อยากมาระบายมากเลยค่ะ
เราไม่รู้ว่าเราไปทำอะไรให้เขาไม่พอใจหรือโกรธมากขนาดนี้ เราก็ไม่เคยไปยุ่งกับเขานะ
คือเรามีปัญหากับครูที่รร.
เพราะเราเป็นนักกีฬาโควตาแต่ก็เป็นอยู่ไม่นานประมาณเกือบปี (ก่อนเป็นโควตาเล่นมาเกือบ2ปี) เรามีปัญหากับสังคมในนั้นมาก ไม่รู้จะคุยกับใคร
พอคุยกับเขาๆก็คุยเรื่องที่เราไม่รู้จักเราเลยไม่รู้จะคุยอะไรด้วย และก็ไม่ค่อยมีใครชอบเราเพราะเราสนิทกับครูจนไม่เข้าสังคมมั้ง? แต่เรายังมีรุ่นพี่คนหนึ่งที่เรายังคุยด้วยได้
รักกันถึงจะมีทะเลาะกันบ้างแต่เราก็ต้องเป็นคนขอโทษตลอด ไม่ว่าเขาผิดหรือเราผิดเราต้องขอโทษ คบกับมาจะ2ปี มาทะเลาะกันอีก เขาไม่เชื่อใจเราเลย เราเล่าเรื่องที่เข้าใจผิดให้เขาฟังแต่เขาก็บอกไม่เชื่อใจเรา
ขนาดคนสนิทยังไม่เชื่อใจเลยแล้วจะให้เราทำยังไงดี บวกกับภาวะสังคมที่เราเข้าไม่ได้ ทำให้เราเครียด ไปสู้หน้าเขาไม่ได้ เพราะเรารู้สึกว่ากลายเป็นคนที่สังคมรังเกลียดไปแล้ว
ส่วนหนึ่งเขาก็ไม่ค่อยชอบเราเท่าไหร่ อาจจะเพราะเราเล่นกีฬาไม่เก่งเท่าเขาหรือเปล่าเราไม่รู้ เราเครียดจนเราปรึกษาพ่อแม่ ท่านก็บอกให้เราลาออกเพราะเราเป็นโควตา เราก็ตัดสินใจจะลาออกเพราะเราเข้ามาโดยวิธีนี้ ถ้าไม่ซ้อมเราก็ลาออกน่าจะดีที่สุด
ตอนนั้นเราอยู่ม4 เราเลยกะจะไปเริ่มเรียนม4เทอม2ใหม่ ที่รร.ใหม่ วันนั้นเราเอาพ่อแม่เข้าไปคุยกับรองผอ.คุยไปคุยมาถึงปัญหาที่เราเจออยู่ เรารู้ว่ามันก็แค่ทะเลาะกันจะอะไรหนักหนา แต่ความรู้สึกเรามันพังไปแล้วอะ ทั้งจากสังคมจากคนสนิท จากอะไรหลายๆอย่างจนทำให้เราไม่อยาก
จะไปรร.เพราะไม่อยากเจอหน้าใครทั้งนั้น พอคุยเสร็จเราก็บอกรองว่าจะขอลาออกแต่เขาบอกว่าไม่ต้องออกก็ได้ แค่ทำเกรดให้เกิน3.00ก็พอ เราก็เครียดเพราะถ้าเราไม่ไปซ้อมเวลาเราขึ้นม.5 เราต้องเรียนกับเขา เขาจะให้เราติด0 ติด ร.ไหม
เขาก็บอกว่าครูเขาคงไม่เจ้าคิดเจ้าแค้นนักเรียนหรอก ยังไงเขาก็เป็นครู เราก็ขอให้เป็นจริงเถอะ เพราะเรารู้ว่าเราก็เป็นคนผิดเต็มๆที่จะไม่ซ้อม หลังจากนั้นครูที่ซ้อมกีฬาก็เรียกเราไปคุย เราเลยพาพ่อแม่ไปด้วย คุยไปคุยมาสรุปเขาถามเราว่า" จะซ้อมก็ได้นะ หรือ จะไม่ซ้อมต่อก็แล้วแต่
แต่ครูจะผิดหวังกับเอ็งมากๆ" เราก็จะตอบไปว่าไม่ซ้อมแล้วค่ะ ขอโทษค่ะ แต่ยังไม่ทันพูดครูก็พูดตัดมาว่าค่อยๆคิดแล้วมาบอกครูพน.ก็ได้เพราะดึกแล้ว (คุยกันตั้งแต่ 2ทุ่มยันจะ4ทุ่ม) พ่อแม่เราก็แบบโอเค แต่หลังจากนั้นเราก็ไม่ไปซ้อมอีกเลย เลี่ยงที่จะเจอได้ก็เลี่ยง เราไม่กล้าสู้หน้าเขา
