สวัสดีตอนสายๆ ใกล้ๆเที่ยงนะคับ เมื่อวานนี้ผมได้รวบรวมมุมมองและบทสัมภาษณ์ต่างๆ ทั้งโค้ช, อดีตผู้เล่นและผู้เล่นชุดปัจจุบันของเพื่อนร่วมกลุ่มเรามาทยอยลงให้พี่ๆ น้องๆใน TSS ได้อ่านกันไปพลางๆ โหมโรงกันก่อนเกมการเเข่งขันจะเริ่มในอีกราวๆตั้ง 7 เดือนข้างหน้านู้น ต้องยอมรับส่วนนึงว่าทีมไทยระยะหลังๆ มักมีโชคด้านการจับฉลากในรายการใหญ่ๆจริงๆ นับตั้งเเต่การได้เวียดนามมาอยุ่ร่วมกลุ่มในบอลโลก รอบคัดเลือกที่ผ่านมา ยาวมาจนถึงรายการแห่งทวีปอย่างเอเชี่ยนคัพที่ยูเออีหนนี้ อย่างที่เราๆท่านๆทราบกันไปเเล้วว่าใครอยู่กับเราบ้าง (หนนี้โชคดีเป็นพิเศษเพราะไม่มีสหายเก่าอย่างญี่ปุ่นและเพื่อนร่วมทางขาประจำอย่างเกาหลีเหนืออยู่ในกลุ่มเดียวกันแถมยังเฮง รับโชคต่อที่2ได้อินเดียจากโถ3มาเสริมเพิ่มเติมไปอีกด้วย คิดกันเล่นๆนะคับถ้าไม่ใช่อินเดียเเต่ดันทะลึ่งเป็นทีมจากตะวันออกกลางอย่าง ปาเลสไตน์, โอมาน หรือ เลบานอน ไทยเราคงลุ้นกันเหนื่อย)



เข้าเรื่องตามหัวข้อเลยล่ะกันนะคับ หลายท่านอย่าพึ่งเย้ยหยันว่าที่ผมบอกว่าอินเดียพกความมั่นใจมาเต็มกระเป่าหลังทราบผลการจับฉลากเพราะพวกเขาคิดกันว่าเปอร์เซ็นต์มีสูงอยู่เหมือนกันว่าพวกเขาจะเข้ารอบต่อไปได้ เพราะ
 
ข้อแรก - เอเชี่ยนคัพหนนี้มี 24 ทีม ไม่ใช่ 16 ทีมและจะมีทีมอกหักจริงๆ จอดเเค่รอบเเรกเพียงเเค่ 8 ทีม 
ในเเง่ของด้านทฎษฎี เอเชี่ยนคัพหนนี้การชนะเเค่นัดเดียวหรือลุ้นเสมอทั้ง3นัดมีซัก3เเต้มเป็นอย่างน้อยเเละพยายามเสียประตูไม่มากก็อาจเพียงพอให้ทีมได้ไปต่อในฐานะทีมอันดับ3ที่ดีที่สุด (ยังประคองตัวเองให้ทีมอยู่ใน4อันดับเเรกของทีมที่เป็นอันดับสามที่ดีที่สุดได้) ยิ่งกวาดสายตามองไปในหลายๆกลุ่ม กลุ่มแห่งความตาย หรือ กลุ่มเเห่งหายนะ หนนี้มีมากถึง3กลุ่ม ทั้งกลุ่มบี, กลุ่มอี และ กลุ่ม เอฟ เป็นไปได้อย่างมากว่ากลุ่มที่ผมว่ามานี้จะมีการตัดเเต้มกันชนิดน้ำลายเหนียวคอ 

