ตามหัวข้อแหละครับ ผมเพิ่งดู your lie in April มามันสะเทือนใจเกินไป (ผมเป็นโรคซึมเศร้า) ถึงขั้นคิดฆ่าตัวตายเลยทีเดียว อารมณ์เศร้ามันก็ค้างจนนอนไม่หลับ ร้องไห้แล้วร้องไห้อีก ถ้าถามว่าทำไมร้องไห้ปานนั้น เพราะว่าเรื่องนี้เหมือนชีวิตของผม เรื่องมันเริ่มเมื่อประมาณ2ปีก่อน ที่ทุกอย่างเกิดขึ้น ผมกำลังขึ้นปี2 ณ มหาวิทยาลัยแห่งนึง ก่อนอื่นต้องบอกไว้ก่อนว่าเป็นคนไม่ค่อยระบายอารมณ์(โกรธ โมโห เครียด)จะเก็บไว้แล้วหวังว่ามันจะหายไปเอง ทุกอย่างก็เมื่อจะไปได้ดี แต่แล้ววันนึงมันก็ระเบิด ผมทิ้งทุกอย่าง ทิ้งการเรียน ทิ้งเพื่อน ทิ้งครอบครัว เก็ยตัวอยู่ในห้องที่ ม. จนอาจารยสงสัยเลยนัดให้ไปที่คณะพร้อมผู้ปกครอง โดยอาจารย์พาหมอมารอไว้แล้ว แล้วก็ถูกส่งเข้าแผนกจิตเวช รับยามากินทุกๆวัน วันละ8เม็ด และมีรูมเมดคนนึงค่อยดูแล
ไม่ว่าเขาจะเรียนหนักแค่ไหน เขาก็จะกลับมาแล้วถามว่าไปข้างนอกกันไหม ไปถ่ายรูปกัน ผมก็เริ่มถ่ายรูปเล่นเพราะเขา เรามักออกไปถ่ายรูปเล่นเสมอๆ แต่ก็ไม่ได้ช่วยให้ผมดีขึ้นซักเท่าไหร่ จนวันนึงผมทนไม่ไหวผมก็บอกกับเขาว่า "กุอยู่ไม่ไหวแล้วว่ะ กุตายเลยได้ไหม" เขาตอบกลับมาประโยคนึง "ถ้ากุยังไม่ตาย ห้ามตาย" มันทำให้ผมรู้สึกว่า เพื่อนคนนี้แหละที่ทำให้ผมอยากมีชีวิตอยู่ต่อ เราไปเยาวราช ไปเชียงใหม่แต่ผมไม่ได้ไปเที่ยวกับเขาเต็มที่ ที่เชียงใหม่เพราะพ่อเป็นห่วงจึงตามไปด้วยกลายเป็นว่าแยกกันเที่ยว วันสุดท้ายก่อนกลับเขาชวนผมไปเที่ยว แต่ผมเป็นไมเกรนจึงปฎิเสธไป เรานั่งเครื่องกลับด้วยกัน มีรูปถ่ายกันพอสมควรให้มาอวดกัน แต่หลังจากนั้นประมาณ2-3เดือน เขาก็จากผมไปตลอดกาล ด้วยอุบัติเหตุ ที่หลัง ม. โดยปกติแล้ว เขามักชวนผมไป แต่เป็นวันที่ผมกลับเข้า กทม. มาหาพี่ คืนนั้นมีรูปส่งมา เป็นรูปที่เขาถ่ายกับเมตคนอื่นๆ กำลังมีความสุข เช้าวันรุ่งขึ้นเพื่อนก็โทรมาว่าเขาเสียแล้ว เหมือนทิ้งกันไว้ข้างหลัง ผมไม่สามารถร้องไห้ได้ ผมไม่เคยเชื่อว่าเขาตายไปแล้วจริงๆ ก่อนหน้าเขาจะเสีย เขาสัญญาว่าจะไปเที่ยวเชียงใหม่กันอีก แต่มันไม่มีโอกาสแล้ว ไฟล์รูปเกียวกับเขาที่ผมถ่ายไว้มันก็หายมีเพียงรูปโปรไฟล์เฟตบุ๊คของเขาที่ผมจำได้ว่าผมเป็นคนถ่ายให้เขาเองผมรู้สึกกลับมาเหมือนเดิมอีกครั้ง เราอยู่ไปทำไม ไม่มีคำสัญญาโง่ๆว่าห้ามตายอีกแล้ว