เวลาเจอเราก็ไหว้ เราก็ยิ้มให้ปกติ เขาก็ยิ้มรับไหว้ปกติ แต่ที่ไม่ปกติคือสังคมในนั้น เราโดนแขวะทางสายตาตลอด ไม่ว่าจะจ้องมาละประมาณเบื่อเรา หรือมองเราแล้วหันไปพูดกันเอง ซึ่งเราก็ไม่โอเคกับเรื่องแบบนี้
คือเราไม่ได้ไปทำอะไรให้เขาแต่ทำไมเขาถึงมองเราอย่างงั้น พอเวลาผ่านไป ถึงเวลาเกรดออก เทอมที่แล้วที่เราซ้อมบาสเกรดเราได้ 2.62 แต่เทอมที่2เราออกจากบาส เราได้เกรด3.64 ซึ่งเกินคาดมาก
ไม่คิดว่าจะได้เยอะขนาดนี้(ที่เราซ้อมกีฬามาเกือบ3ปีเกรดดีสุดเราคือ 3.03) เราก็คิดว่าเราก็เรียนได้เราเลยหันมาตั้งใจเรียนให้หนักขึ้น แต่พอกำลังจะเปิดเทอมใหม่ ม5
เราได้รับข้อความจากเพื่อนที่เคยซ้อมกีฬากับเรา(เราไม่มีเพื่อนรุ่นเดียวกันเลยตอนซ้อมกีฬาถึงมีก็ออกไปหมดแล้ว ระหว่างเราคือมีแค่รุ่นพี่กับรุ่นน้องและก็ครู) ว่าครูตามให้กลับไปซ้อม เนื่องจากเป็นโควตา เราเห็นข้อความเราก็อึ้งเพราะเราคิดว่าเราได้หลุดจากวงโคจรนี้มาแล้ว คิดว่าครูจะเข้าใจเรา
เราเลยตอบไปว่าขอโทษด้วยนะ แต่เราขอไม่ซ้อมแล้วเพราะเราคุยกับรองคุยกับครูแล้ว แต่เพื่อนก็ตอบกลับมาว่าให้ไปคุยกับครูเราก็เลยหันไปปรึกษาพ่อแม่ ท่านก็บอกว่าไม่ต้องสนใจแล้วเราก็ไปคุยกับรองกับครูแล้วจะให้ไปคุยอะไรอีก
เราก็เลยทำตามท่านว่า ไม่สนใจ พอเปิดเทอมมาวันแรกคือวันนี้ เราก็ไม่เจออะไรผิดปกติ แต่ตอนรับน้อง (พี่ที่อยู่ในที่เราซ้อมกีฬาเป็นพี่ม.6สายเรา) เขาก็ให้ม.5แนะนำตัว พอถึงตาเราเราพูดเสียงดังว่าชื่ออะไร แต่เหมือนเขาแกล้งรึป่าวไม่รู้บอกให้เราพูดใหม่อีกเรา
เออเราก็พูดใหม่ให้ดังอีก(ส่วนตัวเราเป็นคนพูดเสียงดังอยู่แล้ว) แล้วพอกำลังจะเดินไป พี่คนนั้นก็ตะโกนขึ้นมาว่าเป็นโควตาเนอะ แต่ไม่ยอมมาซ้อม
แล้วคือต่อหน้าน้องๆต่อหน้าพี่ๆเพื่อนๆเรา ซึ่งเราก็ทำอะไรไม่ได้ได้แต่ยิ้มกลับไปให้แล้วเดินออกมา ความรู้สึกเราแบบแย่ แย่มากๆ จากเรื่องนั้นมาเรื่องนี้อีก กะทำให้ไม่มีที่ยืนในสังคมเลยใช่ไหม
เพื่อนเราก็โมโหเราก็ได้แต่ทำใจ เพราะเราก็ทำตัวเราเองส่วนหนึ่ง แต่คือออกมาแล้วก็ไม่ควรมาแขวะกันป้ะ? เรื่องก็ไม่เคยมีเรื่องอะไรกัน
แล้วเพื่อนเราอีกคนก็บอกว่าได้ยินเพื่อนคนที่ตามเรากลับไปซ้อมกีฬา บอกว่า ครูมีสิทธิ์ที่จะให้เราติด ร. ได้
เราแบบช็อคเลยเพราะเราคิดระแวงไว้อยู่แล้วว่าจะต้องเป็นแบบนี้แน่ เราเครียดอีกแล้ว ไม่รู้จะไปปรึกษาใคร ทำให้เราไม่อยากไปรร.
