ตอนที่ 2 : เที่ยวเมืองซานย่า พาชม Atlantis Sanya
ความเดิมตอนที่แล้ว...
Hainan Island เกาะไหหลำ...มีอะไรมากกว่าที่คิด ตอนที่ 1 : เมืองจำลอง Haikou Movie Town
https://ppantip.com/topic/37682299
*** นักท่องเที่ยวถือพาสปอร์ตไทย ตอนนี้สามารถเดินทางเข้าเกาะไหหลำ ได้โดย
ไม่ต้องขอวีซ่าจีน แล้วนะครับ (มีข้อแม้สำคัญ คือต้องจองที่พักและทัวร์ผ่านเอเย่นต์นะครับ ไปเองดุ่มๆไม่ได้)****
** แต่ในความเห็นส่วนตัว แนะนำให้ยื่นขอวีซ่าจีนปรกติเหมือนเดิมจะง่ายกว่ามากครับ เพราะเราจะได้ไปในที่อยากไปได้โดยไม่ต้องผ่านเอเย่นต์ทัวร์ และเพราะวีซ่าจีนของ่ายอยู่แล้วไม่มีอะไรยุ่งยาก คนที่อยู่ตจว.อย่างภูเก็ตสามารถยื่นขอที่ศูนย์วีซ่าของสถานกงศุลจีนได้โดยตรง ใช้เวลา 4 วันทำการ โทร. 076 304 180 (สนง.อยู่ที่อาคารพาณิชย์เยื้องๆแยกโลตัสสามกองครับ) ***
=======================================================================
จากตอนที่แล้วเราได้เที่ยวชมโรงถ่ายภาพยนตร์ Haikou Movie Town กันไปแล้ว วันนี้จะพานั่งรถไฟความเร็วสูง จากเมืองไหโข่ว ไปยังเมืองตากอากาศตอนใต้สุดของเกาะ คือเมืองซานย่า ระยะทางกว่า 400 กม. ซึ่งถ้าเป็นเมื่อก่อน ต้องนั่งรถกว่า 4 ชม. แต่ตอนนี้ นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางไปมาระหว่างเมืองโดยใช้เวลาเพียงแค่ 1 ชม.ครึ่งเท่านั้น ใครที่วางแผนจะเที่ยวซานย่าแบบเดย์ทริป ไปเช้าเย็นกลับ ก็สามารถทำได้ แต่แนะนำให้อยู่สักสามคืนเป็นอย่างน้อย เพราะมีอะไรให้ชม ให้ทำมากมายทีเดียว
สถานีรถไฟความเร็วสูงของเมืองไหโข่ว ชื่อว่า HAIKOU EAST STATION (海口东火车站 - ไหโข่วตงหั่วเช้อจ้าน)
การเดินทางโดยรถไฟความเร็วสูง ก็เป็นระบบเดียวกับที่จีนแผ่นดินใหญ่ นักท่องเที่ยวควรจองตั๋วที่นั่งล่วงหน้า (เปิดจองตั๋วล่วงหน้า 30 วัน) กับเอเยนซี่ให้เรียบร้อย สำหรับคนที่ยังไม่เคยจองแนะนำ travelchinaguide หรือ trip.com ก็ได้ครับ จองเสร็จแล้วต้องปริ๊นท์ใบรับตั๋วออกมา เสร็จแล้วก็มาขึ้นตั๋วใบจริงที่ห้องจำหน่ายตั๋วครับ ***สำหรับคนที่จองตั๋วแบบไปกลับ แนะนำให้ขึ้นตั๋วทั้งไปและกลับทีเดียวล่วงหน้าเอาไว้เลยครับ เพราะการขึ้นตั๋วต้องใช้เวลาพอสมควร ถ้าเรามีตั๋วแล้ว เก็บไว้ให้ดี ขากลับสามารถเอาไปเช็คอินได้เลย โดยไม่ต้องเสียเวลามารอคิวที่ห้องขายตั๋วอีกที ***
