ขอเท้าความถึงที่มาที่ไปของคดีก่อนนะครับ เมื่อราว 3 ปีที่แล้ว พ่อของแฟน จขกท. ขี่มอเตอร์ไซค์แล้วโดนรถบรรทุก 6 ล้อ บรรทุกวัสดุก่อสร้างชน ได้รับบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดแถวตลิ่งชัน กทม. (รถทั้ง 2 คันมีแต่ประกัน พรบ.) รักษาอยู่เป็นปี เรื่องคดีความมีจำเลย 2 คน คือคนขับกับเถ้าแก่เจ้าของรถ โดยในช่วงที่เกิดเหตุใหม่ๆ มีการเจรจาตกลงเรื่องค่าเสียหายกันโดยตกลงเรื่องจำนวนกันเรียบร้อยแล้วแต่พอถึงเวลาลาจ่ายเงินทั้ง 2 คนเกี่ยงกัน จนไม่มีการจ่ายเงินตามข้อตกลงจึงมีการฟ้องร้อง ในส่วนคดีอาญาศาลได้สั่งจำคุกคนขับไปแล้ว (ติดจริงไม่ได้รอลงอาญา) ส่วนคดีแพ่งศาลได้พิพากษาให้เจ้าของรถจ่ายค่าเสียหายจำนวน 240,000บาท ซึ่งเรื่องการดำเนินการทุกอย่างแฟน จขกท.เป็นผู้จัดการเองทุกอย่าง เพราะพ่ออายุเยอะและสุขภาพไม่ค่อยดี (ซึ่งเรื่องนี้มีปัญหามากเพราะแฟน จขกท.อยู่ ตจว.ชายแดนใต้ ) แต่ถึงแม้ศาลจะตัดสินแล้วเจ้าของรถก็ยังไม่ยอมจ่ายโดยอ้างว่าไม่มีเงิน จนที่สุดก็มีการสั่งบังคับคดี โดยศาลได้ออกหมายบังคับคดี โดยอยู่ในความรับผิดชอบของ สนง.บังคับคดีประจำจังหวัดที่จำเลยมีภูมิลำเนาอยู่ (จังหวัดในภาคกลางไม่ไกลจาก กทม มาก)
ทีนี้มาถึงปรเด็นของปัญหาแล้วนะครับ แฟน จขกท.ได้ติดต่อ สนง.บังคับคดี และได้พูดคุยกับ จนท.ผู้รับผิดชอบคดีนี้ สมมุติชื่อ เจ้าหน้าที่ จ. นะครับ ซึ่งก็แนะนำขั้นตอนต่างดีนะครับ และพอรู้ว่าแฟน จขกท.อยู่ต่างจังหวัด ไม่สะดวกเดินทางมาจัดการเอง ก็ได้แนะนำให้แต่งตั้งตัวแทนรับมอบอำนาจ ซึ่งก็ได้แนะนำ นิติกร สมมุติชื่อ ต. นะครับ บอกว่าเป็นพรรคพวกทำงานดีไว้ใจได้ ซึ่งแฟน จขกท.ก็ตอบตกลง จากนั้น เจ้าหน้าที่ จ. ก็ได้ส่งแบบฟอร์มหนังสือมอบอำนาจมาให้ พร้อมเบอร์ติดต่อ นิติกร ต. แฟนก็ได้ติดต่อพูดคุยกับ นิติกร ต. และได้ตกลงค่าจ้างกันว่า นิติกร ต. จะได้เงิน 10% ของเงินที่จะได้จากจำเลย โดยไม่รวมค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น (เช่นค่ารถบรรทุก กรณีมีการยึดทรัพย์ ฯลฯ) โดยค่าใช้จ่ายเหล่านี้ แฟน จขกท. จะต้องจ่ายต่างหาก ซึ่งแฟนก็ตกลงและได้ส่งหนังสือมอบอำนาจให้กับ เจ้าหน้าที่ จ. (พ่อแฟนเป็นคนเซ็นต์มอบอำนาจ แฟนแค่เป็นคนจัดการให้เท่านั้น) โดยเหตุการณ์ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นเมื่อราวปลายปีที่ผ่านมา
