สวัสดีจ้าทุกคน วันนี้ 1 วัน 3 ฤดู เลย เช้าเย็น กลางวันร้อน บ่ายฝนตก ประเทศไทยหน้าโล้นออกจากบ้านโดยไม่ทาครีมกันแดด (sunscreen) ไม่ได้นะ!! มาดูรีวิวครีมกันแดด ท่ามกลางแดดร้อนระอุ วัดกันไปเลย ทั้ง Arra Top Face Kiehl's Nivea และ Biore Sunscreen
*หมายเหตุ - เรารีวิวตามผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจริง ไม่ได้มีเจตนาเชิงพานิชย์ หรือความมุ่งหมายผลกระทบต่อแบรนด์ใดๆทั้งสิ้น ผลที่ได้ ขึ้นอยู่กับสภาพผิวแต่ละคน ระยะเวลาการใช้งาน และสภาพอากาศ*
วันนี้หยิบมา 4 ตัวได้แก่
1. ArraTopface SPF50+ PA+++ UVA/UVB ได้มา 1 แถม 1 จาก Watsons Thailand
2. Kiehl's Ultra Light Daily UV Defense SPF 50 PA++++ UVA/UVB ได้มาจาก Jeban.com
3. NIVEA Sun Protect & White Face Sun UVA1 Protection SPF 50 PA+++ UVA1/UVA2/UVB ได้มาจาก Watsons เช่นกัน
.
4. Biore Thailand UV Perfect Face Milk SPF 50+ PA+++ Oil Control ได้มาจาก Watsons เช่นกัน
กระทู้นี้มี 2 ส่วนนะทุกคน
ส่วนที่ 1เป็นการรีวิวเรื่อง Texture กลิ่น สี ความรู้สึกในการทา ด้วยภาพนิ่ง เพื่อให้สะดวกในการเก็บรายละเอียด
ส่วนที่ 2 เป็นการทดสอบประสิทธิภาพด้วยการตากแดดจัดๆเป็นเวลา 5 นาที
เริ่มที่ Arra Top Face ได้มาจาก Watsons โปร 1 แถม 1 ตกหลอดละไม่ถึง 200 มั้ง ปริมาณ 70 มล เยอะมาก
เนื้อแน่นสุดในบรรดา 4 ตัวที่ลองวันนี้แล้ว แต่พอเกลี่ยแล้วบางเบา ชุ่มชื่น ไม่เหนียวหนึบ สบายผิวดี เป็นสูตรที่ช่วยเพิ่ม Effect ความกระจ่างใสให้ผิว
ทางแบรนด์เคลมว่าเป็นสูตรอ่อนโยน ใช้ได้ทุกวัน และมีคอลลาเจนช่วยให้ผิวเนียนนุ่ม เต่งตึง
ต่อด้วย Kiehl's Ultra Light Daily UV Defense SPF50 PA++++ Anti Pollution UVA/UVB ตัวนี้เป็นตัวที่แพงที่สุดในบรรดา 4 ตัว ราคาหลัก 1xxx ทีเดียว ปริมาณ 30 ml
เนื้อบางเบามาก เป็นอันดับ 2 รองจาก Biore เลย สีออกไปทางเหลืองอ่อนๆ เกลี่ยแล้วไม่เหนอะหนะ เกลี่ยง่าย ซึมไว ซึมแล้วไม่หนึบผิว สบายๆ
ค่า PA ตัวนี้ 4+ ถือว่าสูงสุดตามมาตรฐานปัจจุบันในท้องตลาด เป็นสูตรอ่อนโยน ปราศจากสารกันเสีย และสารที่ก่อให้เกิดการอุดตันผิว และช่วยปกป้องผิวจากมลภาวะด้วย
ต่อด้วย Nivea Sun Protect & White SPF50 PA+++ UVA1/UVA2/UVB สูตรสำหรับออกแดดนานๆ
ตัวนี้เป็นสูตรกันน้ำ และกันรังสี UV ได้หลายแบบ แบรนด์เคลมว่าเหมาะกับการออกแดดนานๆ เนื้อไม่หนักไม่เบา แต่พอเกลี่ยแล้วเกลี่ยง่าย ชุ่มชื่น ไม่หนึบผิว
มี Vitamin E และ Anti-Oxidant ด้วย และ Licorice Extract ที่แบรนด์เคลมว่าช่วยให้ผิวใสขึ้น
มาถึงตัวสุดท้ายคือ Biore UV Perfect Face Milk Oil Control SPF 50+ PA+++
ตัวนี้รู้จักเพราะได้มาจาก Jeban และติดใจจนซื้อใช้ต่อเอง เพราะราคาน่าคบ แถมเป็นเมคอัพเบส ปรับผิวให้ดูดีขึ้น สดใสขึ้น และช่วยให้ผิวมันน้อยลงด้วย
แบรนด์เคลมว่ากันน้ำ กันเหงื่อ ไม่มีการแต่งสีและน้ำหอม
