แต่อดีตมานั้นสุหนี่และชีอะห์แม้จะไม่ได้เป็นมิตรกันตลอดแต่ก็ออกแนวต่างคนต่างอยู่      ทว่านับแต่ซาอุดิอาระเบียถือกำเนิดและยกสำนักวะฮาบีย์ขึ้นมาเป็นใหญ่ก็ได้ส่งออกความคิดแบบวะฮาบีย์ไปยังมุสลิมสุหนี่ทั่วโลก    ซึ่งแนวคิดของวะฮาบีย์นั้นคืออิสลามที่ถูกต้องมีเพียงอิสลามตามแบบของวะฮาบีย์เท่านั้นนิกายอื่นถือว่าไม่ใช่อิสลาม     ทำให้มุสลิมสุหนี่ทั่วโลกไม่ยอมรับชีอะห์และมองว่าชีอะห์เป็นนิกายนอกรีตไม่ใช่อิสลาม

สถานการณ์ก็อึมครึมแบบนี้มาเรื่อยๆจนกระทั่งอิหร่านเกิดการปฏิวัติอิสลามขึ้น      ส่งผลให้ประเทศอาหรับสุหนี่ต่างๆแตกตื่นตกใจเพราะกลัวอิหร่านจะสนับสนุนให้เกิดการปฏิวัติอิสลามขึ้นในประเทศตนบ้าง   โดยเฉพาะซาอุดิอาระเบียที่กลัวสุดๆเพราะปกครองด้วยระบบสมบูรณาญาสิทธิราชย์และราชวงศ์ซาอูดจะไม่มีวันยอมสูญเสียอำนาจไป     จึงเกิดการสร้างเป็นกระแสต่อต้านและจงเกลียดจงชังชีอะห์ขึ้นและสอนไปยังบรรดามุสลิมที่ไปเรียนศาสนาจากอาหรับให้รู้สึกรังเกียจและต่อต้านชีอะห์ไปด้วยเพื่อสร้างแนวร่ามขึ้นมา   สร้างภาพและโปรแกรมความคิดของมุสลิมสุหนี่ไปทั่วว่าชีอะห์ไม่ใช่อิสลามและต้องการทำลายอิสลาม    ส่งผลให้มุสลิมสุหนี่จำนวนมากในโลกต่างรังเกียจชีอะห์ตามที่อาหรับโปรแกรมความคิดไว้ทั้งๆที่ไม่เคยมีปัญหารึความแค้นอะไรกันเลย (มุสลิมสุหนี่บางคนพูดไปถึงขั้นว่าอิหร่านคือพวกเดียวกับอิสราเอลและอเมริกาโดยที่ฉากหน้าแกล้งทำเป็นเกลียดกันแต่ความจริงเป็นพวกเดียวกันและมีจุดหมายร่วมกันคือทำลายอิสลาม)

ในไทยเองแต่อดีตมาสุหนี่กับชีอะห์ก็อยู่กันได้ไม่มีปัญหา    แต่พอเข้ายุคใหม่มุสลิมสุหนี่ในไทยไปเรียนศาสนาจากตะวันออกกลางได้ง่ายขึ้นก็รับอิทธิพลแนวคิดของอาหรับมาจนมองชีอะห์เป็นศัตรูกันแล้ว    มองชีอะห์ว่าไม่ใช่มุสลิมและต้องการทำลายอิสลามตามพวกอาหรับ

---

คิดดูว่าขนาดกลุ่มมุสลิมชีอะห์ในไทยสมทบทุนกันช่วยสร้างตู้กดน้ำบริการแก่ผู้ที่ไปมัสยิดที่สามจังหวัดชายแดนใต้      คนในพื้นที่ยังไม่พอใจออกมาอาละวาดรื้อพังทิ้งหมด