ผลสำรวจยอดจำหน่ายสมาร์ทโฟนทั่วโลกประจำเดือนมีนาคม ปี 2018 จาก CounterPoint เผย iPhone X ยังคงขายดีเป็นอันดับ 1

กระทู้ข่าว

ผลสำรวจยอดจำหน่ายสมาร์ทโฟนทั่วโลกประจำเดือนมีนาคม ปี 2018 จาก CounterPoint เผย iPhone X ยังคงขายดีเป็นอันดับ 1 , ด้าน Xiaomi - Redmi 5A คว้าอันดับ 3 และเป็น Android SmartPhone ที่ขายดีที่สุดในโลก!!!

รายงานจาก CounterPoint Rrsearch เผยยอดจำหน่ายและส่วนแบ่งการตลาดของสมาร์ทโฟนทั่วโลก ประจำเดือนมีนาคม ปี 2018 โดยมีดังนี้

1.Apple - iPhone X ส่วนแบ่งการตลาด 3.5%
2.Apple - iPhone 8 Plus ส่วนแบ่งการตลาด 2.3%
3.Xiaomi - Redmi 5A ส่วนแบ่งการตลาด 1.8%
4.OPPO - A83 ส่วนแบ่งการตลาด 1.8%
5.Samsung Galaxy S9 ส่วนแบ่งการตลาด 1.6%
6.Samsung Galaxy S9+ส่วนแบ่งการตลาด 1.6%
7.Apple - iPhone 7 ส่วนแบ่งการตลาด 1.6%
8.Apple - iPhone 8 ส่วนแบ่งการตลาด 1.4%
9.Samsung Galaxy J7 Pro ส่วนแบ่งการตลาด 1.4%
10.Apple - iPhone 6 ส่วนแบ่งการตลาด 1.2%

จากผลสำรวจล่าสุดของ Counterpoint's Market Pulse April Edition นั้นพบว่า iPhone X ของ Apple ยังคงเป็นสมาร์ทโฟนที่ขายดีที่สุดในเดือนมีนาคม ซึ่งครองไตรมาสแรกทั้งหมดด้วยอันดับ 1

ด้านยอดขาย iPhone 8 Plus ปรับตัวดีขึ้นในช่วงเดือนมีนาคมเนื่องจากได้แรงผลักดันจากแอปเปิ้ลซึ่งทำให้สมาร์ทโฟนที่ขายดีที่สุดเป็นอันดับ 2

Xiaomi Redmi 5A กลายเป็น แอนดรอยด์ สมาร์ทโฟน ที่ขายดีที่สุดในเดือนมีนาคมเป็นครั้งแรก และยังกลายเป็นหนึ่งในสามแบรนด์สมาร์ทโฟนที่ขายดีที่สุดในเดือนมีนาคม ด้วยอันดับที่ 3

สมาร์ทโฟนระดับกลาง Oppo - A83 ยังคงทำยอดขายได้ดีนับตั้งแต่เปิดตัวในเดือนมกราคม และจบลงที่อันดับ 4

Samsung Galaxy S9 และ S9 + มีการเติบโตด้านยอดขายที่ดีที่สุดในเดือนมีนาคมซึ่งจบลงที่อันดับ 5 และ 6 ตามลำดับ

โดย Galaxy S9 Series ช่วยเพิ่มส่วนแบ่งของซัมซุงในกลุ่มพรีเมี่ยมระดับสูง (Ultra Premium Segment) มากขึ้น แม้ว่า iPhone X จะยังคงเป็นผู้นำในด้านยอดขายสูงสุดในกลุ่มนี้ แต่ก็ยังต้องเผชิญกับการแข่งขันที่ยากลำบากในกลุ่มระดับกลางและระดับต่ำจากกลุ่มแบรนด์จีน (Oppo, Vivo, Huawei, Xiaomi)

ส่วนแบ่งจากสมาร์ทโฟนในระดับ Entry Level หรือรุ่นราคาประหยัด เพิ่มขึ้นเล็กน้อยหลังจากที่มีศักยภาพเพิ่มขึ้นจาก Xiaomi, Samsung และแบรนด์ท้องถิ่นในตลาดอินเดีย, SEA, และ Africa.

Xiaomi, Samsung และ Huawei's Honor ได้ช่วยผลักดันการเพิ่มขึ้นของราคาในกลุ่มสินค้าราคา 100 - 199 USD ในตลาดต่างๆ ได้แก่ อินเดียและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทั้งสามแบรนด์สามารถครองตลาดได้เกินครึ่งของราคาในช่วง 100 ถึง 199 USD (ประมาณ 3,200 - 6,400 บาท)

ที่มา https://www.facebook.com/worldittoday/photos/a.1594593130796858.1073741828.1594566494132855/2054340331488800/?type=3&theater
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่