เดินทางมาถึงรอบชิงชนะเลิศเรียบร้อย สำหรับศึกลูกหนังเก่าแก่ร้อยกว่าปีฟุตบอล เอฟเอคัพ 2017/18 ที่คู่ชิงปีนี้เป็นการโคจรมาพบกันของสองทีมชั้นนำระดับบิ๊กไฟว์พรีเมียร์ลีกระหว่าง "สิงโตน้ำเงินคราม" เชลซี พบ "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
โดยทั้งสองสองทีมดีเดย์คิกออฟกันเพื่อชิงความเป็นหนึ่งในวันที่ 19 พฤษภาคม 2561 เวลา 23.00 น. ตามเวลาประเทศไทย ถ่ายทอดสดทางช่อง 7HD และเว็บไซต์ Bugaboo.TV อย่าพลาดชมน่ะครับ
มาพูดถึงก่อนเกมนี้กันบ้างแม้อันดับห่างกันพอสมควรหากเทียบกันบนตารางพรีเมียร์ลีกปีนี้ของทั้งสองทีมโดย แมนยู อยู่อันดับสอง มี 81 คะแนน ขณะที่ เชลซี รั้งอันดับ 5 มี 70 คะแนน
อย่างไรก็ตามในมุมมองผมก็ยอมรับว่าเป็นคู่ชิงที่สมน้ำสมเนื้อเลยทีเดียว หากย้อนไปมองในส่วนผลงานพบกันในปีนี้ในเกมลีก ต้องบอกว่าสูสีน่าดูชมครับ ผลัดกันแพ้ชนะคนละนัด
โดยเกมแรกเป็นเชลซี ที่ได้เฮก่อนในบ้านชนะ 1-0 จากประตูชัยของ โมราต้า ส่วน แมนยู ก็มาเอาคืนเปิดรังชนะ 2-1 ได้ประตูจาก ลูกากู, ลินการ์ด ก่อนที่เชลซี จะทวงคืน1ลูกจาก วิลเลี่ยน
ขยับมาดูกันที่สถิติภาพรวมพบกันทั้งหมดบ้าง เชลซี ค่อนข้างเป็นรองด้วยสถิติชนะ 53 นัด เสมอ 49 นัด และ แมนยู ชนะ 77 นัด
ขณะที่ ดาวยิงสูงสุดประจำทีมของทั้งสองปีนี้นับเฉพาะในพรีเมียร์ลีกฟากแมนยู เป็นโรเมลู ลูกากู ดาวยิงคนใหม่ทีมชาติเบลเยียม ที่เพิ่งย้ายมาช่วงต้นซีซั่นผลิตสกอร์ไปที่ 16 ประตู ส่วนฝั่งเชลซี เอแดน อาซาร์ ตัวรุกเพื่อนร่วมชาติเบลเยียม ยิงไป 12 ประตู
เรียกว่าไม่น้อยหน้ากันมากนัก ยิ่งหากมองไปที่ขุมกำลังที่คาดว่าทั้งสองทีมจะจัดทัพใส่กันตามรายงานจากเว็บไซต์ whoscored.com ก็ต้องบอกว่าแฟนบอลตัวจริงไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง เพราะทั้งสองทีมภายใต้การนำของทั้ง โชเซ่ มูรินโญ่ เฮดโค้ช แมนยู และ อันโตนิโอ คอนเต้ กุนซือเชลซี จะส่งลงสนามหากเป็นภาาษวัยรุ่นก็ต้องบอกว่า ชุดใหญ่ไฟกระพริบ
เริ่มที่เชลซี คาดว่าจะมาสู้ใน ระบบ 3-4-2-1 ตำแหน่งก็ตามชื่อผู้เล่นตามตำแหน่งไล่ตั้งแต่..
