ยาวหน่อย เขียนผิดบ้างถูกบ้างต้องขออถัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ กระทู้แรกสำหรับผมเลย
.
.
.
เริ่มแรกเดิมทีผมเป็นคนบ้านคอกนา
ได้โอกาสมาเรียนในเมืองกรุงที่มหาลัยแห่งหนึ่ง
ตอนปี 1 เมื่อปฐมนิเทศ ผมสังเกตุนักศึกษาทุกคนดูบริสุทธิ์ผุดผ่อง ทุกคนพูดคุยกันด้วยถ้อยคำไพเราะ เกรงใจซึ่งกันและกัน ต่างคนต่างไม่รู้จักกัน ถึงวันเริ่มการเรียนการสอน นักศึกษาทุกคนเดินเรียนด้วยกันเป็นกลุ่มใหญ่ เริ่มทักทายแนะนำตัวเองเป็นปกติ ในคาบทุกคนต่างคุยกันบ้างเล็กน้อย แต่ไม่มาก
.
ตอนปี 2 ทุกคนคุยกันมากขึ้นรู้จักคนในห้องมากขึ่น เริ่มจับพวกจับฝูง(รวมผมด้วย)แบ่งกลุ่มใหญ่และมีกลุ่มย่อยๆถัดมาอีก ไปกินข้าวด้วยกัน ทำกิจกรรมด้วยกัน แต่เวลาเดินเรียนจะเดินตามกันเป็นกลุ่มย่อยๆอีกทีหนึ่ง เวลาปราศจากการเรียนการสอน ก็พากันไปเที่ยวนู้นนี่นั้น บลาๆๆ ไปดูหนังบ้างแหละ ซึ่งผมก็โอเค สนุกรื่นเริง
.
ปี 3 ถัดมา ทุกอย่างยังดูปกติ เพิ่มเติมคือเริ่มมีคนไม่พอใจคนนู้นคนนี้ แล้วมาเล่าบอกต่อเพื่อนคนอื่นในกลุ่มตัวเอง ซึ่งผมเองก็มองว่าเป็นเรื่องปกติ(ในด้านสมเหตุสมผล) จากหนึ่งคนเพิ่มเป็นสอง สามต่อไปเรื่อยๆ เกือบทุกเรื่องเริ่มมีการเอาอารมณ์ส่วนตัวเข้ามาเกี่ยว(ผมคิดว่ามันไม่ใช่ละ) แต่แล้วบางสิ่งก็บังเกิด เมื่อแต่ละคนเริ่มหมดความเกรงใจกัน(หรือคิดว่าสนิทกัน)เริ่มแสดงตัวตนของตัวเองออก จากเดิมที่จะมีขอบเขตซึ่งกันและกัน จากกลุ่มย่อยที่เริ่มมีลับหลังกันและกัน เช่น ผมนาย A ไม่พอใจนาย B (เรื่องประมาณว่า ข้าคือMaster แกคือ slave ข้าคิดสิ่งใด แกต้องคิดสิ่งนั้น ข้าไปไหน แกต้องไปตาม) จะมาเล่าให้นาย C D E ฟัง แต่ถ้านาย D ไม่เห็นด้วย นาย A จะมาเล่าให้นาย C E ฟังแทน ส่วนนาย D จะถูกมองว่าเลว ชั่ว เข้าข้างนาย B (นาย D ซวยแบบงงๆ) แล้วหลังจากนั้นเมื่อมีเรื่องงานเข้ามาเกี่ยว นายA จะพยายามเอางานให้นาย B และ D เยอะๆ เมื่อถึงเวลาสอบนาย A จะพยายามบอกให้นาย C และ D ไม่ต้องอ่านหนังสือกับ B และ C
เมื่อมีงานอะไร ก็จะเงียบไว้
แต่ละกลุ่มก็จะมีเรื่องคล้ายๆแบบนี้อยู่เป็นประจำ จนมีเหตุการณ์แตกกลุ่มและจับกลุ่มใหม่ ในการจับกลุ่มนี้ จะมีเกณฑ์ว่า ใครอยู่กับใครแล้วสบายใจก็อยู่กับลุ่มนั้น(ซึ่งผมก็เป็นหนึ่งในหมู่คนที่แตกออกมา)
ก็จะอะไรประมาณนี้นะครับ
.
