เริ่มต้นบิน Flight วันที่ 1 (Airport at BKK)
ตอน 2 ทุ่ม มาต่อเครื่องที่ Singapore ถึงตอน 5ทุ่ม ด้วยความหิวโหยจริงหาไรกินในโซน transit สั่งข้าวเป็ดที่ให้เยอะ มากกว่าข้าวหมูกรอบ และน้ำซึ่งแพงมาก 1.5usd singapore แนะนำให้พกขวดเปล่ามาเติมน้ำดื่มเองจะประหยัดได้เยอะเลยครับ นอนกลิ้งไปกลิ้งมารอต่อเครื่องตอน #8:35 ถึงเช้าวันที่ 6 ตอน #9:35 ด้วยสายการบินนกเหลือง
วันที่ 2 ของอินโด (Airport to Bromo)
ปรากฎว่ามาถึง ตม. อินโดนีเซียมีน้องไม่ผ่าน ตม. 1 คนเนื่องจาก Passport expire น้อยกว่า 6 เดือนครับ ทางนั้นจึงบังคับให้บินกลับบ้านโดยด่วนที่สุด ซึ่งตอนแรกทางสายการบินจะให้ซื้อตั๋วกลับบ้านเองครับ แต่เราสามารถเรียกให้ ตม. มาช่วยคุยต่อรองกลับบ้านฟรีได้ครับ
OMG
อย่างเศร้าครับทริปมา 3 แต่เที่ยว 2 คน
the show must go on จึงต้องจำใจเที่ยวแทนน้อง แล้วเดินมาหา local guide
ที่ยืนรอพวกเราจนเหงือกแห้งงงง และไกด์ได้พาเราไปกินอาหารที่เขาว่าขึ้นชื่อในย่านนี้
จะบอกว่าอร่อยมากเป็นคล้ายๆ พะแนงบ้านเรากับมัสมั่นราคาตกประมาณ 90000 idr
#แนะนำว่าให้ซื้อซิมนอกสนามบินนะครับถูกกว่ากันประมาณ 20000++ idr
และก็นั่งรถแบบโงกเงกๆประมาณ 3 ชั่วโมงก็ถึงที่พักละแวก Bromo ครับไกด์บอกว่าให้ตื่นตีสองเด้อออ OMG เมื่อคืนก็ไม่ได้นอนวันนี้ก็ต้องตื่นเช้า
ละแวกที่พักเหงาหงอยมากกก มีลุงขายไก่ปิ้ง 9 ไม้ 13000 idr กับข้าวหน้าตาคล้ายๆข้าวหลามบ้านเรา แต่แฉะๆ ไม่ค่อยอร่อย 5000 idr ท้องอิ่มตาก็จะหย่อนๆ หน่อย นอนพักผ่อนเก็บแรงสำหรับพรุ่งนี้ครับ
#ถ้าจิตใจเราสะอาดน้ำไม่ต้องอาบก็ได้
วันที่ 3 (ฺSunrise - Mount Bromo - Savana - Madakaripura waterfall)
local guide บอกว่าคนขับรถเลตนิดหน่อยนัดเจอตอน 2:30 ก็ได้นั่งรถ Jeep แต่ถนนไม่ชิคเกือบ ชั่วโมง เวียนหัวมากกก พอมาถึงก็แวะดื่มโกโก้ เพิ่มพลังนิดนึ่งก่อนเดินขึ้นไปชมพระอาทิตย์ขึ้น
บอกเลยว่ารีวิวที่เห็นดาวก่อนพระอาทิตย์ขึ้นกับ แสงแรกของวันสวยงามมากกกก #มัวแต่ยืนดูไม่ได้ถ่ายมา
หลังจากนั้นนั่งรถไป ปากปล่องภูเขาไฟ Bromo