ตีโบ กูร์ตัว (ผู้รักษาประตู)
อัซปิลิกูเอ็ตต้า, เคฮิลล์, รูดิเกอร์
โมเซส, ฟาเบรกาส, ก็องเต้, อลอนโซ
วิลเลี่ยน, อาซาร์
โมราต้า
ส่วน แมนยู มาสู้ในระบบ 3-4-1-2 ประกอบด้วย
เดเคอา (ผู้รักษาประตู)
ไบญี่, สมอลลิ่ง, โจนส์
วาเลนเซีย, มาติซ, ป็อกบา, ยัง
ลินการ์ด
ซานเชซ, ลูกากู
จากระบบรายชื่อที่ออกมาเห็นชัดเจนว่า แมนยู เกมนี้ น่าจะเป็นฝ่ายเปิดเกมรุกเข้าใส่เชลซี ได้มากกว่าอย่างไม่ต้องสงสัย ด้วยการยืนกองหน้าสองคน แน่นอนว่าคงจะใช้ทีเด็ดจากการเปิดบอลเข้าไปในของ ป็อกบา เล่นงาน โดยมี ลูกากู ที่หากฟิตสมบูรณ์คอยพักบอล โหม่งบอลชงปล่อยให้ ซานเชซ ที่เร็วและคล่องกระชากลากลุยหาจังหวะยิง
ขณะที่ เชลซี แม้จะปล่อยให้ โมราต้า ยืนห้อยหน้าเป้าคนเดียวแต่ก็อันตรายไม่ใช่เล่นเพราะหอกรายนี้ไม่ใช่แค่หล่อแต่ยังมีดีที่ลูกกลางอากาศที่มักจะไปถูกที่ถูกเวลาเสมอๆ ยิ่งหันหลังจากเค้ามองไปก็ล้วนอันตรายฝีเท้าจัดจ้าน วิลเลี่ยน , อาซาร์ อันตรายหาจังหวะสอดแทรกมีชื่อลุ้นพังประตูได้ทุกเมื่อ
ดังนั้นเกมรุกของสองทีมนี้น่าจะเป็นการชิงไหวชิงพริบกันมากกว่าซึ่งเป็นไปได้ที่โอกาสจะพังประตูกันน้อย เพราะโค้ชทั้งสองนั้นขึ้นชื่อลือชาในเรื่องแท็กติก คงจะเน้นรับเหนียวไว้ก่อน ยิ่งสถิติปีนี้ที่พบกันกว่าจะยิงประตูกันได้ต้องลากกันไปถึงเกินครึ่งชั่วโมง หรือเกือบชั่วโมงกว่าจะมีประตูด้วยแล้วคงจะทำให้แฟนบอลได้ลุ้นกันแบบตื่นเต้นปนอึดอัดนิดๆ
และยิ่งมองไปถึงเรื่องที่คงไม่มีใครฝั่งไหนอยากจะพลาด จึงทำให้เกมนี้จะเป็นอีกเกมที่เต็มไปด้วยการแข่งขันที่ละเอียด ดูสนุกแม้จะยิงไม่เยอะก็ตาม และอีกอย่างที่สำคัญที่ผมมองคือการที่ทั้งสองทีมต่างต้องการความสำเร็จ ในการชูถ้วยแชมป์นี้ปิดท้ายฤดูกาลเพื่อหน้าตาสโมสร ก็ยิ่งทำให้เกมนี้มีความมหายเข้าไปอีกเพราะอย่างที่ทราบกันแมนเชสเตอร์ ซิตี้ นั้นกวาดเรียบไปทั้งสองถ้วยทั้งแชมป์พรีเมียร์ลีกและEFLลีกคัพ
ดั้งนั้นจึงเป็นเรื่องที่ต้องมาลุ้นกันครับว่าจะเป็นทีมไหนที่จะคว้าแชมป์เอฟเอคัพ 2017/18 ไปครอง ระหว่าง เชลซี (แชมป์ 7 สมัย) กับ แมนยู ( แชมป์ 12 สมัย ) โดยจำนวนวงเล็บ เป็นแชมป์เอฟเอคัพ ที่ทั้งสองทีมทำได้ ซึ่งตัวเลขแชมป์สูงสุดรายการนี้ยังอยู่ที่ อาร์เซนอล 13 สมัย
นั่นหมายความว่าบทสรุปเกมนี้จะมีทีมคว้าแชมป์สมัยที่ 8 และทำสถิติทาบอาร์เซนอลได้ ส่วนจะเป็นทีมไหนติดตามรับชมได้ทางจอช่อง 7HD และเว็บไซต์ Bugaboo.TV ในวันที่ 19 พฤษภาคม 2561 เวลา 23.00 น. ตามเวลาประเทศไทย อย่าพลาดชมน่ะครับ!
