1.
ไม่มี ซันนี่ , เต๋อ, เป้ อารักษ์ เป็นตัวเอก ให้ความรู้สึกแปลกใหม่ ไม่เหมือนกับ หนัง 10 เรื่องก่อนหน้า ที่ใช้นักแสดงอยู่ 3 คน วนไปมา
2.
Story Line เกี่ยวกับปัญหาสังคม ช่องโหว่ ในระบบการศึกษา
... ไม่ใช่เกี่ยวกับ ความรัก feel good พยายามเรียกนํ้าตาไปวันๆ ..
ทําให้รู้ว่า การจะมีหนังแบบฉลาดเกมโกงออกมา มันไม่ใช่เรื่องง่ายแน่นอน
3.
Casting ใช้นักแสดงเด็กหน้าใหม่ มีความสามารถ ทําให้ดูแล้วเชื่อในตัวละครจริงๆ
.. เหมือนไม่ใช่ นักแสดงหน้าเก่า จับมาแต่งตัวใหม่ แต่ acting เดิมๆ
4.
การเขียนบทที่ มีเหตผล มีนํ้าหนัก
ในแต่ละการกระทําที่มีมิติของทุกตัวละคร .. มีความสมจริง มีที่มาที่ไป ที่ปูทางจากตอนต้นเรื่องไปสู่ไคลแมกซ์ตอนจบ พร้อมกับเส้นเรื่องที่หักมุมกลางเรื่อง ทําให้คนคาดเดาตอนจบไม่ได้
5.
รายละเอียดของ production ที่คมกริบ .. ให้เห็นแม้กระทั่งความใส่ใจของบาร์โค้ดของดินสอ 1 แท่ง
6.
Plot ของหนังที่แหวกแนว ที่แค่นําเรื่องธรรมดาๆ อย่างการโกงข้อสอบ ที่ทุกคนทั่วโลกคุ้นเคยตอนสมัยเรียน มาตีความให้ไปได้ไกล เกินกว่าที่คนจะคาดคิด
แม้แต่หนัง hollywood ก็ไม่เคยทําหนังแนวโกงข้อสอบของเด็กนักเรียนเป็นเส้นเรื่องหลัก
เคยดูหนังมาหลายร้อยเรื่อง ไม่มีเรื่องไหนทําได้แบบนี้ ที่ไม่ต้องปล้นเครื่องบิน ไม่ต้องวิ่งหนีระเบิด ไม่ต้องกระโดดข้ามตึก ไม่ต้องคิดใหญ่อลัง ทุ่มกับเงินลงทุนมากมาย ก็ทําหัวใจคนดูเต้นแรงตู้มต้ามได้
7.
ข้อนี้ฝากทุกคนช่วยเติมด้วยนะครับ
อยากจะเห็นหนังไทย ได้ไปเวที Oscar สักที และผมเชื่อว่า GDH ทําได้ครับ
หลังดู น้องพี่ที่รักแล้ว ถึงได้รู้ 7 เหตุผล ที่ฉลาดเกมส์โกง เป็นหนังที่ดีที่สุดของ GDH
ไม่มี ซันนี่ , เต๋อ, เป้ อารักษ์ เป็นตัวเอก ให้ความรู้สึกแปลกใหม่ ไม่เหมือนกับ หนัง 10 เรื่องก่อนหน้า ที่ใช้นักแสดงอยู่ 3 คน วนไปมา
2.
Story Line เกี่ยวกับปัญหาสังคม ช่องโหว่ ในระบบการศึกษา
... ไม่ใช่เกี่ยวกับ ความรัก feel good พยายามเรียกนํ้าตาไปวันๆ ..
ทําให้รู้ว่า การจะมีหนังแบบฉลาดเกมโกงออกมา มันไม่ใช่เรื่องง่ายแน่นอน
3.
Casting ใช้นักแสดงเด็กหน้าใหม่ มีความสามารถ ทําให้ดูแล้วเชื่อในตัวละครจริงๆ
.. เหมือนไม่ใช่ นักแสดงหน้าเก่า จับมาแต่งตัวใหม่ แต่ acting เดิมๆ
4.
การเขียนบทที่ มีเหตผล มีนํ้าหนัก
ในแต่ละการกระทําที่มีมิติของทุกตัวละคร .. มีความสมจริง มีที่มาที่ไป ที่ปูทางจากตอนต้นเรื่องไปสู่ไคลแมกซ์ตอนจบ พร้อมกับเส้นเรื่องที่หักมุมกลางเรื่อง ทําให้คนคาดเดาตอนจบไม่ได้
5.
รายละเอียดของ production ที่คมกริบ .. ให้เห็นแม้กระทั่งความใส่ใจของบาร์โค้ดของดินสอ 1 แท่ง
6.
Plot ของหนังที่แหวกแนว ที่แค่นําเรื่องธรรมดาๆ อย่างการโกงข้อสอบ ที่ทุกคนทั่วโลกคุ้นเคยตอนสมัยเรียน มาตีความให้ไปได้ไกล เกินกว่าที่คนจะคาดคิด
แม้แต่หนัง hollywood ก็ไม่เคยทําหนังแนวโกงข้อสอบของเด็กนักเรียนเป็นเส้นเรื่องหลัก
เคยดูหนังมาหลายร้อยเรื่อง ไม่มีเรื่องไหนทําได้แบบนี้ ที่ไม่ต้องปล้นเครื่องบิน ไม่ต้องวิ่งหนีระเบิด ไม่ต้องกระโดดข้ามตึก ไม่ต้องคิดใหญ่อลัง ทุ่มกับเงินลงทุนมากมาย ก็ทําหัวใจคนดูเต้นแรงตู้มต้ามได้
7.
ข้อนี้ฝากทุกคนช่วยเติมด้วยนะครับ
อยากจะเห็นหนังไทย ได้ไปเวที Oscar สักที และผมเชื่อว่า GDH ทําได้ครับ