ใน 1ปี เนี่ย บ้านเราจัดได้ว่าร้อนระอุทะลุปรอทแตก
กันทุกเดือนหละแล้วเหล่าสาวหน้ามันจะทำยังไงหละ ยิ่งร้อนหน้ายิ่งมัน
ใครบอกว่าหน้ามันแล้วจะใช้ครีมกันแดดไม่ได้ซึ่งในช่วงนี้ก็จะเห็นแต่ละแบรนด์
ออกกันแดด สูตรต่างๆ ประชันกันในท้องตลาดอย่างสุดฤทธิ์
ทางเรานี้ก็ไปควานหาและมาพร้อมกับ 6 กันแดดคุมมันตัวแจ่มๆ ในท้องตลาดเรียกได้ว่าตัวท็อปของวงการเลยหละ มารีวิวให้ดูแบบพลีชีพกันไปเลย ว่าจะดีจริงตามเสียงลือเสียงเล่าอ้างไหมน้า มาๆ มาทดสอบกันดูดีกว่าว่ากันแดดตัวไหนจะช่วยคุมมันได้ดีและนานที่สุดกันบ้าง ตัวเลือกมันมีเยอะ แต่เราก็คัดกรองมาอย่างดี เพื่อเป็นอีกหนึ่งทางเลือกของคนที่กำลังมองหากันแดดคุมมันกัน
- เนื้อครีมของแต่ละตัว -
ทั้ง 6 ตัวก็จะมีทั้งเนื้อแบบ Serum และแบบน้ำนมให้เลือกใช้เลย
เรียงจาก 1-6 ไปเลยตามนี้จ้า
L’oreal / Cutepress / Nivea / ZA / Biore / Anessa
มาเริ่มเปิดกรุมาที่ตัวแรกเลย L'oreal UV Perfect Matte & Fresh SPF50+ PA++++
- ความดีงาม -
ช่วงนี้จะเห็น Beauty Blogger รีวิวเยอะอยู่ จริงๆ มันมีหลายสูตรด้วยแหละแต่เราโดนสีเขียวมา จุดเด่นคือ นางเป็นสูตร 100% Oil Freeเลยทำให้สาวหน้ามันแบบเรา
ไม่ลังเลที่จะลอง เค้าเคลมว่านอกจากเป็นกันแดดแล้วยังป้องกัน
รังสี UVA / UVB แบบยาวนานเด้อ
- เนื้อครีม -
ตัวเนื้อ เป็นเซรั่ม สีออกครีมๆ เนื้อสัมผัสมันบางเบานะ มันไม่หนักหน้า หลังทาเรารู้สึกว่าดู Matte ไม่หนักผิวอะไร ส่วนเรื่องกลิ่นตัวนี้ไม่มีกลิ่นอะไรเลย
- ราคา & ปริมาณ -
ตัวนี้มาในรูปแบบของหลอดแข็งสีเขียว ขนาด 30 ml.เราซื้อ 399 บาท เฉลี่ยหน่วยละ 13.30 บาท
-ประสิทธิภาพการคุมมัน -
หลังจากที่ทาไปแล้วสักประมาณครึ่งวัน ลองซับหน้าดู
ก็มีความมันออกมาน้อย ถือว่าทำได้ดี แต่แอบมีเมคอัพระหว่างวันหลุดติดออกมาด้วย
-ประสิทธิภาพการกันแดด -
เราว่าทำได้ดีเลย เวลาออกไปกลางแดดไม่รู้สึกแสบหน้าระหว่างวัน หน้าไม่หมอง ไม่ดรอป
ต่อมาเลย เป็นกันแดดที่ดีทั้งสินค้าและพรีเซนเตอร์เลยค่ะคุณขา 55
กับ Cutepress perty genius sun skin SPF50+ PA++++
เป็นกันแดดน้องใหม่ของซัมเมอร์นี้เลย ใครไม่มีคือเอาท์มากนะขอบอก
