[CR] South Vietnam trip มีอาหารฮาลาลกินตลอดทั้งทริป - โฮจิมินห์ ดาลัด มุยเน่ 5 วัน 4 คืน 12-16 Apr 18

สวัสดีค่ะ

เป็นการรีวิวอย่างจริงจังครั้งแรก หลังจากที่ได้ไปเที่ยวเรื่อยๆหลายที่ ปกติเกือบทุกครั้งที่เราไปเที่ยวเราจะเก็บรายละเอียดเสมอ แต่ไม่ได้มารีวิวจริงจัง เวลาเพื่อนถามก็ก็อปข้อความส่งไปให้เพื่อนโดยตรงเลย แต่ครั้งนี้เป็นทริปที่สนุกและเต็มที่มากทริปนึงเลยล่ะ และจังหวะมันได้เลยเอ้ารีวิวสักหน่อยล่ะกัน หวังว่าจะได้ประโยชน์กันนะคะ

ก่อนอื่นขอเกริ่นความเป็นมาของทริปครั้งนี้ก่อนนะคะ

เราทำงานอยู่ที่เคแอล (มาเลเซีย) ซึ่งที่ทำงานใหม่ของเราต้องหยุดตามวันหยุดไทย ไม่สามารถไปทำงานและสะสมวันหยุดไปใช้วันอื่นได้ ทีนี้พอถึงวันสงกรานต์ลำบากเราเลย หยุดตั้งหลายวัน เสียดายวันหยุดยิ่งมีไม่เยอะอยู่ด้วย จะกลับไทยก็ไม่อยากโดนสาดน้ำ เราก็เลยโพสต์หาเพื่อนเที่ยวในเฟซบุ๊คซะเลย ซึ่งก็ได้ผลจริงๆด้วย มีเพื่อนร่วมอุดมการณ์ทักมาด้วยยยยย ทักมาแบบแกชั้นอยากเที่ยวแต่ไม่รู้จะไปไหนดี! สุดท้ายเราก็สรุปกันได้ว่าอยากไปลั๊ลลาบนทะเลทรายที่เวียดนามใต้  

ข้อมูลเบื้องต้น

ตั๋ว
เริ่มต้นที่ค่าตั๋วเครื่องบิน เราใช้บริการของ Airasia เจ้าประจำ ซื้อไปกลับ Kuala Lumpur – Ho Chi Minh รวมภาษีทุกอย่างแล้วอยู่ที่ราคาไทยประมาณ 2872.18 บาท

เรทเงิน
เนื่องจากไปกันสามคน เราแลกจากเงิน Ringgit Malaysia อีกคนแลกจาก US Dollar และอีกคนก็ไปกดตู้ ATM ที่โน่นเอา เมื่อเช็คยอดเงินกดตู้ที่หักจากบัญชีไทยแล้ว คำนวณได้ว่า 1000 ดอง = 1.43 บาท ซึ่งเวลาเราคิดเงิน เราจะตัดเลขศูนย์สามตัวหลังออกเพื่อง่ายต่อการคิดเงิน และในรีวิวนี้เราจะยึดเรทนี้นะคะ

เวลา
ที่เวียดนามจะใช้เวลาตามนาฬิกาเหมือนไทยคือ +7 GMT แต่พระอาทิตย์จะขึ้นไวกว่าที่ไทยประมาณ 1 ชั่วโมง ดังนั้นเวลาละหมาดของเราก็จะเร็วขึ้น โดยเฉพาะศุบหฺนั้นนอนเพลินไม่ได้เชียว

ซิมการ์ด
เราได้ของ Vinaphone อินเตอร์เน็ต 4G speed 5GB ราคา 150000 ดอง ใช้ได้ 1 เดือน เป็นซิมเปล่าไม่มีเงินอยู่ข้างใน สัญญาณเล่นได้ไม่ติดขัดถึงแม้จะอยู่ในเขา

