[CR] รีวิวหนัง The Omen 1976 หนังภาคต้นกำเนิดตำนานลูกซาตานสุดหลอนที่ยังโด่งดังมาจนถึงทุกวันนี้

ขออนุญาตฝากเพจนิดนึงเลยนะครับ "โหลก-เถื่อน-หรั่ง Studio" เป็นเพจเกี่ยวกับการรีวิวหนังโดยจะเน้นไปที่หนังเก่าๆเป็นพิเศษนะครับ

ถ้าใครสนใจก็เข้าไปดูได้เลยครับ
https://www.facebook.com/ReviewMoviesStudio/


ถ้าจะให้พูดถึงหนังที่เกี่ยวกับลูกซาตานสักเรื่อง ผมคิดว่าคอหนังผีทุกคนคงพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า #TheOmen แน่ๆ เพราะเรียกได้ว่าเป็นหนังผีเเนวลูกซาตานระดับตำนานที่โด่งดังมากๆในอดีต ถึงขนาดมีภาคต่อ,ซีรี่ย์หรือเเม้เเต่ภาครีเมคใหม่ออกมามากมาย และก็ไม่รู้เหมือนกันว่าวันนี้ผมดันเกิดนึกคึกบ้าอะไรขึ้นมาแต่ดันอยากจะหยิบหนังTheOmenที่เป็นภาคต้นกำเนิดขึ้นมารีวิว ก็คือภาคจากปี 1976 นั้นเอง จะเป็นยังไงก็อ่านรีวิวด้านล่างได้เลยครับ

เรื่องย่อ:ครอบครัวนักการทูตที่สูญเสียลูกน้อยไปตั้งแต่แรกเกิด เพื่อไม่ให้ภรรยารู้สึกใจสลาย เขาจึงไปรับอุปการะเด็กกำพร้าที่เกิดในวันเดียวกันมาสวมรอยเป็นลูกตามคำแนะนำของบาทหลวง จากนั้นชีวิตพวกเขาก็ดำเนินไปอย่างปกติสุข จวบจนเด็กชายหรือน้องเดเมี่ยนอายุได้ 5 ขวบ เรื่องราวประหลาดชวนสยองก็ค่อยๆเกิดขึ้น เดเมี่ยนไม่ใช่เด็กธรรมดาอีกต่อไปแต่เขาคือบุตรของซาตาน

ความรู้สึกหลังดูจบ:บอกตรงๆผมรู้เฉยๆมาก คือไม่ใช่ว่าหนังไม่ดีนะผมว่าหนังมันก็สนุกดีตามยุคสมัยของมัน แต่มันก็ไม่ได้ทำให้ผมว้าวรึมีอะไรที่น่าจดจำเท่าไร หลักๆเลยคือมันไม่ได้น่ากลัวเลยสักนิดเดียว ผมก็งงว่ามันเจ๋งขนาดที่มีภาคต่อออกมาได้ไงวะตั้งหลายภาค แต่ก็คิดว่าส่วนหนึ่งอาจจะเป็นเพราะผมไม่ค่อยอินกับประเด็นที่เขานำมาเล่าด้วยเเหละก็เลยรู้สึกเฉยๆ เเต่โดยรวมผมก็ว่าหนังอยู่ในระดับที่โอเคเลยนะเเค่มันไม่ค่อยจะน่ากลัวเท่าไรก็เเค่นั้นเอง

ผมขอพูดถึงประเด็นที่หนังหยิบมานำเสนอให้เราดูก่อนเลยดีกว่า นั้นก็คือเรื่องที่เกี่ยวกับความเชื่อทางศาสนาคริสต์นั้นเอง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของปีศาจร้ายซาตานความพิโรธของพระเจ้าบลาๆๆๆ หนังหยิบมาเล่าให้เราเห็นเป็นเรื่องราวชัดเจนแถมมีการอ้างอิงเนื้อหาจากในคัมภีร์ไบเบิลอีกด้วย ดังนั้นคงไม่ต้องเเปลกใจว่าทำไมผมถึงไม่ค่อยอินนั้นเพราะผมเป็นคนพุทธและก็ไม่ค่อยจะมีความรู้ที่เกี่ยวกับทางศาสนาคริสต์ซะด้วยซิ ที่ผมอยากจะบอกก็คือสิ่งที่หนังนำเสนอมันเป็นเรื่องเกี่ยวกับความเชื่อส่วนบุคคลที่ค่อนข้างชัดเจนซึ่งมันไม่ใช่เรื่องที่ผิดและหนังก็นำเสนอออกมาได้ดีด้วย เพียงเเต่มันก็ยากที่จะทำให้ทุกคนเข้าถึงได้เพราะเเต่ละคนก็มีความเชื่อที่เเตกต่างกันอยู่เเล้ว ยกตัวอย่างเช่นหนังอยากให้คนดูกลัวซาตานแต่ผมดันไม่มีความเชื่อในเรื่องของซาตานเลยก็เลยไม่มีความรู้สึกว่ามันน่ากลัวอะไรประมานนี้แหละครับ แต่คิดว่าสำหรับคนที่มีความเชื่อในเรื่องนี้น่าจะอินกับหนังเรื่องนี้มากๆเลยเเหละ

