ต้องบอกก่อนเลยว่าแรกๆ เราไม่ได้เป็นติ่งเกาหลีอะไรหรอก แต่พอเห็นเพื่อนชอบเลยชอบไปด้วย เราเป็นติ่งมาได้เกือบจะ 2 ปีแล้วค่ะ และเราก็ยังเรียนอยู่ด้วย ติ่งทุกคนต่างก็รู้ว่าการเป็นติ่งมันต้องเสียตังไม่เสียมากก็น้อย เพราะอย่างน้อยๆเราก็อยากมีของที่ระลึกเมนตัวเองบ้าง
ช่วงแรกๆที่เราเป็นติ่งก็ไม่มีไรมากคะ ครอบครัวยังไม่มีใครรู้ เราก็แอบเป็นติ่งเงียบๆ ไม่เปิดเผยไรมาก ไม่โพสรูปเมนตัวเองลงในโชเชียลเพราะครอบครัวเราเต็มเลยคะ แต่พอช่วงหลังมาเราก็เริ่มมีอาการหวีดเมนตัวเองมากขึ้นจนวงที่เราชอบมา Fanmeeting (ศิลปินเกาหลีมาพบปะกับแฟนคลับและมาโปรโมตเพลง) ที่กรุงเทพ ราคาบัตรก็จะมี 5,000 4,500 3,500 3,000 2,000 ตอนแรกตงลงกับเพื่อนว่าจะไปในราคา 2,000 บ. แต่พอใกล้วันกดบัตรดันมีกิเลสอยากได้บัตร 5,000 และเราก็ได้บัตร 5,000 สมใจจริงๆ มันเป็นจำนวนเงินที่มากก็จริงแต่ถ้าสิ่งไหนที่เราทำมันเป็นความสุขเราก็ทำ เงิน 5,000 นี้เป็นที่เราไม่ได้ขอพ่อ-แม่หรือครอบครัวเลย เป็นเงินเก็บเราส่วนหนึ่งและแฟนออกให้ส่วนหนึ่ง เพราะครอบครัวยังไม่รู้ว่าเราเป็นติ่ง จนวันเดินทางไปงานแฟนมีตติ้ง เราก็ไปรับวงที่เราชอบอยู่สนามบินสุวรรณภูมิ เราดีใจมากที่ได้เห็นตัวจริง เรากรี๊ดหนักมาก และเราก็เผลอเรารูปเมนเราลงใน FB เราลงรูปเยอะมาก โดยเราเปิดโพสเป็นสาธารณะ หลังจากไปงานแฟนมีตติ้งเสร็จเราก็กลับมาเรียนตามปกติ เราลืมบอกไปค่ะว่าทุกเดือนเราจะได้ตังจากอาเราเดือนละ 1,000 บ้าง 500 บ้าง เราก็ไปเอาตังกับอาปกติคะ ตอนเจอหน้าอาเราไม่ได้พูดไรนะคะ แต่กลังจากเรามาถึงหออาเราเลยไลน์มาหาเราพร้อมด้วยประโยคนี้ "อย่าว่าฉันไม่รู้นะว่าเธอไปกรุงเทพ ไปหาไอ้หน้าเกาหลีนั้น มันทำให้เธอรวยหรอ เลิกบ้าได้แล้ว มันไม่ทำให้เธอมีอนาคตที่ดีหรอก" พอเราได้อ่านเราก็ไม่ได้ตอบไรไปคะ และตั้งแต่วันนั้นเราก็ไม่ไปเอาตังกับอาอีก และเรากับอาก็ไม่ได้คุยกันอีกเลย
พอวันที่เราเรียนจบเราก็ขนของส่วนหนึ่งกลับบ้านคะ โปรเตอร์วงบ้าง โพลาลอย กระเป๋า เสื้อ อัลบั้ม ของทุกอย่างเป็นของวงที่เราชอบหมดเลยค่ะ พอแม่เราเห็นแม่เราก็เข้ามาคุยกับเราเลยคะ "อันไหนที่มันทำให้เราเจริญเราก็ควรทำซะ ไม่ใช่มาฝันลมๆแล้งๆแบบนี้ เราไม่ได้รวยหรอกมีแต่เขารวย เลิกซะแล้วหางานทำ" พอเจอประโยคแบบนี้อึ้งเลยคะ เราเยหอบของทุกอย่างมาไว้ที่หอคะ กลัวแม่จะเอาไปทิ้ง จนถึงตอนนี้แม่เราก็ยังไม่ยอมรับเลยว่าเราเป็นติ่งเกาหลีเมื่อกลับบ้านไปแม่ก็มักจะถามว่าเลิกชอบไอ้เกาหลียัง เราก็ตอบไปว่าเลิกละ เพื่อความสบายใจของแม่คะ
มีบางคนเคยบอกเรานะคะว่า สิ่งไหนที่เราทำแล้วมีความสุขเราก็ทำ คนเรามันมีความชอบไม่เหมือนกัน ซึ่งตอนนี้เราก็เป็นติ่งไปเรื่อยๆค่ะ
