เราไม่รู้จะเริ่มเรื่องอย่างไง แต่ที่ตัดสินใจมาเขียนเพราะอยากบอกเล่าความรู้สึกของการไปคอนฯเกาหลีครั้งแรกในรอบ 10 ปีของเรา
เมื่อวันศุกร์ที่ 11 พฤษภาคม ที่ผ่านมา เรามีโอกาสได้ไปคอนเสิร์ตของ GOT7 ค่ะ Eyes on You World Tour Live in Bangkok
ปีนี้จัดคอนฯในไทยถึง 3 วันเลยทีเดียว คือวันที่ 11 - 13 พฤษภาคม ค่ะ
ไม่ใช่ว่าเราไม่เคยรู้จักวงการ K-POP นะคะ จริงๆ แล้วสมัยช่วงมัธยมฯ เราก็โตมากลับวงการ J-POP และ K-POP เลยก็ว่าได้
ด้วยความที่หลงรักโบอาจากการฟังเพลงประกอบอนิเมะอินุยาฉะ จนไป ๆ มา ๆ ก็มารู้จักวงการ K-POP ในที่สุดค่ะ
แต่วง K-POP มีมีอิทธิพลกับชีวิตช่วงมัธยมฯเรามากที่คือ BIGBANG เป็นวงที่เราพูดในช่วงนั้นเรียกได้เต็มปากเลยว่าเป็นแฟนคลับ
สนับสนุนเท่าที่เงินเก็บจากค่าขนมของเด็กมัธยมฯจะสามารถซัพพอร์ตได้ และสุดท้ายก็คือได้ไปดูคอนเสิร์ตค่ะ
BIGBANG Global Warming Tour 2008 ก็คือเกือบสิบปีที่แล้ว ตอนนั้นเราไปบัตรแพงสุดด้วยนะ แต่บัตรตอนนั้น 2,500 เอง
นอกจาก BIGBANG เราก็ตามดูหลายๆวงนะคะ Wonder Girls, 2AM, 2PM, Soshi
ช่วงนี้ปี 2008 – 2010 เราว่าคือช่วงที่มันพีคสุดๆในความรู้สึกเราแล้วสำหรับ K-POP
แต่ก็ด้วยปัจจัยหลาย ๆ อย่าง สุดท้ายเราก็เฟดตัวออกจากวงการ K-POP ในช่วงสมัยเรียนมหาลัย
แล้วหันไปสนใจวงการซีรีส์และเรียลลิตี้โชว์ทางฝั่งอเมริกา และสุดท้ายก็กลายเป็นว่าเราฟังแต่เพลงสากลซะส่วนใหญ่
จริงๆ เราเป็นคนที่ฟังเพลงสากลเสียส่วนใหญ่ เรามักไปชอบเพลงที่ประกอบในซีรีส์ที่ดูค่ะ
แนะนำเลยว่า Grey's Anatomy, The Vampire's Diaries รวมถึง Glee เอง มีOSTเลือกมาในแต่ละตอนคือเพราะมากๆ
เราก็เลยกลายเป็นคนที่ชอบเพลงก่อนแล้วค่อยตามไปรู้จักศิลปินที่ร้องเพลงนั้นๆ
เพลงส่วนใหญ่ที่เราฟัง ส่วนใหญ่จะเป็น genre แถวๆ alternative, indie pop, folk pop, r&b แล้วก็ hiphop ให้บางครั้ง
ศิลปินที่เราฟังช่วงนี้ก็มีวนๆไม่กี่คน หลักๆ ก็ Ed Sheeran, The Script, OneRepublic, Imagine Dragon, Kodaline, Tom Odell, Gabrielle Aplin, Frances, Amy Winehouse แล้วก็ Kendrick Lamar บ้างนิดหน่อย
ดังนั้นสไตล์เพลงที่เราฟังตอนนี้แทบจะไม่ใช่สิ่งที่วงไอดอลเลือกทำ และก็คงพูดได้ว่าไม่ใช่แนวเพลงที่ GOT7 ร้องด้วยเหมือนกัน