โอ้แม่เจ้า โครตไกลครับจากจุดที่รถจอด เราก็เลยเช่าม้าขี่ครับ อยากชิคๆ โดนไป 160000 IDR พาขึ้นพาลง สบายๆไม่ต้องเดินขาลาก ขึ้นไปข้างบนจะมีกลิ่นเหมือนตด แปลกๆ แนะนำว่าหาอะไรปิดจมูก ไม่สูดดมก็ดีครับ
หลังจากนั้นไปต่อกันที่ทุ่งหญ้า Savana ในมุมผมรู้สึกเฉยๆ ครับ อารมณ์แบบทุ่งหญ้าเวิ้งว้างงงง กว้างไกล ดูแล้วเหงาๆพิลึก รู้สึกว่าอยู่สักแปปเดียวก็กลับที่พัก ทานข้าวเช้าแล้วแพคกระเป๋าเดินทางต่อไปยัง Ijen ครับ
#ถ้าใจเราสะอาดน้ำไม่ต้องอาบก็ได้
บะบาย Bromo Mount
ก่อนที่จะเดินทางไปยัง Ijen ทาง local guide ได้พาแวะน้ำตก Madakaripura ส่วนตัวรู้สึกว่าชอบนะครับเย็นสบายดีแต่ต้องเดินเข้าไป 1 โล เดินกลับมาอีกก็ 1 โล local guide แนะนำว่าน้ำดื่มได้ครับ แต่ไม่ให้เล่นน้ำครับเพราะลึกมากกกกก 6 เมตรเลยทีเดียวถ้าจมไปนี่ ลาก่อยเลยครับ
หลังจากนั้นไกด์ก็พาเราเดินทางต่อครับ จากน้ำตก Madakaripura ก็ใช้เวลาร่วมๆ 7 ชั่วโมง OMG
เราก็โอเครเหมือนถนนบ้านเรานั่นแหละ สบายๆ ที่ไหนได้โอ้แม่เจ้า โค้งแล้วโค้งอีก ทั้งบีบแตร ทั้งเบรค ทั้งถนนเลนเดียว นอนก็ไม่ได้ สุดๆไปเลยพี่บ่าววววว
หลังจากที่สลบไสลไปพักหนึ่ง ก็แวะพักทานข้าวกันที่ร้านอาหาร ซึ่งจำชื่อร้านไม่ได้แล้ว
สั่งมา 2-3 อย่างแบ่งๆกันกิน มีปลาทอด ไก่ และเนื้อ
แม่เจ้าปลาทอดตอนแรกก็นึกว่าแบบ ทอดชุบแป้งทอดแบบร้านอาหาร ไม่ใช่นาจาาา ทอดแบบปลาทอดจริงๆ ทอดแบบแม่ทอดให้กิน Shock นิดหน่อยก็แต่ก็อร่อยดีครับ
ส่วนเนื้อกับไก่ ก็อร่อยดีครับ รสชาติคล้ายๆ มัสมั่นบ้านเรา แต่รู้สึกว่าอร่อยกว่า หรือเพราะหิวก็ไม่แน่ใจ
หลังจากนั้นขับรถไปได้สักพักหนึ่งไกด์บอกว่าจะพากินขนมที่นี่ เขาเลี้ยงเราด้วยสุดยอดอ้ะ รสชาติขนมก็อร่อยนะ แต่ออกหวานๆไปหน่อย รวมๆแล้วก็โอเคร
#ไม่ได้ถ่ายรูปขนมมาเนื่องจากเพลียกับการนั่งรถและความหนาวเหน็บ
พอมาถึงที่พักตอน 3 ทุ่มเริ่มมีอาการแปลกๆ เหมือนจะไม่สบาย และนึกสภาพที่ต้องเดินขึ้นทางชัน 3 โลแถมยังต้องเดินลงกลับมาอีก 3 โลนี่ก็เครียดตึบๆเลย กลัวว่าลูกทริปจะเอาไม่ไหว แต่นางใจสู้กว่าเรา
"นานๆ จะมาที ผ่านมาแล้วก็ต้องเอาให้สุดดิ" เท่านั้นแหละไม่ลังเลจ้าาา บวกมันนนน เพื่อ Bluefire