หลังจากนั้นไม่นาน นิติกร ต. ได้โทรมาบอกแฟนว่า จะไปยึดทรัพย์ (เป็นรถแทรกเตอร์) ของจำเลย ขอเงินค่าดำเนินการค่ารถบรรทุก ค่าน้ำมัน 10000 บาท แฟนก็ได้โอนไปให้ นิติกร ต. บอกว่าจะรายงานการทำงานโดยการส่งรูปถ่ายการยึดทรัพย์ มาให้ดู จนล่วงมาถึงเดือนมกราก็ไม่มีการรายงานหรือส่งรูปอะไรมาให้เลย ถึงปลายมกรา นิติกร ต. โทรมาบอกว่า จำเลยจะจ่ายเงินให้ แต่จะขอต่อรองเหลือ 200,000 บาท และจะขอผ่อนจ่าย 3 งวดคือ กพ มึค และ เมย. ซึ่งแฟนก็ตกลงเพราะอยากให้เรื่องมันจบๆไป (ไม่พูดถึงเงินที่ขอ 10000บาทเลยเพราะรถแทรกเตอร์ก็ไม่ได้ยึด)
ทีนี้พอถึงเดือน กพ จำเลยก็จ่ายเงินมาให้ 100,000บาท โดยจ่ายให้ นิติกร ต. แล้ว ต.โอนต่อมาให้แฟน90,000บาทโดยหักไว้10%ตามข้อตกลง เดือนมีค จ่ายให้ 50,000 บาท(แฟนได้45,000) เหลืองวดสุดท้าย50,000บาท นิติกร ต.แจ้งจำเลยจะจ่ายให้ 28เมย ทีนี้พอใกล้ถึงกำหนดปลาย เมย. นิติกร ต.โทรมาขอว่างวดสุดท้ายนี้เขาขอหักไว้ 10000 บาท โดยอ้างว่าเขาจะเลี้ยงส่ง เจ้าหน้าที่ จ.ซึ่งจะย้ายไปที่ใหม่เดือน พค.นี้ และเกริ่นๆว่าอาจจะมีค่าปิดคดีอีกราว 3000บาทด้วย เริ่มอ้างโน่นอ้างนี่แฟนก็ตกลง (จำใจ)เพราะไม่อยากวุ่นวายแล้ว ทีนี้ล่วงเลยมาถึงต้นเดือน พค.แฟนก็ยังไม่ได้เงิน เลยติดต่อไปที่นิติกร ต. (เริ่มติดต่อยาก ต้องใช้ทางไลน์) ต. ก็แจ้งว่าจำเลยขอเลื่อนจ่ายซักอาทิตย์หนึ่ง จนเมื่อสัปดาห์ที่แล้วก็โทรมาแจ้งว่าจำเลยขอเลื่อนจ่ายไปปลายเดือนกรกฏาโน่นเลย
ถึงตอนนี้แฟน จขกท.เริ่มไม่โอเคแล้ว เลยติดต่อกับเจ้าหน้าที่ จ. ซึ่งบอกว่าตอนนี้ตัวเขาย้ายไปที่ใหม่แล้ว (จังหวัดใกล้ๆทีเดิมนั่นแหละ)และบอกว่าคดีนี้ปิดไปเรียบร้อยแล้วก่อนเขาย้าย แฟนก็บอกว่าปิดได้ไง โจทย์ยังได้รับเงินไม่ครบเลย เจ้าหน้าที่ จ.มีอะไรให้คุยกับ นิติกร ต.