ขี่มอเตอร์ไซค์ตามหาฟูจิซัน

"สวัสดีวัยรุ่น"

          ขออนุญาตทักทายด้วยคำว่า "วัยรุ่น" ทว่าคำนี้มันไม่ได้หมายความถึงตัวเลขของจำนวนวันเวลาที่เราได้มาอยู่บนโลกใบนี้ หรือปีศักราชบนหน้าบัตรประชาชนที่ติดตัวอยู่ตลอดเวลา แต่มันอาจมีนัยยะถึง ความกระฉับกระเฉง ความตื่นตัว ความสนุกสนานของชีวิตในขณะที่ยังมีลมหายใจ และแน่นอน 'การออกเดินทาง' ก็คงเป็นหนึ่งในสิ่งที่จะทำให้เรารู้สึกว่า 

"แกรรร..ฉันยังวัยรุ่นอยู่นะ.."

"เมิงงง..กูยังวัยรุ่นอยู่เว้ยย.."

"เธออ..เรี่ยวแรงฉันยังเหลือๆวะ.."


การไปประเทศญี่ปุ่นด้วยจำนวนวันที่ไม่เกิน 15 วัน เรื่องการขอวีซ่าก็ตัดทิ้งไปได้เลอะ เพราะเดี๋ยวนี้ไม่เหมือนแต่ก่อนที่ต้องขอวีซ่าในทุกกรณี ดังนั้นความวุ่นวายด้านเอกสารจึงลดน้อยลง ไม่ต้องมานั่งตอบคำถามกับแผนกวีซ่า ไม่ต้องไปหาเงินมาใส่บัญชีให้ดูเต็มๆ ตั๋วเครื่องบินก็ไม่โหดร้ายเหมือนเคย ค่าเงินก็ไม่น่าใจหายมากนักเมื่อดีดลูกคิดออกมาเวลาซื้อของ(100JPY = 29.20THB) จึงไม่แปลกที่พี่น้องชาวไทยไปเยือนประเทศญี่ปุ่นมากขึ้นกว่าแต่ก่อน ข้อมูล ความรู้ ข่าวสาร รีวิว เกี่ยวกับประเทศนี้จึงมีให้ค้นคว้าและถามไถ่เพียบ.. 

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เราได้ทำความรู้จักกับประเทศที่เชื่อว่าตัวเองเห็นพระอาทิตย์ขึ้นเป็นที่แรกของโลก "ดินแดนอาทิตย์อุทัย" และก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่เราได้พบกับแม่สาวน้อยอย่าง "Fuji-san" หรือ ภูเขาไฟฟูจิ แต่นี้จะเป็นครั้งแรกที่เราจะขึ้นควบมอเตอร์ไซค์แม่บ้านขี่วนรอบตัวเธอ แคมป์ปิ้งตามทะเลสาบต่างๆ ในบริเวณนั้น ไม่ว่าจะเป็น Lake Tanuki, Lake Motosu, Lake Shojiko, Lake Saiko, Lake Kawaguchi, Lake Yamanaka เพียงลำพัง ดื่มด่ำความงามของเธอในมุมมองที่ต่างไปจากเดิม และสัมผัสกับธรรมชาติตลอดสองข้างทาง นั่นแหละ..คือภาพสุดท้ายที่ปรากฏขึ้นในหัวกบาล..

เรื่องของเรื่องคือตั๋วเครื่องบินเราซื้อทิ้งไว้ตั้งแต่ปีที่แล้ว ทำให้ต้องเดินทางช่วงต้นเดือน พ.ค. และคิดว่าคนเริ่มน้อยลง(จากช่วงดอกซากุระบาน) ความหนาวเริ่มลดลงแต่ยังหลงเหลือความเย็นให้ได้สัมผัสบ้าง ค่าที่พักเริ่มถูกลง และก็บวกกับยังไม่เข้าฤดูฝนซะทีเดียว(ฤดูฝนปลาย พ.ค.- กลาง ก.ค.)  

ปะ! งั้นเราไปซัก 9 วันละกัน กำลังพอกรุ้มกริ่ม ไม่เปลืองจนเกินไป

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่