หลังจากนั้นก็แยกย้ายพักผ่อน สลบไสล กันอย่างรวดเร็วเพราะไกด์นัดเจอตอนตี 2 #อีกแล้วเด้อออ
วันที่ 4 (Mount Ijen - Bali)
แหกขี้ตาตื่นและแพคกระเป๋า เพื่อเดินทางต่อไปยังตีนเขา Ijen และพบกับ Local guide อีกคนที่จะพาสังขาร ขึ้นไปบนยอดเขา Ijen ของเรากัน
โมเม้นตอนนั้นคือ หนาวสัสเลยครับ สั่นแหงกๆ หนาวแบบโอ้โห กุพาตัวเองมาลำบากทำไมเนี่ยยยยย
#ถ้าใจเราสะอาดน้ำไม่ต้องอาบก็ได้
เริ่มต้นเดินขึ้นไปได้สักพัก ลูกทริปเรามีแววจะเป็นลม ซวยละครับทีนี้ แต่ด้วยใจที่ห้าวหาญ (ห้าวจัง) ของเทอจึงพูดออกมาว่า "ขอพักก่อนไม่ไหวแล้ว"
ก็เดินไปพักไปครับ แต่พอถึงช่วง 1 โลสุดท้ายทางก็ไม่ลาดชันแล้วครับ เดินสบายๆ ไกด์ก็น่ารักดีครับ ตอนแรกนางจะสูบบุหรี่ แต่เราขอว่าอย่าสูบเหอะ เราไม่โอเคร นางก็ยอมแล้วขอโทษขอโพยครับ
พอเดินมาได้สักพักก็เจอยอดเขาแล้วครับ แต่พอรู้ว่าต้องลงไปเพื่อดู Bluefire ก็นะ 555555555 ตรูนั่งรอตรงนี้ดีกว่า แค่คิดก็จะเป็นลมล้ะ
แต่ไกด์ก็ใจดีนะครับ อุตส่าห์แบกกล้องลงไปถ่ายให้พวกเรา ก็เลยให้สินน้ำใจไป 1 แสน (IDR) ยิ้มแก้มปริเลยครับ
พอมาถึงช่วงที่เดินกลับครับ โอ้แม่เจ้าสวยงามมากยอดเขา มีทะเลหมอก อือหือออออออ รักมากก ไม่รู้จะบรรยายยังไงเลยครับ
พอเดินกันไปได้สักพักเริ่มรู้สึกขี้เกียจเดินลง ตัดสินใจจ้าง Taxi จ้าาาาาา โดนไป 150000 IDR สภาพ Taxi ที่รู้สึกว่าควรจ่ายก็ประมาณนี้ เพื่อซื้อเวลา
พอลงมาที่เนินเขาแล้ว ก็ Say goodbye กัน หลังจากนั้นไกด์ก็ขับรถมาส่งที่ท่าเรือ แล้วก็ร่ำลากัน
ข้ามฝากมาใช้เวลา 1 ชั่วโมง รู้สึกว่าจะไม่มีรถตรงไป Ubud เลย เลยตัดสินใจเหมา Taxi ไป พี่แกคิด 700000 IDR พ่อเมิง แพงไปล้ะ ในใจนี่จะยอมจ่ายสัก 350000 IDR
มาเจออีกกลุ่มนึ่งคิด 470000 IDR เราก็เดินหนี
ก็เดินตาม ร่วมครึ่งโลได้ ทั้งเหนื่อยทั้งร้อน หน้าก็โหดมาก เรียกผ่านแอพก็ไม่ได้ ตอนแรกนึกว่าเดินหนีพวกนั้นพ้นล่ะ
ไอ้สาดดด
ขี่มอไซตามมา 5555555
มาต่อบอก 430000 IDR เอาเถอะ นั่งขำกับลูกทริป คือยอมใจในความตื้อหรือว่าเป็นห่วงพวกเราหรือเพราะแถวนี้มันไม่มีรถก็ไม่รู้