เอาเอง (ประมาณผมไม่เกี่ยวแล้ว ไม่ได้รับผิดชอบแล้ว) ถึงตอนนี้แฟนเริ่มมั่นใจแล้วว่าต้องมีอะไรไม่ชอบมาพากลแน่ จึงได้โทรติดต่อไปที่จำเลย (แฟนมีทั้งเบอร์โทรทั้งไลน์ของจำเลยเพราะก่อนหน้าเคยติดต่อกันหลายครั้ง อ่านเพิ่มใน ) ซึ่งจำเลยยืนยันว่าเขาจ่ายครบแล้วตั้งแต่ต้นเดือนและคดีนี้ก็ปิดไปเรียบร้อยแล้วตัวเขาไม่เกี่ยวข้องแล้ว และบอกว่าเขามีหลักฐานการจ่ายเงินชัดเจน (แฟนได้ขอซึ่งตอนแรกบอกว่าจะส่งให้แต่พอวันรุ่งขึ้นบอกไม่ส่งให้แล้วจะรวบรวมไว้เอง สงสัยว่าจะมีคนโทรไปคุยห้ามไว้) แฟนได้ติดต่อไปที่ นิติกร ต.อีกครั้ง บอกว่าจำเลยยืนยันว่าจ่ายเงินครบแล้ว ซึ่งนิติกร ต. ตอบกลับมาในลักษณะไม่พอใจ ทำนองว่าแฟนไม่เชื่อใจเขา ไปติดต่อกับจำเลยโดยตรงเอง และบอกทำนองว่าให้แฟนไปทวงที่เหลือกับจำเลยเอาเอง ส่วนที่เขาแถลงปิดคดีไปแล้วทั้งที่จำเลยยังจ่ายเงินไม่ครบนั้นเพราะเขาเชื่อใจจำเลยว่าจะจ่ายส่วนเหลือแน่นอน (ไปแบบข้างๆคูๆ)
ถึงตอนนี้ค่อนชัดว่า นิติกร ต. มีเจตนาไม่บริสุทธิ์แน่ ที่บอกว่าจะจ่ายให้สิ้นเดือนกรกฏา น่าจะเป็นแค่การยื้อเวลา
อยากจะขอถามสมาชิกที่พอรู้กฎหมายหรือมีประสบการณ์ ดังนี้ครับ
1. กับ สนง.บังคับคดี เราจะทำอะไรได้บ้างครับ เช่น ร้องทุกข์ ขอความช่วยเหลือ เป็นต้น
2. กับตัวเเทนผู้รับมอบอำนาจ (นิติกร ต.) เราจะฟ้องร้องดำเนินคดีอะไรได้บ้าง (ไม่อยากทำเพราะอยู่ ตจว ยุ่งยากเสียเวลา อาจจะต้องจ้างทนายอีก เงินก็ ไม่ได้มากมาย แต่ไม่อยากให้คนที่ไม่สุจริตลอยนวลไปเฉยๆ)
ป.ล.1 กระทู้อาจจะยาวไปหน่อยต้องขอโทษด้วย แต่อยากจะให้ทราบที่มาที่ไปของปัญหาให้ชัดเจนนะครับ
ป.ล.2 จขกท.และแฟนไม่มีความรู้ด้านกฎหมายเลย และทำงานประจำอยู่ต่างจังหวัดด้วย
ขอความช่วยเหลือเรื่องการบังคับคดีครับ
ทีนี้มาถึงปรเด็นของปัญหาแล้วนะครับ แฟน จขกท.ได้ติดต่อ สนง.บังคับคดี และได้พูดคุยกับ จนท.ผู้รับผิดชอบคดีนี้ สมมุติชื่อ เจ้าหน้าที่ จ. นะครับ ซึ่งก็แนะนำขั้นตอนต่างดีนะครับ และพอรู้ว่าแฟน จขกท.อยู่ต่างจังหวัด ไม่สะดวกเดินทางมาจัดการเอง ก็ได้แนะนำให้แต่งตั้งตัวแทนรับมอบอำนาจ ซึ่งก็ได้แนะนำ นิติกร สมมุติชื่อ ต. นะครับ บอกว่าเป็นพรรคพวกทำงานดีไว้ใจได้ ซึ่งแฟน จขกท.