ไม่อยากเจอหน้าคนในนั้นไม่อยากเจอใครอีกเลยถ้าจะให้เราเปนแบบนี้ให้เราลาออกตั้งแต่แรกยังดีกว่า
คิดไปคิดมาก็ร้องไห้ การที่ไปรร.สำหรับเรานั้นไม่มีความสุขเลย ต้องระแวงตลอด ถ้าให้โทษจริงๆคือตัวเราเอง เราผิดเองที่ไปรับโควตา
ผิดเองที่ไม่รับผิดชอบหน้าที่ ผิดเองที่เป็นคนเลือกทางเดินตั้งแต่แรกแล้ว แต่เราจะทำยังไงดี
คิดไม่ออกก็ต้องร้องไห้555 น่าขำรู้สึกตัวเองโง่และขี้ขลาดมาก สมเพสตัวเองจัง
ขอบคุณที่เข้ามารับฟังเรื่องของเรานะ เราเครียดไม่รู้จะไประบายที่ไหนจริงๆ
ถ้าคนที่เรากล่าวถึงมาอ่านก็ขอบอกไว้ว่า เราขอโทษที่เคยทำอะไรที่ทำให้พี่ไม่พอใจหรืออะไรก็แล้วแต่ แต่เราขอได้ไหมอย่ามองเราอย่างนั้นเลย
ขอบคุณมากค่ะ
เครียดจนอยู่ๆก็ร้องไห้ออกมา
เราไม่รู้ว่าเราไปทำอะไรให้เขาไม่พอใจหรือโกรธมากขนาดนี้ เราก็ไม่เคยไปยุ่งกับเขานะ
คือเรามีปัญหากับครูที่รร.
เพราะเราเป็นนักกีฬาโควตาแต่ก็เป็นอยู่ไม่นานประมาณเกือบปี (ก่อนเป็นโควตาเล่นมาเกือบ2ปี) เรามีปัญหากับสังคมในนั้นมาก ไม่รู้จะคุยกับใคร
พอคุยกับเขาๆก็คุยเรื่องที่เราไม่รู้จักเราเลยไม่รู้จะคุยอะไรด้วย และก็ไม่ค่อยมีใครชอบเราเพราะเราสนิทกับครูจนไม่เข้าสังคมมั้ง? แต่เรายังมีรุ่นพี่คนหนึ่งที่เรายังคุยด้วยได้
รักกันถึงจะมีทะเลาะกันบ้างแต่เราก็ต้องเป็นคนขอโทษตลอด ไม่ว่าเขาผิดหรือเราผิดเราต้องขอโทษ คบกับมาจะ2ปี มาทะเลาะกันอีก เขาไม่เชื่อใจเราเลย เราเล่าเรื่องที่เข้าใจผิดให้เขาฟังแต่เขาก็บอกไม่เชื่อใจเรา
ขนาดคนสนิทยังไม่เชื่อใจเลยแล้วจะให้เราทำยังไงดี บวกกับภาวะสังคมที่เราเข้าไม่ได้ ทำให้เราเครียด ไปสู้หน้าเขาไม่ได้ เพราะเรารู้สึกว่ากลายเป็นคนที่สังคมรังเกลียดไปแล้ว
ส่วนหนึ่งเขาก็ไม่ค่อยชอบเราเท่าไหร่ อาจจะเพราะเราเล่นกีฬาไม่เก่งเท่าเขาหรือเปล่าเราไม่รู้ เราเครียดจนเราปรึกษาพ่อแม่ ท่านก็บอกให้เราลาออกเพราะเราเป็นโควตา เราก็ตัดสินใจจะลาออกเพราะเราเข้ามาโดยวิธีนี้ ถ้าไม่ซ้อมเราก็ลาออกน่าจะดีที่สุด
