สวัสดีค่ะ เป็นกระทู้และรีวิวครั้งแรก ภาพทั้งหมดถ่ายจากกล้อง iphone 6 ยังไงก็ติชมกันได้นะคะ
เป็นกระทู้ที่อาจไม่ละเอียดมาก แต่พอจะเดินทางตามกันได้ค่ะ
การเดินทางครั้งนี้ใช้ชื่อทริปว่า มาหายใจที่'ไทเป'
เป็นการเดินทางของ 3 สาวที่เรียนเพิ่งเรียนจบมหาวิทยาลัย (6ปี)
ตั้งแต่ 25 เมษายน- 2พฤษภาคม 2561
25 april : BBK -> Taoyoun international airport -> Sun Moon Lake
26 april : Sun moon lake -> Taipei ( ximending )
27 april : Pingxi line and jiufen old street
28 april : Taipei city ( Longshan temple , Chiang Kai-shek memorial hall, creative park, XIANGSHAN mountain )
29 april : Taipei city ( Beitou thermal valley, Lin an tai historical house and museum, Dalongdong Baoan Temple)
30 april : taroko national park
1 May : Tamsui station
2 May : Taoyoun international airport -> BBK
มาสนุกไปพร้อมกันค่ะ ^^
ก่อนการเดินทาง มีเวลาเตรียมตัวและจัดกระเป๋า 6 ชม. ก็จะทุลักทุเลหน่อยๆ
เนื่องจากมีเวลาเตรียมตัวน้อย ก็เลยตื่นเต้นมากเป็นพิเศษ
พวกเราเดินทางโดยสายการบิน Lion air เวลาประมาณ 3.30 น.(เวลาไทย) ถึง Taoyoun international airport 8.30 น.เวลาไทเป(เร็วกว่าไทย 1 ชม) หลังล้างหน้าจัดการกับตัวเองเสร็จ เหมือนได้ refresh ตัวเอง เอ้าสู้หน่อย
Day1
แผนของวันนี้คือ Sun moon lake
เดินทางจากTauyoun airport โดย bus ของ Ubus (Easy card)ไปลง Taichung station เพื่อต่อ HSR Taichung ไปยัง Nantou Station เร็วมากๆ เดินทางแค่ 40 นาทีเอง หลังจากนั้นซื้อบัตร one day pass ซึ่งมีให้เลือกหลายราคาค่ะ ขึ้นอยู่กับความต้องการของนักท่องเที่ยว สำหรับพวกเราเลือก 720 NTD ซึ่งคิดว่าเหมาะสมกับเวลาและแผนที่วางไว้ ใช้เวลาในการนั่งbus ไปประมาณ2ชมก็ถึงท่าเรือ
เดินชมทางเดินธรรมชาติ shuiwater trail บอกตรงว่าเดินไม่ไหวจริงๆ บรรยากาศเริ่มมืด ฝนฟ้าไม่ค่อยเป็นใจ เดินได้ครึ่งทางก็คิดในใจว่ากลับเหอะ กลัวมืดแล้วอันตราย สุดทายได้แค่ถ่ายรูปเล่น 555
รีวิวที่พัก Ming yue hu hotel
เป็นโรงแรมที่วิวดีมากกกก และเดินทางสะดวกมาก คือถึงท่าเรือ Ita Thao Pier อยู่ติดกับท่าเรือเลยค่ะ ห้องใหญ่มาก สะดวกสบาย ใกล้ night market กระจกใสจนจะเดินชนกระจกเลยค่ะ เจ้าของเป็นกันเองมาก พูดไทยได้บ้างเล็กน้อย หลังจากเดินทางมาทั้งวัน ก็ขอจบวันแบบฟินๆกันค่ะ
Day2
ตื่นเช้ามาประมาณ 7 โมงเช้า บรรยากาศยามเช้าฟินมากก มองออกเป็นเห็น Sun moon lake ยามเช้า ไม่มีหมอกลงแล้ว เป็นบรรยากาศที่สวยงามมากจริงๆ รีบอาบน้ำ จัดของใส่กระเป๋า เตรียม check out ก่อนไป Crystal ropeway