ในกรณีที่ต้องออกตั๋วแบบนี้ ต้องมาถึงสถานีรถไฟล่วงหน้าประมาณ 1 ชมครึ่งนะครับ เผื่อรอคิวนาน แต่ถ้ามีตั๋วแล้ว มาถึงสถานีแค่ 1 ชม.ล่วงหน้าก็เกินพอ
เมื่อได้ตั๋วแล้วก็ขึ้นบันไดเลื่อนขึ้นมาชั้นสอง ที่สถานีรถไฟไหโข่ว มีเกทเพียงแค่สองเกท เราต้องดูในบอร์ดใหญ่ในสถานีว่า ขบวนของเราต้องรอที่เกทไหน
ประมาณครึ่งชม.ก่อนออกเดินทาง พนักงานจะเรียกให้เข้าไปรอที่ชานชาลา เราก็เอาตั๋วใส่เข้าไปในเครื่องและเก็บเอาไว้ให้ดี เพราะต้องใช้อีกครั้งที่จุดหมายปลาทาง
เมื่อมาถึงชานชาลา เป็นหน้าที่ของเราที่จะเดินไปรอตามจุดที่ระบุไว้ที่พื้นว่า ตรงนี้สำหรับตู้หมายเลขอะไร
เมื่อขึ้นไปข้างในตู้ของเรา ต้องรีบหาที่วางกระเป๋า ซึ่งจะอยู่ตรงที่ว่างด้านท้ายแต่ละขบวน แต่ถ้าไม่ทันพี่จีน เราสามารถวางไว้ที่เก็บของเหนือศีรษะได้ หรือถ้าเป็นกระเป๋าใหญ่ ก็วางไว้หน้าที่นั่งเราได้ อาจอึดอัดหน่อย แต่สามารถทำได้เพราะที่ว่างระหว่างที่นั่งกว้างขวางทีเดียว กว้างพอๆกับที่นั่งบิสิเนสคลาสของเครื่องบิน 737 เลยทีเดียว
รถไฟความเร็วสูงของไหหนาน ทำความเร็วสูงสุดเกือบ 250 กม.ต่อชม. ย่นระยะเวลาการเดินทางไปได้มากมาย
ทันที่ที่รถเดินทางมาถึงสถานีซานย่า (三亚火车站 - ซานย่าหั่วเช้อจ้าน) พนักงานทำความสะอาดก็ปรี่เข้ามาถูตัวรถให้ใหม่เอี่ยมแวววับเหมือนใหม่ และทำเร็วมากๆ อยากให้รถแอร์พอร์ตลิ้งค์เราทำแบบนี้บ้าง เพราะตัวรถเขรอะเหลือทน
พอออกมากจากตัวอาคารสถานีรถไฟแล้ว อย่าสนใจ หรือเจรจากับแท็กซี่เถื่อนที่ยืนเรียกแขกอยู่ด้านหน้าเด็ดขาด เพราะไม่รับประกันเรื่องความปลอดภัย ให้เดินมาที่คิวรถแท็กซี่เหมือนคนจีนคนอื่นๆ ซึ่ง TAXI SANYA สีส้มนี่มีวิ่งทั่วเมือง และไว้ใจได้ เพราะตลอดเวลาที่ใช้ในเมืองซานย่า ไม่เคยเจอปัญหาเรื่องตุกติกหรือโกงแต่อย่างใด ราคาแท็กซี่ก็พอๆกับบ้านเรา จ่ายได้ไม่ต้องคิดมากครับ
แต่ก่อนที่จะพาไปดู ATLANTIS SANYA แห่งแรกของเอเซีย ขอเวียนไปชมหน้าตาของเมืองซานย่ากันก่อนครับ
ตึกคอนโดกลุ่มนี้ออกแบบให้เหมือนต้นไม้ครับ แหวกแนวสุดๆ
อาคารคลาสสิคสไตล์โคโลเนียล ที่ย่านการค้าหลักของเมือง
