สวัสดีครับ ผมเป็นแฟนปืนใหญ่ที่พอดีชอบเขียนบทความเกี่ยวกับ Arsenal ไปแปะไว้ใน fb ตัวเองเล่นๆครับ แต่จากเกมเมื่อคืนนี้ นึกครึ้มๆอยากเอามาลองแชร์ในนี้ให้ได้อ่านกันดูครับ....ท่านไหนที่ชอบ/ไม่ชอบ อยากติชม เพื่อให้พัฒนาต่อ ผมก็ยินดีครับ เผื่อผมฮึดจะทำ fanpage เฉพาะกลุ่มขึ้นมาจริงๆครับ
"มันจบแล้วครับนาย"
หลังจบเกมที่ Wanda Metropolitano ไม่มีอภินิหารหรือปาฏิหารย์ใดๆเกิดขึ้นที่นั่น ทุกอย่างในเกมดำเนินไปแทบจะเป็นไปตามที่กูรูฟุตบอลหลายๆท่านวิเคราะห์เอาไว้ก่อนเริ่ม เหมือนดังกับว่าเห็นอนาคตยังไงยังงั้น...เหตุผลหลักๆที่ทำให้เกมเมื่อวานคาดการณ์ได้ง่าย คงเป็นเพราะความแน่นอนของทั้งเจ้าบ้านอย่าง Atletico Madrid และผู้มาเยือน Arsenal
ความแน่นอนของ At. Madrid ในที่นี้ ความรัดกุมเหนียวแน่นในการเล่นเกมรับ สะท้อนไปถึงสถิติการเล่นในถ้ำหมีอย่างชัดเจนมากๆว่าจำนวนประตูที่เสียน้อยมากๆนี้ ของจริงนะครับ ไม่ได้งานก๊อปทำเหมือน
ขณะที่ความแน่นอนของ Arsenal ผมหมายถึงความไม่แน่นอนนี่แหละ...ใช่ครับ ที่ผมจะบอกคือ Arsenal ภายใต้การคุมทีมของ Arsene Wenger ตลอด 2-3 ปีหลังมานี้ เป็นทีมที่เอาแน่เอานอนไม่ได้อยู่ตลอดทั้งเกมรุกและเกมรับ บทวันไหนจะดีก็ดีเว่อร์ วันไหนจะห่วยก็ป่วยใจแฟนบอล
Arsenal ออกสตาร์ท 11 ตัวจริงด้วยรายชื่อผู้เล่นที่ Wenger คัดแล้วว่าดีที่สุด อาจจะขัดใจบางท่านในบางตำแหน่ง อย่างรายของ Mkhitaryan ที่หลายๆท่านมองว่าเป็นหนึ่งในตัวความหวังที่กลับมาช่วยทีมทันเวลา แต่กลับไปปรากฎชื่ออยู่บนม้านั่งสำรอง และกลายเป็นท่านเทพ Welbeck ลงมาโปรดแทน, หรือตำแหน่งผู้รักษาประตูที่ Ospina ยึดโควต้ามือหนึ่งในถ้วยนี้มาแต่แรก ในขณะที่บางเสียงกระซิบบอกว่าประสบการณ์ของ Cech น่าจะแบกได้ดีกว่า แต่ทั้ง 2 ตำแหน่ง ส่วนตัวผมมองว่าไม่ต่างกันในสถานการณ์เมื่อวาน
ก่อนเริ่มเกม รู้กันทั่วโลกอยู่แล้วว่า Arsenal ต้องการประตูอย่างไม่มีทางเลือกอื่น ดังนั้นเชื่อว่าแฟนปืนหลายๆคนรวมทั้งผมก็คาดหวังที่จะเห็นทีมรักกางตำราบุกสู้กับ At. Madrid ให้ได้อย่างสมน้ำสมเนื้อทีม Big name ของยุโรป เผื่อดีกรีความมันส์จะได้ใกล้เคียงของเกมที่ Bayern Munich ซัดกับ Real Madrid เมื่อวันอังคารที่ผ่านมาบ้าง ซักนิดเถอะหน่า
