สวัสดีครับ ครั้งนี้เป็นการรีวิวครั้งแรกของผม ขอเกริ่นก่อนน่ะครับเดิมทีแล้วทริปนี้ไม่ได้ตั้งใจจะไปแต่แรก เรียกได้ว่าไม่อยู่ในความคิดเลยก็ได้ เริ่มต้นจากการไปเดินงานไทยเที่ยวไทย เมื่อเดือนกันยายน 2560 ปีที่แล้ว ตั้งใจว่าจะไปซื้อทริปเที่ยวทะเลโดยวางแพลนในใจอยู่สองที่  คือ 1.ทะเลพม่า 2.เกาะกูด หลังจากเดินกับแฟนและน้องสนิทอยู่พักนึง ก็เดินผ่านบูธของ “นางยวนไอซ์แลนด์ ไดฟ์รีสอร์ท” จึงพากันแวะเข้าไปดู เนื่องผมยังไม่เคยไป  ก่ะว่าจะเก็บเป็นข้อมูลไว้คราวหน้าแล้วก็โดนคำหวานของพี่ต้อย(คิดว่าน่าจะเป็นเจ้าของรึปล่าว)กล่อมจนได้ทำการจับจองพร้อมกับน้องสนิทที่ไปเดินงานด้วยกัน  รวมเป็นจอง 4 คน โดยที่พวกเราเลือกเพคเกจ 3วัน2คืน นอนเกาะนางยวน 1 คืน เกาะเต่า 1 คืน พร้อมกับเสียค่ามัดจำไป 1000 บาท  หลังจากนั้นก็แยกย้ายกันไป โดยได้ตกลงกันคร่าวๆว่าจะใช้แพคเกจที่ซื้อประมาณเดือนเมษายน ปี 2561 แต่ยังไม่กำหนดวันที่จะเข้าพัก


          หลังจากผ่านช่วงปีใหม่มาสักพัก  ก็ถึงเวลาที่ต้องคุยตกลงกันว่าวันที่จะเข้าไปพักนั้นจะเป็นวันไหนดี เมื่อคุยกันสักพักในรายละเอียดเรื่องความสะดวกในช่วงเวลาที่ไปของแต่ล่ะคน ก็ได้สรุปออกมาคือ  27-29 เมษายน 2561 ก็ถึงเวลาที่ต้องไปจอง  โดยนัดกับน้องสนิทเจอกันที่ข้าวสารวันอาทิตยและเข้าไปยังอออฟฟิตบริษัทลมพระยา เพื่อคุยรายละเอียดและทำการจ่ายส่วนที่เหลือจากการจอง แต่ปรากฏว่าคนที่ทำการจองไม่ทำงานวันอาทิตย์(คนที่รับจองคือพี่ต้อยเพียงคนเดียว)ทำแค่วันจันทร์ถึงวันเสาร์เท่านั้น  ไหนๆก็มาข้าวสารแล้วจึงแก้เขินด้วยการไปกินปิ้งย่างเกาหลีร้านทงแดมุมไปหนึ่งอิ่มใหญ่ๆ  แล้วก็ตกลงเปลี่ยนแผนเป็นการโทรจองแทนเนื่องจากขี้เกียจมาอีกรอบ  ผ่านไปหนึ่งอาทิตย์หลังจากเครียร์งานยุ่งๆที่ทำเสร็จ  ก็ถึงเวลาที่โทรจองกดหมายเลขที่เค้าให้มาจากการที่ไปบริษัทครั้งที่แล้ว  จากนั้นก็กดโทรไป