เสื้อผ้า
เนื่องจากเราไปช่วงหน้าร้อน เตรียมชุดที่ใส่สบายๆพอค่ะ  

สภาพอากาศ
เนื่องจากเดือนนี้เป็นฤดูร้อนของเวียดนามใต้ ดังนั้น แน่นอนว่าอากาศร้อนมากกกกก โดยเฉพาะโฮจิมินห์ วันที่เราไปอยู่ที่ 34 องศาสวยๆ ดาลัดตอนเช้ากับกลางคืนอากาศเย็นสบาย 16-20 องศา ส่วนตอนเที่ยงเนี่ยไม่ต่างอะไรกับบ้านเราเลย วันนั้นเช็คได้ที่ 28 องศา และที่มุยเน่ก็อากาศร้อนตามประสาริมทะเล อยู่ในทะเลทรายล่ะค่ะ แต่วันที่ไปก็พอได้อยู่ไม่ได้อบอ้าวอะไรมากค่ะ แต่ดีอย่างคือท้องฟ้าสดใสมากไม่มีฝนตกซ้ากหยด

ของกิน
หลักๆเลยคือน้ำจิ้มซีฟูดส์ ย้ำ** (ไปมุยเน่แล้วเดี๋ยวจะรู้ว่าทำไม) นอกนั้นก็พาพวกขนมปัง มาม่าคัพ ข้าวต้มซอง ซอสหรือน้ำพริกอะไรที่เราขาดไม่ได้ไว้กินกับข้าวเผื่อเจออาหารไม่ถูกปาก แต่ไม่ต้องเยอะมากน่ะเพราะจะหนักเอาเปล่าๆ

ที่พัก
เนื่องจากเราไม่ชอบห้องรวม เลยเลือกที่จะพักแบบห้องเดี่ยวห้องน้ำในตัว โดยจะหาห้องแบบสามคนสองห้องนอนเพราะเราไปหญิงสองชายหนึ่ง เราจองผ่านเว็บ booking ค่ะ พยามเลือกที่พักที่ได้คะแนนรีวิว 8 ขึ้น มีที่พักดังนี้
- ดาลัด: Da Lat 24h Guesthouse ราคา 724 บาท ที่นี่มีฟรีอาหารเช้าด้วย ที่พักโอเคอยู่ พนักงานน่ารัก พูดภาษาอังกฤษคล่องมาก
- มุยเน่: Delight Hotel Mui Ne ราคา 569 บาท ห้องพักเก่าหน่อย แต่ยังรับได้ พนักงานใจดีมากก พูดอังกฤษได้ แถมติดกับร้านอาหารฮาลาลด้วย
- โฮจิมินห์: Van Hung ราคา 1126 บาท ราคานี้ในเมืองโฮ สภาพห้องเหมือนห้องเช่ามากกว่าโรงแรม ส่วนตัวรู้สึกผิดหวังหน่อยๆค่ะ เจ้าของบ้านภาษาได้นิดหน่อย โดยรวมไม่ค่อยประทับใจ

สรุปค่าใช้จ่ายคร่าวๆ
วันที่ 1 634 บาท
วันที่ 2 671 บาท  
วันที่ 3 1742 บาท  
วันที่ 4 1245 บาท
วันที่ 5 80 บาท

รวม 4372 บาท และเมื่อรวมค่าตั๋วก็อยู่ที่ประมาณ 7244.18 บาท โดยค่าใช้จ่ายนี้ยังไม่รวมค่าของฝากนะคะ

เมื่อดูค่าใช้จ่ายแล้ว อาจจะดูเยอะไปหน่อยถ้าเทียบกับ back packer ทั่วไป แต่เราเต็มที่มากกกกกกับทริปนี้บอกเลย ถ้าอยากรู้ตามไปกันเล้ยยยย

Day 1 Ho Chi Minh

เราไปถึงสนามบิน Tan Son Nhat International Airport โฮจิมินห์เวลาประมาณ 12.10 น. ซึ่งแน่นอนว่าตั้งใจเอาไฟลท์เที่ยงเพราะตอนเช้ากลัวตื่นไปสนามบินไม่ทันแล้วจะตกเครื่อง (คนมีประสบการณ์นี้อย่างเราย่อมรู้ดี แฮ่)

รับกระเป๋าเสร็จแล้ว เดินออกมา ซ้ายมือก็จะเห็นร้านขายซิมเรียงราย เพราะอ่านรีวิวมาแล้วเราเลยตรงดิ่งไปร้านริมสุดเพื่อซื้อซิมให้เรียบร้อยก่อนเลย จากนั้นก็รีบต่อเน็ตเปิดเพื่อเช็คเวลาละหมาดและทิศของกิบลัต โชคดีใกล้ๆจะมีห้องน้ำและมุมกำแพงที่ไม่มีคนเดินผ่านพอดี เราก็เลยจับจองพื้นที่ตรงนี้ซะเลย กินข้าวที่ซื้อมาตอนเช้าเติมพลังก่อนและปูผ้าซาญาดะห์ละหมาดรวมตรงนี้

