รายละเอียดเป็นอย่างนี้ค่ะ รถเก๋งที่จอดซื้อของอยู่ไหล่ทางด้านซ้าย จะเลี้ยวเข้าซอยด้านขวา ซึ่งอยู่เยื้องๆ กับร้านที่รถเก๋งจอดซื้อของไม่ถึง 10 เมตร โดยรถเก๋งให้การกับตำรวจว่า เขาซื้อของเสร็จ ก็ออกจากไหล่ทางจะเลี้ยวขวาเข้าซอย โดนเขาเปิดไฟเลี้ยวและมองในเลนสวนว่าไม่มีรถจึงเลี้ยวขวาออกมาจะเข้าซอย โดยบอกว่ามองกระจกไม่เห็นมอไซต์ที่มาทางตรงด้านหลัง ส่วนด้านมอไซต์ บอกว่าเขามาทางตรงวิ่งมาประมาณ 60 เห็นรถเก๋งที่จอดอยู่กระพริบไปเลี้ยวประมาณ 3 _ 4 ครั้ง แล้วก็เลี้ยวตัดขวาออกมา ตัวคนขับมอไซต์เห็นกระชันชิดจะชนท้าย เลยเบี่ยงขวาออกจะแซงขึ้นไป เพราะคิดว่ารถเก๋งเลี้ยวออกมาแล้วจะไปทางตรง ไม่คิดจะว่าจะตัดขวาเลี้ยวเข้าซอย ก็เลยชนกันกลางถนน รถเก๋งด้านข้างเลยล้อหน้าขึ้นมาชนเข้ากลางรถมอไซต์ กระเด็นไปไกลประมาณ 5 เมตร มีคนบาดเจ็บ 2 คน คือคนขับมอไซต์และคนซ้อน หลังเกิดเหตุคนขับรถเก๋งเดินลงมาถามมอไซต์ " พี่เปิดไฟเลี้ยวแล้วนะ มองไม่เห็นหรอไง" ฝั่งคนขับมอไซต์บอกว่า "พี่เปิดแล้วเลี้ยวตัดออกมาไม่ดูรถหลัง ยังไงก็ชน" โดยคนขับรถเก๋งไม่มีการเดินมาดูอาการคนเจ็บเลย ได้แต่พูดว่าเขาเปิดไฟเลี้ยวแล้ว มอไซต์มาเร็วเอง ซึ่งตัวรถเก๋งมีประกันชั้น 1 แต่เขาจะเอาชนะ และจะไม่ยอมชดใช้คู่กรณีไปเพื่ออะไร อย่างนี้ถ้ามีการฟ้องร้องกัน ฝั่งมอไซต์เองจะมีทางชนะไหมคะ ซึ่งมอไซต์เป็นเพื่อนเราสงสารเขาน่ะค่ะ ถ้าซ่อมรถเองคงเกือบๆ 2 หมื่น และเจ็บใจคนขับรถเก๋งด้วย ไม่มาดูคนเจ็บ แถมยังจะเอาชนะอีก
รถเก๋งออกจากไหล่ทางเลี้ยวขวาตัดเข้าซอย ชนกับมอไซต์ที่มาทางตรง ใครผิด???