เราเคยได้ยินชื่อวงมาก่อนที่หน้านะคะ จริงๆ ก็ตั้งแต่ช่วงเดบิวต์ พอจะทราบบ้างที่ JYP เดบิวต์ Boy Group วงใหม่
และมีแบมแบม เด็กไทยอยู่ในวงนี้ด้วย นอกจากแบมแบมก็เคยได้ยินชื่อแจ๊คสันค่ะ เพราะเพื่อนดู Roommate แ
จนมารู้จักอีกทีก็ดู I can see you voice ทาง Workpoint ค่ะ สมาชิกมาไม่ครบวง แต่ก็สนุกมากๆ เลยค่ะ
ทุกคนมีสเน่ห์นะ เป็นตอนที่สนุกมากๆเลยค่ะ เราดูไปก็นั่งขำไปเกือบทั้งรายการจริงๆ
แต่งานเพลงเราฟังแล้วก็ไม่ได้รู้สึกอะไรเป็นพิเศษ เพลงสนุกนะคะ แต่ก็ไม่ใช่อะไรที่ทำให้เราตื่นเต้น
จนกระทั่งไปเจอโชว์ JJP แจบอมและจินยอง ซึ่งก็เป็นสมาชิกในวงด้วย เราฟังเพลงโปรโมตแล้วก็... ไม่รู้สิ ในช่วงนั้นมันติดหูเรามาก
ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน เราก็เลยลองไปฟังทั้ง EP ของ Verse 2 แล้วกลายเป็นว่าเราชอบเพลงสุดท้ายในEPนั้นที่สุด
เพลงชื่อ Fade Away ค่ะ เป็น solo ของแจบอม เรามารู้ทีหลังว่า EP นี้ เพลงส่วนใหญ่ทั้งแจบอมและจินยองมีส่วนในการทำงานด้วย
ทั้งในงานแต่งเนื้อ ทำนอง เรียบเรียงด้วย บวกกลับเราไปเจอว่าแจบอมมีทำ soundcloud ในชื่อ Def. ค่ะ เราตามไปลองฟังดู
กลายเป็นว่าเราชอบเพลงที่เค้าทำซะงั้น เราค่อนข้างแปลกใจ เพราะเราก็เคยฟังเพลงของ GOT7 นะคะ แต่มันคงไม่ใช่สำหรับเราจริงๆ
แล้วช่วงการโปรโมตหลังๆ ของ GOT7 เราเข้าใจว่าเพลงโปรโมตเป็นเพลงที่แจบอมเขียนด้วย
แต่ก็นั่นล่ะค่ะ เราลองฟังแล้วก็ไม่ได้รู้สึกชอบเหมือนกับที่เราชอบเพลงเค้าที่ทำส่วนตัว
ถึงเพลงจะไม่ยังคงไม่ใช่สไตล์เรา แต่เราก็ติดตามวงอยู่บ้าง ค่อนข้างสนใจในความสามารถของแจบอม
ก็เลยพอจะรู้ว่ามีอะไรอย่างไงบ้าง จนกระทั่งวงประกาศ world tour ในไทย
ด้วยความโชคดีมั้งที่เราอยู่ไม่ไกลจากจุดขายตั๋วของททก ก็ลองไปต่อแถวมากับเค้า
ตอนนั้นคิดว่าแค่ว่าถ้าถึงคิวเราแล้วมันยังมีบัตรก็จะซื้อ แต่ถ้าไม่เหลือก็ไม่เป็นไร เพราะตั้งใจจะมาซื้อบัตร The Script ด้วยเหมือนกัน
สุดท้ายก็เลยได้บัตรคอนเสิร์ตวันศุกร์มา ได้มาด้วยความรู้สึกงงๆว่า เอาไงดีนะเรา เพลงก็รู้จักไม่กี่เพลง ร้องก็ไม่ได้ จะเอาอย่างไงดี
เรามีความคิดวุ่นวายว่าจะเอาอย่างไงดี จะไปหรือไม่ไปดี แม้ว่าจะมีตั๋วอยู่ในมือแล้วก็ตาม คิดแบบนั้นอยู่เกือบทุกวันน่ะ
