กระทู้นี้แค่อยากถ่ายทอดประสบการณ์ของผมนะครับ หากมีอะไรผิดพลาดก็ขออภัยด้วยครับ




ผมพึ่งประสบอุบัติเหตุรถชนก่อนหมดวัยเบญจเพศแค่อาทิตย์เดียว ชนแบบตู้ม! สี่คันรวด รถเละทั้งคัน แต่โชคดีที่ไม่บาดเจ็บเลย ....แต่ก่อนผมเคยคิดตลอดนะว่ารถชนมันเป็นยังไงวะ แต่พอเกิดขึ้นกับตัวเอง รู้สึกโชคดีมาก! เพราะถ้ารถชนครั้งนี้มันได้เปลี่ยนมุมมองการใช้ชีวิตของผมไปเลย และผมอยากที่จะเขียนให้ทุกคนได้อ่านจริงๆ

1. แค่วินาทีเดียวชีวิตเปลี่ยน ::

พ่อผมสอนเสมอว่าขับรถให้ระวังนะ กว่าคนจะเกิดตั้ง9เดือน แต่คนจะตาย...มันแค่วินาทีเดียว ผมก็ฟังผ่านๆไปจนเกิดอุบัติเหตุ มันเป็นอย่างที่พ่อว่าจริงๆ... วินาทีเดียวที่ผมขับรถมาดีๆ และมันเป็นแค่เสี้ยววินาทีเดียวจริงๆที่ไม่ทันให้ผมได้เตรียมตัว ตู้ม! ลืมตาขึ้นมาในวินาทีถัดไป เงิน ชีวิต ร่างกาย ความรู้สึก ทุกอย่างอาจไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว

2. ฝนตกถนนเปียกเบรกไม่อยู่ ::

ผมขับรถมา 5 ปี ไม่เคยเกิดอุบัติเหตุ ไม่เคยมีปัญหากับเบรก แต่วันที่เกิดเหตุคือวันที่ฝนตกปรอยๆ ถนนเปียกและลื่น(ไม่รู้หรอกว่าถนนลื่นเป็นยังไง) ขณะเตรียมเบี่ยงลงทางด่วน จู่ๆรถคันข้างหน้าเบรกกะทันหัน ผมขับมาประมาณ 60 ไม่ได้ขับชิด เหยียบเบรกมิดทันที แต่เหมือนไม่ได้เหยียบเลยครับ ตู้ม!! ผมเข้าใจเลยว่าเหยีบเบรกไม่อยู่เป็นยังไง ถ้าฝนตก ขับให้ช้าที่สุดเถอะครับ ถ้าไม่เคยจะไม่รู้เลยว่าถนนลื่นมันน่ากลัวขนาดไหน

3. อย่าเล่นมือถือขณะขับรถ ::

เปลี่ยนเพลงใน spotify แป๊ปเดียว ขอโทรหาแม่แปปเดียว เปลี่ยนแผนที่ในกูเกิ้ลแมพ ....วันนั้นผมตั้งใจขับรถอย่างดีครับ ผมขอสารภาพเลยว่าผมเป็นคนที่ชอบวุ่นวายกับมือถือระหว่างขับรถ เปลี่ยนเพลง โทรศัพท์ เปลี่ยนพิกัดกูเกิ้ลแมพ รู้นะว่ามันไม่ควรแต่แหม๋แปปเดียวเองเราก็ขับมานาน ....หลังจากนี้ผมเรียนรู้แล้วครับ แค่วินาทีเดียวยังเกิดเหตุได้ แล้วสายตาหลุดโฟกัสไปที่มือถือตั้งหลายวินาที ทำไมจะเกิดไม่ได้ อย่าเล่นมือถือเลยครับ

4. รัดเข็มขัด ::

ไม่ว่าจะออกไปหน้าปากซอย ขับใกล้ไกล หรือไม่ผิดกฎหมาย ยังไงก็ต้องรัดเข็มขัด! ถ้าวันนั้นผมไม่รัดเข็มขัด หัวผมโหม่งกระจกออกไปแล้วครับ และในขณะที่กำลังจะเกิดอุบัติเหตุ จะรัดเข็มขัดตอนนั้นก็สายเกินไปแล้ว ผมไม่เข้าใจเลยว่าทำไมคนไม่ชอบรัดเข็มขัด บางคนถึงกับงอนคนนั่งว่า “เห้ย ไม่ไว้ใจหรอ” รัดเถอะมันไม่ยากหรอก

5. ขับชนท้ายผิดเสมอ ::