การเดินทางไปยัง ATLANTIS SANYA นั้น จะต้องมุ่งหน้าไปยังทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ห่างจากสถานีรถไฟประมาณครึ่งชม. ไปยังอ่าวไห่ถัง (Haitang Bay - 海棠湾- ไห่ถังวาน) ซึ่งเป็นเขตพัฒนาใหม่ล่าสุดของซานย่า ที่จะดึงดูดเม็ดเงินการลงทุนจากทั่วโลกให้มุ่งหน้ามาที่ซานย่า ตลอดความยาว 17 กม. ของอ่าวไห่ถัง มีโรงแรม รีสอร์ท ระดับห้าดาวเรียงรายยาวตลอดแนว ส่วนใหญ่สร้างเสร็จแล้ว และกำลังก่อสร้างอีกหลายแห่ง เรียกได้ว่าเป็นแหล่งรวมโรงแรมเชนดังๆจากทั่วโลกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น GRAND HYATT/ WESTIN/ SOFITEL/ CONRAD/ SHERATON เป็นต้น ใครชอบที่พักสวยๆบริการดีๆ ต้องมาพักแถวนี้เลยครับ
ถนนหนทางก็สะอาด ทันสมัย และสวยงาม
ถึงแล้วครับ ATLANTIS SANYA รีสอร์ทระดับโลกแบบครบวงจร ที่ต่อยอดจากความสำเร็จของ ATLANTIS ที่บาฮามาส และดูไบ จนมาเปิดแห่งที่สาม ซึงถือเป็นแห่งแรกของเอเซียที่เมืองซานย่านี่เอง ตอนที่ผมไป รีสอร์ทเปิดบริการแบบ soft opening คือมีโรงแรม และอะควาเรี่ยมที่เสร็จสมบูรณ์แล้ว แต่ส่วนของสวนน้ำที่เป็นจุดขายหลักของแอตแลนติสนั้นยังไม่เปิด รวมไปถึงที่แสดงโชว์ปลาโลมาด้วยเช่นกัน *** แต่ตอนนี้สวนน้ำเปิดบริการแล้ว*** คนที่อยากไปแนะนำให้จองห้องพักที่แอตแลนติสด้วยเลย เพราะในค่าห้องจะรวมค่าเข้าสวนน้ำและอะควาเรี่ยมเรียบร้อยแล้ว
สำหรับแขกนอกที่ไม่ได้พักโรงแรมอย่างในกรณีของเรา สามารถซื้อตั๋วเข้าชมเป็นส่วนๆได้ สำหรับอะควาเรียมชื่อ THE LOST CHAMBERS OF ATLANTIS นั้น ค่าเข้าสำหรับผู้ใหญ่อยู่ที่ 900 บาทโดยประมาณ ถือว่าแพงพอสมควร ดังนั้นถ้าเป็นไปได้ จองโรงแรมที่นี่ จะได้ไม่ต้องเสียค่าเข้าครับ อิอิ
พอเข้าไปถึงล้อบบี้ เดินไปทางด้านขวามือ ลงบันได จะพบกับตู้ปลาขนาดใหญ่มากต้อนรับอยู่
เดินไปทางขวาของตู้ปลา ก็จะเป็นห้องขายตั๋ว และทางเข้าอะควาเรี่ยมครับ
ด้านในจะตกแต่งตามคอนเซ็ปท์ของ แอตแลนติส นครที่สาบสูญใต้ทะเลลึก
มีปลาไหลเมอเร่ย์มาต้อนรับ
ผ่านอุโมงค์มืดๆ จะไปเจอกับส่วนจัดแสดงปลาวาฬเบลูก้า
ตลอดทางเดิน ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ในแอตแลนติสจริงๆ
มีกิมมิคเล็กน้อย คือเราสามารถมุดเข้าไปข้างใต้ตู้ปลา แล้วโผล่ขึ้นมากลางตู้ปลาได้ เป็นมุมมองแบบแปลกๆที่น่าสนุกทีเดียว
แต่ละตู้ก็มีดีเทล เล็กๆน้อยๆของนครแอตแลนติส
ผ่านโซนนี้มาก็จะเป็นอีกมุมหนึ่งของตุ้ปลาที่เราเห็นในตอนแรกก่อนเข้ามาด้านใน
