[CR] เที่ยวรัวรัว : ถ้าเราเหนื่อยล้า จงเดินเข้าป่า คามิโคจิ Kamikochi, Nagano

สวัสดีค่ะ "พี่หยอดวัดยาง" จะพาไปเข้าป่าที่ประเทศญี่ปุ่นกันในกระทู้นี้...

ธรรมชาติในประเทศญี่ปุ่น ยังคงความสวยงามและสมบูรณ์ เพราะทุกคนช่วยกันดูแลรักษา  
"พี่หยอด" จะพาไปสัมผัสธรรมชาติแบบใกล้ชิดกันค่ะ

ก่อนอื่นขอฝากแฟนเพจเล็กๆของ “พี่หยอดวัดยาง” ไว้ในอ้อมใจด้วยนะคะ มีรีวิวอื่นๆให้ได้อ่านกันอีกเพียบเลย
จิ้มเข้าไปตามกันที่ Facebook Fanpage “เที่ยวรัวรัว”
www.facebook.com/travelruarua หรือที่ www.travelruarua.com



Kamikōchi ไปเดินป่า...คามิโคจิ สวิสเซอร์แลนด์แห่งประเทศญี่ปุ่น

Kamikōchi คือหุบเขาที่ตั้งอยู่บริเวณเทือกเขา Hida Mountain (ตอนเหนือของ Japan Alps) ในเขตอุทยานแห่งชาติ Chūbu-Sangaku National Park ทางตะวันตกของ Nagano Prefecture เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงามติดอันดับต้นๆ ของประเทศญี่ปุ่น  
แต่ละปีมีนักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นและจากทั่วโลกเดินทางมาเยือนจำนวนมาก

ในปีนี้ Kamikōchi เปิดให้เข้าไปชมธรรมชาติได้ระหว่างวันที่ 17 เม.ย.- 15 พ.ย.61 ค่ะ

มาเล่าให้ฟังถึง Kamikōchi กันซะหน่อยก่อน
พื้นที่ Kamikōchi เป็นแนวที่ราบสูงที่มีระยะทางประมาณ 15 กม. ทอดยาวไปตามแม่น้ำอาสุซะ Azusa River Valley โดยมีความสูงเหนือน้ำทะเลประมาณ 1,500 เมตร ไม่มากนักแบบว่าเดินกำลังสบายๆ หัวใจไม่เต้นแรงค่ะ

พื้นที่ Kamikōchi ยังคงความสมบูรณ์ทางธรรมชาติเต็มพิกัดค่ะ และเพื่อเป็นการดูแลรักษาและไม่รบกวนธรรมชาติ
พื้นที่ Kamikōchi มีข้อห้าม/ข้อควรปฏิบัติ ตามนี้ค่ะ

❌ บริเวณนี้จะไม่สามารถนำรถยนต์ส่วนตัวเข้ามาในพื้นที่ได้นะคะ ทางเดียวที่จะเข้ามาถึง Kamikōchi ก็คือโดยรถบัสหรือแท็กซี่เท่านั้น
❌ ที่นี่จะไม่มีถังขยะเลยแม้แต่จุดเดียวค่ะ เพราะขยะทุกชิ้น เราต้องนำกลับออกมาทิ้งด้านนอกทั้งหมด ใครจะเข้าไปเที่ยวก็อย่าลืมพกถุงพลาสติกเล็กๆ ไว้ใส่ขยะออกมาด้วยนะคะ
❌ ห้ามนำสัตว์เลี้ยงเขามาในพื้นที่ค่ะ เพราะใน Kamikōchi มีสัตว์เจ้าบ้านที่แสนน่ารักอยู่มากมาย ไม่อยากมารบกวนกันค่ะ
❌ ห้ามให้อาหารสัตว์ต่างๆ ที่พบเจอนะคะ ให้น้องๆเค้าหากินตามธรรมชาติดีที่สุด
❌ ห้ามหยิบ จับ หรือรบกวนต้นไม้ แมลง หรือสิ่งมีชีวิตต่างๆ ดูแต่ตาเท่านั้นดีที่สุด
❌ สุดท้ายเวลาเดินในพื้นที่ Kamikōchi ควรเดินเฉพาะตามเส้นทางที่มีไว้เท่านั้น

สังเกตดูนักท่องเที่ยวทุกคนให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีค่ะ พื้นที่ Kamikōchi นี้สะอาดมากจริงๆ ช่วยกันคนละไม้คนละมือแบบนี้ ดีงามมมมม