- ความดีงาม -
เป็นกันแดด 0% Silicone เค้าบอกว่าไม่แพ้แน่นอน แถมเป็นสูตร Oil Control คุมมัน แถมปรับสีผิวให้ไบร์ทขึ้น แถมปรับสภาพให้เข้ากับทุกสีผิวด้วยเทคนิค Genius Capsule สีผิวไหนใช้แล้วไม่โป๊ะไม่วอก ไม่เทานอกจากกันแดดได้แล้ว ยังสามารถกันน้ำและเหงื่อได้ด้วย เหมาะกับหน้าร้อนนี้จริง
-เนื้อครีม -
มิติใหม่ของครีมกันแดดมาก เป็นเนื้อเซรั่มสีเขียวอ่อนเนื้อละเอียดเหมือนวิปครีมเลย พอเกลี่ยแล้วเนื้อเปลี่ยนเป็นสีครีมเฉยเลยใช้เวลาเกลี่ยนานกว่าลอรีอัลอยู่นิด ทาไปแล้วผิวไม่ Matte มาก ยังคงความเป็นผิวอยู่บ้าง เรื่องกลิ่นก็ไม่มีฉุนกวนใจเลย
- ราคา & ปริมาณ -
หลอดสีเขียว พาสเทล มุ้งมิ้งอ่อนโยน ตัวนี้ก็ขนาด 30 g. ราคา 349 บาท
เฉลี่ยหน่วยละ 11.63 บาท
-ประสิทธิภาพการคุมมัน -
มันน้อยนิด ใน Level ที่รับไหว 555
-ประสิทธิภาพการกันแดด -
ก็โอเคน้า ไม่ถึงกับดี๊ด๊า เพราะหลังออกแดดไม่ได้รู้สึกหน้าหมองมัน หรือแสบผิวอะไร
ดีที่หลังฝ่าแดด หน้าไม่เป็นคราบ ทางเราก็ให้ผ่านได้ไม่ยากจ้าาาา
ไม่มีกันแดดแบรนด์นี้ ก็ผิดธรรมเนียบกันแดดคุมมันของบ้านเราไป
Nivea Sun Protect & White Oil Control Serum SPF50+ PA+++
- ความดีงาม -
เป็นกันแดดที่กันได้สารพัดแดด และรังสีทั้ง UVA / UVB เลย และมีส่วนผสมของ
L-Carnitine ตัวช่วยลดความมันบนในหน้าได้มากถึง 86%
-เนื้อครีม -
เป็นเซรั่มเนื้อสีขาวเนียน เกลี่ยแปปเดียวก็ซึมลงผิวเลย เนื้อครีมมันบางเบาดี ดีงามสุดๆ ไม่อุดตันรูขุมขนไม่ต้องกลัวเรื่องสิวจะขึ้นเลย 5555 ส่วนเรื่องกลิ่น มีกลิ่นหอมอ่อนๆ ที่เป็น Signature ของนีเวียเค้าแหละ
- ราคา & ปริมาณ -
ปริมาณก็ 30 ml. ก็เท่ากับตัวอื่นๆ ที่รีวิวมาเลย เราซื้อมา 279 บาท มันดีตรงหาซื้อง่ายมาก ใน7-11 ก็มีเวลาไปต่างจังหวัด ลืมพกไปก็แวะซื้อได้ เพราะชีวิตขาดกันแดดไม่ได้เลย คุ้มดีนะ ตกหน่วยละ 9.30 บาท
-ประสิทธิภาพการคุมมัน -
คือดีงามมากกกกก อันนี้เรามาซับหน้าอีกทีคือตอนค่ำเลย
น่าจะเกิน 12 ชั่วโมงอะ เพราะวันนั้นยุ่งมากเว่อร์ ผลลัพธ์คือ
ดีเกินคาดอะ ความมันส่วนเกินคือน้อยมาก ถ้าเทียบกัยตัวอื่น เอาอยู่จริง!
