สวัสดีเพื่อนชาวบลูแพลนเน็ต ทุกท่าน เนื่องจากผมได้มีโอกาสเดินทางไปงานวิ่ง Krabi Half Marathon ณ จังหวัดกระบี่ ซึ่งเป็นรายการวิ่งหนึ่งในรายการ Bangkok airways boutique series 2018 ทำให้ผมเลยได้ถือโอกาสไปท่องเที่ยวไปในตัวเลยทีเดียว พร้อมแล้วออกเดินทางไปกับผมได้เลย
                  
        วันแรก
            ออกเดินทางจากสนามบินสุวรรณภูมิ ด้วยสายการบิน Bangkok airways ด้วยเที่ยวบินที่ PG 261 เวลา 9.55 น. โดยที่ไปเช็คอินได้ที่เค้าเตอร์ F บริเวณชั้น 4 ของสายการบิน หลังจากนั้นพร้อมออกเดินทางจาก กรุงเทพ ไปยัง กระบี่กันเลยยยยย

     นี่คืออาหารที่แจกบนเครื่องบิน คือ โจ๊กไก่ ใส่เห็ดหอม

                     ใช้เวลา 1 ชั่วโมง 5 นาที ก็เดินทางมาถึงสนามบินนานาชาติจังหวัดกระบี่ หลังจากนั้นเดินออกมาจาก Gate แล้วตรงออกมายังอาคารที่ 2 ของ สนามบิน เราก็จะพบกับ Shutter Bus ที่จะเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ ภายในจังหวัดกระบี่

                     แล้วรถ Shutter Bus ก็พาเรามาถึง ณ โรงแรมไอบิส สไตล์ อ่าวนาง โรงแรมจะตั้งอยู่เยื้องๆ กับ มัสยิดอ่าวนางเลยครับ จะเป็นโรงแรมที่อยู่ไม่ใกล้ และไม่ไกลจากชายหาดอ่าวนาง ห้องเล็กกระทัดรัด บรรยากาศโดยรวมเหมาะสำหรับพักผ่อน ซึ่งทางโรงแรมจะมีรถรับส่งไปยังหาดอ่าวนางทุกๆ ครึ่งชั่วโมง ใครที่สนใจสามารถใช้บริการได้ฟรี

รูปบริเวณหน้าโรงแรม

รูปภายในห้องพัก


บรรยากาศภายในและภายนอก

                      หลังจากนั้น ถ้าใครไม่อยากที่จะเดินตามหาซื้อทัวร์ดำน้ำ เที่ยวเกาะ บริเวณที่อ่าวนาง เพราะจะมีให้เลือกอย่างมากมายหลากหลายบริษัท ไม่ต้องไปตามหาให้เสียเวลาเลย แต่ที่โรงแรมได้มีโต๊ะบริการขายทัวร์ และเช่ารถ ที่มีอยู่ใกล้กับล็อบบี้ของโรงแรม ซึ่งโปรแกรมที่เลือกคือ ทัวร์ เกาะห้อง พร้อมทั้งเช่าเช่ารถมอเตอร์ไซค์ เป็นเวลา 2 วัน เพื่อใช้เดินทางภายในกระบี่  
                      เมื่อทุกอย่างพร้อมออกเดินทางไปยังสถานที่แรกกันเลยยย

                  หลายคนคงคิดว่าจังหวัดกระบี่นั้นมีสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นทะเลอย่างเดียว แต่เราจะพาไปยังสถานที่ท่องเที่ยวที่ถือว่าเป็นธรรมชาติและสวยงามแห่งหนึ่งในจังหวัดกระบี่ คือ “คลองหนองทะเล” หรือ คลองหรูด ซึ่งเป็นคลองน้ำจืดสายเล็กๆ ที่มีลักษณะคล้ายๆ กับป่าพรุ เต็มไปด้วยเหล่าต้นไม้น้อยใหญ่ ต่อมาเมื่อราว 10 ปีก่อน ได้มีก่อสร้างฝายน้ำล้นที่บริเวณกลางลำคลอง เพื่อชะลอน้ำไว้ใช้ในช่วงหน้าแล้ง และนำน้ำมาผลิตน้ำประปาแก้ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน ส่งผลให้ด้านบนของฝาย จากลำคลองเล็กๆ และป่าพรุ ก็กลายเป็นแอ่งน้ำขนาดใหญ่มีเนื้อที่ประมาณ 100 ไร่ ความลึกประมาณ 5 เมตร กว้างประมาณ 200 เมตร จนชาาวบ้านพูดติดปากกันว่า “คลองหนองทะเล” นั่นเอง

                        แต่ที่เป็นไฮไลท์ของงานนี้ ได้มีชาวบ้านนำเรือคายัค มาเปิดให้นักท่องเที่ยวได้ใช้บริการเช่าเพื่อพายเข้าไปยังสถานที่เที่ยวแห่งนี้ได้

                        เก็บบรรยากาศไปอย่างเต็มที่ ขับรถออกมาเพื่อรอดูพระอาทิตย์ตกดิน ณ หาดนพรัตน์ธารา ซึ่งอยู่ในไกลจากหนองทะเล
แล้วพร้อมลาไปพักผ่อนกับภาพๆ นี้ แล้วมาพบกันใหม่ในวันที่สอง  