แต่เปล่าเลย ด้วยข้อได้เปรียบเรื่อง Away Goal ทำให้ At. Madrid เล่นตามแบบฉบับที่ตัวเองถนัด คือการเน้นความแน่นอนในเกมรับ และความคมในจังหวะสวนกลับ โดยมี Diego Costa และ Griezmann คอยขู่ฟ่อๆใส่กองหลังปืนใหญ่ ซึ่งตลอดเกมต้องบอกว่าลูกทีมทุกคนของ Diego Simeone เล่นได้อย่างมีวินัยและรับผิดชอบหน้าที่ตัวเองได้อย่างสุดยอด
ข้ามมามองทางฝั่งของ Arsenal ของ Arsene Wenger ก็ต้องบอกว่าเล่นกันได้อย่างน่าผิดหวังแบบเดิมๆ ภาพสไตล์การเขาทำที่ไหลลื่นที่ทีมเราเคยทำได้ดีในช่วงก่อนหน้านี้ซัก 4-5 ปีตอนนี้หายไปหมดแล้ว เหลือเพียงภาพการต่อบอลย้อนไปย้อนมา จากหลังมากลาง กลางออกปีก ปีกกลับมากลาง กลางกลับไปหลัง หลังไปออกปีกอีกข้าง วนๆไป จนกว่าส่งกันเองพลาด, โยนสั้นไปหรือไม่ก็ยาวไป, หรือไม่ก็โดนตัดบอลวิ่งกลับแดนตัวเองกันหน้าตั้ง.....เป็นแบบนี้เกือบตลอดทั้งเกม และคงไม่เกินไปสำหรับแฟนปืนใหญ่ที่ตามเชียร์ตามชมที่จะบอกเป็นแบบนี้มาตลอดทั้งฤดูกาล
At. Madrid จึงไม่ได้โดนกดดันเท่าที่ควร สังเกตได้เลยว่าแนวรับตราหมีเลือกที่จะเปิดพื้นที่ริมเส้นให้ Arsenal มากพอสมควร แต่พื้นที่ในเขตอันตรายนั้นแทบไม่มีให้คู่แข่งยืน ประกอบกับการเข้าทำเกมริมเส้นของ Arsenal นั้น”ห่วยแตก” จึงเห็น Arsenal เข้าทำริมเส้นแบบท่าดีทีเหลวแทบตลอดทั้งเกม
ภายใต้เกมรุกที่ดูไร้จินตนาการ Ozil ดูเหมือนจะโดนวิจารณ์ไม่น้อยในฐานะผู้แบกภาระการสร้างโอกาสให้ทีมในมิติเกมรุก ซึ่งตลอดช่วงหลังๆมาแม้ว่า Ozil จะมีเกมที่ดีบ้าง แต่ก็ต้องยอมรับว่าเกมที่แย่มันเยอะกว่ามาก รวมทั้งเกมเมื่อวานด้วย
แล้วพอมามองเกมรับ Arsenal ล่ะ...ก็ต้องบอกเลยว่าวันนี้เกมรับทำได้ดีกว่าที่คาดนิดนึงด้วยซ้ำ ดีกว่าในที่นี้คือข้อผิดพลาดรายบุคคลค่อนข้างน้อย (นี่น้อยแล้วจริงๆนะ) เพียงแต่ว่ามันยังดีไม่พอที่จะไม่เสียประตูอยู่ดี...Mustafi ที่หลายๆคนวิจารณ์อย่างรุนแรงในช่วงหลัง ก็ทำหน้าที่รับมือ Diego Costa ได้ดีประมาณนึง แต่ในจังหวะที่เสียประตูนั้นก็ต้องชม Diego Costa ในการพาตัวเองไปอยู่ในมุมที่ไม่ได้อันตรายเลย และพอมีจังหวะก็พุ่งไปหาตำแหน่งที่ได้เปรียบได้ดีจริงๆ ซึ่งกว่า Bellerin จะรู้ตัวก็สายไปแล้ว
สุดท้าย Arsene Wenger ก็พา Arsenal และความตั้งใจของตัวเองไปไม่ถึงฝั่งฝันอีกปี คิดย้อนกลับไปมันก็น่าเขกหัวกับ Away Goal ที่เสียไปจริงๆ