-ประสิทธิภาพการกันแดด -
หลังจากหนังหน้าลุยแดดมาทั้งวัน โอเคเลยที่หน้าไม่มัน ไม่หมอง
ดูจากซับมัน ไม่ได้มีเมคอัพหลุดติดออกมา สำหรับเราสอบผ่านจ้า
ZA True White Perfect Protector SPF50+ PA++++
ตัวนี้เชื่อว่าใครหลายคนต้องเคยลองใช้ เพราะโปรโมชั่นนี่บ่อยมาก 55
- ความดีงาม -
เป็นกันแดดสูตร Oil Control ที่คุมมันได้ยาวนาน 12 ชั่วโมง มีส่วนผสมของ Vitamin C นอกจากกันแดดยังบำรุงผิวไปได้ในเวลาเดียวกัน สามารถกันแดดและมลภาวะต่างๆได้ และยังปรับให้ผิวไบร์ทขึ้น 1 ระดับ สามารถใช้แทน Makeup Base ได้
-เนื้อครีม -
เนื้อเซรั่มสีขาวผ่อง เนื้อค่อนข้างเหลวอยู่ เลยเกลี่ยได้ไม่ยาก แอบมีกลิ่นแอลกอฮอลล์แรงนิดนึง หลังทาแล้วมีทิ้งความชุ่มชื่นไว้บนหน้าผิวบ้าง
- ราคา & ปริมาณ -
30 g. เช่นกัน น่าจะเป็นปริมาณที่เหมาะสมแหละ แทบทุกแบรนด์จะทำปริมาณนี้ออกมากันเยอะ หลอดนี้เราซื้อมา 320 บาทตกหน่วยละ 10.66 บาท ราคาสมเหตุสมผลอยู่
ประสิทธิภาพคุมมัน
อยู่ในระดับกลางๆ มีความมันส่วนเกินออกมาพอสมควร
แอบมีชิมเมอร์ของเมคอัพหลุดลอกมาให้เห็นบ้างบนซับมัน
-ประสิทธิภาพการกันแดด -
โอเคอยู่นะ ไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงของผิวมาก แต่ไม่ได้รู้สึกแสบผิว หรือเป็น
คราบขาวแต่อย่างใด แต่เรารู้สึกมันแอบอุดตัน มีผดขึ้นนิดนึง ฮือ Y.Y”
ตัวที่ห้าแล้ว มาถึงในพาร์ทของกันแดดเนื้อน้ำนมกันบ้าง
Biore uv perfect face milk SPF50
- ความดีงาม -
แทบจะเป็นแบรนด์แรกๆที่โด่งดังเรื่องกันแดดสูตรน้ำนมเป็นกันแดดสูตร Oil Control ที่คุมมันได้ยาวนาน ช่วยทำให้เมคอัพ ติดทนนาน นอกจากกันแดดแล้ว สามารถกันน้ำ กันเหงื่อได้ด้วย
-เนื้อครีม -
เป็นกันแดดเนื้อน้ำนมสีขาว เนื้อบางเบามากกก ซึมแว๊บบ
รู้สึกสบายผิว ทาแล้วทำให้ผิวไบร์ทขึ้น แบบไม่วอก
แต่ติดตรงกลิ่นแอลกอฮอลล์แรงมากกกกและฉุนมากเหมือนกัน แอบมึนบ้าง
-ประสิทธิภาพการคุมมัน -
ก็มีความมันส่วนเกินออกมามากกว่าแบรนด์อื่นๆที่รีวิวมาอยู่นะ
-ประสิทธิภาพการกันแดด -
ด้วยความที่เนื้อเป็นน้ำนมและบางเบา มีหลุดลอกง่ายกว่าแบบเนื้อเซรั่ม
ทำให้ต้องทาซ้ำระหว่างวัน มีเกิดสิวอุดตันตรงกรอบหน้าบ้าง
ยาวนานมากกับมหากาพย์กันแดดนี้ 55มาถึงตัวสุดท้ายแล้ววววกับ ANESSA Perfect UV Sunscreen SPF50 PA
- ความดีงาม -