ผมก็ใชชีวิตอยู่กับมันอยู่กับแมวและ 2 เดือนถัดมาแมวที่เล่นด้วยประจำก็ตายเช่นกัน ผมจึงเริ่มทิ้งระยะกันทุกสิ่งและทุกอย่าง ผมเล่นแต่เกมคุยแต่กันคนที่ไม่เคยเจอกันในชีวิตจริง เพื่อจะได้ไม่รู้สึกผูกพันมากไป ผมเลิกหาหมอหยุดกินยาหวังว่าผมจะได้ตายสมใจเสียที แล้วก็มาถึงจุดที่ผมสามารถฆ่าตัวตายได้ แต่ผมก็ทำไม่ได้ ทั้งที่คำสัญญากับเพื่อนมันไม่มีแล้วแต่มันก็วนเวียนตลอด จนต้องกลับมาหาหมอเพราะอยู่ในจุดที่จะตายก็ทำไม่ได้ อยู่ไปก็ไม่ไหว
ผมเพิ่งกลับมาหาหมอ หวังว่าจะดีขึ้น มันก็ดีขึ้นมากแล้วแต่แผลในใจมันก็ไม่หาย จนผมมาดูเรื่องนี้ มันขุดแผลผมขึ้นมา ทำให้ผมรู้ว่าทำไม ผมถึงผลักทุกคนออกไป ทำไมผมอยากอยู่คนเดียวทั้งๆที่การเขาสังคมจะทำให้ผมหายได้ไว ผมผลักผู้หญิงทุกคนที่เขามาในชีวิตออก เพราะผมกลัว กลัวว่าต้องเสียคนที่ผมรักไปอีก อกหักมันเรื่องเล็ก แต่ถ้าสิ่งสำคัญตายจากไป ผมเลือกตายเองดีกว่า นั้นคือเหตุผล แต่ชั่งมันเถอะ หลายๆคนคงคิดว่าผมแต่งเรื่อง ก็ตัดสินใจเองว่าจะเชื่อหรือไม่ ที่สำคัญคือ ผมต้องการอะไรที่มาเยียวยาไม่ใช่มาขุดแผล
เลยมาถามหาอนิเมะโลกสวยเลยก็ดี เพื่อผ่อนคลายจิตใจครับ ได้โปรดอยากตอกย้ำ หรือแนะนำอะไรเลย ผมเลือกทางของผมแล้ว ผมแค่มาระบายและหายอนิเมะที่เยียวยาผมได้
ปล. ผมหาหมอประจำน่าจะยังไม่ตายง่ายๆ แต่มันก็ไม่แน่เสมอไป 55555
ปล.2 อนิเมะเรื่อง your lie in April ทำให้ผมหาเหตุผลที่จะตายได้ แต่ผมมีคำสัญญากับคนสำคัญอยู่เลยยังตายไม่ได้
ปล.3 ถ้าเพื่อนคนไหนมาอ่านแล้วจำเราได้ กรุณาอย่าแท็กในเฟตนะ ขอบคุณ : )
ปล.4 มีเรื่องไหนต้องห้ามบอกมาด้วยก็ดีนะครับจะได้ไม่ไปแตะต้องมัน
ปล.5 ผมดู nerflix เป็นหลังเรื่องที่มีก็จะน้อยหน่อย แต่ก็แนะนำกันเข้ามาแหละครับ : )
ต้องการอนิเมะที่ดูแล้วดีต่อใจครับ(ผมเป็นโรคซีมเศร้า)
ไม่ว่าเขาจะเรียนหนักแค่ไหน เขาก็จะกลับมาแล้วถามว่าไปข้างนอกกันไหม ไปถ่ายรูปกัน ผมก็เริ่มถ่ายรูปเล่นเพราะเขา เรามักออกไปถ่ายรูปเล่นเสมอๆ แต่ก็ไม่ได้ช่วยให้ผมดีขึ้นซักเท่าไหร่ จนวันนึงผมทนไม่ไหวผมก็บอกกับเขาว่า "กุอยู่ไม่ไหวแล้วว่ะ กุตายเลยได้ไหม" เขาตอบกลับมาประโยคนึง "ถ้ากุยังไม่ตาย ห้ามตาย" มันทำให้ผมรู้สึกว่า เพื่อนคนนี้แหละที่ทำให้ผมอยากมีชีวิตอยู่ต่อ เราไปเยาวราช ไปเชียงใหม่แต่ผมไม่ได้ไปเที่ยวกับเขาเต็มที่ ที่เชียงใหม่เพราะพ่อเป็นห่วงจึงตามไปด้วยกลายเป็นว่าแยกกันเที่ยว วันสุดท้ายก่อนกลับเขาชวนผมไปเที่ยว แต่ผมเป็นไมเกรนจึงปฎิเสธไป เรานั่งเครื่องกลับด้วยกัน มีรูปถ่ายกันพอสมควรให้มาอวดกัน แต่หลังจากนั้นประมาณ2-3เดือน