ก็ตอบตกลง จากนั้น เจ้าหน้าที่ จ. ก็ได้ส่งแบบฟอร์มหนังสือมอบอำนาจมาให้ พร้อมเบอร์ติดต่อ นิติกร ต. แฟนก็ได้ติดต่อพูดคุยกับ นิติกร ต. และได้ตกลงค่าจ้างกันว่า นิติกร ต. จะได้เงิน 10% ของเงินที่จะได้จากจำเลย โดยไม่รวมค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น (เช่นค่ารถบรรทุก กรณีมีการยึดทรัพย์ ฯลฯ) โดยค่าใช้จ่ายเหล่านี้ แฟน จขกท. จะต้องจ่ายต่างหาก ซึ่งแฟนก็ตกลงและได้ส่งหนังสือมอบอำนาจให้กับ เจ้าหน้าที่ จ. (พ่อแฟนเป็นคนเซ็นต์มอบอำนาจ แฟนแค่เป็นคนจัดการให้เท่านั้น) โดยเหตุการณ์ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นเมื่อราวปลายปีที่ผ่านมา
หลังจากนั้นไม่นาน นิติกร ต. ได้โทรมาบอกแฟนว่า จะไปยึดทรัพย์ (เป็นรถแทรกเตอร์) ของจำเลย ขอเงินค่าดำเนินการค่ารถบรรทุก ค่าน้ำมัน 10000 บาท แฟนก็ได้โอนไปให้ นิติกร ต. บอกว่าจะรายงานการทำงานโดยการส่งรูปถ่ายการยึดทรัพย์ มาให้ดู จนล่วงมาถึงเดือนมกราก็ไม่มีการรายงานหรือส่งรูปอะไรมาให้เลย ถึงปลายมกรา นิติกร ต. โทรมาบอกว่า จำเลยจะจ่ายเงินให้ แต่จะขอต่อรองเหลือ 200,000 บาท และจะขอผ่อนจ่าย 3 งวดคือ กพ มึค และ เมย. ซึ่งแฟนก็ตกลงเพราะอยากให้เรื่องมันจบๆไป (ไม่พูดถึงเงินที่ขอ 10000บาทเลยเพราะรถแทรกเตอร์ก็ไม่ได้ยึด)
ทีนี้พอถึงเดือน กพ จำเลยก็จ่ายเงินมาให้ 100,000บาท โดยจ่ายให้ นิติกร ต. แล้ว ต.โอนต่อมาให้แฟน90,000บาทโดยหักไว้10%ตามข้อตกลง เดือนมีค จ่ายให้ 50,000 บาท(แฟนได้45,000) เหลืองวดสุดท้าย50,000บาท นิติกร ต.แจ้งจำเลยจะจ่ายให้ 28เมย ทีนี้พอใกล้ถึงกำหนดปลาย เมย. นิติกร ต.โทรมาขอว่างวดสุดท้ายนี้เขาขอหักไว้ 10000 บาท โดยอ้างว่าเขาจะเลี้ยงส่ง เจ้าหน้าที่ จ.ซึ่งจะย้ายไปที่ใหม่เดือน พค.นี้ และเกริ่นๆว่าอาจจะมีค่าปิดคดีอีกราว 3000บาทด้วย เริ่มอ้างโน่นอ้างนี่แฟนก็ตกลง (จำใจ)เพราะไม่อยากวุ่นวายแล้ว ทีนี้ล่วงเลยมาถึงต้นเดือน พค.แฟนก็ยังไม่ได้เงิน เลยติดต่อไปที่นิติกร ต. (เริ่มติดต่อยาก ต้องใช้ทางไลน์) ต. ก็แจ้งว่าจำเลยขอเลื่อนจ่ายซักอาทิตย์หนึ่ง จนเมื่อสัปดาห์ที่แล้วก็โทรมาแจ้งว่าจำเลยขอเลื่อนจ่ายไปปลายเดือนกรกฏาโน่นเลย