กันแดดน้ำนม สัญชาติญี่ปุ่น มีส่วนผสมของวิตามินซี นอกจากกันแดดแล้ว
ยังบำรุงผิวไปในตัว มีส่วนผสมของตังกุย ช่วยฟื้นฟูผิวหลังจากโดนแดด ทำให้ผิวไม่แห้งกร้านจากแดด กันแดด กันน้ำ กันเหงื่อสามารถใช้ได้ทั้งผิวหน้าและผิวกาย
-เนื้อครีม -
เป็นกันแดดเนื้อน้ำนม ตัวที่สองของมหากาพย์นี้ เนื้อสีขาวใส เนื้อจะค่อนข้างเหลวดี เขย่าขวดก่อนใช้ เท ปาด ซึมไวดี แต่ติดที่กลิ่นแอลกอฮอลล์ฉุนไปนิดน้า
ราคา & ปริมาณ -
Anessa จะมาในปริมาณที่เยอะกว่าเพื่อนและมาในราคาที่สูงกว่าเช่นกัน
มาในขวดสีทอง ปริมาณ 80 ml. สนนราคาอยู่ที่ 859 บาท
เฉลี่ยต่อหน่วยก็ 10.73บาท จัดว่าอยู่ในเรทราคาของกันแดดที่สูงเหมือนกัน
-ประสิทธิภาพการคุมมัน -
มันเหนือคาดอยู่ เพราะก่อนซับหน้า ส่องกระจกดู มันไม่ได้ดูมันเมือก หรือเยิ้มเลย แต่ตอนซับมันความมันส่วนเกินก็ออกมาเยอะอยู่ สำหรับเราอาจจะหนักผิวบ้างถ้าใช้ในชีวิตประจำวัน แต่ถ้าใช้สำหรับไปทะเล หรือออกไปทำกิจกรรม
กลางแจ้งเราแนะนำตัวนี้นะ เราว่าเหมาะเลย
-ประสิทธิภาพการกันแดด -
เราจะใช้เวลาไปทะเล วันที่โดนแดดหนักมากๆ หรือไปออกกำลังกาย
จะไม่ได้ใช้สำหรับชีวิตประจำวัน เรารู้สึกว่ามัน Heavy Protection มาก ปกป้องผิวได้ดี แต่ความรู้สึกถ้าเอามาใช้ทุกวันมันหนักผิวเกินไป
สำหรับการรีวิวมหากาพย์ความดีงามของกันแดดทั้ง 6 ตัวนี้
เรื่องหลักๆ ที่เรามาพูดกันคือเรื่องคุมมัน เราเปรียบเทียบให้เห็นจะๆเลย
ว่าอันไหนขับความมันส่วนเกินออกมามากน้อยตามภาพเลย
ซึ่งแต่ละตัวมีทั้งข้อดี ข้อด้อยปะปนกันไป เราสรุปมาเป็นตารางให้ดูกัน
จากที่ลองใช้และวิเคราะห์มา นีเวียและลอรีอัล ดีทั้งคู่นะ แต่ขอมอบมงให้นีเวียเลยในเรื่องของประสิทธิภาพต่างๆ
และราคา เทใจให้นีเวียมากกว่านิดนึงตรงที่ว่ามันตอบโจทย์การคุมมันได้ดี
และซึมลงผิวง่ายมาก เหมาะกับหน้าร้อนนี้มากๆ
ส่วน ZA กับ Cutepress ก็โอเคอยู่ ที่ได้คะแนนน้อยกว่า เรามีติดตรงเนื้อมันซึมลงผิวได้ยากกว่า
ส่วน Biore / Anessa ในส่วนของกันแดดเนื้อน้ำนม ยังมีความอุดตันผิวบ้าง
อาจจะไม่ค่อยเหมาะกับที่จะใช้เป็น Routine Item สักเท่าไหร่นะ.. แต่เรื่องกันแดด
ก็ทำได้ดีเลยละ จัดอยู่ในเรท Heavy Protection เลย
สำหรับเพื่อนๆคนไหน อ่านจบแล้วลองเลือกใช้ให้เหมาะกับตัวเองน้า
มันดีทั้ง 6 ตัวแหละ แต่อยากแนะนำให้เลือกใช้ จากความชอบ และประเภทผิว
