ทริปนี้เป็นทริปปลายปีที่แล้วครับ3-5ตุลา ไม่เคยลงพันทิปมาก่อน ช่วงนี้ฝนตกบ่อยเลยคิดที่จะลง และต้องบอกก่อนว่าเป็นการเล่าเรื่องที่ยืดยาว ภาพสั้นบางยาวบ้างใช้มือถือถ่ายครับ
ผมไปเจอรูปสถานที่หนึ่งที่จังหวัดแม่ฮ่องสอนเมื่อหลายปีก่อนผมชอบตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็นแต่ก็ไม่มีโอกาสได้ไปเพราะมีทริปอื่นที่ยังสนใจที่จะไปอยู่ พอเรียนจบแล้วมาเรียนต่อ สอบเสร็จจึงคิดว่ายังมีที่ไหนที่เรายังสนใจที่จะไป แล้วยังไม่ได้ไปจึงหวนคิดถึงสถานที่นี้ขึ้นมา นี่คือจุดเริ่มต้น สถานที่นั้นคือ หมู่บ้านจาโบ่ จ.แม่ฮ่องสอน และนี่ก็เป็นการไปเที่ยวคนเดียวอีกครั้งของผม
ผมนั่งรถทัวร์จากหมอชิตตอน6โมงเย็นของวันที่2ตุลาไปถึง10โมงของอีกวันไปเช่ามอไซจากในเมืองเพื่อจะมุ่งตรงไปจาโบ่ สรุปแพลนที่ผมคิดว่าจะไป3วัน2คืน
1.ไปนอนโฮมสเตย์จาโบ่1คืน
2.คืนที่2ไปนอนปางอุ๋ง
3.ออกจากปางอุ๋งแวะบ้านรักษ์ไทย ขึ้นรถกลับ
ผมไปถึงเช่ามอไซ ที่ขนส่งจะมีวินครับบอกว่าจะมาเช่ามอไซเค้าก็ไปตรงร้านเช่าวัดจองคำราคาประมาณ150฿ เวฟ125 ได้รถแล้ว สถานที่แรกที่ไปคือพระธาตุดอยกองมูต้องขับขึ้นไปสักนิด ที่วัดจะเห็นแม่ฮ่องสอนในมุมสูงครับ และจะเห็นภูเขาๆแล้วก็ภูเขา เห็นเมืองเล็กๆ ต้องบอกก่อนว่าในตัวเมืองแม่ฮ่องสอนมีวัดติดๆกันเยอะแยะครับ
ลงมาจากพระธาตุผมเห็นสิงห์คู่ตัวใหญ่ เลยแวะ ผมว่ามันสวยจริงๆค่อนข้างสมบูรณ์ เค้าว่าอยู่คู่แม่ฮ่องสอนมานาน ดูขลังดี
หลังจากนั้นก็ขี่มอไซ เปิดแมพไปจาโบ่ อยู่อ.ปางมะผ้า ระยะทางประมาณ60โลเวลาเดินทางก็สัก1ชม40นาทีได้ ระหว่างทางที่สังเกตได้คือ แม่ฮ่องสอนรถแทบจะไม่มียิ่งออกนอกเมืองยิ่งเงียบ ทางสวยมีภูเขาสูงตลอด ขับไปเรื่อยก็เจอป้ายบอกเข้าสะพานซูตองเป ก็ขับตามไปเพราะตอนนั้นเวลาแค่บ่าย รีบไปถึงที่พักก็คงไม่มีไรทำ
จากนั้นผมเดินทางต่อมาถึงจาโบ่ ผมจองโฮมสเตย์ที้พักไว้รู้สึกจะ200-300บาท หลังบ้านติดภูเขาสวยเลย