เผลอๆอาจมีบางทีมที่ดันเสมอซัก2นัดและเเพ้เเบบเบียดๆซักนัดนึง มีเเค่2เเต้มเเต่อาจได้ไปต่อได้เช่นกัน (เป็น4จาก6ทีมที่เป็นอันดับ3ที่ดีที่สุดเกาะชายเสื้อชาวบ้านเขาไปด้วยกัน) มีอยู่หลายครั้งที่ทีมที่จบอันดับสามที่ดีที่สุดได้ไปต่อชนิดตีตั๋วใบสุดท้าย หรือ เกาะชายเสื้อเขาตามไป ลองมองไปที่กลุ่มที่เหลือ อย่างกลุ่มซี และ ดี เกาหลีใต้อาจเก็บชัย3นัดรวด มี9เเต้มเต็ม (อย่าลืมนะคับ การเข้าวินเป็นที่1ของกลุ่มนี้จะได้สิทธิ์พบกับทีมจากอันดับ3ที่ดีที่สุดของกลุ่ม A, B, F ซึ่งเบากว่าเป็นอันดับ2เยอะมาก ดีไม่ดีเกิดดวงเเตกจริงๆ ยูเออีเกิดเข้ามาเป็นอันดับ2 ของกลุ่มเอ เกาหลีใต้อาจเหงื่อตกเพราะคงไม่มีใครอยากเจอเจ้าภาพในรอบน็อคเอ้าท์ตั้งเเต่เนิ่นๆหรอกคับ) 

ยิ่งกับกลุ่มดี โอกาสที่อิหร่านจะหวดรวดเดียว 9เเต้มเต็มแบบเต็มไม้เต็มมือก็มีเปอร์เซ็นต์สูงมาก อย่าลืมว่าเขาคือของจริงของเอเซียเเละเป็นเบอร์1ของเอเซียแบบชนิดที่หลายชาติยอมรับ (อิหร่านเองก็หวังจะเข้าวินเป็นเบอร์1ของกลุ่มเช่นกันเพราะงานรอบต่อไป การเจออันดับ3ที่ดีที่สุดจากกลุ่ม B, E, F คงเบากว่าการเข้าเป็นอันดับ2เเละต้องลุ้นเเบบเหงื่อตกกับการวัดกับเเชมป์ของกลุ่มE ที่มีซาอุฯเป็นตัวเต็งในรอบต่อไป) 

ยกตัวอย่างกันเล่นๆนะคับกับสถานการ์ณที่ผมว่ามา... อิหร่านอาจจะชนะรวด3นัดเก็บ9เเต้มเต็มเป็นที่1ของกลุ่มดีได้สำเร็จ ส่วนอีก3ทีมที่เหลือ ผลการเเข่งขันดันออกเสมอกันเองทั้ง2นัดอีก ถ้าเป็นแบบนี้ทีมที่เเพ้อิหร่านทั้งหมดทั้งอิรัก, เวียดนาม และ เยเมนจะมีเเต้มเท่ากันที่ 2 เเต้ม ต้องวัดกันที่ลูกได้-เสียว่าใครโดนอิหร่านทะลวงไส้น้อยกว่ากันและอันดับสามของกลุ่มนี้อาจกลายเป็นทีมอันดับ3ที่ดีที่สุดที่มีเเค่2เเต้ม ถ้าเป็นแบบนี้แล้วเวลานั้นอินเดียเกิดบ้าจี้มีซัก2-3เเต้มเหมือนกันกับเขา อินเดียเองก็พอหวังเข้ารอบได้..

เอ้า! ถ้าตรรกะที่ว่ามาเกิดขึ้นจริง..ทำไมล่ะ? อินเดียจะหวังลุ้นอันดับ 2 หรือ 3 แบบทฤษฎีข้างต้นบ้างไม่ได้ (ติดสอยห้อยตามไปด้วยในฐานะ1ใน4ทีมจากอันดับ3ที่ดีที่สุด ด้วยคะเเนนซัก 2-3 เเต้มก็พอ)   


ข้อที่2 - การได้ไทยอยู่ในกลุ่มในฐานะทีมจากโถ2 เป็นอะไรที่วิเศษที่สุด!
ก่อนการจับฉลากจะมีขึ้น เชื่อเหลือเกินว่าทุกทีมต่างจับจ้องลุ้นให้ทีมตัวเองได้ทีมชาติไทยในฐานะทีมจากโถ2เป็นเพื่อนร่วมกลุ่ม เพราะด้วยผลงานที่ผ่านมา, อันดับฟีฟ่าและรายชื่อเพื่อนร่วมโถ ไทยนี่แหละคืองานที่ง่ายที่สุดเเล้ว 