แต่สุดท้ายก็ไปด้วยความรู้สึกหวั่นๆ กังวลนิดหน่อย ไม่รู้สึกแบบนี้กับคอนเสิร์ตไหนที่ไปดูเลยค่ะ
เราไปดูคอนเสิร์ตคนเดียวหลายครั้งนะคะ เพราะเพื่อนและคนใกล้ตัวไม่ได้ฟังเพลงสไตล์เดียวกับเรา
ดังนั้นการไปคอนเสิร์ตคนเดียวก็เลยไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่การไปคอนเสิร์ตโดยที่รู้จักไม่กี่เพลงนี่ล่ะเรื่องใหม่สำหรับเรา
สุดท้ายจนถึงวันคอนฯ เลิกงานก็ไป ตอนไปถึงก็เขิน ๆ หน่อย ๆ แล้วก็ค่อนข้างแปลกใจด้วยค่ะ
เพราะเราพบว่าคนที่มาคอนเสิร์ตนั้นมีช่วงอายุที่ค่อนข้างหลากหลายมากๆ มีตั้งแต่เด็กตัวน้อยๆ น่าจะวัยประถมเอง
จนถึงคุณป้าคุณลุงที่มาเป็นครอบครัวกับลูกวัยประถมนั้น หรือลูกๆ วัยที่โตขึ้นมาบ้างอีกนิดนึงก็มีค่ะ
งงเลย น่าจะหลากหลายที่สุดเท่าที่เราเจอจากการไปดูคอนเสิร์ตศิลปินต่างประเทศแล้วค่ะ
เราเข้าไปนั่งรอดูคอนเสิร์ตด้วยความรู้สึกใจเต้นค่ะ วินาทีที่ไฟถูกดับลง เสียงกรี๊ดที่ดังขึ้นจากรอบตัว และจอVTRเปิดTrailer
เราได้แต่ท่องกับตัวเองว่า this is happening ซ้ำไปซ้ำมาค่ะ ถึงจะรู้จักไม่กี่เพลง แต่บรรยากาศในคอนฯมันไฮพ์มากๆ เลยค่ะ
ทุกคนเต็มที่มากๆ ทั้งตัวแฟนคลับเอง และศิลปินเอง เราว่าเราเหมือนหูอื้อเป็นช่วงๆ เลย เพราะทุกคนกรี๊ดกันเสียงดังมาก ๆ เลย
แล้วก็ขอชมว่าร้องเพลงไทยชัดกันมากๆ เลย ประทับใจนะคะ จินยองร้องชัดมากจนตกใจ
จากใจคนที่ฟังเพลงวงนี้ไม่ได้เยอะ เราว่าโชว์ออกมาสนุกนะคะ เรารู้สึกได้ว่าทุกคนต้องซ้อมกันมาอย่างหนักแน่ๆ เพื่อคอนฯนี้
สเตจที่เปลี่ยนไปมา ไหนจะเต้นกันแทบจะตลอดเวลา แล้วก็ขยันเอนเตอร์เทนคนดูตลอดเวลา
ทำในส่วนของ performance ออกมาได้น่าประทับใจ ทั้งสเตจรวมและสเตจสำหรับแค่ละยูนิต
เราว่าเราประทับใจตรงนั้นจริงๆ ค่ะ เราค่อนข้างประทับใจสเตจยูนิตมากๆ นะคะ ทั้งสามสเตจเลย
ในแง่เพลงที่ชอบเราชอบเพลงสเตจของแจบอมยองแจมาร์คที่สุด เป็น r&b ถ้ามีเพลงไหนของวงที่ฟีลประมาณนี้
ขอรบกวนแนะนำหน่อยนะคะ เราชอบเพลงนั้นจริงๆ
จากการแปลกใจในทางที่ดีที่เจอผู้คนหลากหลายช่วงอายุและบรรยายกาศโดยรวมแล้ว
เรายังแปลกใจกับวิธีตรวจค้นตัวด้วยค่ะ คือเราว่ามันไม่ค่อยโอเคเลยอ่ะ
เคยได้ยินมาบ้างว่าจุดตรวจของคอนเสิร์ตเกาหลีเป็นอะไรที่น่ากลัว
แต่พอเจอกับตัวเราว่าก็มันแอบเยอะเกินไปจริงๆ ด้วยนั่น คือคนตรวจเป็นผู้หญิงเหมือนกันก็จริง