หลังจากนั้นก็ได้เวลากลับแล้วนั่งbus กลับstation และต่อHSR กลับ taipei main station และที่พักของเราใน taipei นั้น ถือว่าดีงามมาก พวกเราพักกันที่ Mr Lobsters Secret Den Design Hostel
http://www.mrlobstersecret.com/index.php
ซึ่งอยู่ใกล้กับ taipei main station ซึ่งสามารถเดินทางสะดวก ทั้ง MRT, TRA, bus เดินทางออกนอกและในtaipeiได้ หลังจากเข้าที่พักและจัดของกันแล้วนั้น ได้เวลาออกล่าของกิน พวกเราจึงเดินทางไป Ximending station โดย MRT
ของกินที่recommend กันมาหลายรีวิว
1. ไก่ทอดเจ้าดัง “Hot Star” 2. บะหมี่อาจง (Ay-Chung Flour Rice Noodle / 阿宗麵線) 3. “50 Lan (50嵐)”
Day 3
วันนี้ แพลนคือ Pingxi line and Jiufen ออกเดินทางตั้งแต่เช้าโดย TRA เพื่อไป Ruifang station และซื้อบัตร one day pass เท่านั้นก็พร้อมลุยแล้วค่ะ
พวกเราไปสุดสายก่อน นั่นก็คือ Jingtong Station ที่นี่คือมีจุดเด่นคือ การถ่ายรูปกับอาคารเก่าสวยงามและที่พลาดไม่ได้เลยก็คือการขอพรจาก “กระบอกไม้ไผ่อธิษฐาน” (许愿竹)
และ พวกเราเดินตากฝนกันไปเพื่อน้ำตกเลยอ่ะ สวยจริงๆ ที่ Shifen Station แต่จริงๆแล้วที่นี่เค้ามีการปล่อยโคมจีนกันนะ สวยงามมาก แต่พวกเราอดเพราะฝนตก T T
เสร็จแล้วก็เดินทางต่อไป Jiufen old street บรรยากาศสวยงามนะ แต่คนเยอะมากๆๆจริงๆ เป้าหมายของทุกคน A Mei Tea House (阿妹茶酒館) และสวยงามคร่าาาา
Day 4
วันนี้เที่ยวในไทเป ไม่รีบร้อนมากกก 555 ชิลๆใสๆ ที่แรกที่เราไปกันคือ Chiang Kai-shek memorial hall รู้สึกเหมือนเป็นที่สาธารณะที่ทุกคนสามารถมาทำกิจกรรมร่วมกันได้อย่าง freestyle มีการเปลี่ยนเวรกันทุกต้นชม.ด้วย สามารถไปชมกันได้ แต่แดดแอบแรงนิสนุง แต่ลมพัดเย็นๆ
ต่อไป Longshan temple เป็นสถานที่ยอดฮิตที่คนมาไต้หวันทุกคนต้องมา ทั้งเซียมซีและขอพรในเรื่องต่างๆ สำหรับสาวๆอย่างเราก็ไม่พ้นเรื่องความรัก มีตำนานเรื่องด้ายแดง เชื่อว่าถ้าโยนไม้แดงได้คว่ำหงายติดกันสามครั้ง สามารถหยิบด้ายแดงไป และเพื่อให้คำอธิษฐานแรงกล้ามากขึ้น ให้บอกชื่อนามสกุล วันเกิด เป้าหมายในการขอพร สเปคแบบคร่าวๆ 5555
ช่วงบ่ายพวกเราเดินทางกันไปต่อที่ Hua Shan Culture Creative Arts Park บรรยากาศมีความ hipster มากๆ มีร้านขายของมุ้งมิ้ง handmade วัยรุ่นเพียบ ร้านกาแฟก็น่ารัก มีนิทรรศการตลอดและหลากหลายทั้งฟรีและเสียค่าเข้าให้เพื่อนๆเลือกสนใจ
พอตกเย็น เราก็ไปสถานที่ถัดไปคือ XIANGSHAN mountain จุดชมวิวยอดฮิตเห็นตึก 101 บอกเลยว่าควรฟิตร่างกายมาจริงๆ ระหว่างทางเหมือนจะถอดใจตลอดเวลา แต่คิดในใจเอาวะมาถึงจุดนี้แล้วต้องไปให้สุด ระยะทาง 650 เมตร สุดท้ายก็ถึงจนได้ พระอาทิตย์ใกล้ตกแล้ว เร่งๆฝีเท้า แต่บอกก่อนเลยว่าข้างบนยุงตัวเท่าช้างเลยจ้า เอายากันยุงไปด้วยจะดีมากเลยจ้า