นั่งรถมาเรื่อยๆ ร่วม 3 ชั่วโมงได้ ก็มาโผล่ที่ Ubud เรียบร้อย Check in ที่พัก และด้วยความหิวโซว่าจะหาข้าวกินกัน ที่ร้าน Cafe pomegranate ร้านเช่ามอไซต์บอก ยังเช่าไม่ได้เด้อต้องรอคนมาคืนรถก่อนหลัง 5 โมงเย็น
เวรละทีนี้ฉันจะไปยังไง ไม่ยากครับโหลดแอพ GO-JEK มาลงทะเบียนด้วยเบอร์โทร Sim ที่อินโดก็ใช้งานได้ง่ายๆแล้วครับ แต่ระวังบางคนปั่นราคาจากที่ระบุในแอพนะครับ ซึ่งเราจะยอมหรือไม่ยอมก็แล้วแต่เพื่อนๆ เลยเด้อ
กินข้าวเสร็จก็แยกย้ายกันพักผ่อนครับเก็บแรงเที่ยว Ubud พรุ่งนี้ต่อ
pic :
https://www.tripadvisor.in/Hotel_Review-g297701-d2445403-Reviews-Chili_Cottage-Ubud_Bali.html#photos;aggregationId=101&albumid=101&filter=7&ff=129948840
Website :
http://chilicottageubud.com/
[CR] รีวิวเที่ยวอินโด 6 วันอยู่สบายๆ จ่ายอย่างเดียวหมื่นสองก็เอาอยู่เด้อ
อยู่สบายๆ จ่ายอย่างเดียวหมื่นสองก็เอาอยู่เด้อ
สวัสดีเพื่อนๆ ชาวพันทิพย์ทุกคนนะครับ วันนี้ผมจะมารีวิวค่าใช้จ่ายและวิวที่สวยงามมากกกก #ถ้าไปดูเอง ให้ทุกคนได้รับชมกันครับ
ฝากติดตามเพจ Travel Miles Away [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ขอฝากวิดิโอด้วยนะครับ
แนะนำทีมไกด์นี้นะครับ น่ารักและเป็นกันเองมากๆ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เริ่มต้นบิน Flight วันที่ 1 (Airport at BKK)
ตอน 2 ทุ่ม มาต่อเครื่องที่ Singapore ถึงตอน 5ทุ่ม ด้วยความหิวโหยจริงหาไรกินในโซน transit สั่งข้าวเป็ดที่ให้เยอะ มากกว่าข้าวหมูกรอบ และน้ำซึ่งแพงมาก 1.5usd singapore แนะนำให้พกขวดเปล่ามาเติมน้ำดื่มเองจะประหยัดได้เยอะเลยครับ นอนกลิ้งไปกลิ้งมารอต่อเครื่องตอน #8:35 ถึงเช้าวันที่ 6 ตอน #9:35 ด้วยสายการบินนกเหลือง
วันที่ 2 ของอินโด (Airport to Bromo)
ปรากฎว่ามาถึง ตม. อินโดนีเซียมีน้องไม่ผ่าน ตม. 1 คนเนื่องจาก Passport expire น้อยกว่า 6 เดือนครับ ทางนั้นจึงบังคับให้บินกลับบ้านโดยด่วนที่สุด ซึ่งตอนแรกทางสายการบินจะให้ซื้อตั๋วกลับบ้านเองครับ แต่เราสามารถเรียกให้ ตม. มาช่วยคุยต่อรองกลับบ้านฟรีได้ครับ