แต่มาจับๆ ลูบๆ เราว่ามันก็ค่อนข้างรู้สึกกำลังถูก sexual harassment เหมือนกัน เราไปดูคอนเสิร์ตศิลปินต่างประเทศก็หลายวง
แต่คอนเสิร์ตนี้คือคอนเสิร์ตที่เรารู้สึกว่าการตรวจค้นตัวเป็นอะไรที่น่ากระอักกระอ่วนใจที่สุดเลยค่ะ
เราเห็นหลายคนทวีตว่าจุดตรวจโซนบัตรยืน มีการตรวจค้นในลักษณะการจับหน้าอกและและพื้นที่ส่วนตัวแบบลูบผ่านๆด้วย
เราอ่ะไปบัตรยืนคอนเสิร์ตแค่ครั้งเดียว คือ คอนฯของเอ็ด เรายังไม่โดนค้นขนาดนั้นเลย อ่านไปก็ได้แต่โกรธและไม่เข้าใจผู้จัดเลยค่ะ
สรุปรวมๆ ก็เป็นประสบการณ์ใหม่สำหรับเราในหลายๆ เรื่องเลยค่ะ การไปคอนเสิร์ตศิลปินเกาหลีครั้งแรกในรอบ 10 ปี
แล้วก็ครั้งแรกกับการไปคอนเสิร์ตที่รู้จักเพลงน้อยเหลือเกิน แต่ยังรู้สึกสนุกและไฮพ์ตามทุกคนในคอนเสิร์ตไปเลย
ถึงตอนนี้รวมๆ เรายังคงเฉยๆ ในแง่เพลงของ GOT 7 แต่เราก็หวังว่าในอนาคตเราจะฟังเพลงวงนี้ด้วยความรู้สึกที่เปลี่ยนไปนะคะ
ปล. วันศุกร์เราได้โปสการ์ดมาด้วยค่ะ เป็นแฟนโปรเจคส์ที่ทำมาแจกกันน่าจะได้ทุกที่นั่งเลยมั้ง
ขอบคุณมากๆนะคะ เป็น fanart ที่น่ารักมากๆ เลย
GOT7 - Eyes On You World Tour Live in Bangkok ประสบการณ์การไปคอนฯเกาหลีครั้งแรกในรอบ10ปี
เมื่อวันศุกร์ที่ 11 พฤษภาคม ที่ผ่านมา เรามีโอกาสได้ไปคอนเสิร์ตของ GOT7 ค่ะ Eyes on You World Tour Live in Bangkok
ปีนี้จัดคอนฯในไทยถึง 3 วันเลยทีเดียว คือวันที่ 11 - 13 พฤษภาคม ค่ะ
ไม่ใช่ว่าเราไม่เคยรู้จักวงการ K-POP นะคะ จริงๆ แล้วสมัยช่วงมัธยมฯ เราก็โตมากลับวงการ J-POP และ K-POP เลยก็ว่าได้
ด้วยความที่หลงรักโบอาจากการฟังเพลงประกอบอนิเมะอินุยาฉะ จนไป ๆ มา ๆ ก็มารู้จักวงการ K-POP ในที่สุดค่ะ
แต่วง K-POP มีมีอิทธิพลกับชีวิตช่วงมัธยมฯเรามากที่คือ BIGBANG เป็นวงที่เราพูดในช่วงนั้นเรียกได้เต็มปากเลยว่าเป็นแฟนคลับ
สนับสนุนเท่าที่เงินเก็บจากค่าขนมของเด็กมัธยมฯจะสามารถซัพพอร์ตได้ และสุดท้ายก็คือได้ไปดูคอนเสิร์ตค่ะ
BIGBANG Global Warming Tour 2008 ก็คือเกือบสิบปีที่แล้ว ตอนนั้นเราไปบัตรแพงสุดด้วยนะ แต่บัตรตอนนั้น 2,500 เอง
นอกจาก BIGBANG เราก็ตามดูหลายๆวงนะคะ Wonder Girls, 2AM, 2PM, Soshi