ของตัวเอง เพราะกันแดดดีๆ คู่ใจสักตัว ไม่ได้ดูกันแค่กันแดด คุมมันได้แค่นั้น
ต้องดูที่เหมาะกับความต้องการและไลฟ์สไตล์ของตัวเองมาก
ขอบคุณที่อ่านกันจบจนนะ ยาวหน่อย แต่ตั้งใจรีวิวแบบละเอียดให้ทุกคนได้อ่านกัน
สำหรับวันนี้ไปแล้ว บ๊ายบายจ้า ^^
[CR] มหากาพย์รีวิวครีมกันแดดที่มีทั้งหมด 6 ตัวไม่มีกั๊กสำหรับสาวหน้ามัน
กันทุกเดือนหละแล้วเหล่าสาวหน้ามันจะทำยังไงหละ ยิ่งร้อนหน้ายิ่งมัน
ใครบอกว่าหน้ามันแล้วจะใช้ครีมกันแดดไม่ได้ซึ่งในช่วงนี้ก็จะเห็นแต่ละแบรนด์
ออกกันแดด สูตรต่างๆ ประชันกันในท้องตลาดอย่างสุดฤทธิ์
ทางเรานี้ก็ไปควานหาและมาพร้อมกับ 6 กันแดดคุมมันตัวแจ่มๆ ในท้องตลาดเรียกได้ว่าตัวท็อปของวงการเลยหละ มารีวิวให้ดูแบบพลีชีพกันไปเลย ว่าจะดีจริงตามเสียงลือเสียงเล่าอ้างไหมน้า มาๆ มาทดสอบกันดูดีกว่าว่ากันแดดตัวไหนจะช่วยคุมมันได้ดีและนานที่สุดกันบ้าง ตัวเลือกมันมีเยอะ แต่เราก็คัดกรองมาอย่างดี เพื่อเป็นอีกหนึ่งทางเลือกของคนที่กำลังมองหากันแดดคุมมันกัน
- เนื้อครีมของแต่ละตัว -
ทั้ง 6 ตัวก็จะมีทั้งเนื้อแบบ Serum และแบบน้ำนมให้เลือกใช้เลย
เรียงจาก 1-6 ไปเลยตามนี้จ้า
L’oreal / Cutepress / Nivea / ZA / Biore / Anessa
มาเริ่มเปิดกรุมาที่ตัวแรกเลย L'oreal UV Perfect Matte & Fresh SPF50+ PA++++
- ความดีงาม -
ช่วงนี้จะเห็น Beauty Blogger รีวิวเยอะอยู่ จริงๆ มันมีหลายสูตรด้วยแหละแต่เราโดนสีเขียวมา จุดเด่นคือ นางเป็นสูตร 100% Oil Freeเลยทำให้สาวหน้ามันแบบเรา
ไม่ลังเลที่จะลอง เค้าเคลมว่านอกจากเป็นกันแดดแล้วยังป้องกัน
รังสี UVA / UVB แบบยาวนานเด้อ
- เนื้อครีม -
ตัวเนื้อ เป็นเซรั่ม สีออกครีมๆ เนื้อสัมผัสมันบางเบานะ มันไม่หนักหน้า หลังทาเรารู้สึกว่าดู Matte ไม่หนักผิวอะไร ส่วนเรื่องกลิ่นตัวนี้ไม่มีกลิ่นอะไรเลย
- ราคา & ปริมาณ -
ตัวนี้มาในรูปแบบของหลอดแข็งสีเขียว ขนาด 30 ml.เราซื้อ 399 บาท เฉลี่ยหน่วยละ 13.30 บาท
-ประสิทธิภาพการคุมมัน -
หลังจากที่ทาไปแล้วสักประมาณครึ่งวัน ลองซับหน้าดู
ก็มีความมันออกมาน้อย ถือว่าทำได้ดี แต่แอบมีเมคอัพระหว่างวันหลุดติดออกมาด้วย
-ประสิทธิภาพการกันแดด -
เราว่าทำได้ดีเลย เวลาออกไปกลางแดดไม่รู้สึกแสบหน้าระหว่างวัน หน้าไม่หมอง ไม่ดรอป