หลังการจับฉลาก อินเดียสมหวังได้ไทยเป็นเพื่อนร่วมกลุ่มและผมเชื่อว่าเวลานี้เองอินเดียเองคงกำลังวางแผนในเเต่ละนัดเพื่อให้พวกเขาบรรลุเป้าหมายเเรก นั่นคือการผ่านเข้ารอบน็อคเอ้าท์ให้ได้ก่อน บางทีเกมกับไทยอาจเป็นตัวชี้วัดอย่างที่ตำนานทีมชาติอินเดียอย่างนาย เรเนดี้ บอกไว้ว่าเกมกับไทยสำคัญมากและถ้าอินเดียมีเเต้มในเกมนี้ อีก2นัดก็จะเล่นได้ง่ายขึ้น



ตัวเเทนเพียงหนึ่งเดียวจากภูมิภาคเอเซียใต้และถูกขนานนามให้เป็นเบอร์1ของภูมิภาคนี้อย่างอินเดีย ต้องเจอกับเบอร์1อาเซียนอย่าง ทีมชาติไทย เชื่อเหลือเกินว่าแฟนบอลชาวอินเดียเขาก็ว่า "อีนี่..บังไม่กลัวนายน่าาา" เพราะกวาดสายตามองดูรอบๆเเล้วทีมจากอาเซียนเองก็ไม่ได้มีผลงานโดดเด่นอะไรในเวทีใหญ่ๆระดับชาติเพราะส่วนใหญ่ก็ตกรอบเเรกๆกันหมดจะมีก็เเต่ไทยและเวียดนามที่พอจะทำผลงานปรากฏให้เห็นอยู่บ้าง ยิ่งรายการระดับภูมิภาคที่มีซูซูกิเป็นสปอร์นเซอร์ใหญ่ในการจัดการเเข่งขันอย่าง SAFF SUZUKI CUP และ AFF SUZUKI CUP แล้วทีมที่เข้าร่วมก็เกรดบอลไม่ห่างกันเท่าไร แถมอินเดียเองก็ชิมลางมาเเล้วกับการลุยกับพม่าในรอบคัดเลือกที่ผ่านมาที่พวกเขาไม่แพ้ในการพบกัน2นัด (ชนะ 1-0 กับเสมอ 2-2) แถมยังจัดการกำหลาบทั้งลาวเเละกัมพูชามาเเล้วทั้งคู่ในรอบ2ปีที่ผ่านมา (ชนะลาว1-0 และ 6-1 และชนะกัมพูชา 3-2) ยิ่งทำให้พวกเขาฮึกเหิม  

ยิ่งสถิติในการพบกันกับไทยในระยะหลังๆ พวกเขาก็เเพ้ไม่ขาด..เเล้วแบบนี้ทำไมเขาจะหวังไม่ได้ 
31 Jul 1999   Thailand 2-0 India   Olympics
16 Oct 2003   Thailand 2-0 India   International Friendly
04 Sep 2010   Thailand 1-0 India  International Friendly
08 Sep 2010   India 1-2 Thailand   International Friendly

เหตุผลข้อที่3 อินเดียมีไม้เด็ด คือ ขุมกำลังนักเตะที่เคยค้าเเข้งในยุโรปพ่วงด้วยกลุ่มเยาวชนตัวความหวังจากอะเคเดมี่สโมสรในยุโรป
นักเตะที่ว่าก็คือ Sunil Chhetri กัปตันทีมและเป็นศูนย์หน้าตลอดกาลของทีม ผู้ที่เคยเป็นส่วนนึงของสโมสร Kansas City Wizards สโมสรใหญ่ในอเมริกา และ เขาเองก็ยังเคยค้าเเข้งกับ สปอร์ตติ้ง ลิสบอน บี มาเเล้ว อีกคนคือ Gurpreet Singh Sandhu นายทวารทีมชาติ อดีตนายประตูของสโมสร Stabæk สโมสรที่มีชื่อในนอร์เวย์ นายทวารคนนี้เคยค้าเเข้งที่นั่นเป็นเวลายาวถึง 3 ปี (2014-ต้นปี 2017)  