🚙 การเดินทาง
เราสามารถเดินทางมาที่ Kamikōchi ได้จาก 2 ฝั่งค่ะ
- ฝั่ง Nagano มาจากเมือง Matsumoto
- ฝั่ง Gifu มาจากเมือง Takayama
***สำหรับการเดินทางของ "พี่หยอด" เริ่มต้นจากเมือง Matsumoto นะคะ***

📌 เดินทางโดยรถสาธารณะ
สำหรับการเดินทางมาที่ Kamikōchi นั้น อย่างที่บอกไปว่าที่นี่เราจะต้องนั่งรถบัสเข้ามาได้อย่างเดียวค่ะ
โดยจะมีท่ารถบัส ซึ่งเป็นต้นสายอยู่ที่ Shin-Shimashima Station เมือง Matsumoto

จาก Matsumoto Station มีทั้งรถไฟและรถบัสพาเรามายัง Shin-Shimashima Station ใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมง
และจาก Shin-Shimashima Station - Kamikōchi อีกประมาณ 1 ชั่วโมง
ดูตารางเวลารถบัสได้ที่ link นี้
▶️ http://www.alpico.co.jp/en/transportation/detail.php?id=20

📌 เดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว  (พี่หยอดใช้วิธีนี้)
สำหรับคนที่ขับรถเที่ยวเอง เราสามารถขับรถยนต์ส่วนตัวเข้าไปได้ถึง Sawando Parking Area (ซึ่งจะอยู่เลย Shin-Shimashima Station มาเกือบครึ่งชั่วโมง) ที่นี่จะเป็นจุดสุดท้ายที่เราจะสามารถนำรถยนต์เข้าพื้นที่ได้ค่ะ โดยเส้นทางจะขึ้นเขาเรื่อยๆๆๆๆ เลย หลายโค้งพอสมควร ต้องขับด้วยความระมัดระวังนะคะ

ที่ Sawando Parking Area จะมีจุดจอดรถอยู่เยอะเลยค่ะ สามารถเลือกได้ว่าจะจอด 1 วัน / 2 วัน ราคาค่าจอดรถวันละ 600 JPY
📍พิกัด Sawando Bus Terminal
https://goo.gl/maps/NwQHMabsD4n

พอจอดรถแล้ว เราก็ต้องต่อรถบัสเพื่อเข้าไปใน Kamikōchi กันต่อค่ะ
ใช้เวลาประมาณ 20-30 นาที โดยสามารถซื้อตั๋วได้ที่ Sawando Bus Terminal ได้เลย ราคาตั๋ว ไป-กลับ 2,050 JPY ต่อคน
ดูเวลาตารางรถบัสได้ที่ link นี้ค่ะ
▶️ http://www.alpico.co.jp/access/kamikochi/sawando/

ดูรายละเอียดการเดินทางเพิ่มเติมแบบละเอียดได้ที่
▶️ http://www.kamikochi.org/plan/access#car

รถไฟมา Kamikōchi  น่ารักเชียว

Sawando Parking Area มีจุดจอดรถหลายจุด อยู่ไม่ไกลกัน

ตั๋วรถบัสไป Kamikōchi  แบบไป-กลับ


โอเคจบเรื่องวิธีการเดินทางแล้ว ทันนี้มาต่อกันที่ ป้ายที่จะลงบ้างดีกว่า... ดูแผนที่ประกอบไปด้วยนะคะ
แผนที่ละเอียดตาม link นี้ค่ะ http://www.kamikochi.or.jp/english/areamap/


รถบัสทุกคันจะมีที่หมายสุดสายเดียวกันคือที่ป้าย Kamikōchi ค่ะ ซึ่งป้ายนี้ก็คือ จุดศูนย์กลางของ Kamikōchi นั่นเอง ทุกสิ่งอย่างรวมกันอยู่จุดนี้ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น Tourist Information ร้านอาหาร โรงแรม ร้านขายของที่ระลึก และ Landmark ของ Kamikōchi ก็คือสะพาน Kappabashi นั่นเอง

***สำหรับใครที่ไม่อยากเดินเยอะ มีเวลาน้อย ก็แนะนำให้นั่งรถบัสสุดสายมาลงที่ป้ายนี้ได้เลยค่ะ

แต่สำหรับสายลุยหน่อย มีเวลาชิว อยากดื่มด่ำธรรมชาติ ขอแนะนำให้ลงรถบัสที่ป้าย Taisho-ike
ฟังคนขับบอกชื่อป้ายดีๆ ป้ายนี้จะมีนักท่องเที่ยวลงค่อนข้างเยอะค่ะ