ช่วงนี้ปี 2008 – 2010 เราว่าคือช่วงที่มันพีคสุดๆในความรู้สึกเราแล้วสำหรับ K-POP
แต่ก็ด้วยปัจจัยหลาย ๆ อย่าง สุดท้ายเราก็เฟดตัวออกจากวงการ K-POP ในช่วงสมัยเรียนมหาลัย
แล้วหันไปสนใจวงการซีรีส์และเรียลลิตี้โชว์ทางฝั่งอเมริกา และสุดท้ายก็กลายเป็นว่าเราฟังแต่เพลงสากลซะส่วนใหญ่
จริงๆ เราเป็นคนที่ฟังเพลงสากลเสียส่วนใหญ่ เรามักไปชอบเพลงที่ประกอบในซีรีส์ที่ดูค่ะ
แนะนำเลยว่า Grey's Anatomy, The Vampire's Diaries รวมถึง Glee เอง มีOSTเลือกมาในแต่ละตอนคือเพราะมากๆ
เราก็เลยกลายเป็นคนที่ชอบเพลงก่อนแล้วค่อยตามไปรู้จักศิลปินที่ร้องเพลงนั้นๆ
เพลงส่วนใหญ่ที่เราฟัง ส่วนใหญ่จะเป็น genre แถวๆ alternative, indie pop, folk pop, r&b แล้วก็ hiphop ให้บางครั้ง
ศิลปินที่เราฟังช่วงนี้ก็มีวนๆไม่กี่คน หลักๆ ก็ Ed Sheeran, The Script, OneRepublic, Imagine Dragon, Kodaline, Tom Odell, Gabrielle Aplin, Frances, Amy Winehouse แล้วก็ Kendrick Lamar บ้างนิดหน่อย
ดังนั้นสไตล์เพลงที่เราฟังตอนนี้แทบจะไม่ใช่สิ่งที่วงไอดอลเลือกทำ และก็คงพูดได้ว่าไม่ใช่แนวเพลงที่ GOT7 ร้องด้วยเหมือนกัน
เราเคยได้ยินชื่อวงมาก่อนที่หน้านะคะ จริงๆ ก็ตั้งแต่ช่วงเดบิวต์ พอจะทราบบ้างที่ JYP เดบิวต์ Boy Group วงใหม่
และมีแบมแบม เด็กไทยอยู่ในวงนี้ด้วย นอกจากแบมแบมก็เคยได้ยินชื่อแจ๊คสันค่ะ เพราะเพื่อนดู Roommate แ
จนมารู้จักอีกทีก็ดู I can see you voice ทาง Workpoint ค่ะ สมาชิกมาไม่ครบวง แต่ก็สนุกมากๆ เลยค่ะ
ทุกคนมีสเน่ห์นะ เป็นตอนที่สนุกมากๆเลยค่ะ เราดูไปก็นั่งขำไปเกือบทั้งรายการจริงๆ
แต่งานเพลงเราฟังแล้วก็ไม่ได้รู้สึกอะไรเป็นพิเศษ เพลงสนุกนะคะ แต่ก็ไม่ใช่อะไรที่ทำให้เราตื่นเต้น
จนกระทั่งไปเจอโชว์ JJP แจบอมและจินยอง ซึ่งก็เป็นสมาชิกในวงด้วย เราฟังเพลงโปรโมตแล้วก็... ไม่รู้สิ ในช่วงนั้นมันติดหูเรามาก
ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน เราก็เลยลองไปฟังทั้ง EP ของ Verse 2 แล้วกลายเป็นว่าเราชอบเพลงสุดท้ายในEPนั้นที่สุด
เพลงชื่อ Fade Away ค่ะ เป็น solo ของแจบอม เรามารู้ทีหลังว่า EP นี้ เพลงส่วนใหญ่ทั้งแจบอมและจินยองมีส่วนในการทำงานด้วย
ทั้งในงานแต่งเนื้อ ทำนอง เรียบเรียงด้วย บวกกลับเราไปเจอว่าแจบอมมีทำ soundcloud ในชื่อ Def. ค่ะ เราตามไปลองฟังดู