ผม:สวัสดีครับ  พอดีจะขอจองห้องพักที่ซื้อเพจเกคจากงานไทยเที่ยวไทยน่ะครับ
คนจอง: ได้ค่ะ  ซื้อเพคเกจเมื่อเดือนไหนค่ะ
ผม:ซื้อเมื่อเดือนกันยายน ปีที่แล้วครับ
คนจอง: ได้ค่ะ  พอดีพี่ออกมาทานข้าวอยู่ข้างนอกงั้นน้องช่วย SMS  รายละเอียด ชื่อ-นามสกุลและวันที่เข้าพักมาด้วยนะค่ะ  ส่งมาที่เบอร์นี้ได้เลยค่ะ
ผม: โอเครได้ครับ  งั้นเดี๋ยว SMS รายละเอียดการจองไปให้น่ะครับ  ขอบคุณครับ  



          จากนั้นก็วางสายแล้วก็ส่ง SMS รายละเอียดการจองไป  หลังจากส่ง SMS ไปได้สักพักก็ได้ทำการโทรไปหาอีกครั้งเพื่อสอบถามว่าได้รับ SMS หรือไม่  แต่………ไม่มีคนรับสาย  โทรไปสองรอบก็ไม่มีคนรับในใจก็คิดว่าโอเครเค้าอาจจะยุ่งเอาไว้พรุ่งนี้ค่อยโทรไปใหม่  พอวันรุ่งขึ้นก็ได้โทรอีกครั้งแต่ก็ไม่มีคนรับสายอยู่ดี  อาจจะเป็นเพราะคนโทรเยอะจนเราเป็นสายซ้อนก็ได้(คิดในแง่บวกไว้ก่อน) ผมเองก็อยู่ในจังหวะที่งานยุ่งและก็ไม่ได้ใส่ใจโทรบ้างไม่โทรบ้าง แต่ก็ยังไม่มีคนรับสายอยู่ดี(เริ่มอ่านพันทิพหลายกระทู้บ่นถึงปัญหาในการจองของทัวร์  ซึ่งก็เจอเต็มๆเช่นเดียวกับหลายๆกระทู้บ่น 555)  ผ่านไปเกือบสองเดือนน้องสนิทก็โทรไปสอบถามกับทางทัวร์ปรากฏว่าบอกไม่เห็นมีชื่อน่ะ(ที่ส่ง SMS จองไปวันนั้นคืออาร๊ายย) จึงเกิดอาการหัวร้อนครั้งแรก ผมก็เลยโทรไปคุยเองอีกครั้งเพื่อความชัดเจนในการจอง(ก่ะจะบอกว่าแจ้งไปแล้วมี SMS จองด้วยน่ะ อารมณ์ขึ้นนิดๆแต่ยังคุยด้วยน้ำเสียงปกติ) ก็คุยปรับความเข้าใจกัน ในตอนคุยโทรศัพย์ทางทัวร์พูดค่อนข้างดีน่ะครับทำให้อารมณ์ลง แต่ครั้งนี้ก็ยังไม่สะดวกที่จะคุยโทรศัพย์กันจนจบ  ทางทัวร์ให้แอด line คุยกันต่อ(ทำไมไม่คุยให้จบไปเลยยัง งงอยู่ อีกนิดเดียวเอง) ผมก็พิมพ์ Line ตอบกันไปมาแบบงงๆเข้าใจไปคนล่ะอย่าง แล้วก็ได้คำตอบว่าที่เกาะนางยวนสามารถจะเลือกห้องพักได้ แต่ที่เกาะเต่าไม่สามารถเลือกห้องพักได้  ทางโรงแรมจะจัดห้องให้เองอีกที  แล้วผมก็ถามอีกว่า “ส่วนการชำระ ส่วนที่เหลือ เป็นวันที่เดินทาง คือวันที่ 26 ไชไหมครับ” กลับกลายเป็นว่า  อยู่ดีๆก็หายยย  line ไม่ตอบ……