ตามกฎหมายไทย ถ้าเป็นทางตรง เราขับชนท้ายเขา ต่อให้เขาจะเบรกกะทันหันแค่ไหนเราก็ผิด เพราะกฎหมายบอกให้เราเว้นระยะ ไม่แฟร์เลยเนอะสำหรับบางครั้ง แล้ววันนั้นผมชนเขาไปแล้ว เขาก็ดั้นกระเด็นไปชนเบ๊นซ์ข้างหน้าอี้ก!! เท่ากับเราต้องรับผิดชอบสองคันข้างหน้าเลยนะครับ

6. ประกัน ::

ต่อเนื่องจากข้อ 4 วัยรุ่นแรกแย้มอย่างเราอาจจะคิดว่าประกันมันไม่สำคัญ แต่จากเหตุการณ์นั้นถ้าผมไม่มีประกันเท่ากับ 1. ผมต้องซ่อมรถตัวเองที่ทั้งหน้าทั้งหลังไม่เหลือแล้ว 2. ผมต้องรับผิดชอบซ่อมรถคันข้างหน้า 3. ผมต้องรับผิดชอบเบ๊นซ์ที่คันหน้ากระเด็นไปชน .... ถ้าผมไม่มีประกัน ถ้าครอบครัวผมไม่มีเงินเก็บ ถ้าผมไม่มีเงินเดือน ชีวิตผมคงดิ่งเหวไปเลย (หลังจากนั้นประกันก็โทรมาขอเพิ่มเบี้ย ฮือ)

7. ติดกล้องหน้าสำคัญมาก ::

จริงแล้วขับชนท้ายผิดเสมอจริงไหม ไม่ทุกกรณีครับ เช่น คันหน้าจอดในที่ๆห้ามจอด คันหน้าเมา ฯลฯ หลักฐานที่เราจะเอามาเคลียร์กับประกันหรือตำรวจ ก็คือกล้องหน้าอย่างเดียวเลย ซึ่งวันนั้น...กล้องผมเสีย... เพราะมันเก่ามากแล้วติดๆดับๆ ก็ถือว่ายังโชคดีที่ไม่ได้ไปชนในรูปแบบอื่น กล้องเดี๋ยวนี้ถูกมาก เป็นสิ่งที่ต้องลงทุนครับสำคัญมาก

8. เราจะรับผิดชอบคนที่นั่งมาด้วยได้ยังไง ::

วันนั้นผมไปดูคอนเสิร์ตกับเพื่อนครับ พอชนเสร็จสิ่งที่ผมคิดหลังจากลืมตามาคือ “เพื่อนเราเป็นอะไรไหม” โชคดีมากครับที่เพื่อนผมไม่เป็นอะไร แต่ผมก็ยังรู้สึกผิดมากๆ เอาแต่พูดขอโทษตลอดเวลา ...ถ้าเกิดวันนั้นผมไม่ได้โชคดีหล่ะ ...  ถ้าคนนั้นไม่ใช่เพื่อนเราหล่ะ แต่เป็นแม่ เป็นพ่อ เป็นคนแก่ หรือเป็นคนรัก ผมคิดว่าผมคงรับไม่ได้ครับ ผมเรียนรู้แล้วว่า การขับรถคือความรับผิดชอบอย่างหนึ่ง รับผิดชอบชีวิตตัวเอง ชีวิตคนที่นั่งมาด้วย และชีวิตคนอื่นบนท้องถนน


9. จงใช้ชีวิตให้เหมือนไม่มีวันพรุ่งนี้ ::

ถ้าวันนั้นผมตายไปคงน่าเสียดายมากเลย เพราะผมยังมีอีกเป็นพันๆอย่างที่อยากทำแล้วยังไม่ได้ทำ เงินเก็บที่ยังไม่ได้เอาออกมาใช้ เที่ยวรอบโลก ยังกอดหอมพ่อแม่ไม่พอเลย คนตามเพจยังไม่ถึงแสนเลย(5555)...“จงใช้ชีวิตให้เหมือนไม่มีวันพรุ่งนี้” ถ้าไม่เกือบตายก็คงไม่เข้าใจหรอก ผมถึงบอกว่าผมโชคดี ที่ได้คำเตือนว่า ชีวิตมันสั้นนะ อยากทำอะไรก็ทำเลย!


ประสบการณ์นี้อาจจะไม่ได้รุนแรงเท่าหลายๆคนที่เจอมา แต่ก็เป็นประสบการณ์ที่หนักที่สุดที่ผมเจอ และก็ได้เรียนรู้อะไรหลายๆอย่าง เลยอยากมาเล่าให้ทุกคนได้ฟัง ขอบคุณที่อ่านจนจบครับ


ติดตามเรื่องอื่นๆได้ที่: https://www.facebook.com/paiyoonaima ครับ