ก่อนแข่งก็คิดว่าถ้าสุดท้าย Arsenal ทำสำเร็จถึงปลายทางฝันจริงๆ อย่างน้อยก็ดูจะเป็นการก้าวลงจากเวทีของ Wenger ที่สง่างามอยู่พอสมควร เพราะเป็นการพาทีมที่เค้าบอกว่ารักกลับไปยืนบนเวทีใหญ่ของยุโรปอีกครั้งก่อนจากกัน และถึงแม้จะเป็นถ้วยยุโรปใบเล็ก แต่อย่างน้อยก็พูดได้ว่า Wenger เคยสัมผัสถ้วยแชมป์ยุโรปที่เค้าผิดหวังมาโดยตลอด ทั้งที่เคยเข้าชิงทั้ง EUFA Cup เก่า ปี 2000 (แพ้จุดโทษ Galatasaray) และ EUFA Champion League ปี 2006 (แพ้ Barcelona 2-1)
แต่สุดท้าย Wenger ก็ทำไม่สำเร็จ เป็นอีกปีไม่มีอะไรให้น่าจดจำ นอกจากข่าวการประกาศวางมือจาก Arsenal ของตัวเค้าเอง และในวันอำลาของ Wenger ก็คงเป็นการเทิดทูนความดีที่เคยทำด้วยการขายของเก่า อย่าง แชมป์ไร้พ่าย, สนามใหม่, แชมป์ FA cup เยอะสมัย.....ซึ่งมันคงแห้งๆกร่อยๆน่าดูเลยว่ามั้ยครับ
คิดแล้วก็ตลกดีนะครับ แรกเริ่มฤดูกาลนี้ ถ้วย EUFA Europa cup ดูจะไม่ใช่สิ่งที่ Wenger หมายมั่นจะคว้ามาครองเลย แต่ดันมาเป็นความหวังสุดท้ายของชายคนนี้ก่อนวางมือ...แล้วมันเป็นตลกร้ายที่สุดท้ายก็ดันหลุดมือไปอีก มันเลยจะจบแบบเศร้าๆไปแบบนี้แหละครับนาย
PS: เชิญแฟนบอล Arsenal หรือทีมอื่นๆที่อยากแสดงความคิดเห็นได้เต็มที่เลยครับ
เชิญรับชม Column ARSENAL ++เฉพาะกิจ++ "มันจบแล้วครับนาย"
"มันจบแล้วครับนาย"
หลังจบเกมที่ Wanda Metropolitano ไม่มีอภินิหารหรือปาฏิหารย์ใดๆเกิดขึ้นที่นั่น ทุกอย่างในเกมดำเนินไปแทบจะเป็นไปตามที่กูรูฟุตบอลหลายๆท่านวิเคราะห์เอาไว้ก่อนเริ่ม เหมือนดังกับว่าเห็นอนาคตยังไงยังงั้น...เหตุผลหลักๆที่ทำให้เกมเมื่อวานคาดการณ์ได้ง่าย คงเป็นเพราะความแน่นอนของทั้งเจ้าบ้านอย่าง Atletico Madrid และผู้มาเยือน Arsenal
ความแน่นอนของ At. Madrid ในที่นี้ ความรัดกุมเหนียวแน่นในการเล่นเกมรับ สะท้อนไปถึงสถิติการเล่นในถ้ำหมีอย่างชัดเจนมากๆว่าจำนวนประตูที่เสียน้อยมากๆนี้ ของจริงนะครับ ไม่ได้งานก๊อปทำเหมือน
ขณะที่ความแน่นอนของ Arsenal ผมหมายถึงความไม่แน่นอนนี่แหละ...ใช่ครับ ที่ผมจะบอกคือ Arsenal ภายใต้การคุมทีมของ Arsene Wenger ตลอด 2-3 ปีหลังมานี้ เป็นทีมที่เอาแน่เอานอนไม่ได้อยู่ตลอดทั้งเกมรุกและเกมรับ บทวันไหนจะดีก็ดีเว่อร์ วันไหนจะห่วยก็ป่วยใจแฟนบอล