ตอนนั้นเราอยู่ม4 เราเลยกะจะไปเริ่มเรียนม4เทอม2ใหม่ ที่รร.ใหม่ วันนั้นเราเอาพ่อแม่เข้าไปคุยกับรองผอ.คุยไปคุยมาถึงปัญหาที่เราเจออยู่ เรารู้ว่ามันก็แค่ทะเลาะกันจะอะไรหนักหนา แต่ความรู้สึกเรามันพังไปแล้วอะ ทั้งจากสังคมจากคนสนิท จากอะไรหลายๆอย่างจนทำให้เราไม่อยาก
จะไปรร.เพราะไม่อยากเจอหน้าใครทั้งนั้น พอคุยเสร็จเราก็บอกรองว่าจะขอลาออกแต่เขาบอกว่าไม่ต้องออกก็ได้ แค่ทำเกรดให้เกิน3.00ก็พอ เราก็เครียดเพราะถ้าเราไม่ไปซ้อมเวลาเราขึ้นม.5 เราต้องเรียนกับเขา เขาจะให้เราติด0 ติด ร.ไหม
เขาก็บอกว่าครูเขาคงไม่เจ้าคิดเจ้าแค้นนักเรียนหรอก ยังไงเขาก็เป็นครู เราก็ขอให้เป็นจริงเถอะ เพราะเรารู้ว่าเราก็เป็นคนผิดเต็มๆที่จะไม่ซ้อม หลังจากนั้นครูที่ซ้อมกีฬาก็เรียกเราไปคุย เราเลยพาพ่อแม่ไปด้วย คุยไปคุยมาสรุปเขาถามเราว่า" จะซ้อมก็ได้นะ หรือ จะไม่ซ้อมต่อก็แล้วแต่
แต่ครูจะผิดหวังกับเอ็งมากๆ" เราก็จะตอบไปว่าไม่ซ้อมแล้วค่ะ ขอโทษค่ะ แต่ยังไม่ทันพูดครูก็พูดตัดมาว่าค่อยๆคิดแล้วมาบอกครูพน.ก็ได้เพราะดึกแล้ว (คุยกันตั้งแต่ 2ทุ่มยันจะ4ทุ่ม) พ่อแม่เราก็แบบโอเค แต่หลังจากนั้นเราก็ไม่ไปซ้อมอีกเลย เลี่ยงที่จะเจอได้ก็เลี่ยง เราไม่กล้าสู้หน้าเขา
เวลาเจอเราก็ไหว้ เราก็ยิ้มให้ปกติ เขาก็ยิ้มรับไหว้ปกติ แต่ที่ไม่ปกติคือสังคมในนั้น เราโดนแขวะทางสายตาตลอด ไม่ว่าจะจ้องมาละประมาณเบื่อเรา หรือมองเราแล้วหันไปพูดกันเอง ซึ่งเราก็ไม่โอเคกับเรื่องแบบนี้
คือเราไม่ได้ไปทำอะไรให้เขาแต่ทำไมเขาถึงมองเราอย่างงั้น พอเวลาผ่านไป ถึงเวลาเกรดออก เทอมที่แล้วที่เราซ้อมบาสเกรดเราได้ 2.62 แต่เทอมที่2เราออกจากบาส เราได้เกรด3.64 ซึ่งเกินคาดมาก
ไม่คิดว่าจะได้เยอะขนาดนี้(ที่เราซ้อมกีฬามาเกือบ3ปีเกรดดีสุดเราคือ 3.03) เราก็คิดว่าเราก็เรียนได้เราเลยหันมาตั้งใจเรียนให้หนักขึ้น แต่พอกำลังจะเปิดเทอมใหม่ ม5
เราได้รับข้อความจากเพื่อนที่เคยซ้อมกีฬากับเรา(เราไม่มีเพื่อนรุ่นเดียวกันเลยตอนซ้อมกีฬาถึงมีก็ออกไปหมดแล้ว ระหว่างเราคือมีแค่รุ่นพี่กับรุ่นน้องและก็ครู) ว่าครูตามให้กลับไปซ้อม เนื่องจากเป็นโควตา เราเห็นข้อความเราก็อึ้งเพราะเราคิดว่าเราได้หลุดจากวงโคจรนี้มาแล้ว คิดว่าครูจะเข้าใจเรา