          ผมก็เลยคิดเอาเองว่าสงสัยคงจะจ่ายวันไปนั่นแระเหมือนทั่วๆไป  ผ่านไปจนกระทั่งถึงวันที่ 26 เมษาวันที่ต้องเดินทางก็มีอาการหัวร้อนอีกครั้ง  น้องสนิทโทรไปถามเหมือนเดิมเพื่อความแน่ใจ   ปรากฏตอบกลับมาว่า  “อ้าววว  พี่นึกว่าพวกน้องไม่ไปซ่ะแล้ว” (ทำไมพี่ต้อยพูดแบบนี้ล่ะคร๊าบบ) น้องสนิทก็เลยคอนเฟิร์มว่าไปเหมือนเดิม  จากนั้นพวกผมก็นัดเจอกันที่ Swensen’s ข้าวสาร และตกลงกันว่าถ้าใครไปถึงก่อนก็ให้เข้าไปชำระส่วนที่เหลือ เนื่องจากตัวผมเองเลิกงานช้าทำให้ไปถึงที่นัดหมายช้าที่สุด  คนอื่นๆกินนั่งรอไอศครีมอิ่มหมดแล้ว(อดกินคนเดียว)  เลยถามถึงเรื่องห้องว่าเป็นยังไงได้ห้องเหมือนที่แจ้งมาไหม  น้องสนิทตอบกลับมาว่าได้ห้อง K8 K5 จากที่จอง K2 K3(ซึ่งพี่ต้อยเป็นคนแนะนำให้เปลี่ยน จะได้ไม่ต้องเดินขึ้นเขาเหนื่อย) ก็เลยตอบอ้าวต่างจากเดิมที่จองทีแรกตรงไหนเนี่ยยย  
          นั่งรอเวลาจนเกือบ 21.00 น. ก็เดินไปขึ้นรถทัวร์บริเวณหน้าธนาคาร TMB  โดยขึ้นรถตามสติ๊กเกอร์ที่ทางทัวร์ให้มา ก็ได้ที่นั่ง 5 6 7 8  ชั้น2อยู่เกือบหน้าสุด เพราะจองช้าไปเลยไม่ได้นั่งหน้า(อยากจะบอกว่าเป็นครั้งแรกของแฟนผมในการขึ้นรถทัวร์)  หลังจากนั้นก็หลับๆตื่นๆด้วยความเมื่อย  รถจะแวะพักที่ประจวบคีรีขันธ์ ประมาณ 30 นาที  และสักพักถึงท่าเรือทุ่งมะขามน้อยเวลาประมาณ 5.30 น.  เนื่องจากวันไปถึง มีฝนตกปรอยๆ ทำให้ไม่มีเตียงชายหาดที่ในกระทู้พันทิพบอกไว้ให้ไปแย่งชิงเพื่อการหลับนอน จึงต้องนั่งกันตรงบริเวณทานข้าวกันซ่ะส่วนใหญ่  ราคาอาหารที่นี่ ก็ราคานักท่องเที่ยว ราคาเดียวทั้งคนไทยและต่างประเทศ  โดยอาหารตามสั่งราคาเริ่มต้น 80 บาทขึ้นไปเพิ่มไข่ดาว 10บาทรึปล่าวไม่แน่ใจ  แต่ซาลาเปาลาวาลูกล่ะ 25 บาท ที่แฟนผมซื้อกินอันนี้ราคาไม่แรงเท่าไร เลยแปลกใจนิดหน่อย



          พอสักเวลาประมาณ 6.30 น. ก็มีคนไปยืนต่อแถวรอขึ้นเรือ อยู่ 3-4 คน  พวกผมก็เลยรีบไปยืนต่อด้วยเพราะกลัวแถวจะยาว(ถ้าขึ้นช้าจะเลือกที่นั่งไม่ได้) ยืนไม่ถึง 5 นาที แถวยาวจนไปถึงที่รถทัวร์จอดให้ลง  



          พอเวลา7.00 น. พนักงาน ก็ปล่อยให้เราขึ้นเรือเร็วเรือค่อนข้างใหญ่สามารถรับผู้โดยสารได้ 473 คนต่อหนึ่งเที่ยว  ลักษณะคล้ายๆกับของเรือเร็วที่ไปเกาะหลีเป๊ะ(ผมไปหลีเป๊ะมา 2 รอบทั้งแบบไปเองและแบบเพคเกจ ไว้จะมาเปรียบเทียบความคุ้มค่าให้อ่านทีหลัง) แอร์เย็นสบายเหมาะแก่การหลับมาก