ที่ป้าย Taisho-ike นี้จอดที่หน้าร้านอาหารเล็กๆ ที่ป้ายนี้ เราสามารถเริ่มต้นการเดินชมวิวทิวทัศน์สวยๆได้ค่ะ โดยมีระยะทางประมาณ 3.5 กม. เพื่อเดินไปจบที่สะพาน Kappabashi ใจกลาง Kamikōchi

โดยเส้นทางในการเดินนั้น ไม่ยากลำบากใดๆเลยค่ะ เป็นการเดินป่าที่ง่ายและสบายมาก มีสะพานไม้ให้เดินได้อย่างสบาย ไม่ต้องใช้ skill พิเศษใดๆ เพียงแค่เตรียมรองเท้าผ้าใบที่เหมาะสำหรับการเดินลุยๆมาก็พอ

หน้าตาป้าย Taisho-ike


จากนี้จะ เล่าสิ่งที่พบเจอระหว่างทางและจุดแวะชมตามเส้นทางนี้ค่ะ "พี่หยอด" เริ่มการเดินชมตั้งแต่เวลา 8 โมงเช้า
หลักๆ ขอแบ่งเป็น 7 จุด ดังนี้ค่ะ  (รูปเยอะหน่อยนะคะ)

📍 จุดที่ 1 - Taisho-ike Pond

บ่อน้ำขนาดใหญ่ที่เกิดขึ้นจากการระเบิดของภูเขาไฟ  Mt.Yake-dake มีของเหลวไหลลงมา จนทำให้เกิดเป็นบ่อน้ำแห่งนี้ น้ำใน Taisho-ike Pond สีเขียวอมฟ้าสวยงามมากกกกกกกค่ะ highlight ของจุดนี้ก็คือ reflection shot ภาพสะท้อนน้ำของแนวเทือกเขา Hotaka Mountain Range ค่ะ
ในตอนเช้าแสงแดดอ่อนๆ ส่องเข้ามาทางบ่อน้ำพอดิบพอดี ถ่ายรูปออกมาไม่ย้อนแสงค่ะ



📍จุดที่ 2 - จุดชมวิว Mt.Yake-dake

จาก Taisho-ike Pond เราเดินต่อมาเรื่อยๆ ไม่ไกลมากจะเจอกับจุดชมวิว Mt.Yake-dake ค่ะ
ระหว่างทางก็จะมีสะพานไม้ข้ามธารน้ำเดินสบาย
ซึ่งจุดชมวิวนี้ มีลักษณะเป็นลานหินกว้างๆ และมี Mt.Yake-dake อยู่เบื้องหน้า
ซึ่ง Mt.Yake-dake เป็นภูเขาไฟที่ยังไม่ดับ มีความสูง 2,455 เมตร ตรงยอดเขามีลักษณะเป็น lava dome จะเห็นแนวร่องการไหลของลาวาเมื่อครั้งที่มีการปะทุของภูเขาไฟ



📍จุดที่ 3 - จุดชมวิว Hotaka Mountain Range

เดินต่อไปเรื่อยๆจะผ่านป่าสนขนาดใหญ่ ซึ่งต้นสนในญี่ปุ่นสามารถขึ้นได้ทั้งตามพื้นที่แห้งและเปียก เป็นพืชที่มีความแข็งแทนทนต่อทุกสภาพอากาศได้เป็นอย่างดี ตลอดทางจะได้ยินเสียงนกร้องค่ะ เพราะในพื้นที่  Kamikōchi มีนกมากกว่า 100 สายพันธุ์อาศัยอยู่

ณ จุดชมวิว Hotaka Mountain Range นี้ เราสามารถมองเห็นแนวเทือกเขานี้ได้แบบกว้างๆ โดยมีหุบเขา Dake-sawa ซ้อนอยู่ด้านหน้า และจะสามารถมองเห็นยอดเขาของ Mt.Okuhotaka-dake ที่ความสูง 3,190 เมตร ซึ่งสูงเป็นอันดับ 3 ของประเทศญี่ปุ่น


📍จุดที่ 4 - Tashiro-ike Pond & Wetlands

จากจุดชมวิว Hotaka Mountain Range จะเป็นทางแยกซ้าย-ขวาค่ะ หากเราเลี้ยวขวาไปนิดเดียวก็จะเจอกับ Tashiro-ike Pond & Wetlands
จุดนี้จะเป็นพื้นที่ชุ่มน้ำและบ่อน้ำเล็กๆ เวลาฝนตกลงมาบริเวณนี้ ก็จะไหลมากักเก็บและซึมลงบนพื้นผิวดินแถวๆนี้ และมีวิวด้านหลังคือ Mt.Roppyaku-san และ Mt.Kasamizawa-dake เป็น background

ชื่อสินค้า:   Japan
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่