แต่แปลกใจที่กันแดดตัวนี้ PA+++ หรือแค่ 3+ เอง ซึ่งปกติกันแดดสัญชาติญี่ปุ่นมักจะ PA++++ หรือ 4+ เป็นส่วนใหญ่
มาสรุปผลการทดลองใช้ทั้ง 4 ตัวกันดีกว่า เอาแบบรวบตึงเลยนะ
ความบางเบา เรียงจากบางเบามากไปน้อย
Biore > Kiehl's > Nivea > Arra TopFace
ความชุ่มชื่น เรียงจากมากไปน้อย
Arra TopFace > Kiehl's > Nivea > Biore
ส่วนเรื่องคุมมัน ขอไม่รีวิว เพราะเราหน้ามันมาก ใช้มาเยอะแทบไม่ต่าง อาจจะให้ Biore ชนะในครั้งนี้เพราะอีก 3 ตัวที่เหลือไม่มีตัวไหนเน้นคุมมัน 555
และแล้วก็มาถึง Hilight ของงานคือการทดสอบประสิทธิภาพด้วยการตากแดดแรงๆ
เราทาครีมในปริมาณพอๆกัน ตากแดดในพร้อมกันในเวลาเท่าๆกัน
***หมายเหตุ - เราไม่ได้ทาก่อนออกแดด 15-30 นาทีนะ เราทาแล้วตากแดดเลย เพราะฉะนั้นตรงนี้ Arra Top Face จะเสียเปรียบเพราะบนกล่องบอกว่าต้องทาก่อนออกแดด 15-30 นาที***
ตากแดดเสร็จ เช็ดครีมออกด้วยทิชชู่ และมาดูผลลัพธ์กัน!!
ทาครีมแต่ละตัวลงไปในปริมาณใกล้เคียงกัน
เรียงจากใกล้สุดไปจนถึงข้อมือนะ
Arra TopFace -> Kiehl's -> Nivea -> Biore
"ร้อนมากกกกกกกกกกกกกก"
"หลังจากตากแดดจ้า สติ๊กเกอร์ย่นเชียว"
"ลอกสติ๊กเกอร์ออก มาลุ้นกัน"
"เห็นอะไรไหม!!"
"Arra TOPFACE!!! สวยงามเป็นรูปหัวใจเลยข่า คงเพราะเราทาแล้วออกแดดเลย ไม่ได้รอ 15-30 นาทีตามที่บอกไว้บนกล่อง :'("
สรุป Arra TOPFACE!!! สวยงามเป็นรูปหัวใจเลยข่า คงเพราะเราทาแล้วออกแดดเลย ไม่ได้รอ 15-30 นาทีตามที่บอกไว้บนกล่อง
ส่วนตัวอื่นๆไม่ได้เห็นรอยคล้ำชัดขึ้นมาเท่าไหร่ ถือว่าประสิทธิภาพใกล้เคียงกันในการทดสอบระยะสั้น
แต่ทุกคนไม่ต้องตกใจนะ รอยดำบนแขน พอผ่านไป 1 ชม ก็จางลง เราว่าน่าจะเกิดจากการทำปฏิกิริยากับแสงแดดมากกว่า (ความเห็นส่วนตัว)
สรุป
1. ครีมกันแดดทุกตัว ถ้าให้ดี ทาก่อนออกแดด 15 นาทีเป็นอย่างต่ำ เพื่อให้ครีมทำปฏิกิริยากับผิวเรา และเซ็ตตัวบนผิว จะได้ปกป้องผิวอย่างเต็มประสิทธิภาพ
2. ครีมกันแดดกันแดดได้จริงๆ จะถูกหรือแพง ซื้อเหอะ ทาเหอะ มันช่วยปกป้องผิวได้จริงๆ
หวังว่ากระทู้นี้จะเป็นประโยชน์กับทุกคนน้า ถ้าทุกคนเห็นว่าดี มีสาระ หรือยากบอกต่อ ช่วยกดเลิฟ ช่วยเม้นท์ และแชร์เป็นกำลังใจให้เราหน่อยจ้า
ขอบคุณจ้า เจอกันใหม่กระทู้หน้า
[CR] ดวลเดือด รีวิวครีมกันแดด 4 แบรนด์ ถูกยันแพง ลองตากแดดจริง ตัวไหนร่วง วัดกันไปเลย
*หมายเหตุ - เรารีวิวตามผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจริง ไม่ได้มีเจตนาเชิงพานิชย์ หรือความมุ่งหมายผลกระทบต่อแบรนด์ใดๆทั้งสิ้น ผลที่ได้ ขึ้นอยู่กับสภาพผิวแต่ละคน ระยะเวลาการใช้งาน และสภาพอากาศ*
วันนี้หยิบมา 4 ตัวได้แก่
1. ArraTopface SPF50+ PA+++ UVA/UVB ได้มา 1 แถม 1 จาก Watsons Thailand
2. Kiehl's Ultra Light Daily UV Defense SPF 50 PA++++ UVA/UVB ได้มาจาก Jeban.com
3. NIVEA Sun Protect & White Face Sun UVA1 Protection SPF 50 PA+++ UVA1/UVA2/UVB ได้มาจาก Watsons เช่นกัน
.