ข้างหน้าบ้านก็เป็นถนนติดกับร้านก๋วยเตี๋ยวห้อยขาชื่อดัง สถานที่ๆวิวข้างร้านมองออกไปดึงดูดให้ผมมา แต่ตอนนี้มันยังไม่มีหมอกหรอกมันบ่าย2 เดินไปกินก๋วยเตี๋ยววิวดีครับดีเลยหละขนาดยังไม่มีหมอก ผมก็เดินดูไปเรื่อยครับเซอเวย์ว่าตอนเช้าจะออกมาถ่ายรูปมุมไหนดี พี่เจ้าของบ้านใจดีครับ ต้องบอกก่อนว่าที่นี่เป็นชาวลาหู่ครับนับถือผี พูดไทยได้อ่านได้บ้างผมถามเค้ามา สุดท้ายก็นอนครับผมได้นอนห้องเดี่ยว อากาศดีครับ เสียงนกร้องเสียงสัตว์ป่าร้องก็ได้ยินเพราะมันธรรมชาติ
ผมตื่นออกมาที่หน้าร้านก๋วยเตี๋ยวสักตี5เพื่อรอที่จะเจอกับวิวที่ผมเคยเห็นในเน็ตอยากเจอมากๆสรุปเช้านี่ไม่มี... ผมเสียดายมากเพราะทริปนี้จุดประสงค์หลักคือ วิวหมู่บ้านจาโบ่ สถานที่อื่นๆพวกปางอุ๋งผมให้เป็นที่รอง
ภาพที่ผมอยากได้คือ หมอกที่ลอยคล้ายๆก่อนเมฆประกอบกับการลอยผ่านกับเขาลูกนั้น น่าจะสวยกว่าทะเลหมอก แต่เช้านี้ผมเจอแค่นี้ครับ
เก็บของครับ เตรียมตัวขี่กลับไปตามแพลนปางอุ๋งจองที่พักไว้แล้ว ใจลึกๆผมอยากจะนอนอีกคืนที่นี่เผื่อจะเจอในสิ่งที่ต้องการ แต่กลัวครับกลัวว่าจะล้มเหลวในอีกวันแล้วไม่ได้อะไรเลย เลยคิดว่าปัจจัยที่จะทำให้ผมเจอหมอกอย่างที่ผมต้องการคือ ฝน ผมไปนั่งกินก๋วยเตี๋ยวที่ร้าน ดูพยากรณ์อากาศบอกว่าอาจมีฝนตกในช่วงบ่ายสรุป มีฝนแค่10นาทีแล้วก็ไป ไม่พอทำให้เกิดหมอก นั่งรอจนบ่าย2 ก็คิดว่าถึงเวลาที่จะต้องไปปางอุ๋งแล้วเพราะเย็นแล้วน่าจะลำบาก
ระยะทางก็ประมาณ70โลครับเวลาเดินทางปกติไม่หยุดพักก็สัก2ชม. อยู่อำเภอเมืองครับ พอผมขี่ไปปางอุ๋งฝนตกครับปรอยๆตลอดทาง ทางที่ผมขับขึ้นไปปางอุ๋งค่อนข้างลำบากต้องอาศัยขี่แข็งสักหน่อยจอดพักเป็นระยะครับฝนตกหนักบ้างระหว่างทางมีห้องน้ำก็เข้าไปจอดหลบฝนครับ ผมเข้าไปถึงปางอุ๋งผมเลือกพักของเอกชนครับมีเพียบติดกับอ่างเก็บน้ำเลยตรงอ่างเก็บน้ำก็มีครับน่าจะเป็นของอุทยาน ดูเหมือนจะมีผมแค่คนเดียวเพราะคนเค้าไม่เที่ยวหน้าฝนกัน ผมขี่มอไซจากที่พักไปเลยครับเข้าไปที่อ่างเก็บน้ำ จริงไม่ไกลครับเดินได้ แต่ผมขี่ขี้เกียจเดินไม่ได้คาดหวังอะไรมากที่นี่เพราะสถานที่หลักคือจาโบ่ เข้าไปก็จอดรถไปเดินเล่นฝนหยุดครับตอนนี้ มีครอบครัวหนึ่งมากางเต้นท์ สวยนะผมว่ามันแบบเงียบน้ำนิ่งผมเดินไปตรงสะพานน้ำนิ่งเชียว คิดไปมาจะมีจระเข้กระโดดมางับคอป่าววะผมก็ถ่ายรูปเรื่อยครับ