เมื่อทำธุระเสร็จเรียบร้อยแล้ว เราก็เดินออกมาข้างนอกสนามบิน โอ้โฮ นี่ขนาดเป็นวันธรรมดานะ แต่คนเยอะมากกเว่อร์ เรามองไปทางขวา เดินตรงไปหา burgur king จะเห็นเสาหมายเลข 15 มองไปตรงข้ามเราก็จะเห็นบัสหมายเลข 152 จอดอยู่ ตอนที่เราเดินข้ามถนนไปกระเป๋ารถเมล์ก็ยืนกวักมือเรียกอยู่แล้ว ค่ารถตกคนละ 5000 ดอง และค่ากระเป๋าอีกใบละ 5000 ดอง เพื่อไปลงที่ฟามงูเหลา ความที่อ่านรีวิวมาเค้าบอกว่าจะใช้เวลาเดินทาง 1 ชั่วโมงซึ่งตอนนั้นหิวน้ำมากกกกก ระหว่างรอบัสออกเลยลงไปซื้อน้ำเปล่าที่ร้านคาเฟ่แถวนั้น สนมราคา 56000 จ้าาาาา อิชั้นรวยมากกกก ตอนจ่ายก็ยื่นเงินให้เค้าไปแบบงงๆเหมือนยังคิดไม่ได้ว่าชั้นซื้อน้ำแร่อะไรมาหรอหรือสั่งผิดเพราะตอนสั่งบอกไปว่าจะเอา mineral water แต่พอดื่มไปอึกแรก อื้อหือออออ สดชื่นมากกกหายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้ง ประชด - -"  

นี่คือรูปเปรียบเทียบน้ำที่ซื้อจากสนามบินกับซื้อที่ร้านทั่วไป

หลังนั่งรถมาประมาณ 1 ชั่วโมงได้ เค้าก็จะบอกเราค่ะว่ามาถึงฟามงูเหลาแล้ว เราจะเห็นตึกนี้นะคะ เห็นสวยดีเลยถ่ายเก็บไว้

เมื่อไปถึงแล้ววิญญาณนักท่องเที่ยวของเราก็เข้าสิงทันที เปิด Google Maps ลากกระเป๋าไปที่ Futa bus เพื่อจองรถบัสไปดาลัดคืนนี้ พนักงานสามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้ดีค่ะ ดังนั้นไม่ต้องห่วงในส่วนนี้ ตอนแรกเค้าให้นั่งตอนเที่ยงคืนแต่พวกเราลองถามรอบที่เร็วกว่านี้ซึ่งของห้าทุ่มเต็มแล้ว ดังนั้นของเราได้รอบ 22.20 น.ค่ะ ข้างๆ Futa bus ติดกันเลยจะมีร้านฝากกระเป๋าอยู่ เราก็เดินเข้าไปเลย ฝากกระเป๋าจ่ายคนละ 30000 ดอง ความที่ไม่ได้เตรียมตัวอะไรมาก เราก็ลองขอแผนที่ท่องเที่ยวเมืองจากเค้าเลย ซึ่งเค้าก็มีเตรียมเรียบร้อยแล้ว เอาออกมาและแนะนำการเดินรอบเมืองได้ค่อนข้างละเอียด ปิดท้ายด้วยคำว่า ถ้าไม่อยากเสียเวลา ยูควรไปที่โบสถ์นี้ก่อนกับรถแล้วค่อยเดินย้อนกลับ จะให้เรียกให้ใหม 40000 ดองเอง ถ้าพวกเธอเรียกแท๊กซี่มันจะแพงกว่านี้น่ะ พวกเราก็อ่ะโอเคได้ เค้าก็จัดการเรียกให้เสร็จสรรพเรียบร้อยรถมาถึงเราก็นั่งไปเลย พอขึ้นรถปั๊ปสตั๊นไปสามวิ นี่มัน Grab นี่ และที่พีคกว่านั้นคือราคาแค่ 25000 เองจ้า วิญญาณนักเดินทางของชั้นหายไปไหน!! รู้ทั้งรู้ว่าที่นี่เค้าใช้ Grab กันก็ยังมิวายโดนหลอก แหม่ พนักงานดูใจดีอย่างนี้ 20 บาทก็เอานะคะ และที่แย่ไปกว่านั้นคือพวกเราลืมแผนที่ไว้ที่ออฟฟิศเค้าค้าาา ดีงามไปอีก 555 - -"