ใช้เวลาเดินชมภายในอะควาเรียมประมาณ 1 ชม. ถึง 1 ชม.ครึ่ง โดยไม่เร่งรีบ มีมุมให้ถ่ายรูปเยอะครับ
พออกมาด้านนอก ก็จะเป็นส่วนของช้อปปิ้งอาร์เขต มีทั้งร้านขายของที่ระลึก และร้านอาหาร
รวมไปถึงร้านอาหาร BREAD STREET BY GORDON RAMSAY เชฟชื่อดังของอังกฤษ
ใครไม่อยากเข้าร้านอาหารราคาแพง ก็มีฟู้ดคอร์ท มีอาหารราคาย่อมเยาให้บริการ
นอกจากอะควาเรียมแล้ว ยังมีสวนน้ำ และโชว์โลมาให้ชมด้วย ใครที่ได้มีโอกาสไป อย่าลืมกลับมารีวิวด้วยนะครับ
*** อ้อ เกือบลืมไปครับ ถ้ามาที่ไหหลำ แนะนำแลกเงินหยวนมาให้พอนะครับ เพราะที่นี่ไม่ค่อยรับบัตรเครดิตต่างประเทศ (ยกเว้นที่โรงแรมเชนต่างประเทศ หรือร้านอาหารบางร้าน ) และโดยมากเค้าจะใช้ Wechat Pay หรือพวก Alipay มากกว่าครับ แต่ถ้าเงินสดไม่พอจริงๆก็ต้องกดเะิ่มจากตู้ ATM เอาครับ ซึ่งก็ไม่ได้มีเกลื่อนกลาดแบบบ้านเรา ****
ตอนต่อไป จะพาไปชมสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆของเมืองซานย่ากันครับ ขอบคุณสำหรับการติดตามอ่านครับ สวัสดีครับ
[CR] เกาะไหหลำ....มีอะไรมากกว่าที่คิด ตอนที่ 2 เที่ยวเมืองซานย่า พาชม Atlantis Sanya
ความเดิมตอนที่แล้ว...
Hainan Island เกาะไหหลำ...มีอะไรมากกว่าที่คิด ตอนที่ 1 : เมืองจำลอง Haikou Movie Town
https://ppantip.com/topic/37682299
*** นักท่องเที่ยวถือพาสปอร์ตไทย ตอนนี้สามารถเดินทางเข้าเกาะไหหลำ ได้โดย ไม่ต้องขอวีซ่าจีน แล้วนะครับ (มีข้อแม้สำคัญ คือต้องจองที่พักและทัวร์ผ่านเอเย่นต์นะครับ ไปเองดุ่มๆไม่ได้)****
** แต่ในความเห็นส่วนตัว แนะนำให้ยื่นขอวีซ่าจีนปรกติเหมือนเดิมจะง่ายกว่ามากครับ เพราะเราจะได้ไปในที่อยากไปได้โดยไม่ต้องผ่านเอเย่นต์ทัวร์ และเพราะวีซ่าจีนของ่ายอยู่แล้วไม่มีอะไรยุ่งยาก คนที่อยู่ตจว.อย่างภูเก็ตสามารถยื่นขอที่ศูนย์วีซ่าของสถานกงศุลจีนได้โดยตรง ใช้เวลา 4 วันทำการ โทร. 076 304 180 (สนง.อยู่ที่อาคารพาณิชย์เยื้องๆแยกโลตัสสามกองครับ) ***
=======================================================================