Arsenal ออกสตาร์ท 11 ตัวจริงด้วยรายชื่อผู้เล่นที่ Wenger คัดแล้วว่าดีที่สุด อาจจะขัดใจบางท่านในบางตำแหน่ง อย่างรายของ Mkhitaryan ที่หลายๆท่านมองว่าเป็นหนึ่งในตัวความหวังที่กลับมาช่วยทีมทันเวลา แต่กลับไปปรากฎชื่ออยู่บนม้านั่งสำรอง และกลายเป็นท่านเทพ Welbeck ลงมาโปรดแทน, หรือตำแหน่งผู้รักษาประตูที่ Ospina ยึดโควต้ามือหนึ่งในถ้วยนี้มาแต่แรก ในขณะที่บางเสียงกระซิบบอกว่าประสบการณ์ของ Cech น่าจะแบกได้ดีกว่า แต่ทั้ง 2 ตำแหน่ง ส่วนตัวผมมองว่าไม่ต่างกันในสถานการณ์เมื่อวาน
ก่อนเริ่มเกม รู้กันทั่วโลกอยู่แล้วว่า Arsenal ต้องการประตูอย่างไม่มีทางเลือกอื่น ดังนั้นเชื่อว่าแฟนปืนหลายๆคนรวมทั้งผมก็คาดหวังที่จะเห็นทีมรักกางตำราบุกสู้กับ At. Madrid ให้ได้อย่างสมน้ำสมเนื้อทีม Big name ของยุโรป เผื่อดีกรีความมันส์จะได้ใกล้เคียงของเกมที่ Bayern Munich ซัดกับ Real Madrid เมื่อวันอังคารที่ผ่านมาบ้าง ซักนิดเถอะหน่า
แต่เปล่าเลย ด้วยข้อได้เปรียบเรื่อง Away Goal ทำให้ At. Madrid เล่นตามแบบฉบับที่ตัวเองถนัด คือการเน้นความแน่นอนในเกมรับ และความคมในจังหวะสวนกลับ โดยมี Diego Costa และ Griezmann คอยขู่ฟ่อๆใส่กองหลังปืนใหญ่ ซึ่งตลอดเกมต้องบอกว่าลูกทีมทุกคนของ Diego Simeone เล่นได้อย่างมีวินัยและรับผิดชอบหน้าที่ตัวเองได้อย่างสุดยอด
ข้ามมามองทางฝั่งของ Arsenal ของ Arsene Wenger ก็ต้องบอกว่าเล่นกันได้อย่างน่าผิดหวังแบบเดิมๆ ภาพสไตล์การเขาทำที่ไหลลื่นที่ทีมเราเคยทำได้ดีในช่วงก่อนหน้านี้ซัก 4-5 ปีตอนนี้หายไปหมดแล้ว เหลือเพียงภาพการต่อบอลย้อนไปย้อนมา จากหลังมากลาง กลางออกปีก ปีกกลับมากลาง กลางกลับไปหลัง หลังไปออกปีกอีกข้าง วนๆไป จนกว่าส่งกันเองพลาด, โยนสั้นไปหรือไม่ก็ยาวไป, หรือไม่ก็โดนตัดบอลวิ่งกลับแดนตัวเองกันหน้าตั้ง.....เป็นแบบนี้เกือบตลอดทั้งเกม และคงไม่เกินไปสำหรับแฟนปืนใหญ่ที่ตามเชียร์ตามชมที่จะบอกเป็นแบบนี้มาตลอดทั้งฤดูกาล
At. Madrid จึงไม่ได้โดนกดดันเท่าที่ควร สังเกตได้เลยว่าแนวรับตราหมีเลือกที่จะเปิดพื้นที่ริมเส้นให้ Arsenal มากพอสมควร แต่พื้นที่ในเขตอันตรายนั้นแทบไม่มีให้คู่แข่งยืน ประกอบกับการเข้าทำเกมริมเส้นของ Arsenal นั้น”ห่วยแตก” จึงเห็น Arsenal เข้าทำริมเส้นแบบท่าดีทีเหลวแทบตลอดทั้งเกม
