Vivo ร่วมเป็นสปอนเซอร์ฟุตบอลโลก 2018-2022 ถือเป็นแบรนด์สมาร์ทโฟนรายเดียวที่ได้สิทธิแบบ exclusive และสำหรับ "Vivo V9 FIFA Blue Limited Edition" ถือเป็นรุ่นพิเศษสุดกว่า V9 ทุกสีที่จำหน่ายออกไป เพราะเป็นรุ่นที่ทำร่วมกับ FIFA โดยเฉพาะ โดยมีเครื่องหมายของ FIFA มาใช้งานอย่างถูกต้อง จะมาพร้อมกับ FIFA UI ที่เป็นธีม FIFA ที่มากับเครื่องเลยโดยเฉพาะ ผลิตและจำหน่ายจำนวนจำกัดครับ สำหรับใครเป็นแฟนลูกหนังไม่ควรพลาดจริงๆ สำหรับค่าตัวของ Vivo V9 FIFA Blue Limited จะอยู่ที่ 11,999 บาท (แพงกว่าตัวธรรมาดาหนึ่งพัน แลกกับการเป็น Limited Edition)
ในรุ่นสีน้ำเงินนี้วัสดุที่ผลิตก็ใช้วัสดุอย่างดี ที่มีต้นทุนที่สูงขึ้น ฝาหลังมีความเงางามแต่ลอยนิ้วมือแทบจะไม่ฝังติดกับตัวเครื่องเหมือนสีดำครับ การเคลือบผิวดีจริงๆ สีฝาหลังน้ำเงินตัดกับด้านหน้าสีดำ ดูเรียบหรูขึ้น
จุดเด่นสำหรับ Vivo V9
หน้าจอขนาด 6.3 นิ้ว แบบ IPS ความละเอียด FHD+ 1080×2280 พิกเซล อัตราส่วน 19:9 ขอบด้านข้างทั้งสี่เหลือพื้นที่น้อยมากๆ สัดส่วนของหน้าจอ 90% ของพื้นที่ทั้งหมด ทำให้ตัวเครื่องมีขนาดที่เล็กลง การแสดงผลของหน้าจอที่สวยงาม ทำให้น่าใช้งานมากยิ่งขึ้น ขนาดตัวเครื่อง 154.81×75.03×7.89 มิลลิเมตร หนัก 150 กรัม ถือว่าบางและเบามาก โดยเฉพาะตัวเครื่องที่มากับแบตเตอรี่ 3260mAh ชั่งบางและเบาได้ใจแท้
Vivo V9 มาพร้อมกับชิปประมวลผลของ Qualcomm Snapdragon 626 Octa-core 2.2GHz / GPU Adreno506 หน่วยความจำขนาด RAM 4GB / ROM 64GB (รองรับการ์ด microSD Card สูงสุด 256GB) เป็นชิปยอดนิยมอีกตัวที่ให้ประสิทธิภาพและการจัดสรรพลังงานได้ดีเยี่ยม สามารถเล่นเกมส์ได้ไหลลื่นและไม่ร้อนขณะใช้งานยาวนาน
ROV เล่นได้ที่ 26-30 FPS นะครับ
เซนเซอร์ต่างๆมีมาครบ รองรับ Fullnet com / VoLTE และ WiFi 5.0GHz การจับสัญญาณและนำทางผ่าน GPS ทำได้ดีครับ
ระบบเสียง Qualcomm Aqstic™ audio technology คือเทคโนโลยีด้านเสียงจากชิปออนบอร์ดที่มาพร้อมกับ Snapdragon626 ทำงานร่วมกับ audio effect deep field ที่ทาง vivo ร่วมมือและพัฒนา เสียงผ่านหูฟังถือว่าดีมาก อาจจะไม่เคลียเท่ากับพวก Cirrus Logic หรือ ESS แต่ถ้าฟังจากหูฟังทั่วไป ยากที่จะแยกออก จุดเด่นของชิปตัวนี้จะมี amplifier (WSA8810/8815) เพื่อขับลำโพงให้เสียงดังและชัดเจนขึ้น Amplifier output power 4.0W Class-D เรื่องเสียงไว้ใจได้เลย และยังมาพร้อมกับช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มม. มาให้เช่นเดิมครับ ไม่ต้องวุ่นวายวิ่งหาตัวแปลงให้ยุ่งยาก