       วันที่สอง
                  เช้าวันรุ่งขึ้น ตื่นเช้ามาทานอาหารที่โรงแรม หลังจากนั้นเวลา 8.15 น. ได้รอรถจากทางบริษัททัวร์มารับ เพื่อไปเที่ยวเกาะห้อง

                      ใช้เวลาประมาน 20 นาที รถได้มาส่ง ณ หาดนพรัตน์ธารา เพื่อมาลงทะเบียนไปยังเกาะห้อง ซึ่งบริษัททัวร์ที่เราเลือกใช้บริการคือ กระบี่ มุก อันดามัน ได้ทำการแจก ริสแบนด์เพื่อที่จะแสดงให้รู้ว่าทุกคนจะไปทริปอะไร โดยที่กรุ๊ปเราวันนี้ จะเป็น คนไทยทั้งหมด เลยครับบ ไปลงเรือกันเลยยยยจ้า

                     การเดินทางโดยใช้เรือสปีดโบ๊ท ไปยัง เกาะห้อง ใช้เวลาประมาน 45 นาที จากบริเวณชายฝั่ง ซึ่งทางไกด์นำเที่ยวของเราจัดการบริหารโปรแกรมทัวร์ให้กับพวกเรา โดยการที่ให้พวกเราไปยังเกาะห้อง เป็นอันดับแรก เพราะถ้ามาที่นี่เป็นที่สุดท้ายของทริป ก็จะมีนักท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก

ยกให้เลยครับ เกริลกรุ๊ป กลุ่มนี้ ^^

                       เราใช้เวลาอยุ่บนเกาะแห่งนี้ประมาน 1 ชั่วโมง 30 นาที แล้วเดินทางต่อไปยัง เกาะห้อง ลากูน เพื่อเยี่ยมชมความงาม และสิ่งที่เป็นที่มาของชื่อเกาะนี้

                      ออกเดินทางต่อไปยังเกาะต่อไป ใช้เวลาประมาน 10 นาที ในการนั่งเรือ เกาะนี้มีชื่อว่า “เกาะผักเบี้ย” พวกเรารับประทานอาหารกลางวันกันที่นี่ ซึ่งทางที่บริษัททัวร์เตรียมอาหารไว้ให้เป็นแบบบุฟเฟต์ คือ ผัดเปรี้ยวหวาน / ไก่ทอด / แตงโม และ สัปปะรด แล้วใช้เวลาอยู่บนเกาะนี้ เป็นเวลา 1 ชั่วโมง  

พระเอกของงานนี้

งามกว่าเกาะก็นี่แหละครับ

                        สุดท้ายออกเดินทางไปเกาะสุดท้ายของทริปนี้ คือ “เกาะเหลาลาดิง” ซึ่งเกาะนี้เป็นเกาะสำคัญแห่งนี้ที่เป็นสถานที่แข่งขันกระโดดน้ำ ของ Red blue อีกด้วย

                       แล้วสุดท้าย แต่ยังไม่ท้ายสุดเราก็เดินทางกลับไปยังโรงแรม โดยสวัสดิภาพ ทริปนี้ ถือว่าดี ซึ่งเราต้องขอขอบคุณ “คุณหมัด” ไกด์นำเที่ยวของเรา มีการบริการเป็นอย่างดี ถ้าใครที่สนใจจะไป เที่ยวดำน้ำ ดูเกาะ แนะนำ “บริษัท กระบี่ มุก อันดามัน” จังหวัดกระบี่

                       ก่อนที่เราจะแยกย้ายไปพักผ่อน ได้ออกไปเดินเล่นแถวโรงแรม ซึ่งมีงานเทศกาลของชาวมุสลิมพอดี เลยขอเก็บภาพมาฝากเลยครับ

         วันที่สาม
             วันนี้เราต้องตื่นเช้าเป็นพิเศษ เพื่อที่จะไปร่วมวิ่งในงาน Krabi Half Marathon กันนะครับ ซึ่งหลังจากที่เราได้วิ่งเสร็จแล้วกลับมาที่พักเพื่อพักผ่อน แล้วเก็บของ เพื่อพร้อมออกเดินทาง ไปยังสนามบินนานาชาติจังหวัดกระบี่ โดยการที่เราได้โทรจอง Shutter Bus ล่วงหน้าเพื่อให้มารับเราที่โรงแรม ไปยังสนามบิน ด้วยสายการบิน Bangkok airways เที่ยวบินที่ PG 268 เวลา 14.55 น.

                        สรุปค่าใช้จ่ายในการเดินทางครั้งนี้

                    หมายเหตุ ราคานี้ไม่รวมอาหารและค่าตั๋วเดินทาง

                     แล้วกลับมาพบกันใหม่โอกาสหน้านะครับ ^^
                     สุดท้ายนี้ฝากติดตามเรื่องราวดีดีของพวกเราได้ ที่ https://www.facebook.com/%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B9%89%E0%B9%81%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B9%8B%E0%B9%81%E0%B8%96%E0%B9%84%E0%B8%9B%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A2%E0%B8%A7-255394408337933/