ต่อมาเลย เป็นกันแดดที่ดีทั้งสินค้าและพรีเซนเตอร์เลยค่ะคุณขา 55
กับ Cutepress perty genius sun skin SPF50+ PA++++
เป็นกันแดดน้องใหม่ของซัมเมอร์นี้เลย ใครไม่มีคือเอาท์มากนะขอบอก
- ความดีงาม -
เป็นกันแดด 0% Silicone เค้าบอกว่าไม่แพ้แน่นอน แถมเป็นสูตร Oil Control คุมมัน แถมปรับสีผิวให้ไบร์ทขึ้น แถมปรับสภาพให้เข้ากับทุกสีผิวด้วยเทคนิค Genius Capsule สีผิวไหนใช้แล้วไม่โป๊ะไม่วอก ไม่เทานอกจากกันแดดได้แล้ว ยังสามารถกันน้ำและเหงื่อได้ด้วย เหมาะกับหน้าร้อนนี้จริง
-เนื้อครีม -
มิติใหม่ของครีมกันแดดมาก เป็นเนื้อเซรั่มสีเขียวอ่อนเนื้อละเอียดเหมือนวิปครีมเลย พอเกลี่ยแล้วเนื้อเปลี่ยนเป็นสีครีมเฉยเลยใช้เวลาเกลี่ยนานกว่าลอรีอัลอยู่นิด ทาไปแล้วผิวไม่ Matte มาก ยังคงความเป็นผิวอยู่บ้าง เรื่องกลิ่นก็ไม่มีฉุนกวนใจเลย
- ราคา & ปริมาณ -
หลอดสีเขียว พาสเทล มุ้งมิ้งอ่อนโยน ตัวนี้ก็ขนาด 30 g. ราคา 349 บาท
เฉลี่ยหน่วยละ 11.63 บาท
-ประสิทธิภาพการคุมมัน -
มันน้อยนิด ใน Level ที่รับไหว 555
-ประสิทธิภาพการกันแดด -
ก็โอเคน้า ไม่ถึงกับดี๊ด๊า เพราะหลังออกแดดไม่ได้รู้สึกหน้าหมองมัน หรือแสบผิวอะไร
ดีที่หลังฝ่าแดด หน้าไม่เป็นคราบ ทางเราก็ให้ผ่านได้ไม่ยากจ้าาาา
ไม่มีกันแดดแบรนด์นี้ ก็ผิดธรรมเนียบกันแดดคุมมันของบ้านเราไป
Nivea Sun Protect & White Oil Control Serum SPF50+ PA+++
- ความดีงาม -
เป็นกันแดดที่กันได้สารพัดแดด และรังสีทั้ง UVA / UVB เลย และมีส่วนผสมของ
L-Carnitine ตัวช่วยลดความมันบนในหน้าได้มากถึง 86%
-เนื้อครีม -
เป็นเซรั่มเนื้อสีขาวเนียน เกลี่ยแปปเดียวก็ซึมลงผิวเลย เนื้อครีมมันบางเบาดี ดีงามสุดๆ ไม่อุดตันรูขุมขนไม่ต้องกลัวเรื่องสิวจะขึ้นเลย 5555 ส่วนเรื่องกลิ่น มีกลิ่นหอมอ่อนๆ ที่เป็น Signature ของนีเวียเค้าแหละ
- ราคา & ปริมาณ -
ปริมาณก็ 30 ml. ก็เท่ากับตัวอื่นๆ ที่รีวิวมาเลย เราซื้อมา 279 บาท มันดีตรงหาซื้อง่ายมาก ใน7-11 ก็มีเวลาไปต่างจังหวัด ลืมพกไปก็แวะซื้อได้ เพราะชีวิตขาดกันแดดไม่ได้เลย คุ้มดีนะ ตกหน่วยละ 9.30 บาท
-ประสิทธิภาพการคุมมัน -
คือดีงามมากกกกก อันนี้เรามาซับหน้าอีกทีคือตอนค่ำเลย
น่าจะเกิน 12 ชั่วโมงอะ เพราะวันนั้นยุ่งมากเว่อร์ ผลลัพธ์คือ
ดีเกินคาดอะ ความมันส่วนเกินคือน้อยมาก ถ้าเทียบกัยตัวอื่น เอาอยู่จริง!