4. Biore Thailand UV Perfect Face Milk SPF 50+ PA+++ Oil Control ได้มาจาก Watsons เช่นกัน
กระทู้นี้มี 2 ส่วนนะทุกคน
ส่วนที่ 1เป็นการรีวิวเรื่อง Texture กลิ่น สี ความรู้สึกในการทา ด้วยภาพนิ่ง เพื่อให้สะดวกในการเก็บรายละเอียด
ส่วนที่ 2 เป็นการทดสอบประสิทธิภาพด้วยการตากแดดจัดๆเป็นเวลา 5 นาที
เริ่มที่ Arra Top Face ได้มาจาก Watsons โปร 1 แถม 1 ตกหลอดละไม่ถึง 200 มั้ง ปริมาณ 70 มล เยอะมาก
เนื้อแน่นสุดในบรรดา 4 ตัวที่ลองวันนี้แล้ว แต่พอเกลี่ยแล้วบางเบา ชุ่มชื่น ไม่เหนียวหนึบ สบายผิวดี เป็นสูตรที่ช่วยเพิ่ม Effect ความกระจ่างใสให้ผิว
ทางแบรนด์เคลมว่าเป็นสูตรอ่อนโยน ใช้ได้ทุกวัน และมีคอลลาเจนช่วยให้ผิวเนียนนุ่ม เต่งตึง
ต่อด้วย Kiehl's Ultra Light Daily UV Defense SPF50 PA++++ Anti Pollution UVA/UVB ตัวนี้เป็นตัวที่แพงที่สุดในบรรดา 4 ตัว ราคาหลัก 1xxx ทีเดียว ปริมาณ 30 ml
เนื้อบางเบามาก เป็นอันดับ 2 รองจาก Biore เลย สีออกไปทางเหลืองอ่อนๆ เกลี่ยแล้วไม่เหนอะหนะ เกลี่ยง่าย ซึมไว ซึมแล้วไม่หนึบผิว สบายๆ
ค่า PA ตัวนี้ 4+ ถือว่าสูงสุดตามมาตรฐานปัจจุบันในท้องตลาด เป็นสูตรอ่อนโยน ปราศจากสารกันเสีย และสารที่ก่อให้เกิดการอุดตันผิว และช่วยปกป้องผิวจากมลภาวะด้วย
ต่อด้วย Nivea Sun Protect & White SPF50 PA+++ UVA1/UVA2/UVB สูตรสำหรับออกแดดนานๆ
ตัวนี้เป็นสูตรกันน้ำ และกันรังสี UV ได้หลายแบบ แบรนด์เคลมว่าเหมาะกับการออกแดดนานๆ เนื้อไม่หนักไม่เบา แต่พอเกลี่ยแล้วเกลี่ยง่าย ชุ่มชื่น ไม่หนึบผิว
มี Vitamin E และ Anti-Oxidant ด้วย และ Licorice Extract ที่แบรนด์เคลมว่าช่วยให้ผิวใสขึ้น
มาถึงตัวสุดท้ายคือ Biore UV Perfect Face Milk Oil Control SPF 50+ PA+++
ตัวนี้รู้จักเพราะได้มาจาก Jeban และติดใจจนซื้อใช้ต่อเอง เพราะราคาน่าคบ แถมเป็นเมคอัพเบส ปรับผิวให้ดูดีขึ้น สดใสขึ้น และช่วยให้ผิวมันน้อยลงด้วย
แบรนด์เคลมว่ากันน้ำ กันเหงื่อ ไม่มีการแต่งสีและน้ำหอม
แต่แปลกใจที่กันแดดตัวนี้ PA+++ หรือแค่ 3+ เอง ซึ่งปกติกันแดดสัญชาติญี่ปุ่นมักจะ PA++++ หรือ 4+ เป็นส่วนใหญ่