          โดยใช้เวลาเดินทางจากท่าเรือทุ่งมะข้ามน้อยถึงเกาะเต่าประมาณ 2 ชั่วโมง โดยจะแวะเกาะนางยวนก่อนแล้วไปเกาะเต่าต่อ  พวกผมจึงลงที่เกาะนางยวนก่อนตามเพคเกจที่ซื้อมา ถึงเกาะนางยวนประมาณ 9.30 น.





          ก็ไปนั่งรอเช็คอินห้องพัก(ส่วนเช็คเอ๊าเริ่มตั้งแต่เวลา 7.30 น.) ระหว่างรอเช็คอิน พี่หัวหน้าพนักงานที่ดูแลตรงส่วนอาหาร ก็แจ้งเราว่าอาหารเที่ยงเริ่ม 11โมงน่ะ  ให้เรารีบลงมาถ้าลงมาช้าคนจะเยอะมากกลัวเราจะไม่มีที่นั่ง



          หลังจากทำการเช็คอินเสร็จพี่พนักงานก็พาเราไปยังห้องพักซึ่งอยู่เกาะอีกด้าน  เนื่องจากห้องที่เราพักนั้นคือห้อง  K8 และ K5  อยู่ด้านบนสุดของเกาะเลย(แนะนำห้องนอกเหนือจาก K9 ที่เห็นวิวสวยๆ คือ K6 และK7 จะไม่มีต้นไม้บังวิวครับ)  แม้ว่าพี่พนักงานจะช่วยถือกระเป๋า พวกเราก็ยังรู้สึกว่าเดินขึ้นเขาเหนื่อยมากกก แต่แลกกับวิวที่สวยก็ต้องยอมเหนื่อยและครับ









          หลังจากนำกระเป๋าเก็บเข้าห้องพักเรียบร้อยแล้ว ก็เตรียมตัวลงไปรับประทานอาหารเที่ยง  โดยอาหารเที่ยงจะเป็นบุฟเฟ่ให้เราตักทานเอง  มีกับข้าวประมาณ 4 อย่าง  แล้วก็มีสลัดกับผลไม้  ขนมกล้วย ให้เรารับประทาน ในระหว่างนั่งรอที่บริเวณรับประทานอาหาร หลังจากจัดอาหารเสร็จเรียบร้อยแล้ว พี่หัวหน้าพนักงานก็เรียกเราให้รีบไปตักก่อน  เพราะกลัวคนจะเยอะ กลัวเราไม่ได้ทาน  พี่เค้าดูแลดีมากไม่มีขาดตกบกพร่องอะไรประทับใจมากครับ



          เนื่องจากวันนี้นักท่องเที่ยวไม่เยอะเลยไม่วุ่นวายเท่าไร ถือว่าเป็นโชคดีของพวกเรา  เพราะพี่หัวหน้าพนักงานบอกว่าเมื่อวันก่อน  คนเยอะมากแทบไม่มีที่นั่งเลย วันนี้เลยนั่งกันแบบสบายๆ  หลังจากกินอิ่มกันแล้วก็ถึงเวลาเล่นน้ำครับ  จึงสอบถามพี่หัวหน้าพนักงานว่าชูชีพจะไปเอาที่ไหน  พี่หัวหน้าพนักงานก็แจ้งว่าให้ไปเช่าที่บาร์ด้านหน้าหาดได้เลย  โอเครเก็บข้อมูลไว้ก่อน เพราะพวกเราจะเดินไปถ่ายรูปรอบเกาะที่จุดวิวพอยท์กันก่อน  เพื่อเป็นการย่อยอาหารที่แน่นท้องในตอนนี้