Day 5
วันนี้จะพาไปสัมผัสกับ Beitou thermal valley น้ำพุร้อนสีเขียวที่มีสาร sulfur and radium สภาพอากาศแอบร้อนหน่อยๆ แต่สวยมากๆ เดินทางง่ายๆ แค่ MRT ก็ถึงปลายทาง เดินอีกนิสหน่อยก็ถึงที่หมาย ระหว่างทางก็เป็นลำธารเล็กๆ สวยๆ
สถานที่ที่อยากแนะนำอีกที่นึง อาจจะยังไม่ค่อยมีใครรู้จักมากนัก คือ Lin an tai historical house and museum เป็นบ้านคนรวยในสมัยก่อน ข้างในมีกิจกรรมที่เหมาะกับเด็กคือ แต่ละมุมของบ้านนั้น จะมีให้ปั้มตราน่ารักๆ และเห็นคุณพ่อคุณแม่พาเด็กมาเพราะมีกิจกรรมน่ารกๆคือ จะมีสิ่งของอย่างมีวงกลม ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของอาชีพต่างๆ เช่น ลูกบาส เครื่องบิน หนังสือ เป็นต้น แล้วให้เด็กตัวเล็กๆคลานไปเลือก เชื่อว่าในอนาคตจะเป็นอาชีพนั้น
และสถานที่ต่อไป Dalongdong Baoan Temple เป็นวัดที่เกี่ยวกับสุขภาพ วันที่พวกเราไปนั้น เหมือนมีพิธีกรรมอะไรสักอย่างที่พวกเราไม่รู้จัก แต่แอบคล้ายช่วงกินเจในประเทศไทย ถือว่าเทพต่างๆมาให้พรพอดีเลย ดีใจๆ
และสุดท้ายของวันนี้คือ Xingtian Gong temple เป็นวัดที่สวยงามและมีเอกลักษณ์ตรงที่ ไม่มีธูปเทียน ไม่มีการไว้ที่ต้องใช้กระดาษคือดีงามมาก ตอนกลางคืนคือวิวดี เดินทางสะดวกอยู่ใจกลางเมือง ข้างในวัดจะมีอธิบายว่ามิธีการไหว้ทำอย่างไร ต้องไหว้จากทิศไหนก่อน ลองไปกันได้ค่ะ จบวันแบบอิ่มบุญอิ่มใจ
Day 6
วันนี้เราต้องออกเดินทางกันเช้าเป็นพิเศษ เพราะเราจะไปกันที่ Taroko national park ซึ่งต้องนั่ง TRA ไป ใช้เวลา 2 ชม.นิดๆ พวกเราออกเดินทางกันตั้งแต่ 6.50 น. ถึง Hualian station และซื้อ one day pass และความตื่นเต้นก็กำลังเริ่มค่ะ บอกเลยว่าที่นี่ต้องมาค่ะ ถือว่า recommend มากๆ หมดวันด้วยความเหน็ดเหนื่อย
Day7
เป็นวันชิลๆ ไม่ได้รีบร้อนอะไรมาก กว่าจะออกจากที่พักก็เที่ยงแล้วค่า วันนี้เราจะไป tamsui station ซึ่งเดินทางง่ายๆมาก คือ MRT สุดสายเลยจ้า ที่นี่มีทั้งอาคารที่สวยงาม และเป็นชุมชนของประมง มี old street ที่น่ารัก ของขาย handmade มุ้งมิ้งเต็มเลย และที่พลาดไม่ได้เลยคือ tamsui fisherman wharf เป็นสะพานทรง A เอียง วิวพระอาทิตย์ตกคือดีมาก ส่วนมากเค้ามากันเป็นคู่รัก พอพระอาทิตย์ตกที่สะพานจะมีสีสันเปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆ ถือว่าน่ารักมากๆเลยค่ะ
สำหรับวันพรุ่งนี้นั้น พวกเราเดินทางกลับกรุงเทพกันตั้งแต่เช้า โดยสายการบิน Nokscoot รอบ 9.40 น. สำหรับพวกเราสามคนนั้นมีความสุขกับทริปนี้มาก ไว้เจอกันใหม่ในรีวิวถัดไป จ