เมื่อเราไม่มีแผนที่แล้ว การเที่ยวตามใจฉันก็เริ่มต้นขึ้น เมื่อไปถึงโบสถ์ Norte-Dame แล้วตรงข้ามกันก็เป็นไปรษณีย์กลางที่ผู้ออกแบบเป็นคนเดียวกันกับที่ออกแบบหอไอเฟล หลังจากนั้น Google Maps ล้วนๆอยากไปไหนก็เดินตาม GPS เพื่อเก็บภาพไปเรื่อยๆตามรีวิวทั่วๆไปที่เค้าแนะนำว่าควรไปที่ไหนบ้าง ซึ่งเราก็เลือกๆเฉพาะที่ที่เราสนใจ จนสุดท้ายเราก็มาหยุดอยู่ที่ The Apartment coffee และแน่นอนว่าเปิด Google เหมือนเดิม แบบรวดเร็วเลย และเราก็ได้ความว่าคนชอบเข้าไปนั่งที่ร้าน The Maker ดังนั้นเราก็เลยปักหลักที่นี่ยาวเลยเพื่อหลบร้อนตอนเย็น เราอยู่ที่นี่ถึงค่ำ ประมาณสองชั่วโมงได้โดยการสั่งแค่น้ำสามแก้ว ฮ่าาา เค้าไม่ไล่ออกก็บุญเท่าไหร่แล้ว หลังจากนั้น ตอนค่ำๆก็ลงมาถ่ายรูปเก็บบรรยากาศข้างล่างซึ่งกลายเป็นถนนคนเดินไปแล้ว อ้อ ถ้าใครอยู่ที่จตุรัส Ho Chi Minh แล้วก็อย่าลืมแวะไปเยี่ยมมัสยิดกลางเมืองที่อยู่ใกล้ๆนี้ด้วยนะคะ ชื่อว่า Central Mosque - JAMIA AL MUSLIMIN (Dong Du Mosque) in Ho Chi Minh City ซึ่งเป็นมัสยิดเก่าแก่ไม่แพ้โบสถ์คริสต์ (Notre-Dame ปี 1863 และ Central Mosque ปี 1953) หากหาชื่อใน Grab หรือ Google Maps ไม่เจอก็ให้ใส่เป็นที่อยู่แทนได้เลยค่ะ 66 Đông Du, Bến Nghé, Quận 1, Hồ Chí Minh, Vietnam

และต่อไปนี้คือรูปที่เราแวะไปถ่ายรูปด้วยค่ะ

โบสถ์ Norte-Dame

ไปรษณีย์กลาง

ข้างในก็มีการใช้งานตามปกติค่ะ มีโปสการ์ดขายด้วย

เราชอบศิลปะของการเอากระดาษมาทำเป็นรูปต่างๆของเค้ามากอ่ะ มันดูสวยดี อันนี้มีตัวอย่างมาฝาก

ส่วนอันนี้ที่เค้าวางขายไว้ข้างนอก แต่เราไม่ได้ซื้อที มันดูบอบบางเหลือเกินไม่เหมาะกับการต้องแบกสำหรับนักเดินทางอย่างเรา กลัวมันจะพังไปก่อนถึงบ้าน

ใกล้ๆกันจะมีทำเนียบอิสรภาพ The independence Palace (จริงแล้วที่นี่เรามาเก็บตกวันสุดท้ายแล้ว แต่ถ้าใครสนใจก็มาตั้งแต่วันนี้ก็ดีค่ะเพราะมันอยู่ทางเดียวกันแล้ว)

มาเรื่อยๆก็จะเดินผ่านที่นี่อีกสถานที่สำคัญแต่เราจำชื่อไม่ได้เพราะแค่เดินผ่าน ไม่ได้เข้าไปที

หลังจากนั้นก็เดินเรื่อยๆมาที่ Operahouse ติดกันก็จะเป็นจตุรัสโฮจิมินห์


ถึงเวลาเลิกงานแล้ว ขอกลับบ้านก่อน เดี๋ยวมาต่อในคอมเม้นท์นะคะ
ชื่อสินค้า:   เวียดนาม - โฮจิมินห์-มุยเน่-ดาลัด
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่