พ่อหนุ่มคนนี้ดูเหมือนจะมาคนเดียวครับ ผมว่าจังหวะที่คนเราเผลอนั่นหละครับเป็นธรรมชาตืที่สุด ผมชอบถ่ายรูปตอนคนเผลอครับ หรือผมชอบแอบถ่ายนั่นเอง
หิวครับทีนี้ฝนตกเริ่มหนักเห็นหมูกระทะ ดีลเลยครับปิ้งหมูกระทะกินคนเดียวในปางอุ๋งหลบฝนไป
ขาออกก็ถ่ายอีก
คืนนั้นฝนก็ตกทั้งคืนจะออกมาถ่ายดาวก็ไม่ได้ฟ้าปิดนอนครับ พรุ่งนี้ไปรักไทย ตื่นมาตอน6โมงครึ่งวันสุดท้ายจะต้องกลับแล้วแพลนคือรักษ์ไทย เข้าเมืองคืนรถบ่าย
แต่ผมตื่นมาตอน6โมงเช้า เข้าเฟสตามปกติ ผมไปกดถูกใจเพจร้านก๋วนเตี๋ยวที่จาโบ่ไว้ เค้าไลฟ์สด ที่ผมเห็นคือ มีหมอกแบบที่ผมต้องการ ตอนนั้นวิ้งในหัวเกิดอาการลังเล..
"จะกลับไปดีป่าววะ เสียแพลนหมดถ้าไปก็อาจไม่เจอเพราะกว่าจะขี่ไปถึงอีกไกลจัด แล้วก็จะไม่ได้ไปที่อื่นด้วย"
ไป..ไม่ไป...ไป...ไม่ไป... ไป...ไม่ไป...........
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
"ไปดิวะ"
มาที่นี่เพราะอะไร?มาที่นี่เพราะวิวนั้น ไม่รู้จะได้มาอีกมั้ยมันคาใจ ถ้าไม่ไปคงเสียดาย ผมคิดอยู่นาที ตัดสินใจได้ก็เก็บของอีกแล้ว
ผมเก็บของอาบน้ำอย่างไว(ไม่เชิงอาบ) เพราะถ้าไปช้ามันคงจะหายไปแล้วแน่ๆ ไกลหน่อยแต่ผมมาเพื่อวิวนั้นจริงๆ ที่แพลนว่าจะไปเก็บภาพเพิ่มที่ปางอุ๋งแล้วไปรักไทย ไม่สนใจเลยครับมุ่งหน้ากลับไปที่จาโบ่อย่างเดียว
ระหว่างทางก็ยังคิดว่า คุ้มป่าววะ? กลับไปไกลก็ไกล อาจไม่ได้อะไรเลยนะ และที่สำคัญก็ไปมาแล้วด้วย แต่ถ้าไปที่อื่นก็จะมีรูปที่แปลกตาเพิ่ม ขี่ไปฟังเพลงไป รีบครับแต่ก็มองข้างทาง ไม่ได้ขับเร็วมากฝนตกเมื่อคืนกลัวไปไม่ถึงถ้ารีบ คนไปปางอุ๋งจะรู้ดีว่าทางชันมากโค้งเพียบ ผมว่าตอนนั้นผมขี่มอไซเก่งที่สุดเท่าที่เคยขี่มา
ระหว่างทาง.......