[CR] มาหายใจที่ ' ไทเป '
เป็นกระทู้ที่อาจไม่ละเอียดมาก แต่พอจะเดินทางตามกันได้ค่ะ
การเดินทางครั้งนี้ใช้ชื่อทริปว่า มาหายใจที่'ไทเป'
เป็นการเดินทางของ 3 สาวที่เรียนเพิ่งเรียนจบมหาวิทยาลัย (6ปี)
ตั้งแต่ 25 เมษายน- 2พฤษภาคม 2561
25 april : BBK -> Taoyoun international airport -> Sun Moon Lake
26 april : Sun moon lake -> Taipei ( ximending )
27 april : Pingxi line and jiufen old street
28 april : Taipei city ( Longshan temple , Chiang Kai-shek memorial hall, creative park, XIANGSHAN mountain )
29 april : Taipei city ( Beitou thermal valley, Lin an tai historical house and museum, Dalongdong Baoan Temple)
30 april : taroko national park
1 May : Tamsui station
2 May : Taoyoun international airport -> BBK
มาสนุกไปพร้อมกันค่ะ ^^
ก่อนการเดินทาง มีเวลาเตรียมตัวและจัดกระเป๋า 6 ชม. ก็จะทุลักทุเลหน่อยๆ
เนื่องจากมีเวลาเตรียมตัวน้อย ก็เลยตื่นเต้นมากเป็นพิเศษ
พวกเราเดินทางโดยสายการบิน Lion air เวลาประมาณ 3.30 น.(เวลาไทย) ถึง Taoyoun international airport 8.30 น.เวลาไทเป(เร็วกว่าไทย 1 ชม) หลังล้างหน้าจัดการกับตัวเองเสร็จ เหมือนได้ refresh ตัวเอง เอ้าสู้หน่อย
Day1
แผนของวันนี้คือ Sun moon lake
เดินทางจากTauyoun airport โดย bus ของ Ubus (Easy card)ไปลง Taichung station เพื่อต่อ HSR Taichung ไปยัง Nantou Station เร็วมากๆ เดินทางแค่ 40 นาทีเอง หลังจากนั้นซื้อบัตร one day pass ซึ่งมีให้เลือกหลายราคาค่ะ ขึ้นอยู่กับความต้องการของนักท่องเที่ยว สำหรับพวกเราเลือก 720 NTD ซึ่งคิดว่าเหมาะสมกับเวลาและแผนที่วางไว้ ใช้เวลาในการนั่งbus ไปประมาณ2ชมก็ถึงท่าเรือ
เดินชมทางเดินธรรมชาติ shuiwater trail บอกตรงว่าเดินไม่ไหวจริงๆ บรรยากาศเริ่มมืด ฝนฟ้าไม่ค่อยเป็นใจ เดินได้ครึ่งทางก็คิดในใจว่ากลับเหอะ กลัวมืดแล้วอันตราย สุดทายได้แค่ถ่ายรูปเล่น 555
รีวิวที่พัก Ming yue hu hotel
เป็นโรงแรมที่วิวดีมากกกก และเดินทางสะดวกมาก คือถึงท่าเรือ Ita Thao Pier อยู่ติดกับท่าเรือเลยค่ะ ห้องใหญ่มาก สะดวกสบาย ใกล้ night market กระจกใสจนจะเดินชนกระจกเลยค่ะ เจ้าของเป็นกันเองมาก พูดไทยได้บ้างเล็กน้อย หลังจากเดินทางมาทั้งวัน ก็ขอจบวันแบบฟินๆกันค่ะ
Day2
ตื่นเช้ามาประมาณ 7 โมงเช้า บรรยากาศยามเช้าฟินมากก มองออกเป็นเห็น Sun moon lake ยามเช้า ไม่มีหมอกลงแล้ว เป็นบรรยากาศที่สวยงามมากจริงๆ รีบอาบน้ำ จัดของใส่กระเป๋า เตรียม check out ก่อนไป Crystal ropeway