ภายใต้เกมรุกที่ดูไร้จินตนาการ Ozil ดูเหมือนจะโดนวิจารณ์ไม่น้อยในฐานะผู้แบกภาระการสร้างโอกาสให้ทีมในมิติเกมรุก ซึ่งตลอดช่วงหลังๆมาแม้ว่า Ozil จะมีเกมที่ดีบ้าง แต่ก็ต้องยอมรับว่าเกมที่แย่มันเยอะกว่ามาก รวมทั้งเกมเมื่อวานด้วย
แล้วพอมามองเกมรับ Arsenal ล่ะ...ก็ต้องบอกเลยว่าวันนี้เกมรับทำได้ดีกว่าที่คาดนิดนึงด้วยซ้ำ ดีกว่าในที่นี้คือข้อผิดพลาดรายบุคคลค่อนข้างน้อย (นี่น้อยแล้วจริงๆนะ) เพียงแต่ว่ามันยังดีไม่พอที่จะไม่เสียประตูอยู่ดี...Mustafi ที่หลายๆคนวิจารณ์อย่างรุนแรงในช่วงหลัง ก็ทำหน้าที่รับมือ Diego Costa ได้ดีประมาณนึง แต่ในจังหวะที่เสียประตูนั้นก็ต้องชม Diego Costa ในการพาตัวเองไปอยู่ในมุมที่ไม่ได้อันตรายเลย และพอมีจังหวะก็พุ่งไปหาตำแหน่งที่ได้เปรียบได้ดีจริงๆ ซึ่งกว่า Bellerin จะรู้ตัวก็สายไปแล้ว
สุดท้าย Arsene Wenger ก็พา Arsenal และความตั้งใจของตัวเองไปไม่ถึงฝั่งฝันอีกปี คิดย้อนกลับไปมันก็น่าเขกหัวกับ Away Goal ที่เสียไปจริงๆ
ก่อนแข่งก็คิดว่าถ้าสุดท้าย Arsenal ทำสำเร็จถึงปลายทางฝันจริงๆ อย่างน้อยก็ดูจะเป็นการก้าวลงจากเวทีของ Wenger ที่สง่างามอยู่พอสมควร เพราะเป็นการพาทีมที่เค้าบอกว่ารักกลับไปยืนบนเวทีใหญ่ของยุโรปอีกครั้งก่อนจากกัน และถึงแม้จะเป็นถ้วยยุโรปใบเล็ก แต่อย่างน้อยก็พูดได้ว่า Wenger เคยสัมผัสถ้วยแชมป์ยุโรปที่เค้าผิดหวังมาโดยตลอด ทั้งที่เคยเข้าชิงทั้ง EUFA Cup เก่า ปี 2000 (แพ้จุดโทษ Galatasaray) และ EUFA Champion League ปี 2006 (แพ้ Barcelona 2-1)
แต่สุดท้าย Wenger ก็ทำไม่สำเร็จ เป็นอีกปีไม่มีอะไรให้น่าจดจำ นอกจากข่าวการประกาศวางมือจาก Arsenal ของตัวเค้าเอง และในวันอำลาของ Wenger ก็คงเป็นการเทิดทูนความดีที่เคยทำด้วยการขายของเก่า อย่าง แชมป์ไร้พ่าย, สนามใหม่, แชมป์ FA cup เยอะสมัย.....ซึ่งมันคงแห้งๆกร่อยๆน่าดูเลยว่ามั้ยครับ
คิดแล้วก็ตลกดีนะครับ แรกเริ่มฤดูกาลนี้ ถ้วย EUFA Europa cup ดูจะไม่ใช่สิ่งที่ Wenger หมายมั่นจะคว้ามาครองเลย แต่ดันมาเป็นความหวังสุดท้ายของชายคนนี้ก่อนวางมือ...แล้วมันเป็นตลกร้ายที่สุดท้ายก็ดันหลุดมือไปอีก มันเลยจะจบแบบเศร้าๆไปแบบนี้แหละครับนาย
PS: เชิญแฟนบอล Arsenal หรือทีมอื่นๆที่อยากแสดงความคิดเห็นได้เต็มที่เลยครับ