"ยอดี้"
OPINION: เชลซี V แมนยู เอฟเอคัพ ไฟน่อล 2017/18 by ยอดี้
เดินทางมาถึงรอบชิงชนะเลิศเรียบร้อย สำหรับศึกลูกหนังเก่าแก่ร้อยกว่าปีฟุตบอล เอฟเอคัพ 2017/18 ที่คู่ชิงปีนี้เป็นการโคจรมาพบกันของสองทีมชั้นนำระดับบิ๊กไฟว์พรีเมียร์ลีกระหว่าง "สิงโตน้ำเงินคราม" เชลซี พบ "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
โดยทั้งสองสองทีมดีเดย์คิกออฟกันเพื่อชิงความเป็นหนึ่งในวันที่ 19 พฤษภาคม 2561 เวลา 23.00 น. ตามเวลาประเทศไทย ถ่ายทอดสดทางช่อง 7HD และเว็บไซต์ Bugaboo.TV อย่าพลาดชมน่ะครับ
มาพูดถึงก่อนเกมนี้กันบ้างแม้อันดับห่างกันพอสมควรหากเทียบกันบนตารางพรีเมียร์ลีกปีนี้ของทั้งสองทีมโดย แมนยู อยู่อันดับสอง มี 81 คะแนน ขณะที่ เชลซี รั้งอันดับ 5 มี 70 คะแนน
อย่างไรก็ตามในมุมมองผมก็ยอมรับว่าเป็นคู่ชิงที่สมน้ำสมเนื้อเลยทีเดียว หากย้อนไปมองในส่วนผลงานพบกันในปีนี้ในเกมลีก ต้องบอกว่าสูสีน่าดูชมครับ ผลัดกันแพ้ชนะคนละนัด
โดยเกมแรกเป็นเชลซี ที่ได้เฮก่อนในบ้านชนะ 1-0 จากประตูชัยของ โมราต้า ส่วน แมนยู ก็มาเอาคืนเปิดรังชนะ 2-1 ได้ประตูจาก ลูกากู, ลินการ์ด ก่อนที่เชลซี จะทวงคืน1ลูกจาก วิลเลี่ยน
ขยับมาดูกันที่สถิติภาพรวมพบกันทั้งหมดบ้าง เชลซี ค่อนข้างเป็นรองด้วยสถิติชนะ 53 นัด เสมอ 49 นัด และ แมนยู ชนะ 77 นัด
ขณะที่ ดาวยิงสูงสุดประจำทีมของทั้งสองปีนี้นับเฉพาะในพรีเมียร์ลีกฟากแมนยู เป็นโรเมลู ลูกากู ดาวยิงคนใหม่ทีมชาติเบลเยียม ที่เพิ่งย้ายมาช่วงต้นซีซั่นผลิตสกอร์ไปที่ 16 ประตู ส่วนฝั่งเชลซี เอแดน อาซาร์ ตัวรุกเพื่อนร่วมชาติเบลเยียม ยิงไป 12 ประตู
เรียกว่าไม่น้อยหน้ากันมากนัก ยิ่งหากมองไปที่ขุมกำลังที่คาดว่าทั้งสองทีมจะจัดทัพใส่กันตามรายงานจากเว็บไซต์ whoscored.com ก็ต้องบอกว่าแฟนบอลตัวจริงไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง เพราะทั้งสองทีมภายใต้การนำของทั้ง โชเซ่ มูรินโญ่ เฮดโค้ช แมนยู และ อันโตนิโอ คอนเต้ กุนซือเชลซี จะส่งลงสนามหากเป็นภาาษวัยรุ่นก็ต้องบอกว่า ชุดใหญ่ไฟกระพริบ
เริ่มที่เชลซี คาดว่าจะมาสู้ใน ระบบ 3-4-2-1 ตำแหน่งก็ตามชื่อผู้เล่นตามตำแหน่งไล่ตั้งแต่..