Vivo V9 มาพร้อมกับระบบปฎิบัติการที่ใหม่ล่าสุดของค่ายเลยตอนนี้ (Android 8.1) และเป็นรุ่นแรกเช่นกันที่ใช้ Funtouch OS 4.0 การแจ้งเตือน แจ้งเตือนได้ทั้ง ไฟแสดงสถานะ เสียงเตือน รวมไปถึงตัวเลขบยไอคอนบนหน้าจอ ไม่พลาดต่อการติดต่อแน่นอน และธีมยังมีให้โหลดใช้งานฟรีเช่นเดิมครับ สำหรับรอมของค่ายนี้ผมถือว่าเสถียรดีมาก และการแจ้งเตือนที่ดี เหมาะสำหรับกลุ่มแม่ค้าออนไลค์ ไว้ติดต่อลูกค้าตลอดช่วงเวลา จะได้ไม่ขาดการติดต่อ
จุดเด่นของ Funtouch OS 4.0 จะมาพร้อมกับ การใช้งานโคลนแอ๊พ สามารถใช้งานพร้อมกันสอง ID ได้ แยกการทำงานและเรื่องส่วนตัว / แบ่งแยกการทำงานสองหน้าจอพร้อมกัน / และมาพร้อมกับโหมดเกมส์ เช่นการแจ้งเตือนต่างๆขณะเล่นเกมส์
กล้องถ่ายภาพ
Vivo ได้นำเทคโนโลยี AI Smart Engine เข้ามาช่วยในการประมวลผลการถ่ายภาพ ฟังก์ชั่นต่างๆ ของกล้องทำงานได้อย่างสมบูรณ์แบบด้วยเทคโนโลยี AI ช่วยให้ถ่ายเซลฟี่ได้ชัดขึ้น สวยใสทุกช็อต.
Vivo พัฒนาเทคโนโลยี AI โดยใช้ซอฟต์แวร์ที่มีประสิทธิภาพ ควบคู่กับเทคโนโลยีการเรียนรู้ของเครื่อง (machine learning) โหมด AI Face Beauty จะทำหน้าที่ตรวจจับลักษณะของผู้ใช้ อาทิ อายุ เพศ โทนสีผิว สภาพผิว รวมถึงสภาพแสงโดยรอบ และยังมีสติ๊กเกอร์อีโมจิ AR เพิ่มความสนุกให้กับการเซลฟี่ สนุกในการตกแต่งมากขึ้น
กล้องหน้า ความละเอียด 24 ล้านพิกเซล f2.0 มีโหมดหน้าสวย ปรับได้ 6 ระดับ / โหมด AI และเซลฟี่แบบ AR จะเป็นคลิปสั้นๆครับ
(ภาพจากกล้องหน้า Vivo V9)
กล้องหลัง(dual camera) ความละเอียด 16+5 ล้านพิกเซล f2.0 มีโหมด AI Bokeh มาให้ช่วยในการถ่ายหน้าชัดหลังเบลอได้ดียิ่งขึ้น / โหมด AI Beauty สำหรับกล้องหลังก็ยังมีให้ด้วยครับ รองรับการถ่ายวีดีโอความละเอียด 4K
โหมดการถ่ายถาพจะมีดังนี้ Ultra HD, PPT, Professional, Slow, Time-Lapse Photography, Camera Filter, Live, AI Bokeh, AI HDR, AI Face Beauty, Panorama, 4K video, Palm capture, Gender detection, Retina Flash, AR Stickers, AI Scene Recognition