เขาก็จากผมไปตลอดกาล ด้วยอุบัติเหตุ ที่หลัง ม. โดยปกติแล้ว เขามักชวนผมไป แต่เป็นวันที่ผมกลับเข้า กทม. มาหาพี่ คืนนั้นมีรูปส่งมา เป็นรูปที่เขาถ่ายกับเมตคนอื่นๆ กำลังมีความสุข เช้าวันรุ่งขึ้นเพื่อนก็โทรมาว่าเขาเสียแล้ว เหมือนทิ้งกันไว้ข้างหลัง ผมไม่สามารถร้องไห้ได้ ผมไม่เคยเชื่อว่าเขาตายไปแล้วจริงๆ ก่อนหน้าเขาจะเสีย เขาสัญญาว่าจะไปเที่ยวเชียงใหม่กันอีก แต่มันไม่มีโอกาสแล้ว ไฟล์รูปเกียวกับเขาที่ผมถ่ายไว้มันก็หายมีเพียงรูปโปรไฟล์เฟตบุ๊คของเขาที่ผมจำได้ว่าผมเป็นคนถ่ายให้เขาเองผมรู้สึกกลับมาเหมือนเดิมอีกครั้ง เราอยู่ไปทำไม ไม่มีคำสัญญาโง่ๆว่าห้ามตายอีกแล้ว
ผมก็ใชชีวิตอยู่กับมันอยู่กับแมวและ 2 เดือนถัดมาแมวที่เล่นด้วยประจำก็ตายเช่นกัน ผมจึงเริ่มทิ้งระยะกันทุกสิ่งและทุกอย่าง ผมเล่นแต่เกมคุยแต่กันคนที่ไม่เคยเจอกันในชีวิตจริง เพื่อจะได้ไม่รู้สึกผูกพันมากไป ผมเลิกหาหมอหยุดกินยาหวังว่าผมจะได้ตายสมใจเสียที แล้วก็มาถึงจุดที่ผมสามารถฆ่าตัวตายได้ แต่ผมก็ทำไม่ได้ ทั้งที่คำสัญญากับเพื่อนมันไม่มีแล้วแต่มันก็วนเวียนตลอด จนต้องกลับมาหาหมอเพราะอยู่ในจุดที่จะตายก็ทำไม่ได้ อยู่ไปก็ไม่ไหว
ผมเพิ่งกลับมาหาหมอ หวังว่าจะดีขึ้น มันก็ดีขึ้นมากแล้วแต่แผลในใจมันก็ไม่หาย จนผมมาดูเรื่องนี้ มันขุดแผลผมขึ้นมา ทำให้ผมรู้ว่าทำไม ผมถึงผลักทุกคนออกไป ทำไมผมอยากอยู่คนเดียวทั้งๆที่การเขาสังคมจะทำให้ผมหายได้ไว ผมผลักผู้หญิงทุกคนที่เขามาในชีวิตออก เพราะผมกลัว กลัวว่าต้องเสียคนที่ผมรักไปอีก อกหักมันเรื่องเล็ก แต่ถ้าสิ่งสำคัญตายจากไป ผมเลือกตายเองดีกว่า นั้นคือเหตุผล แต่ชั่งมันเถอะ หลายๆคนคงคิดว่าผมแต่งเรื่อง ก็ตัดสินใจเองว่าจะเชื่อหรือไม่ ที่สำคัญคือ ผมต้องการอะไรที่มาเยียวยาไม่ใช่มาขุดแผล
เลยมาถามหาอนิเมะโลกสวยเลยก็ดี เพื่อผ่อนคลายจิตใจครับ ได้โปรดอยากตอกย้ำ หรือแนะนำอะไรเลย ผมเลือกทางของผมแล้ว ผมแค่มาระบายและหายอนิเมะที่เยียวยาผมได้
ปล. ผมหาหมอประจำน่าจะยังไม่ตายง่ายๆ แต่มันก็ไม่แน่เสมอไป 55555
ปล.2 อนิเมะเรื่อง your lie in April ทำให้ผมหาเหตุผลที่จะตายได้ แต่ผมมีคำสัญญากับคนสำคัญอยู่เลยยังตายไม่ได้
ปล.3 ถ้าเพื่อนคนไหนมาอ่านแล้วจำเราได้ กรุณาอย่าแท็กในเฟตนะ ขอบคุณ : )
ปล.4 มีเรื่องไหนต้องห้ามบอกมาด้วยก็ดีนะครับจะได้ไม่ไปแตะต้องมัน
ปล.5 ผมดู nerflix เป็นหลังเรื่องที่มีก็จะน้อยหน่อย แต่ก็แนะนำกันเข้ามาแหละครับ : )