กลายเป็นว่าเราชอบเพลงที่เค้าทำซะงั้น เราค่อนข้างแปลกใจ เพราะเราก็เคยฟังเพลงของ GOT7 นะคะ แต่มันคงไม่ใช่สำหรับเราจริงๆ
แล้วช่วงการโปรโมตหลังๆ ของ GOT7 เราเข้าใจว่าเพลงโปรโมตเป็นเพลงที่แจบอมเขียนด้วย
แต่ก็นั่นล่ะค่ะ เราลองฟังแล้วก็ไม่ได้รู้สึกชอบเหมือนกับที่เราชอบเพลงเค้าที่ทำส่วนตัว
ถึงเพลงจะไม่ยังคงไม่ใช่สไตล์เรา แต่เราก็ติดตามวงอยู่บ้าง ค่อนข้างสนใจในความสามารถของแจบอม
ก็เลยพอจะรู้ว่ามีอะไรอย่างไงบ้าง จนกระทั่งวงประกาศ world tour ในไทย
ด้วยความโชคดีมั้งที่เราอยู่ไม่ไกลจากจุดขายตั๋วของททก ก็ลองไปต่อแถวมากับเค้า
ตอนนั้นคิดว่าแค่ว่าถ้าถึงคิวเราแล้วมันยังมีบัตรก็จะซื้อ แต่ถ้าไม่เหลือก็ไม่เป็นไร เพราะตั้งใจจะมาซื้อบัตร The Script ด้วยเหมือนกัน
สุดท้ายก็เลยได้บัตรคอนเสิร์ตวันศุกร์มา ได้มาด้วยความรู้สึกงงๆว่า เอาไงดีนะเรา เพลงก็รู้จักไม่กี่เพลง ร้องก็ไม่ได้ จะเอาอย่างไงดี
เรามีความคิดวุ่นวายว่าจะเอาอย่างไงดี จะไปหรือไม่ไปดี แม้ว่าจะมีตั๋วอยู่ในมือแล้วก็ตาม คิดแบบนั้นอยู่เกือบทุกวันน่ะ
แต่สุดท้ายก็ไปด้วยความรู้สึกหวั่นๆ กังวลนิดหน่อย ไม่รู้สึกแบบนี้กับคอนเสิร์ตไหนที่ไปดูเลยค่ะ
เราไปดูคอนเสิร์ตคนเดียวหลายครั้งนะคะ เพราะเพื่อนและคนใกล้ตัวไม่ได้ฟังเพลงสไตล์เดียวกับเรา
ดังนั้นการไปคอนเสิร์ตคนเดียวก็เลยไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่การไปคอนเสิร์ตโดยที่รู้จักไม่กี่เพลงนี่ล่ะเรื่องใหม่สำหรับเรา
สุดท้ายจนถึงวันคอนฯ เลิกงานก็ไป ตอนไปถึงก็เขิน ๆ หน่อย ๆ แล้วก็ค่อนข้างแปลกใจด้วยค่ะ
เพราะเราพบว่าคนที่มาคอนเสิร์ตนั้นมีช่วงอายุที่ค่อนข้างหลากหลายมากๆ มีตั้งแต่เด็กตัวน้อยๆ น่าจะวัยประถมเอง
จนถึงคุณป้าคุณลุงที่มาเป็นครอบครัวกับลูกวัยประถมนั้น หรือลูกๆ วัยที่โตขึ้นมาบ้างอีกนิดนึงก็มีค่ะ
งงเลย น่าจะหลากหลายที่สุดเท่าที่เราเจอจากการไปดูคอนเสิร์ตศิลปินต่างประเทศแล้วค่ะ
เราเข้าไปนั่งรอดูคอนเสิร์ตด้วยความรู้สึกใจเต้นค่ะ วินาทีที่ไฟถูกดับลง เสียงกรี๊ดที่ดังขึ้นจากรอบตัว และจอVTRเปิดTrailer
เราได้แต่ท่องกับตัวเองว่า this is happening ซ้ำไปซ้ำมาค่ะ ถึงจะรู้จักไม่กี่เพลง แต่บรรยากาศในคอนฯมันไฮพ์มากๆ เลยค่ะ