ว่าจะไม่แวะแต่ต้องแวะวิวระหว่างทางมันสวยมากครับน่าจะเพราะฝนตกเมื่อคืน สวยมากจริงๆตลอดทางลงจากปางอุ๋งมุ่งหน้าไปจาโบ่ผมก็แวะไปเรื่อย ใจก็กลัวว่าจะไปไม่ทันหมอกที่จาโบ่
ผมมาถึงจาโบ่ประมาณ8โมงครึ่ง ผมจอดมอไซวิ่งไปที่ร้านก๋วยเตี๋ยวเพื่อไปดูว่าจะมีวิวนั้นมั้ย
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
ของจริงมันโคตรจะสวย ผมขอให้นักท่องเที่ยวคนหนึ่งถ่ายให้ พี่สาวคนนั้นถ่ายได้ดีครับ เป็นมุมที่ผมอยากได้พอดี มันสวยมากจริงๆ
ผมคิดถูกครับที่กลับมา นี่คือข้อดีของการไปเที่ยวคนเดียวถ้าไปหลายคนผมไม่คิดว่าจะได้กลับมาที่นี่อีกเพราะคนอื่นคงจะไม่กลับมาด้วย ด้วยระยะทางและต้องเสี่ยงว่าจะมาทันมั้ย ถ้าผมกลับมาแล้วไม่เจอวิวนี้ ผมก็คงพอใจเพราะเราเลือกเองที่จะกลับมาแต่ถ้ามีคนอื่นมาด้วยผมกลัวเค้าจะเฟล
ผมถ่ายรูปได้ตามที่ต้องการเข้าร้านกินก๋วยเตี๋ยว คนขายจำผมได้ถามผมว่าไหนน้องบอกจะไปนอนปางอุ๋งไง ผมเลยบอกว่าผมไปนอนมาเมื่อคืนแล้วก็กลับมาอีก ผมนั่งอยู่สักประมาณ9โมครึ่งลมก็ตีหมอกหายไปหมด แล้วผมก็ขับรถกลับเข้าเมืองไปนั่งกินกาแฟในเมือง ที่สัมผัสได้คือเมืองเงียบสงบมากจริงๆผมชอบนะเดินไปกลางถนนรถก็ไม่น่าจะชน รอคืนมอไซตอน3โมงเย็น แล้วก็ขึ้นรถกลับกทม.
ผมไปมาหลายจังหวัดครับเจอที่สวยเยอะแต่ตอนนี้ผมให้แม่ฮ่องสอนเป็นอันดับหนึ่ง และด้วยภูมิประเทศต้นไม้ แล้วผมว่าแม่ฮ่องสอนจะสวยเป็นพิเศษถ้าฝนตก ดังนั้นควรจะ
"ภาวนาให้ฝนตกที่แม่ฮ่องสอน"
ภาวนาให้ฝนตกที่:)ฮ่องสอน
ผมไปเจอรูปสถานที่หนึ่งที่จังหวัดแม่ฮ่องสอนเมื่อหลายปีก่อนผมชอบตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็นแต่ก็ไม่มีโอกาสได้ไปเพราะมีทริปอื่นที่ยังสนใจที่จะไปอยู่ พอเรียนจบแล้วมาเรียนต่อ สอบเสร็จจึงคิดว่ายังมีที่ไหนที่เรายังสนใจที่จะไป แล้วยังไม่ได้ไปจึงหวนคิดถึงสถานที่นี้ขึ้นมา นี่คือจุดเริ่มต้น สถานที่นั้นคือ หมู่บ้านจาโบ่ จ.แม่ฮ่องสอน และนี่ก็เป็นการไปเที่ยวคนเดียวอีกครั้งของผม
ผมนั่งรถทัวร์จากหมอชิตตอน6โมงเย็นของวันที่2ตุลาไปถึง10โมงของอีกวันไปเช่ามอไซจากในเมืองเพื่อจะมุ่งตรงไปจาโบ่ สรุปแพลนที่ผมคิดว่าจะไป3วัน2คืน