จากตอนที่แล้วเราได้เที่ยวชมโรงถ่ายภาพยนตร์ Haikou Movie Town กันไปแล้ว วันนี้จะพานั่งรถไฟความเร็วสูง จากเมืองไหโข่ว ไปยังเมืองตากอากาศตอนใต้สุดของเกาะ คือเมืองซานย่า ระยะทางกว่า 400 กม. ซึ่งถ้าเป็นเมื่อก่อน ต้องนั่งรถกว่า 4 ชม. แต่ตอนนี้ นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางไปมาระหว่างเมืองโดยใช้เวลาเพียงแค่ 1 ชม.ครึ่งเท่านั้น ใครที่วางแผนจะเที่ยวซานย่าแบบเดย์ทริป ไปเช้าเย็นกลับ ก็สามารถทำได้ แต่แนะนำให้อยู่สักสามคืนเป็นอย่างน้อย เพราะมีอะไรให้ชม ให้ทำมากมายทีเดียว
สถานีรถไฟความเร็วสูงของเมืองไหโข่ว ชื่อว่า HAIKOU EAST STATION (海口东火车站 - ไหโข่วตงหั่วเช้อจ้าน)
การเดินทางโดยรถไฟความเร็วสูง ก็เป็นระบบเดียวกับที่จีนแผ่นดินใหญ่ นักท่องเที่ยวควรจองตั๋วที่นั่งล่วงหน้า (เปิดจองตั๋วล่วงหน้า 30 วัน) กับเอเยนซี่ให้เรียบร้อย สำหรับคนที่ยังไม่เคยจองแนะนำ travelchinaguide หรือ trip.com ก็ได้ครับ จองเสร็จแล้วต้องปริ๊นท์ใบรับตั๋วออกมา เสร็จแล้วก็มาขึ้นตั๋วใบจริงที่ห้องจำหน่ายตั๋วครับ ***สำหรับคนที่จองตั๋วแบบไปกลับ แนะนำให้ขึ้นตั๋วทั้งไปและกลับทีเดียวล่วงหน้าเอาไว้เลยครับ เพราะการขึ้นตั๋วต้องใช้เวลาพอสมควร ถ้าเรามีตั๋วแล้ว เก็บไว้ให้ดี ขากลับสามารถเอาไปเช็คอินได้เลย โดยไม่ต้องเสียเวลามารอคิวที่ห้องขายตั๋วอีกที ***
ในกรณีที่ต้องออกตั๋วแบบนี้ ต้องมาถึงสถานีรถไฟล่วงหน้าประมาณ 1 ชมครึ่งนะครับ เผื่อรอคิวนาน แต่ถ้ามีตั๋วแล้ว มาถึงสถานีแค่ 1 ชม.ล่วงหน้าก็เกินพอ
เมื่อได้ตั๋วแล้วก็ขึ้นบันไดเลื่อนขึ้นมาชั้นสอง ที่สถานีรถไฟไหโข่ว มีเกทเพียงแค่สองเกท เราต้องดูในบอร์ดใหญ่ในสถานีว่า ขบวนของเราต้องรอที่เกทไหน
ประมาณครึ่งชม.ก่อนออกเดินทาง พนักงานจะเรียกให้เข้าไปรอที่ชานชาลา เราก็เอาตั๋วใส่เข้าไปในเครื่องและเก็บเอาไว้ให้ดี เพราะต้องใช้อีกครั้งที่จุดหมายปลาทาง
เมื่อมาถึงชานชาลา เป็นหน้าที่ของเราที่จะเดินไปรอตามจุดที่ระบุไว้ที่พื้นว่า ตรงนี้สำหรับตู้หมายเลขอะไร
เมื่อขึ้นไปข้างในตู้ของเรา ต้องรีบหาที่วางกระเป๋า ซึ่งจะอยู่ตรงที่ว่างด้านท้ายแต่ละขบวน แต่ถ้าไม่ทันพี่จีน เราสามารถวางไว้ที่เก็บของเหนือศีรษะได้ หรือถ้าเป็นกระเป๋าใหญ่ ก็วางไว้หน้าที่นั่งเราได้ อาจอึดอัดหน่อย แต่สามารถทำได้เพราะที่ว่างระหว่างที่นั่งกว้างขวางทีเดียว กว้างพอๆกับที่นั่งบิสิเนสคลาสของเครื่องบิน 737 เลยทีเดียว
รถไฟความเร็วสูงของไหหนาน ทำความเร็วสูงสุดเกือบ 250 กม.ต่อชม. ย่นระยะเวลาการเดินทางไปได้มากมาย