สำหรับการดำเนินเรื่องของหนังก็ทำได้ในระดับที่โอเคที่เดียว ในช่วงเเรกหนังจะดำเนินเรื่องโดยให้ความรู้สึกเป็นเหมือนหนังครอบครัวที่น่ารักเเละก็อบอุ่น คือเขาทำให้เราเชื่อก่อนว่าครอบครัวนี้มันมีความสุขกับชีวิตกันจริงๆนะ แต่ทันทีที่เรื่องเเปลกๆได้เริ่มต้นขึ้นก็ต้องบอกว่ามันให้อารมณ์ที่ต่างจากช่วงเเรกๆราวกับหนังคนละม้วน หนังจะมีความสยองขวัญมากขึ้นเเละจะเพิ่มความหลอนขึ้นเรื่อยๆ(แต่ก็อย่างที่ผมกล่าวไปข้างต้นผมไม่รู้สึกกลัวเท่าไรเลย) และอีกสิ่งที่ช่วนให้เราอยากจะติดตามต่อคือเรื่องราวปริศนาเกี่ยวกับตัวเด็กน้อยที่หนังจะค่อยๆหยอดเข้ามาเรื่อยๆซึ่งมันก็ช่วยเพิ่มความสนุกให้กับหนังได้มากทีเดียว รวมไปถึงหนังยังสร้างสถานการณ์ที่ให้ตัวละครต้องต่อสู้ดิ้นรนเอาชีวิตรอดมาคอยเพิ่มความรู้สึกตื่นเต้นเเละลุ้นระทึกให้กับเราอีกด้วย

ถึงแม้ผมจะบอกอยู่ตลอดว่าไม่ค่อยรู้สึกว่าหนังมันน่ากลัว แต่เอาจริงๆมันก็มีถึง2สิ่งที่ทำให้ผมแอบกลัวได้นิดนึงเหมือนกัน อย่างเเรกคือดนตรีประกอบที่จะเปิดช่วงต้นกับท้ายเรื่อง ถ้าผมฟังไม่ผิดเหมือนมันจะเป็นเสียงบทสวดมนต์อะไรประมานนี้รึป่าวไม่เเน่ใจนะถ้าผมเข้าใจผิดก็ต้องขออภัยด้วย แต่ฟังเเล้วรู้สึกว่ามันหลอนมากๆ อย่างที่สองคือบุคลิกของสองตัวละครอย่างหนูน้อยเดเมียน ธอร์นและพี่เลี้ยงคนใหม่ ซึ่งต้องบอกว่าการเเสดงทางสีหน้าของทั้งสองทำได้น่ากลัวมากๆเช่นตัวละครเดเมียนที่มักจะชอบเเสดงรอยยิ้มที่สุดเเสนจะเย็นชาและมันก็ชวนให้ผมรู้สึกขนลุกมากๆ แต่ตัวละครที่น่ากลัวจริงๆคงต้องยกให้ใยพี่เลี้ยงคนใหม่ นอกจากตัวละครของเธอจะมีเรื่องราวที่ลึกลับน่าสงใสอยู่เเล้วการแสดงอารมณ์ที่ดูคุ้มดีคุ้มร้ายของเธอยิ่งทำให้เรารู้สึกว่าตัวละครนี้คาดเดาได้ยากจริงๆ ซ้ำสีหน้าของเธอนั้นยังดูโรคจิตมากๆด้วย

จริงๆในด้านการเเสดงผมว่านักเเสดงทุกคนทำได้ดีหมดเลยนะ แต่ผมขอให้เครดิตกับ Billie Whitelaw ในบทพี่เลี้ยงคนใหม่กับ Harvey Stephens ในบทเดเมียน ธอร์นเป็นพิเศษเพราะการเเสดงของทั้งสองนั้นช่วยยกระดับให้หนังน่าสนใจขึ้นได้มากทีเดียว

และนี่ก็คือรีวิวของผมทั้งหมดเกี่ยวกับหนังเรื่องนี้ครับ พอดีว่าผมไม่เคยดูภาคต่อไม่เคยดูซีรี่ย์ภาครีเมครึแม้เเต่นิยายต้นฉบับก็ไม่เคยอ่านดังนั้นจึงไม่ได้มีการหยิบยกมาอ้างอิงนะครับ สาเหตุที่ไม่ได้ดูภาคอื่นๆต่อก็เพราะผมรู้สึกว่าตอนจบที่หนังเรื่องนี้ทำไว้ผมว่าจบได้สวยลงตัวมากๆและไม่จำเป็นจะต้องบอกเล่าเรื่องราวต่อหลอกจบแบบให้เราได้ไปคิดต่อเองอย่างงี้มันน่าจดจำกว่า พอมันมีภาคต่อออกมาก็เลยไม่คิดอยากจะดูเท่าไรแต่มันก็อาจจะสนุกเเละดีกว่าที่คิดก็ได้ ถ้าใครได้ดูภาคต่อเเล้วก็มารีวิวเเนะนำให้ผมทีนะครับว่าเป็นยังไง

ปล.และนี่ก็คือSoundtrackของหนังที่เปิดช่วงต้นเรื่องกับช่วงท้ายเผื่อใครจะอยากฟัง ผมฟังเเล้วรู้สึกหลอนมากๆ
https://www.youtube.com/watch?v=t-J1Myrgxvc

ยังมีรีวิวหนังเรื่องอื่นๆอีกมากเข้าไปอ่านกันในเพจได้เลยนะครับ
https://www.facebook.com/ReviewMoviesStudio/
( ชอบกดไลท์ ใช่กดแชร์ เป็นกำลังใจให้พวกเราด้วยนะครับ >< )
ชื่อสินค้า:   ภาพยนตร์ The Omen 1976
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่