หลังจากนั้นก็ได้เวลากลับแล้วนั่งbus กลับstation และต่อHSR กลับ taipei main station และที่พักของเราใน taipei นั้น ถือว่าดีงามมาก พวกเราพักกันที่ Mr Lobsters Secret Den Design Hostel
http://www.mrlobstersecret.com/index.php
ซึ่งอยู่ใกล้กับ taipei main station ซึ่งสามารถเดินทางสะดวก ทั้ง MRT, TRA, bus เดินทางออกนอกและในtaipeiได้ หลังจากเข้าที่พักและจัดของกันแล้วนั้น ได้เวลาออกล่าของกิน พวกเราจึงเดินทางไป Ximending station โดย MRT
ของกินที่recommend กันมาหลายรีวิว
1. ไก่ทอดเจ้าดัง “Hot Star” 2. บะหมี่อาจง (Ay-Chung Flour Rice Noodle / 阿宗麵線) 3. “50 Lan (50嵐)”
Day 3
วันนี้ แพลนคือ Pingxi line and Jiufen ออกเดินทางตั้งแต่เช้าโดย TRA เพื่อไป Ruifang station และซื้อบัตร one day pass เท่านั้นก็พร้อมลุยแล้วค่ะ
พวกเราไปสุดสายก่อน นั่นก็คือ Jingtong Station ที่นี่คือมีจุดเด่นคือ การถ่ายรูปกับอาคารเก่าสวยงามและที่พลาดไม่ได้เลยก็คือการขอพรจาก “กระบอกไม้ไผ่อธิษฐาน” (许愿竹)
และ พวกเราเดินตากฝนกันไปเพื่อน้ำตกเลยอ่ะ สวยจริงๆ ที่ Shifen Station แต่จริงๆแล้วที่นี่เค้ามีการปล่อยโคมจีนกันนะ สวยงามมาก แต่พวกเราอดเพราะฝนตก T T
เสร็จแล้วก็เดินทางต่อไป Jiufen old street บรรยากาศสวยงามนะ แต่คนเยอะมากๆๆจริงๆ เป้าหมายของทุกคน A Mei Tea House (阿妹茶酒館) และสวยงามคร่าาาา
Day 4
วันนี้เที่ยวในไทเป ไม่รีบร้อนมากกก 555 ชิลๆใสๆ ที่แรกที่เราไปกันคือ Chiang Kai-shek memorial hall รู้สึกเหมือนเป็นที่สาธารณะที่ทุกคนสามารถมาทำกิจกรรมร่วมกันได้อย่าง freestyle มีการเปลี่ยนเวรกันทุกต้นชม.ด้วย สามารถไปชมกันได้ แต่แดดแอบแรงนิสนุง แต่ลมพัดเย็นๆ
ต่อไป Longshan temple เป็นสถานที่ยอดฮิตที่คนมาไต้หวันทุกคนต้องมา ทั้งเซียมซีและขอพรในเรื่องต่างๆ สำหรับสาวๆอย่างเราก็ไม่พ้นเรื่องความรัก มีตำนานเรื่องด้ายแดง เชื่อว่าถ้าโยนไม้แดงได้คว่ำหงายติดกันสามครั้ง สามารถหยิบด้ายแดงไป และเพื่อให้คำอธิษฐานแรงกล้ามากขึ้น ให้บอกชื่อนามสกุล วันเกิด เป้าหมายในการขอพร สเปคแบบคร่าวๆ 5555
ช่วงบ่ายพวกเราเดินทางกันไปต่อที่ Hua Shan Culture Creative Arts Park บรรยากาศมีความ hipster มากๆ มีร้านขายของมุ้งมิ้ง handmade วัยรุ่นเพียบ ร้านกาแฟก็น่ารัก มีนิทรรศการตลอดและหลากหลายทั้งฟรีและเสียค่าเข้าให้เพื่อนๆเลือกสนใจ
พอตกเย็น เราก็ไปสถานที่ถัดไปคือ XIANGSHAN mountain จุดชมวิวยอดฮิตเห็นตึก 101 บอกเลยว่าควรฟิตร่างกายมาจริงๆ ระหว่างทางเหมือนจะถอดใจตลอดเวลา แต่คิดในใจเอาวะมาถึงจุดนี้แล้วต้องไปให้สุด ระยะทาง 650 เมตร สุดท้ายก็ถึงจนได้ พระอาทิตย์ใกล้ตกแล้ว เร่งๆฝีเท้า แต่บอกก่อนเลยว่าข้างบนยุงตัวเท่าช้างเลยจ้า เอายากันยุงไปด้วยจะดีมากเลยจ้า