ปี 4 สุดท้ายนี้ ก็จะแบบว่า "ไก่เห็นตีนงู งูเห็นนมไก่" ทุกคนใส่หน้ากากเข้าหากัน ต่างคนต่างรู้ว่าเป็นยังไงกัน เรื่องการจับกลุ่ม เสมือนจะถูกยกเลิกโดยปริยาย ซึ่งผมเองยังไม่ทันสังเกตุเรื่องนี้ซักเท่าไหร่ เพราะคิดว่าเพื่อนสมัยก่อน ประถม ม.ต้น ม.ปลาย หรือ ปวช. ที่บ้านนอกคอกนานั้น จะไม่มีเรื่องพวกนี้ให้เห็นเลย อาจจะมีบ้างแต่ก็สามารถคุยกันได้และไม่เป็นเรื่องใหญ่ ซึ่งต่างจากเด็กเมืองกรุง(ไม่รู้ว่าเป็นการเอาตัวรอดรึป่าว) จนมามีปัญหากับเพื่อนคนหนึ่งซึ่งอยู่ในกลุ่มเดียวกัน แต่ดันเป็นเมทกัน ส่วนมากจะเป็นการเตือนเล็กๆน้อยๆภายในหอพักนักศึกษาซะมากกว่า(ลืมบอกไป กลุ่มผมมีประมาณ 8-9 คน )สิ่งที่ผมพูด เพื่อนคนนี้แทบไม่ทำ แต่ผมให้แทนและไม่ได้คิดอะไร สักพักใหญ่ ผมสังเกตุเพื่อนคนนี้ ดูแปลกๆ แต่มารู้ภายหลังว่าเพื่อนคนนี้ไปนินทาลับหลัง เรื่องทุกเรื่องที่จะสามารถปั้นแต่งได้ แถมตอกไข่ปรุงเรื่องซะใหญ่โต ให้แต่ละกลุ่มฟัง (มีปัญหากันแต่ไม่คุย ไปคุยบอกกับคนอื่นซะงั้น)แต่เรื่องเพื่อนคนนี้ไม่ว่าเรื่องอะไร ผมไม่เคยบอกคนอื่น เนื่องจากตอนปี 2 สนิทกัน จากกลุ่มย่อยสู่กลุ่มใหญ่(โดนกันเป็นคนๆไป ไม่ใช่ผมคนเดียว) โดยนายนี้ไม่สนว่าจะสนิทสนมกับคนที่คุยด้วยไหม ขอเพียงได้ด่า นินทา พวกเขาชอบใจเป็นอันพอ ผมก็เพิ่งมารู้เพราะมีเพื่อนมาบอกอีกที แต่มีช่วงที่นายเมทคนนี้เหมือนจะรู้ว่ามีคนบอกผม เรื่องที่เขาทำอะไรแล้ว ผมกลับมาหอพัก นาย(เพื่อนรัก)คนนี้ ยิ้มเขิลๆ (คล้ายว่าความแตก)ไม่รู้เป็นธรรมเนียมของเด็กกรุงเทพฯหรือว่าอะไร ลับหลังด่า ต่อหน้าพูดดี แต่เหตุนี้ทำให้ผมได้เห็นเพื่อนจริงๆ เพียงไม่กี่คน(แต่ก็ชื่นใจล่ะ) ที่มีทัศนคติ
ที่ดีไม่มีพฤติกรรมเหล่านี้ และกระทำกับผมดั่งเพื่อนคนหนึ่งจริงๆ
..
ผมอยากจะถามว่า "เพื่อน" ที่ไม่ได้คิดว่าเราเป็นเพื่อนสำหรับเขา เราควรจะเป็นเพื่อนกับเขาต่อไหม เมื่อเรามีประโยชน์มาพึ่งพิง เมื่อเราเดือดร้อน ชั่งแม่ม
.
.
ไม่ทราบว่าเพื่อนๆใน Pantip เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้ไหมครับ และควรแก้ไขปัญหาอย่างไร
.
.