ในส่วนของดาวรุ่งที่บางทีอาจมีการเรียกเข้ามาติดทีมเพื่อเก็บประสบการ์ณหรืออาจเป็นตัวทีเด็ดปล่อยลงมาในช่วงท้ายเกม อินเดียมีมากถึง4คนและที่สำคัญทุกคนที่ว่ามาจากอะเคเดมี่ของสโมสรใหญ่ๆในยุโรปทั้งนั้น คนเเรกเลยคือ Ishan Pandita   ศูนย์หน้าดาวรุ่งวัย 19 ปีจากอะเคเดมี่ของสโมสร CD Leganes สโมสรในลาลีกาสเปน อีกคนคือ Yan Dhanda กองหน้าดาวรุ่งวัย19ปีจากอะเคเดมี่ของลิเวอร์พูล, คนที่สามคือ Ashique Kuruniyan  หนุ่มน้อยวัย20ปีผู้เป็นความหวังของคลื่นลูกใหม่ฟุตบอลอินเดียกับตำแหน่งหน้าต่ำในอะเคเดมี่ของสโมสรบียาร์เรอัล ยักษ์ใหญ่ในลาลีกา คนสุดท้ายคือ Abneet Bharti ดาวรุ่งวัย19ปี เด็กปั้นของรีล บายาโดริด สโมสรระดับกลางๆในลาลีกา สเปน ปัจจุบันเจ้าตัวกำลังค้าเเข้งในลีกโปแลนด์กับ TS Podbeskidzie ทีมจากดิวิชั่น1ของที่นั่น  



นักเตะรุ่นๆที่ว่ามา บางทีโค้ชคอนสเตนตินอาจหนีบมาไว้ใช้งานหรือให้มาเก็บเกี่ยวประสบการ์ณกับทีมก็อาจเป็นไปได้เพราะพวกเขาคือความหวังในรุ่นต่อๆไปของทีมชาติอินเดีย แน่นอนว่าทุกคนพกดีกรีไม่ธรรมดาติดตัวมาเสียด้วย...เเล้วแบบนี้อินเดียจะพอหวังได้มะนายจ๋าา

ฟุตบอลยังไม่เตะ ใครจะหวังอะไรจะพูดอะไรก็ได้..เเละไม่แปลกที่ทีมอย่างอินเดียจะออกตัวเเรงผ่านสื่อว่า "พวกเขามั่นใจว่าเข้ารอบต่อไปแน่ๆ" ทุกทีมในกลุ่มเอ มองไปมองมาต่างเอามือลูบปากกันควักๆ (จินตนาการกันไปต่างๆนานาในใจว่า...เอ็งเสร็จตรูเเน่)  เเต่ถึงเวลานั้นจริงๆต้องมาดูกันว่าใครจะเปลี่ยนจากมือที่ลูบปากมาเป็นปาดน้ำตาดีก่า... มกราคม62นี้..รู้กัน

ที่มาข้อมูล: http://www.goal.com/en-my/news/afc-asian-cup-2019-draw-india-group-a-uae-thailand-bahrain/ro8xfkv0zptj10lhacc3m8uft
https://en.wikipedia.org/wiki/2015_SAFF_Championship
https://en.wikipedia.org/wiki/India_national_football_team#Current_squad
https://en.wikipedia.org/wiki/Sunil_Chhetri
https://en.wikipedia.org/wiki/Gurpreet_Singh_Sandhu
https://www.11v11.com/teams/india/tab/opposingTeams/opposition/Thailand/
https://www.sportskeeda.com/football/5-promising-indian-origin-footballers-european-youth-academies/5
https://www.sportskeeda.com/football/5-promising-indian-origin-footballers-european-youth-academies/4
https://www.sportskeeda.com/football/5-promising-indian-origin-footballers-european-youth-academies/2
https://www.sportskeeda.com/football/5-promising-indian-origin-footballers-european-youth-academies

เครดิต:

http://www.thailandsusu.com/webboard/index.php?topic=391388.0