Day 5
วันนี้จะพาไปสัมผัสกับ Beitou thermal valley น้ำพุร้อนสีเขียวที่มีสาร sulfur and radium สภาพอากาศแอบร้อนหน่อยๆ แต่สวยมากๆ เดินทางง่ายๆ แค่ MRT ก็ถึงปลายทาง เดินอีกนิสหน่อยก็ถึงที่หมาย ระหว่างทางก็เป็นลำธารเล็กๆ สวยๆ
สถานที่ที่อยากแนะนำอีกที่นึง อาจจะยังไม่ค่อยมีใครรู้จักมากนัก คือ Lin an tai historical house and museum เป็นบ้านคนรวยในสมัยก่อน ข้างในมีกิจกรรมที่เหมาะกับเด็กคือ แต่ละมุมของบ้านนั้น จะมีให้ปั้มตราน่ารักๆ และเห็นคุณพ่อคุณแม่พาเด็กมาเพราะมีกิจกรรมน่ารกๆคือ จะมีสิ่งของอย่างมีวงกลม ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของอาชีพต่างๆ เช่น ลูกบาส เครื่องบิน หนังสือ เป็นต้น แล้วให้เด็กตัวเล็กๆคลานไปเลือก เชื่อว่าในอนาคตจะเป็นอาชีพนั้น
และสถานที่ต่อไป Dalongdong Baoan Temple เป็นวัดที่เกี่ยวกับสุขภาพ วันที่พวกเราไปนั้น เหมือนมีพิธีกรรมอะไรสักอย่างที่พวกเราไม่รู้จัก แต่แอบคล้ายช่วงกินเจในประเทศไทย ถือว่าเทพต่างๆมาให้พรพอดีเลย ดีใจๆ
และสุดท้ายของวันนี้คือ Xingtian Gong temple เป็นวัดที่สวยงามและมีเอกลักษณ์ตรงที่ ไม่มีธูปเทียน ไม่มีการไว้ที่ต้องใช้กระดาษคือดีงามมาก ตอนกลางคืนคือวิวดี เดินทางสะดวกอยู่ใจกลางเมือง ข้างในวัดจะมีอธิบายว่ามิธีการไหว้ทำอย่างไร ต้องไหว้จากทิศไหนก่อน ลองไปกันได้ค่ะ จบวันแบบอิ่มบุญอิ่มใจ
Day 6
วันนี้เราต้องออกเดินทางกันเช้าเป็นพิเศษ เพราะเราจะไปกันที่ Taroko national park ซึ่งต้องนั่ง TRA ไป ใช้เวลา 2 ชม.นิดๆ พวกเราออกเดินทางกันตั้งแต่ 6.50 น. ถึง Hualian station และซื้อ one day pass และความตื่นเต้นก็กำลังเริ่มค่ะ บอกเลยว่าที่นี่ต้องมาค่ะ ถือว่า recommend มากๆ หมดวันด้วยความเหน็ดเหนื่อย
Day7
เป็นวันชิลๆ ไม่ได้รีบร้อนอะไรมาก กว่าจะออกจากที่พักก็เที่ยงแล้วค่า วันนี้เราจะไป tamsui station ซึ่งเดินทางง่ายๆมาก คือ MRT สุดสายเลยจ้า ที่นี่มีทั้งอาคารที่สวยงาม และเป็นชุมชนของประมง มี old street ที่น่ารัก ของขาย handmade มุ้งมิ้งเต็มเลย และที่พลาดไม่ได้เลยคือ tamsui fisherman wharf เป็นสะพานทรง A เอียง วิวพระอาทิตย์ตกคือดีมาก ส่วนมากเค้ามากันเป็นคู่รัก พอพระอาทิตย์ตกที่สะพานจะมีสีสันเปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆ ถือว่าน่ารักมากๆเลยค่ะ
สำหรับวันพรุ่งนี้นั้น พวกเราเดินทางกลับกรุงเทพกันตั้งแต่เช้า โดยสายการบิน Nokscoot รอบ 9.40 น. สำหรับพวกเราสามคนนั้นมีความสุขกับทริปนี้มาก ไว้เจอกันใหม่ในรีวิวถัดไป จ