ภาพจากกล้องหลัง Vivo V9
โหมดปรับเอง
หลังจากได้ใช้งานมายาวนาน Vivo V9 มาพร้อมขนาดหน้าจอที่ใหญ่ถึง 6.3 นิ้ว แต่ขนาดตัวเครื่องเล็กและบางเบามากๆ ให้ให้การพกพาหรือหยิบจับใช้งานได้ถนัดมือ ตัวเครื่องมีความบางเพียง 7.89 มิลลิเมตร หนัก 150 กรัม ประสิทธิภาพโดยรวมถือว่าทำออกมาได้ดี และระยะใช้งานของแบตเตอรี่ที่ยาวนาน เช้าถึงเย็นสบายๆ ส่วนเรื่องกล้องเซลฟี่ของค่ายนี้คงไม่ต้องกังวล กลายเป็นจุดเด่นของค่ายไปแล้วในเวลานี้ เซลฟี่สวยและดูดีแน่นอน และกล้องหลัง Vivo V9 เป็นรุ่นแรกของค่ายที่ทำตลาดในบ้านเรา ที่มาพร้อมกับกล้องหลังสองตัว
พิเศษสุด Vivo V9 FIFA Blue Limited ราคา 11,999 บาท จะแพงกว่าตัวธรรมดาแค่พันเดียว ถ้าใจรักและอยากถือแบบของแรท์ไม่เหมือนใคร พร้อมมี FIFA UI สวยๆติดมากับเครื่อง ผมว่าก็น่าสนนะ เริ่มขายจริง 11 พ.ค. นี้เป็นต้นไป จำนวนจำกัด
สำหรับวันนี้ขอลาเพียงเท่านี้นะครับ เจอกันใหม่รีวิวหน้าครับผม ขอบคุณทุกๆท่านที่ติดตามครับ
[SR] รีวิว Vivo V9 FIFA Blue Limited Edition
Vivo ร่วมเป็นสปอนเซอร์ฟุตบอลโลก 2018-2022 ถือเป็นแบรนด์สมาร์ทโฟนรายเดียวที่ได้สิทธิแบบ exclusive และสำหรับ "Vivo V9 FIFA Blue Limited Edition" ถือเป็นรุ่นพิเศษสุดกว่า V9 ทุกสีที่จำหน่ายออกไป เพราะเป็นรุ่นที่ทำร่วมกับ FIFA โดยเฉพาะ โดยมีเครื่องหมายของ FIFA มาใช้งานอย่างถูกต้อง จะมาพร้อมกับ FIFA UI ที่เป็นธีม FIFA ที่มากับเครื่องเลยโดยเฉพาะ ผลิตและจำหน่ายจำนวนจำกัดครับ สำหรับใครเป็นแฟนลูกหนังไม่ควรพลาดจริงๆ สำหรับค่าตัวของ Vivo V9 FIFA Blue Limited จะอยู่ที่ 11,999 บาท (แพงกว่าตัวธรรมาดาหนึ่งพัน แลกกับการเป็น Limited Edition)
ในรุ่นสีน้ำเงินนี้วัสดุที่ผลิตก็ใช้วัสดุอย่างดี ที่มีต้นทุนที่สูงขึ้น ฝาหลังมีความเงางามแต่ลอยนิ้วมือแทบจะไม่ฝังติดกับตัวเครื่องเหมือนสีดำครับ การเคลือบผิวดีจริงๆ สีฝาหลังน้ำเงินตัดกับด้านหน้าสีดำ ดูเรียบหรูขึ้น
จุดเด่นสำหรับ Vivo V9
หน้าจอขนาด 6.3 นิ้ว แบบ IPS ความละเอียด FHD+ 1080×2280 พิกเซล อัตราส่วน 19:9 ขอบด้านข้างทั้งสี่เหลือพื้นที่น้อยมากๆ สัดส่วนของหน้าจอ 90% ของพื้นที่ทั้งหมด ทำให้ตัวเครื่องมีขนาดที่เล็กลง การแสดงผลของหน้าจอที่สวยงาม ทำให้น่าใช้งานมากยิ่งขึ้น ขนาดตัวเครื่อง 154.81×75.03×7.89 มิลลิเมตร หนัก 150 กรัม ถือว่าบางและเบามาก โดยเฉพาะตัวเครื่องที่มากับแบตเตอรี่ 3260mAh ชั่งบางและเบาได้ใจแท้