ถึงตอนนี้แฟน จขกท.เริ่มไม่โอเคแล้ว เลยติดต่อกับเจ้าหน้าที่ จ. ซึ่งบอกว่าตอนนี้ตัวเขาย้ายไปที่ใหม่แล้ว (จังหวัดใกล้ๆทีเดิมนั่นแหละ)และบอกว่าคดีนี้ปิดไปเรียบร้อยแล้วก่อนเขาย้าย แฟนก็บอกว่าปิดได้ไง โจทย์ยังได้รับเงินไม่ครบเลย เจ้าหน้าที่ จ.มีอะไรให้คุยกับ นิติกร ต.เอาเอง (ประมาณผมไม่เกี่ยวแล้ว ไม่ได้รับผิดชอบแล้ว) ถึงตอนนี้แฟนเริ่มมั่นใจแล้วว่าต้องมีอะไรไม่ชอบมาพากลแน่ จึงได้โทรติดต่อไปที่จำเลย (แฟนมีทั้งเบอร์โทรทั้งไลน์ของจำเลยเพราะก่อนหน้าเคยติดต่อกันหลายครั้ง อ่านเพิ่มใน ) ซึ่งจำเลยยืนยันว่าเขาจ่ายครบแล้วตั้งแต่ต้นเดือนและคดีนี้ก็ปิดไปเรียบร้อยแล้วตัวเขาไม่เกี่ยวข้องแล้ว และบอกว่าเขามีหลักฐานการจ่ายเงินชัดเจน (แฟนได้ขอซึ่งตอนแรกบอกว่าจะส่งให้แต่พอวันรุ่งขึ้นบอกไม่ส่งให้แล้วจะรวบรวมไว้เอง สงสัยว่าจะมีคนโทรไปคุยห้ามไว้) แฟนได้ติดต่อไปที่ นิติกร ต.อีกครั้ง บอกว่าจำเลยยืนยันว่าจ่ายเงินครบแล้ว ซึ่งนิติกร ต. ตอบกลับมาในลักษณะไม่พอใจ ทำนองว่าแฟนไม่เชื่อใจเขา ไปติดต่อกับจำเลยโดยตรงเอง และบอกทำนองว่าให้แฟนไปทวงที่เหลือกับจำเลยเอาเอง ส่วนที่เขาแถลงปิดคดีไปแล้วทั้งที่จำเลยยังจ่ายเงินไม่ครบนั้นเพราะเขาเชื่อใจจำเลยว่าจะจ่ายส่วนเหลือแน่นอน (ไปแบบข้างๆคูๆ)
ถึงตอนนี้ค่อนชัดว่า นิติกร ต. มีเจตนาไม่บริสุทธิ์แน่ ที่บอกว่าจะจ่ายให้สิ้นเดือนกรกฏา น่าจะเป็นแค่การยื้อเวลา
อยากจะขอถามสมาชิกที่พอรู้กฎหมายหรือมีประสบการณ์ ดังนี้ครับ
1. กับ สนง.บังคับคดี เราจะทำอะไรได้บ้างครับ เช่น ร้องทุกข์ ขอความช่วยเหลือ เป็นต้น
2. กับตัวเเทนผู้รับมอบอำนาจ (นิติกร ต.) เราจะฟ้องร้องดำเนินคดีอะไรได้บ้าง (ไม่อยากทำเพราะอยู่ ตจว ยุ่งยากเสียเวลา อาจจะต้องจ้างทนายอีก เงินก็ ไม่ได้มากมาย แต่ไม่อยากให้คนที่ไม่สุจริตลอยนวลไปเฉยๆ)
ป.ล.1 กระทู้อาจจะยาวไปหน่อยต้องขอโทษด้วย แต่อยากจะให้ทราบที่มาที่ไปของปัญหาให้ชัดเจนนะครับ
ป.ล.2 จขกท.และแฟนไม่มีความรู้ด้านกฎหมายเลย และทำงานประจำอยู่ต่างจังหวัดด้วย