ขอบคุณด้วยความเคารพอย่างสูงครับ ที่สละเวลาของท่านอ่านจนจบ
สังคมมหาลัย สิ่งเหล่านี้เรียกว่าเพื่อนหรือไม่ ?
.
.
.
เริ่มแรกเดิมทีผมเป็นคนบ้านคอกนา
ได้โอกาสมาเรียนในเมืองกรุงที่มหาลัยแห่งหนึ่ง
ตอนปี 1 เมื่อปฐมนิเทศ ผมสังเกตุนักศึกษาทุกคนดูบริสุทธิ์ผุดผ่อง ทุกคนพูดคุยกันด้วยถ้อยคำไพเราะ เกรงใจซึ่งกันและกัน ต่างคนต่างไม่รู้จักกัน ถึงวันเริ่มการเรียนการสอน นักศึกษาทุกคนเดินเรียนด้วยกันเป็นกลุ่มใหญ่ เริ่มทักทายแนะนำตัวเองเป็นปกติ ในคาบทุกคนต่างคุยกันบ้างเล็กน้อย แต่ไม่มาก
.
ตอนปี 2 ทุกคนคุยกันมากขึ้นรู้จักคนในห้องมากขึ่น เริ่มจับพวกจับฝูง(รวมผมด้วย)แบ่งกลุ่มใหญ่และมีกลุ่มย่อยๆถัดมาอีก ไปกินข้าวด้วยกัน ทำกิจกรรมด้วยกัน แต่เวลาเดินเรียนจะเดินตามกันเป็นกลุ่มย่อยๆอีกทีหนึ่ง เวลาปราศจากการเรียนการสอน ก็พากันไปเที่ยวนู้นนี่นั้น บลาๆๆ ไปดูหนังบ้างแหละ ซึ่งผมก็โอเค สนุกรื่นเริง
.
ปี 3 ถัดมา ทุกอย่างยังดูปกติ เพิ่มเติมคือเริ่มมีคนไม่พอใจคนนู้นคนนี้ แล้วมาเล่าบอกต่อเพื่อนคนอื่นในกลุ่มตัวเอง ซึ่งผมเองก็มองว่าเป็นเรื่องปกติ(ในด้านสมเหตุสมผล) จากหนึ่งคนเพิ่มเป็นสอง สามต่อไปเรื่อยๆ เกือบทุกเรื่องเริ่มมีการเอาอารมณ์ส่วนตัวเข้ามาเกี่ยว(ผมคิดว่ามันไม่ใช่ละ) แต่แล้วบางสิ่งก็บังเกิด เมื่อแต่ละคนเริ่มหมดความเกรงใจกัน(หรือคิดว่าสนิทกัน)เริ่มแสดงตัวตนของตัวเองออก จากเดิมที่จะมีขอบเขตซึ่งกันและกัน จากกลุ่มย่อยที่เริ่มมีลับหลังกันและกัน เช่น ผมนาย A ไม่พอใจนาย B (เรื่องประมาณว่า ข้าคือMaster แกคือ slave ข้าคิดสิ่งใด แกต้องคิดสิ่งนั้น ข้าไปไหน แกต้องไปตาม) จะมาเล่าให้นาย C D E ฟัง แต่ถ้านาย D ไม่เห็นด้วย นาย A จะมาเล่าให้นาย C E ฟังแทน ส่วนนาย D จะถูกมองว่าเลว ชั่ว เข้าข้างนาย B (นาย D ซวยแบบงงๆ) แล้วหลังจากนั้นเมื่อมีเรื่องงานเข้ามาเกี่ยว นายA จะพยายามเอางานให้นาย B และ D เยอะๆ เมื่อถึงเวลาสอบนาย A จะพยายามบอกให้นาย C และ D ไม่ต้องอ่านหนังสือกับ B และ C
เมื่อมีงานอะไร ก็จะเงียบไว้
แต่ละกลุ่มก็จะมีเรื่องคล้ายๆแบบนี้อยู่เป็นประจำ จนมีเหตุการณ์แตกกลุ่มและจับกลุ่มใหม่ ในการจับกลุ่มนี้ จะมีเกณฑ์ว่า ใครอยู่กับใครแล้วสบายใจก็อยู่กับลุ่มนั้น(ซึ่งผมก็เป็นหนึ่งในหมู่คนที่แตกออกมา)
ก็จะอะไรประมาณนี้นะครับ
.