ทันที่ที่รถเดินทางมาถึงสถานีซานย่า (三亚火车站 - ซานย่าหั่วเช้อจ้าน) พนักงานทำความสะอาดก็ปรี่เข้ามาถูตัวรถให้ใหม่เอี่ยมแวววับเหมือนใหม่ และทำเร็วมากๆ อยากให้รถแอร์พอร์ตลิ้งค์เราทำแบบนี้บ้าง เพราะตัวรถเขรอะเหลือทน
พอออกมากจากตัวอาคารสถานีรถไฟแล้ว อย่าสนใจ หรือเจรจากับแท็กซี่เถื่อนที่ยืนเรียกแขกอยู่ด้านหน้าเด็ดขาด เพราะไม่รับประกันเรื่องความปลอดภัย ให้เดินมาที่คิวรถแท็กซี่เหมือนคนจีนคนอื่นๆ ซึ่ง TAXI SANYA สีส้มนี่มีวิ่งทั่วเมือง และไว้ใจได้ เพราะตลอดเวลาที่ใช้ในเมืองซานย่า ไม่เคยเจอปัญหาเรื่องตุกติกหรือโกงแต่อย่างใด ราคาแท็กซี่ก็พอๆกับบ้านเรา จ่ายได้ไม่ต้องคิดมากครับ
แต่ก่อนที่จะพาไปดู ATLANTIS SANYA แห่งแรกของเอเซีย ขอเวียนไปชมหน้าตาของเมืองซานย่ากันก่อนครับ
ตึกคอนโดกลุ่มนี้ออกแบบให้เหมือนต้นไม้ครับ แหวกแนวสุดๆ
อาคารคลาสสิคสไตล์โคโลเนียล ที่ย่านการค้าหลักของเมือง
การเดินทางไปยัง ATLANTIS SANYA นั้น จะต้องมุ่งหน้าไปยังทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ห่างจากสถานีรถไฟประมาณครึ่งชม. ไปยังอ่าวไห่ถัง (Haitang Bay - 海棠湾- ไห่ถังวาน) ซึ่งเป็นเขตพัฒนาใหม่ล่าสุดของซานย่า ที่จะดึงดูดเม็ดเงินการลงทุนจากทั่วโลกให้มุ่งหน้ามาที่ซานย่า ตลอดความยาว 17 กม. ของอ่าวไห่ถัง มีโรงแรม รีสอร์ท ระดับห้าดาวเรียงรายยาวตลอดแนว ส่วนใหญ่สร้างเสร็จแล้ว และกำลังก่อสร้างอีกหลายแห่ง เรียกได้ว่าเป็นแหล่งรวมโรงแรมเชนดังๆจากทั่วโลกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น GRAND HYATT/ WESTIN/ SOFITEL/ CONRAD/ SHERATON เป็นต้น ใครชอบที่พักสวยๆบริการดีๆ ต้องมาพักแถวนี้เลยครับ
ถนนหนทางก็สะอาด ทันสมัย และสวยงาม
ถึงแล้วครับ ATLANTIS SANYA รีสอร์ทระดับโลกแบบครบวงจร ที่ต่อยอดจากความสำเร็จของ ATLANTIS ที่บาฮามาส และดูไบ จนมาเปิดแห่งที่สาม ซึงถือเป็นแห่งแรกของเอเซียที่เมืองซานย่านี่เอง ตอนที่ผมไป รีสอร์ทเปิดบริการแบบ soft opening คือมีโรงแรม และอะควาเรี่ยมที่เสร็จสมบูรณ์แล้ว แต่ส่วนของสวนน้ำที่เป็นจุดขายหลักของแอตแลนติสนั้นยังไม่เปิด รวมไปถึงที่แสดงโชว์ปลาโลมาด้วยเช่นกัน *** แต่ตอนนี้สวนน้ำเปิดบริการแล้ว*** คนที่อยากไปแนะนำให้จองห้องพักที่แอตแลนติสด้วยเลย เพราะในค่าห้องจะรวมค่าเข้าสวนน้ำและอะควาเรี่ยมเรียบร้อยแล้ว
