกนรายนิ้วมือ ก็ทำให้หน้าจอใหญ่เต็มตา ขอบเหลือเล็กนิดเดียว จนไปถึงด้านหลังที่เป็นสีดำ เงาดี แต่ไม่มีลายนิ้วมือมารบกวน โอ๊ย ชอบ
และยังสามารถใช้การสแกนใบหน้าเพื่อปลดล็อคได้ด้วยนะคะ ด้วย AI Face Access สามารถจดจำลักษณะใบหน้าถึง 1024 จุด และใส่ Infrared Sensor มาให้ด้วย สแกนไวมาก แอบไวกว่าสแกนลายนิ้วมืออี๊กกก
Vivo X21 ใส่แบตมาให้ 3,200 mAh แอบน้อยไปนิดนะคะ แต่ก็ถือว่าโอเคกับการใช้งาน 1 วัน และเสียดายที่ยังใช้พอร์ตเป็น Micro USB อยู่ ถ้าเปลี่ยนเป็น USB C จะเริ่ดมาก
ส่วนตัว อุ้มประทับใจมากค่ะ ทั้งความสวยงาม ลูกเล่น กล้องและ Performance เรียกว่าทำให้มุมมองที่มีต่อ Vivo เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง กับราคา 19,990 บาท กลายเป็นอีก 1 รุ่นไฮต์ไลท์ในใจอุ้มตอนนี้ไปแล้วจริงๆ เปลี่ยนไม่เปลี่ยนดีน้าาา
+++++++++++++++++++++++
จะมีรีวิวทำไม ถ้าไม่มีคนติดตาม
ฝาก fb.com/iaumreview ด้วยนะค๊าาา