1.ไปนอนโฮมสเตย์จาโบ่1คืน
2.คืนที่2ไปนอนปางอุ๋ง
3.ออกจากปางอุ๋งแวะบ้านรักษ์ไทย ขึ้นรถกลับ
ผมไปถึงเช่ามอไซ ที่ขนส่งจะมีวินครับบอกว่าจะมาเช่ามอไซเค้าก็ไปตรงร้านเช่าวัดจองคำราคาประมาณ150฿ เวฟ125 ได้รถแล้ว สถานที่แรกที่ไปคือพระธาตุดอยกองมูต้องขับขึ้นไปสักนิด ที่วัดจะเห็นแม่ฮ่องสอนในมุมสูงครับ และจะเห็นภูเขาๆแล้วก็ภูเขา เห็นเมืองเล็กๆ ต้องบอกก่อนว่าในตัวเมืองแม่ฮ่องสอนมีวัดติดๆกันเยอะแยะครับ
ลงมาจากพระธาตุผมเห็นสิงห์คู่ตัวใหญ่ เลยแวะ ผมว่ามันสวยจริงๆค่อนข้างสมบูรณ์ เค้าว่าอยู่คู่แม่ฮ่องสอนมานาน ดูขลังดี
หลังจากนั้นก็ขี่มอไซ เปิดแมพไปจาโบ่ อยู่อ.ปางมะผ้า ระยะทางประมาณ60โลเวลาเดินทางก็สัก1ชม40นาทีได้ ระหว่างทางที่สังเกตได้คือ แม่ฮ่องสอนรถแทบจะไม่มียิ่งออกนอกเมืองยิ่งเงียบ ทางสวยมีภูเขาสูงตลอด ขับไปเรื่อยก็เจอป้ายบอกเข้าสะพานซูตองเป ก็ขับตามไปเพราะตอนนั้นเวลาแค่บ่าย รีบไปถึงที่พักก็คงไม่มีไรทำ
จากนั้นผมเดินทางต่อมาถึงจาโบ่ ผมจองโฮมสเตย์ที้พักไว้รู้สึกจะ200-300บาท หลังบ้านติดภูเขาสวยเลย
ข้างหน้าบ้านก็เป็นถนนติดกับร้านก๋วยเตี๋ยวห้อยขาชื่อดัง สถานที่ๆวิวข้างร้านมองออกไปดึงดูดให้ผมมา แต่ตอนนี้มันยังไม่มีหมอกหรอกมันบ่าย2 เดินไปกินก๋วยเตี๋ยววิวดีครับดีเลยหละขนาดยังไม่มีหมอก ผมก็เดินดูไปเรื่อยครับเซอเวย์ว่าตอนเช้าจะออกมาถ่ายรูปมุมไหนดี พี่เจ้าของบ้านใจดีครับ ต้องบอกก่อนว่าที่นี่เป็นชาวลาหู่ครับนับถือผี พูดไทยได้อ่านได้บ้างผมถามเค้ามา สุดท้ายก็นอนครับผมได้นอนห้องเดี่ยว อากาศดีครับ เสียงนกร้องเสียงสัตว์ป่าร้องก็ได้ยินเพราะมันธรรมชาติ
ผมตื่นออกมาที่หน้าร้านก๋วยเตี๋ยวสักตี5เพื่อรอที่จะเจอกับวิวที่ผมเคยเห็นในเน็ตอยากเจอมากๆสรุปเช้านี่ไม่มี... ผมเสียดายมากเพราะทริปนี้จุดประสงค์หลักคือ วิวหมู่บ้านจาโบ่ สถานที่อื่นๆพวกปางอุ๋งผมให้เป็นที่รอง
ภาพที่ผมอยากได้คือ หมอกที่ลอยคล้ายๆก่อนเมฆประกอบกับการลอยผ่านกับเขาลูกนั้น น่าจะสวยกว่าทะเลหมอก แต่เช้านี้ผมเจอแค่นี้ครับ