เราเลยตอบไปว่าขอโทษด้วยนะ แต่เราขอไม่ซ้อมแล้วเพราะเราคุยกับรองคุยกับครูแล้ว แต่เพื่อนก็ตอบกลับมาว่าให้ไปคุยกับครูเราก็เลยหันไปปรึกษาพ่อแม่ ท่านก็บอกว่าไม่ต้องสนใจแล้วเราก็ไปคุยกับรองกับครูแล้วจะให้ไปคุยอะไรอีก
เราก็เลยทำตามท่านว่า ไม่สนใจ พอเปิดเทอมมาวันแรกคือวันนี้ เราก็ไม่เจออะไรผิดปกติ แต่ตอนรับน้อง (พี่ที่อยู่ในที่เราซ้อมกีฬาเป็นพี่ม.6สายเรา) เขาก็ให้ม.5แนะนำตัว พอถึงตาเราเราพูดเสียงดังว่าชื่ออะไร แต่เหมือนเขาแกล้งรึป่าวไม่รู้บอกให้เราพูดใหม่อีกเรา
เออเราก็พูดใหม่ให้ดังอีก(ส่วนตัวเราเป็นคนพูดเสียงดังอยู่แล้ว) แล้วพอกำลังจะเดินไป พี่คนนั้นก็ตะโกนขึ้นมาว่าเป็นโควตาเนอะ แต่ไม่ยอมมาซ้อม
แล้วคือต่อหน้าน้องๆต่อหน้าพี่ๆเพื่อนๆเรา ซึ่งเราก็ทำอะไรไม่ได้ได้แต่ยิ้มกลับไปให้แล้วเดินออกมา ความรู้สึกเราแบบแย่ แย่มากๆ จากเรื่องนั้นมาเรื่องนี้อีก กะทำให้ไม่มีที่ยืนในสังคมเลยใช่ไหม
เพื่อนเราก็โมโหเราก็ได้แต่ทำใจ เพราะเราก็ทำตัวเราเองส่วนหนึ่ง แต่คือออกมาแล้วก็ไม่ควรมาแขวะกันป้ะ? เรื่องก็ไม่เคยมีเรื่องอะไรกัน
แล้วเพื่อนเราอีกคนก็บอกว่าได้ยินเพื่อนคนที่ตามเรากลับไปซ้อมกีฬา บอกว่า ครูมีสิทธิ์ที่จะให้เราติด ร. ได้
เราแบบช็อคเลยเพราะเราคิดระแวงไว้อยู่แล้วว่าจะต้องเป็นแบบนี้แน่ เราเครียดอีกแล้ว ไม่รู้จะไปปรึกษาใคร ทำให้เราไม่อยากไปรร.
ไม่อยากเจอหน้าคนในนั้นไม่อยากเจอใครอีกเลยถ้าจะให้เราเปนแบบนี้ให้เราลาออกตั้งแต่แรกยังดีกว่า
คิดไปคิดมาก็ร้องไห้ การที่ไปรร.สำหรับเรานั้นไม่มีความสุขเลย ต้องระแวงตลอด ถ้าให้โทษจริงๆคือตัวเราเอง เราผิดเองที่ไปรับโควตา
ผิดเองที่ไม่รับผิดชอบหน้าที่ ผิดเองที่เป็นคนเลือกทางเดินตั้งแต่แรกแล้ว แต่เราจะทำยังไงดี
คิดไม่ออกก็ต้องร้องไห้555 น่าขำรู้สึกตัวเองโง่และขี้ขลาดมาก สมเพสตัวเองจัง
ขอบคุณที่เข้ามารับฟังเรื่องของเรานะ เราเครียดไม่รู้จะไประบายที่ไหนจริงๆ
ถ้าคนที่เรากล่าวถึงมาอ่านก็ขอบอกไว้ว่า เราขอโทษที่เคยทำอะไรที่ทำให้พี่ไม่พอใจหรืออะไรก็แล้วแต่ แต่เราขอได้ไหมอย่ามองเราอย่างนั้นเลย
ขอบคุณมากค่ะ