เมน=คนที่เราชอบที่สุดในวง
ใครมีความคิดเห็นยังไงบอกเราได้นะค่ะ ขอบคุณที่ทนอ่านกัน
ประสบการณ์การเป็นติ่งเกาหลีครั้งแรกแต่ครอบครัวไม่เห็นด้วย
ช่วงแรกๆที่เราเป็นติ่งก็ไม่มีไรมากคะ ครอบครัวยังไม่มีใครรู้ เราก็แอบเป็นติ่งเงียบๆ ไม่เปิดเผยไรมาก ไม่โพสรูปเมนตัวเองลงในโชเชียลเพราะครอบครัวเราเต็มเลยคะ แต่พอช่วงหลังมาเราก็เริ่มมีอาการหวีดเมนตัวเองมากขึ้นจนวงที่เราชอบมา Fanmeeting (ศิลปินเกาหลีมาพบปะกับแฟนคลับและมาโปรโมตเพลง) ที่กรุงเทพ ราคาบัตรก็จะมี 5,000 4,500 3,500 3,000 2,000 ตอนแรกตงลงกับเพื่อนว่าจะไปในราคา 2,000 บ. แต่พอใกล้วันกดบัตรดันมีกิเลสอยากได้บัตร 5,000 และเราก็ได้บัตร 5,000 สมใจจริงๆ มันเป็นจำนวนเงินที่มากก็จริงแต่ถ้าสิ่งไหนที่เราทำมันเป็นความสุขเราก็ทำ เงิน 5,000 นี้เป็นที่เราไม่ได้ขอพ่อ-แม่หรือครอบครัวเลย เป็นเงินเก็บเราส่วนหนึ่งและแฟนออกให้ส่วนหนึ่ง เพราะครอบครัวยังไม่รู้ว่าเราเป็นติ่ง จนวันเดินทางไปงานแฟนมีตติ้ง เราก็ไปรับวงที่เราชอบอยู่สนามบินสุวรรณภูมิ เราดีใจมากที่ได้เห็นตัวจริง เรากรี๊ดหนักมาก และเราก็เผลอเรารูปเมนเราลงใน FB เราลงรูปเยอะมาก โดยเราเปิดโพสเป็นสาธารณะ หลังจากไปงานแฟนมีตติ้งเสร็จเราก็กลับมาเรียนตามปกติ เราลืมบอกไปค่ะว่าทุกเดือนเราจะได้ตังจากอาเราเดือนละ 1,000 บ้าง 500 บ้าง เราก็ไปเอาตังกับอาปกติคะ ตอนเจอหน้าอาเราไม่ได้พูดไรนะคะ แต่กลังจากเรามาถึงหออาเราเลยไลน์มาหาเราพร้อมด้วยประโยคนี้ "อย่าว่าฉันไม่รู้นะว่าเธอไปกรุงเทพ ไปหาไอ้หน้าเกาหลีนั้น มันทำให้เธอรวยหรอ เลิกบ้าได้แล้ว มันไม่ทำให้เธอมีอนาคตที่ดีหรอก" พอเราได้อ่านเราก็ไม่ได้ตอบไรไปคะ และตั้งแต่วันนั้นเราก็ไม่ไปเอาตังกับอาอีก และเรากับอาก็ไม่ได้คุยกันอีกเลย
พอวันที่เราเรียนจบเราก็ขนของส่วนหนึ่งกลับบ้านคะ โปรเตอร์วงบ้าง โพลาลอย กระเป๋า เสื้อ อัลบั้ม ของทุกอย่างเป็นของวงที่เราชอบหมดเลยค่ะ พอแม่เราเห็นแม่เราก็เข้ามาคุยกับเราเลยคะ "อันไหนที่มันทำให้เราเจริญเราก็ควรทำซะ ไม่ใช่มาฝันลมๆแล้งๆแบบนี้ เราไม่ได้รวยหรอกมีแต่เขารวย เลิกซะแล้วหางานทำ" พอเจอประโยคแบบนี้อึ้งเลยคะ เราเยหอบของทุกอย่างมาไว้ที่หอคะ กลัวแม่จะเอาไปทิ้ง จนถึงตอนนี้แม่เราก็ยังไม่ยอมรับเลยว่าเราเป็นติ่งเกาหลีเมื่อกลับบ้านไปแม่ก็มักจะถามว่าเลิกชอบไอ้เกาหลียัง เราก็ตอบไปว่าเลิกละ เพื่อความสบายใจของแม่คะ
มีบางคนเคยบอกเรานะคะว่า สิ่งไหนที่เราทำแล้วมีความสุขเราก็ทำ คนเรามันมีความชอบไม่เหมือนกัน ซึ่งตอนนี้เราก็เป็นติ่งไปเรื่อยๆค่ะ
เมน=คนที่เราชอบที่สุดในวง
ใครมีความคิดเห็นยังไงบอกเราได้นะค่ะ ขอบคุณที่ทนอ่านกัน