ตีโบ กูร์ตัว (ผู้รักษาประตู)
อัซปิลิกูเอ็ตต้า, เคฮิลล์, รูดิเกอร์
โมเซส, ฟาเบรกาส, ก็องเต้, อลอนโซ
วิลเลี่ยน, อาซาร์
โมราต้า
ส่วน แมนยู มาสู้ในระบบ 3-4-1-2 ประกอบด้วย
เดเคอา (ผู้รักษาประตู)
ไบญี่, สมอลลิ่ง, โจนส์
วาเลนเซีย, มาติซ, ป็อกบา, ยัง
ลินการ์ด
ซานเชซ, ลูกากู
จากระบบรายชื่อที่ออกมาเห็นชัดเจนว่า แมนยู เกมนี้ น่าจะเป็นฝ่ายเปิดเกมรุกเข้าใส่เชลซี ได้มากกว่าอย่างไม่ต้องสงสัย ด้วยการยืนกองหน้าสองคน แน่นอนว่าคงจะใช้ทีเด็ดจากการเปิดบอลเข้าไปในของ ป็อกบา เล่นงาน โดยมี ลูกากู ที่หากฟิตสมบูรณ์คอยพักบอล โหม่งบอลชงปล่อยให้ ซานเชซ ที่เร็วและคล่องกระชากลากลุยหาจังหวะยิง
ขณะที่ เชลซี แม้จะปล่อยให้ โมราต้า ยืนห้อยหน้าเป้าคนเดียวแต่ก็อันตรายไม่ใช่เล่นเพราะหอกรายนี้ไม่ใช่แค่หล่อแต่ยังมีดีที่ลูกกลางอากาศที่มักจะไปถูกที่ถูกเวลาเสมอๆ ยิ่งหันหลังจากเค้ามองไปก็ล้วนอันตรายฝีเท้าจัดจ้าน วิลเลี่ยน , อาซาร์ อันตรายหาจังหวะสอดแทรกมีชื่อลุ้นพังประตูได้ทุกเมื่อ
ดังนั้นเกมรุกของสองทีมนี้น่าจะเป็นการชิงไหวชิงพริบกันมากกว่าซึ่งเป็นไปได้ที่โอกาสจะพังประตูกันน้อย เพราะโค้ชทั้งสองนั้นขึ้นชื่อลือชาในเรื่องแท็กติก คงจะเน้นรับเหนียวไว้ก่อน ยิ่งสถิติปีนี้ที่พบกันกว่าจะยิงประตูกันได้ต้องลากกันไปถึงเกินครึ่งชั่วโมง หรือเกือบชั่วโมงกว่าจะมีประตูด้วยแล้วคงจะทำให้แฟนบอลได้ลุ้นกันแบบตื่นเต้นปนอึดอัดนิดๆ
และยิ่งมองไปถึงเรื่องที่คงไม่มีใครฝั่งไหนอยากจะพลาด จึงทำให้เกมนี้จะเป็นอีกเกมที่เต็มไปด้วยการแข่งขันที่ละเอียด ดูสนุกแม้จะยิงไม่เยอะก็ตาม และอีกอย่างที่สำคัญที่ผมมองคือการที่ทั้งสองทีมต่างต้องการความสำเร็จ ในการชูถ้วยแชมป์นี้ปิดท้ายฤดูกาลเพื่อหน้าตาสโมสร ก็ยิ่งทำให้เกมนี้มีความมหายเข้าไปอีกเพราะอย่างที่ทราบกันแมนเชสเตอร์ ซิตี้ นั้นกวาดเรียบไปทั้งสองถ้วยทั้งแชมป์พรีเมียร์ลีกและEFLลีกคัพ
ดั้งนั้นจึงเป็นเรื่องที่ต้องมาลุ้นกันครับว่าจะเป็นทีมไหนที่จะคว้าแชมป์เอฟเอคัพ 2017/18 ไปครอง ระหว่าง เชลซี (แชมป์ 7 สมัย) กับ แมนยู ( แชมป์ 12 สมัย ) โดยจำนวนวงเล็บ เป็นแชมป์เอฟเอคัพ ที่ทั้งสองทีมทำได้ ซึ่งตัวเลขแชมป์สูงสุดรายการนี้ยังอยู่ที่ อาร์เซนอล 13 สมัย
นั่นหมายความว่าบทสรุปเกมนี้จะมีทีมคว้าแชมป์สมัยที่ 8 และทำสถิติทาบอาร์เซนอลได้ ส่วนจะเป็นทีมไหนติดตามรับชมได้ทางจอช่อง 7HD และเว็บไซต์ Bugaboo.TV ในวันที่ 19 พฤษภาคม 2561 เวลา 23.00 น. ตามเวลาประเทศไทย อย่าพลาดชมน่ะครับ!
"ยอดี้"