Vivo V9 มาพร้อมกับชิปประมวลผลของ Qualcomm Snapdragon 626 Octa-core 2.2GHz / GPU Adreno506 หน่วยความจำขนาด RAM 4GB / ROM 64GB (รองรับการ์ด microSD Card สูงสุด 256GB) เป็นชิปยอดนิยมอีกตัวที่ให้ประสิทธิภาพและการจัดสรรพลังงานได้ดีเยี่ยม สามารถเล่นเกมส์ได้ไหลลื่นและไม่ร้อนขณะใช้งานยาวนาน
ROV เล่นได้ที่ 26-30 FPS นะครับ
เซนเซอร์ต่างๆมีมาครบ รองรับ Fullnet com / VoLTE และ WiFi 5.0GHz การจับสัญญาณและนำทางผ่าน GPS ทำได้ดีครับ
ระบบเสียง Qualcomm Aqstic™ audio technology คือเทคโนโลยีด้านเสียงจากชิปออนบอร์ดที่มาพร้อมกับ Snapdragon626 ทำงานร่วมกับ audio effect deep field ที่ทาง vivo ร่วมมือและพัฒนา เสียงผ่านหูฟังถือว่าดีมาก อาจจะไม่เคลียเท่ากับพวก Cirrus Logic หรือ ESS แต่ถ้าฟังจากหูฟังทั่วไป ยากที่จะแยกออก จุดเด่นของชิปตัวนี้จะมี amplifier (WSA8810/8815) เพื่อขับลำโพงให้เสียงดังและชัดเจนขึ้น Amplifier output power 4.0W Class-D เรื่องเสียงไว้ใจได้เลย และยังมาพร้อมกับช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มม. มาให้เช่นเดิมครับ ไม่ต้องวุ่นวายวิ่งหาตัวแปลงให้ยุ่งยาก
Vivo V9 มาพร้อมกับระบบปฎิบัติการที่ใหม่ล่าสุดของค่ายเลยตอนนี้ (Android 8.1) และเป็นรุ่นแรกเช่นกันที่ใช้ Funtouch OS 4.0 การแจ้งเตือน แจ้งเตือนได้ทั้ง ไฟแสดงสถานะ เสียงเตือน รวมไปถึงตัวเลขบยไอคอนบนหน้าจอ ไม่พลาดต่อการติดต่อแน่นอน และธีมยังมีให้โหลดใช้งานฟรีเช่นเดิมครับ สำหรับรอมของค่ายนี้ผมถือว่าเสถียรดีมาก และการแจ้งเตือนที่ดี เหมาะสำหรับกลุ่มแม่ค้าออนไลค์ ไว้ติดต่อลูกค้าตลอดช่วงเวลา จะได้ไม่ขาดการติดต่อ
จุดเด่นของ Funtouch OS 4.0 จะมาพร้อมกับ การใช้งานโคลนแอ๊พ สามารถใช้งานพร้อมกันสอง ID ได้ แยกการทำงานและเรื่องส่วนตัว / แบ่งแยกการทำงานสองหน้าจอพร้อมกัน / และมาพร้อมกับโหมดเกมส์ เช่นการแจ้งเตือนต่างๆขณะเล่นเกมส์
กล้องถ่ายภาพ
Vivo ได้นำเทคโนโลยี AI Smart Engine เข้ามาช่วยในการประมวลผลการถ่ายภาพ ฟังก์ชั่นต่างๆ ของกล้องทำงานได้อย่างสมบูรณ์แบบด้วยเทคโนโลยี AI ช่วยให้ถ่ายเซลฟี่ได้ชัดขึ้น สวยใสทุกช็อต.