OMG อย่างเศร้าครับทริปมา 3 แต่เที่ยว 2 คน
the show must go on จึงต้องจำใจเที่ยวแทนน้อง แล้วเดินมาหา local guide
ที่ยืนรอพวกเราจนเหงือกแห้งงงง และไกด์ได้พาเราไปกินอาหารที่เขาว่าขึ้นชื่อในย่านนี้
จะบอกว่าอร่อยมากเป็นคล้ายๆ พะแนงบ้านเรากับมัสมั่นราคาตกประมาณ 90000 idr
#แนะนำว่าให้ซื้อซิมนอกสนามบินนะครับถูกกว่ากันประมาณ 20000++ idr
และก็นั่งรถแบบโงกเงกๆประมาณ 3 ชั่วโมงก็ถึงที่พักละแวก Bromo ครับไกด์บอกว่าให้ตื่นตีสองเด้อออ OMG เมื่อคืนก็ไม่ได้นอนวันนี้ก็ต้องตื่นเช้า
ละแวกที่พักเหงาหงอยมากกก มีลุงขายไก่ปิ้ง 9 ไม้ 13000 idr กับข้าวหน้าตาคล้ายๆข้าวหลามบ้านเรา แต่แฉะๆ ไม่ค่อยอร่อย 5000 idr ท้องอิ่มตาก็จะหย่อนๆ หน่อย นอนพักผ่อนเก็บแรงสำหรับพรุ่งนี้ครับ
#ถ้าจิตใจเราสะอาดน้ำไม่ต้องอาบก็ได้
วันที่ 3 (ฺSunrise - Mount Bromo - Savana - Madakaripura waterfall)
local guide บอกว่าคนขับรถเลตนิดหน่อยนัดเจอตอน 2:30 ก็ได้นั่งรถ Jeep แต่ถนนไม่ชิคเกือบ ชั่วโมง เวียนหัวมากกก พอมาถึงก็แวะดื่มโกโก้ เพิ่มพลังนิดนึ่งก่อนเดินขึ้นไปชมพระอาทิตย์ขึ้น
บอกเลยว่ารีวิวที่เห็นดาวก่อนพระอาทิตย์ขึ้นกับ แสงแรกของวันสวยงามมากกกก #มัวแต่ยืนดูไม่ได้ถ่ายมา
หลังจากนั้นนั่งรถไป ปากปล่องภูเขาไฟ Bromo
โอ้แม่เจ้า โครตไกลครับจากจุดที่รถจอด เราก็เลยเช่าม้าขี่ครับ อยากชิคๆ โดนไป 160000 IDR พาขึ้นพาลง สบายๆไม่ต้องเดินขาลาก ขึ้นไปข้างบนจะมีกลิ่นเหมือนตด แปลกๆ แนะนำว่าหาอะไรปิดจมูก ไม่สูดดมก็ดีครับ
หลังจากนั้นไปต่อกันที่ทุ่งหญ้า Savana ในมุมผมรู้สึกเฉยๆ ครับ อารมณ์แบบทุ่งหญ้าเวิ้งว้างงงง กว้างไกล ดูแล้วเหงาๆพิลึก รู้สึกว่าอยู่สักแปปเดียวก็กลับที่พัก ทานข้าวเช้าแล้วแพคกระเป๋าเดินทางต่อไปยัง Ijen ครับ
#ถ้าใจเราสะอาดน้ำไม่ต้องอาบก็ได้
บะบาย Bromo Mount
ก่อนที่จะเดินทางไปยัง Ijen ทาง local guide ได้พาแวะน้ำตก Madakaripura ส่วนตัวรู้สึกว่าชอบนะครับเย็นสบายดีแต่ต้องเดินเข้าไป 1 โล เดินกลับมาอีกก็ 1 โล local guide แนะนำว่าน้ำดื่มได้ครับ แต่ไม่ให้เล่นน้ำครับเพราะลึกมากกกกก 6 เมตรเลยทีเดียวถ้าจมไปนี่ ลาก่อยเลยครับ