เก็บของครับ เตรียมตัวขี่กลับไปตามแพลนปางอุ๋งจองที่พักไว้แล้ว ใจลึกๆผมอยากจะนอนอีกคืนที่นี่เผื่อจะเจอในสิ่งที่ต้องการ แต่กลัวครับกลัวว่าจะล้มเหลวในอีกวันแล้วไม่ได้อะไรเลย เลยคิดว่าปัจจัยที่จะทำให้ผมเจอหมอกอย่างที่ผมต้องการคือ ฝน ผมไปนั่งกินก๋วยเตี๋ยวที่ร้าน ดูพยากรณ์อากาศบอกว่าอาจมีฝนตกในช่วงบ่ายสรุป มีฝนแค่10นาทีแล้วก็ไป ไม่พอทำให้เกิดหมอก นั่งรอจนบ่าย2 ก็คิดว่าถึงเวลาที่จะต้องไปปางอุ๋งแล้วเพราะเย็นแล้วน่าจะลำบาก
ระยะทางก็ประมาณ70โลครับเวลาเดินทางปกติไม่หยุดพักก็สัก2ชม. อยู่อำเภอเมืองครับ พอผมขี่ไปปางอุ๋งฝนตกครับปรอยๆตลอดทาง ทางที่ผมขับขึ้นไปปางอุ๋งค่อนข้างลำบากต้องอาศัยขี่แข็งสักหน่อยจอดพักเป็นระยะครับฝนตกหนักบ้างระหว่างทางมีห้องน้ำก็เข้าไปจอดหลบฝนครับ ผมเข้าไปถึงปางอุ๋งผมเลือกพักของเอกชนครับมีเพียบติดกับอ่างเก็บน้ำเลยตรงอ่างเก็บน้ำก็มีครับน่าจะเป็นของอุทยาน ดูเหมือนจะมีผมแค่คนเดียวเพราะคนเค้าไม่เที่ยวหน้าฝนกัน ผมขี่มอไซจากที่พักไปเลยครับเข้าไปที่อ่างเก็บน้ำ จริงไม่ไกลครับเดินได้ แต่ผมขี่ขี้เกียจเดินไม่ได้คาดหวังอะไรมากที่นี่เพราะสถานที่หลักคือจาโบ่ เข้าไปก็จอดรถไปเดินเล่นฝนหยุดครับตอนนี้ มีครอบครัวหนึ่งมากางเต้นท์ สวยนะผมว่ามันแบบเงียบน้ำนิ่งผมเดินไปตรงสะพานน้ำนิ่งเชียว คิดไปมาจะมีจระเข้กระโดดมางับคอป่าววะผมก็ถ่ายรูปเรื่อยครับ
พ่อหนุ่มคนนี้ดูเหมือนจะมาคนเดียวครับ ผมว่าจังหวะที่คนเราเผลอนั่นหละครับเป็นธรรมชาตืที่สุด ผมชอบถ่ายรูปตอนคนเผลอครับ หรือผมชอบแอบถ่ายนั่นเอง
หิวครับทีนี้ฝนตกเริ่มหนักเห็นหมูกระทะ ดีลเลยครับปิ้งหมูกระทะกินคนเดียวในปางอุ๋งหลบฝนไป
ขาออกก็ถ่ายอีก
คืนนั้นฝนก็ตกทั้งคืนจะออกมาถ่ายดาวก็ไม่ได้ฟ้าปิดนอนครับ พรุ่งนี้ไปรักไทย ตื่นมาตอน6โมงครึ่งวันสุดท้ายจะต้องกลับแล้วแพลนคือรักษ์ไทย เข้าเมืองคืนรถบ่าย
แต่ผมตื่นมาตอน6โมงเช้า เข้าเฟสตามปกติ ผมไปกดถูกใจเพจร้านก๋วนเตี๋ยวที่จาโบ่ไว้ เค้าไลฟ์สด ที่ผมเห็นคือ มีหมอกแบบที่ผมต้องการ ตอนนั้นวิ้งในหัวเกิดอาการลังเล..
"จะกลับไปดีป่าววะ เสียแพลนหมดถ้าไปก็อาจไม่เจอเพราะกว่าจะขี่ไปถึงอีกไกลจัด แล้วก็จะไม่ได้ไปที่อื่นด้วย"
ไป..ไม่ไป...ไป...ไม่ไป... ไป...ไม่ไป...........