มาสรุปผลการทดลองใช้ทั้ง 4 ตัวกันดีกว่า เอาแบบรวบตึงเลยนะ
Biore > Kiehl's > Nivea > Arra TopFace
Arra TopFace > Kiehl's > Nivea > Biore
ส่วนเรื่องคุมมัน ขอไม่รีวิว เพราะเราหน้ามันมาก ใช้มาเยอะแทบไม่ต่าง อาจจะให้ Biore ชนะในครั้งนี้เพราะอีก 3 ตัวที่เหลือไม่มีตัวไหนเน้นคุมมัน 555
และแล้วก็มาถึง Hilight ของงานคือการทดสอบประสิทธิภาพด้วยการตากแดดแรงๆ
เราทาครีมในปริมาณพอๆกัน ตากแดดในพร้อมกันในเวลาเท่าๆกัน
***หมายเหตุ - เราไม่ได้ทาก่อนออกแดด 15-30 นาทีนะ เราทาแล้วตากแดดเลย เพราะฉะนั้นตรงนี้ Arra Top Face จะเสียเปรียบเพราะบนกล่องบอกว่าต้องทาก่อนออกแดด 15-30 นาที***
ตากแดดเสร็จ เช็ดครีมออกด้วยทิชชู่ และมาดูผลลัพธ์กัน!!
ทาครีมแต่ละตัวลงไปในปริมาณใกล้เคียงกัน
เรียงจากใกล้สุดไปจนถึงข้อมือนะ
Arra TopFace -> Kiehl's -> Nivea -> Biore
"ร้อนมากกกกกกกกกกกกกก"
"หลังจากตากแดดจ้า สติ๊กเกอร์ย่นเชียว"
"ลอกสติ๊กเกอร์ออก มาลุ้นกัน"
"เห็นอะไรไหม!!"
"Arra TOPFACE!!! สวยงามเป็นรูปหัวใจเลยข่า คงเพราะเราทาแล้วออกแดดเลย ไม่ได้รอ 15-30 นาทีตามที่บอกไว้บนกล่อง :'("
สรุป Arra TOPFACE!!! สวยงามเป็นรูปหัวใจเลยข่า คงเพราะเราทาแล้วออกแดดเลย ไม่ได้รอ 15-30 นาทีตามที่บอกไว้บนกล่อง
ส่วนตัวอื่นๆไม่ได้เห็นรอยคล้ำชัดขึ้นมาเท่าไหร่ ถือว่าประสิทธิภาพใกล้เคียงกันในการทดสอบระยะสั้น
แต่ทุกคนไม่ต้องตกใจนะ รอยดำบนแขน พอผ่านไป 1 ชม ก็จางลง เราว่าน่าจะเกิดจากการทำปฏิกิริยากับแสงแดดมากกว่า (ความเห็นส่วนตัว)
1. ครีมกันแดดทุกตัว ถ้าให้ดี ทาก่อนออกแดด 15 นาทีเป็นอย่างต่ำ เพื่อให้ครีมทำปฏิกิริยากับผิวเรา และเซ็ตตัวบนผิว จะได้ปกป้องผิวอย่างเต็มประสิทธิภาพ
2. ครีมกันแดดกันแดดได้จริงๆ จะถูกหรือแพง ซื้อเหอะ ทาเหอะ มันช่วยปกป้องผิวได้จริงๆ
หวังว่ากระทู้นี้จะเป็นประโยชน์กับทุกคนน้า ถ้าทุกคนเห็นว่าดี มีสาระ หรือยากบอกต่อ ช่วยกดเลิฟ ช่วยเม้นท์ และแชร์เป็นกำลังใจให้เราหน่อยจ้า
ขอบคุณจ้า เจอกันใหม่กระทู้หน้า