ปี 4 สุดท้ายนี้ ก็จะแบบว่า "ไก่เห็นตีนงู งูเห็นนมไก่" ทุกคนใส่หน้ากากเข้าหากัน ต่างคนต่างรู้ว่าเป็นยังไงกัน เรื่องการจับกลุ่ม เสมือนจะถูกยกเลิกโดยปริยาย ซึ่งผมเองยังไม่ทันสังเกตุเรื่องนี้ซักเท่าไหร่ เพราะคิดว่าเพื่อนสมัยก่อน ประถม ม.ต้น ม.ปลาย หรือ ปวช. ที่บ้านนอกคอกนานั้น จะไม่มีเรื่องพวกนี้ให้เห็นเลย อาจจะมีบ้างแต่ก็สามารถคุยกันได้และไม่เป็นเรื่องใหญ่ ซึ่งต่างจากเด็กเมืองกรุง(ไม่รู้ว่าเป็นการเอาตัวรอดรึป่าว) จนมามีปัญหากับเพื่อนคนหนึ่งซึ่งอยู่ในกลุ่มเดียวกัน แต่ดันเป็นเมทกัน ส่วนมากจะเป็นการเตือนเล็กๆน้อยๆภายในหอพักนักศึกษาซะมากกว่า(ลืมบอกไป กลุ่มผมมีประมาณ 8-9 คน )สิ่งที่ผมพูด เพื่อนคนนี้แทบไม่ทำ แต่ผมให้แทนและไม่ได้คิดอะไร สักพักใหญ่ ผมสังเกตุเพื่อนคนนี้ ดูแปลกๆ แต่มารู้ภายหลังว่าเพื่อนคนนี้ไปนินทาลับหลัง เรื่องทุกเรื่องที่จะสามารถปั้นแต่งได้ แถมตอกไข่ปรุงเรื่องซะใหญ่โต ให้แต่ละกลุ่มฟัง (มีปัญหากันแต่ไม่คุย ไปคุยบอกกับคนอื่นซะงั้น)แต่เรื่องเพื่อนคนนี้ไม่ว่าเรื่องอะไร ผมไม่เคยบอกคนอื่น เนื่องจากตอนปี 2 สนิทกัน จากกลุ่มย่อยสู่กลุ่มใหญ่(โดนกันเป็นคนๆไป ไม่ใช่ผมคนเดียว) โดยนายนี้ไม่สนว่าจะสนิทสนมกับคนที่คุยด้วยไหม ขอเพียงได้ด่า นินทา พวกเขาชอบใจเป็นอันพอ ผมก็เพิ่งมารู้เพราะมีเพื่อนมาบอกอีกที แต่มีช่วงที่นายเมทคนนี้เหมือนจะรู้ว่ามีคนบอกผม เรื่องที่เขาทำอะไรแล้ว ผมกลับมาหอพัก นาย(เพื่อนรัก)คนนี้ ยิ้มเขิลๆ (คล้ายว่าความแตก)ไม่รู้เป็นธรรมเนียมของเด็กกรุงเทพฯหรือว่าอะไร ลับหลังด่า ต่อหน้าพูดดี แต่เหตุนี้ทำให้ผมได้เห็นเพื่อนจริงๆ เพียงไม่กี่คน(แต่ก็ชื่นใจล่ะ) ที่มีทัศนคติ
ที่ดีไม่มีพฤติกรรมเหล่านี้ และกระทำกับผมดั่งเพื่อนคนหนึ่งจริงๆ
..
ผมอยากจะถามว่า "เพื่อน" ที่ไม่ได้คิดว่าเราเป็นเพื่อนสำหรับเขา เราควรจะเป็นเพื่อนกับเขาต่อไหม เมื่อเรามีประโยชน์มาพึ่งพิง เมื่อเราเดือดร้อน ชั่งแม่ม
.
.
ไม่ทราบว่าเพื่อนๆใน Pantip เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้ไหมครับ และควรแก้ไขปัญหาอย่างไร
.
.
ขอบคุณด้วยความเคารพอย่างสูงครับ ที่สละเวลาของท่านอ่านจนจบ