Vivo พัฒนาเทคโนโลยี AI โดยใช้ซอฟต์แวร์ที่มีประสิทธิภาพ ควบคู่กับเทคโนโลยีการเรียนรู้ของเครื่อง (machine learning) โหมด AI Face Beauty จะทำหน้าที่ตรวจจับลักษณะของผู้ใช้ อาทิ อายุ เพศ โทนสีผิว สภาพผิว รวมถึงสภาพแสงโดยรอบ และยังมีสติ๊กเกอร์อีโมจิ AR เพิ่มความสนุกให้กับการเซลฟี่ สนุกในการตกแต่งมากขึ้น
กล้องหน้า ความละเอียด 24 ล้านพิกเซล f2.0 มีโหมดหน้าสวย ปรับได้ 6 ระดับ / โหมด AI และเซลฟี่แบบ AR จะเป็นคลิปสั้นๆครับ
(ภาพจากกล้องหน้า Vivo V9)
กล้องหลัง(dual camera) ความละเอียด 16+5 ล้านพิกเซล f2.0 มีโหมด AI Bokeh มาให้ช่วยในการถ่ายหน้าชัดหลังเบลอได้ดียิ่งขึ้น / โหมด AI Beauty สำหรับกล้องหลังก็ยังมีให้ด้วยครับ รองรับการถ่ายวีดีโอความละเอียด 4K
โหมดการถ่ายถาพจะมีดังนี้ Ultra HD, PPT, Professional, Slow, Time-Lapse Photography, Camera Filter, Live, AI Bokeh, AI HDR, AI Face Beauty, Panorama, 4K video, Palm capture, Gender detection, Retina Flash, AR Stickers, AI Scene Recognition
ภาพจากกล้องหลัง Vivo V9
โหมดปรับเอง
หลังจากได้ใช้งานมายาวนาน Vivo V9 มาพร้อมขนาดหน้าจอที่ใหญ่ถึง 6.3 นิ้ว แต่ขนาดตัวเครื่องเล็กและบางเบามากๆ ให้ให้การพกพาหรือหยิบจับใช้งานได้ถนัดมือ ตัวเครื่องมีความบางเพียง 7.89 มิลลิเมตร หนัก 150 กรัม ประสิทธิภาพโดยรวมถือว่าทำออกมาได้ดี และระยะใช้งานของแบตเตอรี่ที่ยาวนาน เช้าถึงเย็นสบายๆ ส่วนเรื่องกล้องเซลฟี่ของค่ายนี้คงไม่ต้องกังวล กลายเป็นจุดเด่นของค่ายไปแล้วในเวลานี้ เซลฟี่สวยและดูดีแน่นอน และกล้องหลัง Vivo V9 เป็นรุ่นแรกของค่ายที่ทำตลาดในบ้านเรา ที่มาพร้อมกับกล้องหลังสองตัว
พิเศษสุด Vivo V9 FIFA Blue Limited ราคา 11,999 บาท จะแพงกว่าตัวธรรมดาแค่พันเดียว ถ้าใจรักและอยากถือแบบของแรท์ไม่เหมือนใคร พร้อมมี FIFA UI สวยๆติดมากับเครื่อง ผมว่าก็น่าสนนะ เริ่มขายจริง 11 พ.ค. นี้เป็นต้นไป จำนวนจำกัด
สำหรับวันนี้ขอลาเพียงเท่านี้นะครับ เจอกันใหม่รีวิวหน้าครับผม ขอบคุณทุกๆท่านที่ติดตามครับ