ทุกคนเต็มที่มากๆ ทั้งตัวแฟนคลับเอง และศิลปินเอง เราว่าเราเหมือนหูอื้อเป็นช่วงๆ เลย เพราะทุกคนกรี๊ดกันเสียงดังมาก ๆ เลย
แล้วก็ขอชมว่าร้องเพลงไทยชัดกันมากๆ เลย ประทับใจนะคะ จินยองร้องชัดมากจนตกใจ
จากใจคนที่ฟังเพลงวงนี้ไม่ได้เยอะ เราว่าโชว์ออกมาสนุกนะคะ เรารู้สึกได้ว่าทุกคนต้องซ้อมกันมาอย่างหนักแน่ๆ เพื่อคอนฯนี้
สเตจที่เปลี่ยนไปมา ไหนจะเต้นกันแทบจะตลอดเวลา แล้วก็ขยันเอนเตอร์เทนคนดูตลอดเวลา
ทำในส่วนของ performance ออกมาได้น่าประทับใจ ทั้งสเตจรวมและสเตจสำหรับแค่ละยูนิต
เราว่าเราประทับใจตรงนั้นจริงๆ ค่ะ เราค่อนข้างประทับใจสเตจยูนิตมากๆ นะคะ ทั้งสามสเตจเลย
ในแง่เพลงที่ชอบเราชอบเพลงสเตจของแจบอมยองแจมาร์คที่สุด เป็น r&b ถ้ามีเพลงไหนของวงที่ฟีลประมาณนี้
ขอรบกวนแนะนำหน่อยนะคะ เราชอบเพลงนั้นจริงๆ
จากการแปลกใจในทางที่ดีที่เจอผู้คนหลากหลายช่วงอายุและบรรยายกาศโดยรวมแล้ว
เรายังแปลกใจกับวิธีตรวจค้นตัวด้วยค่ะ คือเราว่ามันไม่ค่อยโอเคเลยอ่ะ
เคยได้ยินมาบ้างว่าจุดตรวจของคอนเสิร์ตเกาหลีเป็นอะไรที่น่ากลัว
แต่พอเจอกับตัวเราว่าก็มันแอบเยอะเกินไปจริงๆ ด้วยนั่น คือคนตรวจเป็นผู้หญิงเหมือนกันก็จริง
แต่มาจับๆ ลูบๆ เราว่ามันก็ค่อนข้างรู้สึกกำลังถูก sexual harassment เหมือนกัน เราไปดูคอนเสิร์ตศิลปินต่างประเทศก็หลายวง
แต่คอนเสิร์ตนี้คือคอนเสิร์ตที่เรารู้สึกว่าการตรวจค้นตัวเป็นอะไรที่น่ากระอักกระอ่วนใจที่สุดเลยค่ะ
เราเห็นหลายคนทวีตว่าจุดตรวจโซนบัตรยืน มีการตรวจค้นในลักษณะการจับหน้าอกและและพื้นที่ส่วนตัวแบบลูบผ่านๆด้วย
เราอ่ะไปบัตรยืนคอนเสิร์ตแค่ครั้งเดียว คือ คอนฯของเอ็ด เรายังไม่โดนค้นขนาดนั้นเลย อ่านไปก็ได้แต่โกรธและไม่เข้าใจผู้จัดเลยค่ะ
สรุปรวมๆ ก็เป็นประสบการณ์ใหม่สำหรับเราในหลายๆ เรื่องเลยค่ะ การไปคอนเสิร์ตศิลปินเกาหลีครั้งแรกในรอบ 10 ปี
แล้วก็ครั้งแรกกับการไปคอนเสิร์ตที่รู้จักเพลงน้อยเหลือเกิน แต่ยังรู้สึกสนุกและไฮพ์ตามทุกคนในคอนเสิร์ตไปเลย
ถึงตอนนี้รวมๆ เรายังคงเฉยๆ ในแง่เพลงของ GOT 7 แต่เราก็หวังว่าในอนาคตเราจะฟังเพลงวงนี้ด้วยความรู้สึกที่เปลี่ยนไปนะคะ
ปล. วันศุกร์เราได้โปสการ์ดมาด้วยค่ะ เป็นแฟนโปรเจคส์ที่ทำมาแจกกันน่าจะได้ทุกที่นั่งเลยมั้ง
ขอบคุณมากๆนะคะ เป็น fanart ที่น่ารักมากๆ เลย