หลังจากนั้นไกด์ก็พาเราเดินทางต่อครับ จากน้ำตก Madakaripura ก็ใช้เวลาร่วมๆ 7 ชั่วโมง OMG เราก็โอเครเหมือนถนนบ้านเรานั่นแหละ สบายๆ ที่ไหนได้โอ้แม่เจ้า โค้งแล้วโค้งอีก ทั้งบีบแตร ทั้งเบรค ทั้งถนนเลนเดียว นอนก็ไม่ได้ สุดๆไปเลยพี่บ่าววววว
หลังจากที่สลบไสลไปพักหนึ่ง ก็แวะพักทานข้าวกันที่ร้านอาหาร ซึ่งจำชื่อร้านไม่ได้แล้ว สั่งมา 2-3 อย่างแบ่งๆกันกิน มีปลาทอด ไก่ และเนื้อ
แม่เจ้าปลาทอดตอนแรกก็นึกว่าแบบ ทอดชุบแป้งทอดแบบร้านอาหาร ไม่ใช่นาจาาา ทอดแบบปลาทอดจริงๆ ทอดแบบแม่ทอดให้กิน Shock นิดหน่อยก็แต่ก็อร่อยดีครับ
ส่วนเนื้อกับไก่ ก็อร่อยดีครับ รสชาติคล้ายๆ มัสมั่นบ้านเรา แต่รู้สึกว่าอร่อยกว่า หรือเพราะหิวก็ไม่แน่ใจ
หลังจากนั้นขับรถไปได้สักพักหนึ่งไกด์บอกว่าจะพากินขนมที่นี่ เขาเลี้ยงเราด้วยสุดยอดอ้ะ รสชาติขนมก็อร่อยนะ แต่ออกหวานๆไปหน่อย รวมๆแล้วก็โอเคร
#ไม่ได้ถ่ายรูปขนมมาเนื่องจากเพลียกับการนั่งรถและความหนาวเหน็บ
พอมาถึงที่พักตอน 3 ทุ่มเริ่มมีอาการแปลกๆ เหมือนจะไม่สบาย และนึกสภาพที่ต้องเดินขึ้นทางชัน 3 โลแถมยังต้องเดินลงกลับมาอีก 3 โลนี่ก็เครียดตึบๆเลย กลัวว่าลูกทริปจะเอาไม่ไหว แต่นางใจสู้กว่าเรา
"นานๆ จะมาที ผ่านมาแล้วก็ต้องเอาให้สุดดิ" เท่านั้นแหละไม่ลังเลจ้าาา บวกมันนนน เพื่อ Bluefire
หลังจากนั้นก็แยกย้ายพักผ่อน สลบไสล กันอย่างรวดเร็วเพราะไกด์นัดเจอตอนตี 2 #อีกแล้วเด้อออ
วันที่ 4 (Mount Ijen - Bali)
แหกขี้ตาตื่นและแพคกระเป๋า เพื่อเดินทางต่อไปยังตีนเขา Ijen และพบกับ Local guide อีกคนที่จะพาสังขาร ขึ้นไปบนยอดเขา Ijen ของเรากัน
โมเม้นตอนนั้นคือ หนาวสัสเลยครับ สั่นแหงกๆ หนาวแบบโอ้โห กุพาตัวเองมาลำบากทำไมเนี่ยยยยย
#ถ้าใจเราสะอาดน้ำไม่ต้องอาบก็ได้
เริ่มต้นเดินขึ้นไปได้สักพัก ลูกทริปเรามีแววจะเป็นลม ซวยละครับทีนี้ แต่ด้วยใจที่ห้าวหาญ (ห้าวจัง) ของเทอจึงพูดออกมาว่า "ขอพักก่อนไม่ไหวแล้ว"
ก็เดินไปพักไปครับ แต่พอถึงช่วง 1 โลสุดท้ายทางก็ไม่ลาดชันแล้วครับ เดินสบายๆ ไกด์ก็น่ารักดีครับ ตอนแรกนางจะสูบบุหรี่ แต่เราขอว่าอย่าสูบเหอะ เราไม่โอเคร นางก็ยอมแล้วขอโทษขอโพยครับ