สำหรับแขกนอกที่ไม่ได้พักโรงแรมอย่างในกรณีของเรา สามารถซื้อตั๋วเข้าชมเป็นส่วนๆได้ สำหรับอะควาเรียมชื่อ THE LOST CHAMBERS OF ATLANTIS นั้น ค่าเข้าสำหรับผู้ใหญ่อยู่ที่ 900 บาทโดยประมาณ ถือว่าแพงพอสมควร ดังนั้นถ้าเป็นไปได้ จองโรงแรมที่นี่ จะได้ไม่ต้องเสียค่าเข้าครับ อิอิ
พอเข้าไปถึงล้อบบี้ เดินไปทางด้านขวามือ ลงบันได จะพบกับตู้ปลาขนาดใหญ่มากต้อนรับอยู่
เดินไปทางขวาของตู้ปลา ก็จะเป็นห้องขายตั๋ว และทางเข้าอะควาเรี่ยมครับ
ด้านในจะตกแต่งตามคอนเซ็ปท์ของ แอตแลนติส นครที่สาบสูญใต้ทะเลลึก
มีปลาไหลเมอเร่ย์มาต้อนรับ
ผ่านอุโมงค์มืดๆ จะไปเจอกับส่วนจัดแสดงปลาวาฬเบลูก้า
ตลอดทางเดิน ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ในแอตแลนติสจริงๆ
มีกิมมิคเล็กน้อย คือเราสามารถมุดเข้าไปข้างใต้ตู้ปลา แล้วโผล่ขึ้นมากลางตู้ปลาได้ เป็นมุมมองแบบแปลกๆที่น่าสนุกทีเดียว
แต่ละตู้ก็มีดีเทล เล็กๆน้อยๆของนครแอตแลนติส
ผ่านโซนนี้มาก็จะเป็นอีกมุมหนึ่งของตุ้ปลาที่เราเห็นในตอนแรกก่อนเข้ามาด้านใน
ใช้เวลาเดินชมภายในอะควาเรียมประมาณ 1 ชม. ถึง 1 ชม.ครึ่ง โดยไม่เร่งรีบ มีมุมให้ถ่ายรูปเยอะครับ
พออกมาด้านนอก ก็จะเป็นส่วนของช้อปปิ้งอาร์เขต มีทั้งร้านขายของที่ระลึก และร้านอาหาร
รวมไปถึงร้านอาหาร BREAD STREET BY GORDON RAMSAY เชฟชื่อดังของอังกฤษ
ใครไม่อยากเข้าร้านอาหารราคาแพง ก็มีฟู้ดคอร์ท มีอาหารราคาย่อมเยาให้บริการ
นอกจากอะควาเรียมแล้ว ยังมีสวนน้ำ และโชว์โลมาให้ชมด้วย ใครที่ได้มีโอกาสไป อย่าลืมกลับมารีวิวด้วยนะครับ
*** อ้อ เกือบลืมไปครับ ถ้ามาที่ไหหลำ แนะนำแลกเงินหยวนมาให้พอนะครับ เพราะที่นี่ไม่ค่อยรับบัตรเครดิตต่างประเทศ (ยกเว้นที่โรงแรมเชนต่างประเทศ หรือร้านอาหารบางร้าน ) และโดยมากเค้าจะใช้ Wechat Pay หรือพวก Alipay มากกว่าครับ แต่ถ้าเงินสดไม่พอจริงๆก็ต้องกดเะิ่มจากตู้ ATM เอาครับ ซึ่งก็ไม่ได้มีเกลื่อนกลาดแบบบ้านเรา ****
ตอนต่อไป จะพาไปชมสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆของเมืองซานย่ากันครับ ขอบคุณสำหรับการติดตามอ่านครับ สวัสดีครับ
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น