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
"ไปดิวะ"
มาที่นี่เพราะอะไร?มาที่นี่เพราะวิวนั้น ไม่รู้จะได้มาอีกมั้ยมันคาใจ ถ้าไม่ไปคงเสียดาย ผมคิดอยู่นาที ตัดสินใจได้ก็เก็บของอีกแล้ว
ผมเก็บของอาบน้ำอย่างไว(ไม่เชิงอาบ) เพราะถ้าไปช้ามันคงจะหายไปแล้วแน่ๆ ไกลหน่อยแต่ผมมาเพื่อวิวนั้นจริงๆ ที่แพลนว่าจะไปเก็บภาพเพิ่มที่ปางอุ๋งแล้วไปรักไทย ไม่สนใจเลยครับมุ่งหน้ากลับไปที่จาโบ่อย่างเดียว
ระหว่างทางก็ยังคิดว่า คุ้มป่าววะ? กลับไปไกลก็ไกล อาจไม่ได้อะไรเลยนะ และที่สำคัญก็ไปมาแล้วด้วย แต่ถ้าไปที่อื่นก็จะมีรูปที่แปลกตาเพิ่ม ขี่ไปฟังเพลงไป รีบครับแต่ก็มองข้างทาง ไม่ได้ขับเร็วมากฝนตกเมื่อคืนกลัวไปไม่ถึงถ้ารีบ คนไปปางอุ๋งจะรู้ดีว่าทางชันมากโค้งเพียบ ผมว่าตอนนั้นผมขี่มอไซเก่งที่สุดเท่าที่เคยขี่มา
ระหว่างทาง.......
ว่าจะไม่แวะแต่ต้องแวะวิวระหว่างทางมันสวยมากครับน่าจะเพราะฝนตกเมื่อคืน สวยมากจริงๆตลอดทางลงจากปางอุ๋งมุ่งหน้าไปจาโบ่ผมก็แวะไปเรื่อย ใจก็กลัวว่าจะไปไม่ทันหมอกที่จาโบ่
ผมมาถึงจาโบ่ประมาณ8โมงครึ่ง ผมจอดมอไซวิ่งไปที่ร้านก๋วยเตี๋ยวเพื่อไปดูว่าจะมีวิวนั้นมั้ย
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
ของจริงมันโคตรจะสวย ผมขอให้นักท่องเที่ยวคนหนึ่งถ่ายให้ พี่สาวคนนั้นถ่ายได้ดีครับ เป็นมุมที่ผมอยากได้พอดี มันสวยมากจริงๆ
ผมคิดถูกครับที่กลับมา นี่คือข้อดีของการไปเที่ยวคนเดียวถ้าไปหลายคนผมไม่คิดว่าจะได้กลับมาที่นี่อีกเพราะคนอื่นคงจะไม่กลับมาด้วย ด้วยระยะทางและต้องเสี่ยงว่าจะมาทันมั้ย ถ้าผมกลับมาแล้วไม่เจอวิวนี้ ผมก็คงพอใจเพราะเราเลือกเองที่จะกลับมาแต่ถ้ามีคนอื่นมาด้วยผมกลัวเค้าจะเฟล
ผมถ่ายรูปได้ตามที่ต้องการเข้าร้านกินก๋วยเตี๋ยว คนขายจำผมได้ถามผมว่าไหนน้องบอกจะไปนอนปางอุ๋งไง ผมเลยบอกว่าผมไปนอนมาเมื่อคืนแล้วก็กลับมาอีก ผมนั่งอยู่สักประมาณ9โมครึ่งลมก็ตีหมอกหายไปหมด แล้วผมก็ขับรถกลับเข้าเมืองไปนั่งกินกาแฟในเมือง ที่สัมผัสได้คือเมืองเงียบสงบมากจริงๆผมชอบนะเดินไปกลางถนนรถก็ไม่น่าจะชน รอคืนมอไซตอน3โมงเย็น แล้วก็ขึ้นรถกลับกทม.
ผมไปมาหลายจังหวัดครับเจอที่สวยเยอะแต่ตอนนี้ผมให้แม่ฮ่องสอนเป็นอันดับหนึ่ง และด้วยภูมิประเทศต้นไม้ แล้วผมว่าแม่ฮ่องสอนจะสวยเป็นพิเศษถ้าฝนตก ดังนั้นควรจะ
"ภาวนาให้ฝนตกที่แม่ฮ่องสอน"