พอเดินมาได้สักพักก็เจอยอดเขาแล้วครับ แต่พอรู้ว่าต้องลงไปเพื่อดู Bluefire ก็นะ 555555555 ตรูนั่งรอตรงนี้ดีกว่า แค่คิดก็จะเป็นลมล้ะ
แต่ไกด์ก็ใจดีนะครับ อุตส่าห์แบกกล้องลงไปถ่ายให้พวกเรา ก็เลยให้สินน้ำใจไป 1 แสน (IDR) ยิ้มแก้มปริเลยครับ
พอมาถึงช่วงที่เดินกลับครับ โอ้แม่เจ้าสวยงามมากยอดเขา มีทะเลหมอก อือหือออออออ รักมากก ไม่รู้จะบรรยายยังไงเลยครับ
พอเดินกันไปได้สักพักเริ่มรู้สึกขี้เกียจเดินลง ตัดสินใจจ้าง Taxi จ้าาาาาา โดนไป 150000 IDR สภาพ Taxi ที่รู้สึกว่าควรจ่ายก็ประมาณนี้ เพื่อซื้อเวลา
พอลงมาที่เนินเขาแล้ว ก็ Say goodbye กัน หลังจากนั้นไกด์ก็ขับรถมาส่งที่ท่าเรือ แล้วก็ร่ำลากัน
ข้ามฝากมาใช้เวลา 1 ชั่วโมง รู้สึกว่าจะไม่มีรถตรงไป Ubud เลย เลยตัดสินใจเหมา Taxi ไป พี่แกคิด 700000 IDR พ่อเมิง แพงไปล้ะ ในใจนี่จะยอมจ่ายสัก 350000 IDR
มาเจออีกกลุ่มนึ่งคิด 470000 IDR เราก็เดินหนีก็เดินตาม ร่วมครึ่งโลได้ ทั้งเหนื่อยทั้งร้อน หน้าก็โหดมาก เรียกผ่านแอพก็ไม่ได้ ตอนแรกนึกว่าเดินหนีพวกนั้นพ้นล่ะ
ไอ้สาดดด ขี่มอไซตามมา 5555555 มาต่อบอก 430000 IDR เอาเถอะ นั่งขำกับลูกทริป คือยอมใจในความตื้อหรือว่าเป็นห่วงพวกเราหรือเพราะแถวนี้มันไม่มีรถก็ไม่รู้
นั่งรถมาเรื่อยๆ ร่วม 3 ชั่วโมงได้ ก็มาโผล่ที่ Ubud เรียบร้อย Check in ที่พัก และด้วยความหิวโซว่าจะหาข้าวกินกัน ที่ร้าน Cafe pomegranate ร้านเช่ามอไซต์บอก ยังเช่าไม่ได้เด้อต้องรอคนมาคืนรถก่อนหลัง 5 โมงเย็น
เวรละทีนี้ฉันจะไปยังไง ไม่ยากครับโหลดแอพ GO-JEK มาลงทะเบียนด้วยเบอร์โทร Sim ที่อินโดก็ใช้งานได้ง่ายๆแล้วครับ แต่ระวังบางคนปั่นราคาจากที่ระบุในแอพนะครับ ซึ่งเราจะยอมหรือไม่ยอมก็แล้วแต่เพื่อนๆ เลยเด้อ
กินข้าวเสร็จก็แยกย้ายกันพักผ่อนครับเก็บแรงเที่ยว Ubud พรุ่งนี้ต่อ
pic : https://www.tripadvisor.in/Hotel_Review-g297701-d2445403-Reviews-Chili_Cottage-Ubud_Bali.html#photos;aggregationId=101&albumid=101&filter=7&ff=129948840
Website : http://chilicottageubud.com/