-ประสิทธิภาพการกันแดด -
หลังจากหนังหน้าลุยแดดมาทั้งวัน โอเคเลยที่หน้าไม่มัน ไม่หมอง
ดูจากซับมัน ไม่ได้มีเมคอัพหลุดติดออกมา สำหรับเราสอบผ่านจ้า
ZA True White Perfect Protector SPF50+ PA++++
ตัวนี้เชื่อว่าใครหลายคนต้องเคยลองใช้ เพราะโปรโมชั่นนี่บ่อยมาก 55
- ความดีงาม -
เป็นกันแดดสูตร Oil Control ที่คุมมันได้ยาวนาน 12 ชั่วโมง มีส่วนผสมของ Vitamin C นอกจากกันแดดยังบำรุงผิวไปได้ในเวลาเดียวกัน สามารถกันแดดและมลภาวะต่างๆได้ และยังปรับให้ผิวไบร์ทขึ้น 1 ระดับ สามารถใช้แทน Makeup Base ได้
-เนื้อครีม -
เนื้อเซรั่มสีขาวผ่อง เนื้อค่อนข้างเหลวอยู่ เลยเกลี่ยได้ไม่ยาก แอบมีกลิ่นแอลกอฮอลล์แรงนิดนึง หลังทาแล้วมีทิ้งความชุ่มชื่นไว้บนหน้าผิวบ้าง
- ราคา & ปริมาณ -
30 g. เช่นกัน น่าจะเป็นปริมาณที่เหมาะสมแหละ แทบทุกแบรนด์จะทำปริมาณนี้ออกมากันเยอะ หลอดนี้เราซื้อมา 320 บาทตกหน่วยละ 10.66 บาท ราคาสมเหตุสมผลอยู่
ประสิทธิภาพคุมมัน
อยู่ในระดับกลางๆ มีความมันส่วนเกินออกมาพอสมควร
แอบมีชิมเมอร์ของเมคอัพหลุดลอกมาให้เห็นบ้างบนซับมัน
-ประสิทธิภาพการกันแดด -
โอเคอยู่นะ ไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงของผิวมาก แต่ไม่ได้รู้สึกแสบผิว หรือเป็น
คราบขาวแต่อย่างใด แต่เรารู้สึกมันแอบอุดตัน มีผดขึ้นนิดนึง ฮือ Y.Y”
ตัวที่ห้าแล้ว มาถึงในพาร์ทของกันแดดเนื้อน้ำนมกันบ้าง
Biore uv perfect face milk SPF50
- ความดีงาม -
แทบจะเป็นแบรนด์แรกๆที่โด่งดังเรื่องกันแดดสูตรน้ำนมเป็นกันแดดสูตร Oil Control ที่คุมมันได้ยาวนาน ช่วยทำให้เมคอัพ ติดทนนาน นอกจากกันแดดแล้ว สามารถกันน้ำ กันเหงื่อได้ด้วย
-เนื้อครีม -
เป็นกันแดดเนื้อน้ำนมสีขาว เนื้อบางเบามากกก ซึมแว๊บบ
รู้สึกสบายผิว ทาแล้วทำให้ผิวไบร์ทขึ้น แบบไม่วอก
แต่ติดตรงกลิ่นแอลกอฮอลล์แรงมากกกกและฉุนมากเหมือนกัน แอบมึนบ้าง
-ประสิทธิภาพการคุมมัน -
ก็มีความมันส่วนเกินออกมามากกว่าแบรนด์อื่นๆที่รีวิวมาอยู่นะ
-ประสิทธิภาพการกันแดด -
ด้วยความที่เนื้อเป็นน้ำนมและบางเบา มีหลุดลอกง่ายกว่าแบบเนื้อเซรั่ม
ทำให้ต้องทาซ้ำระหว่างวัน มีเกิดสิวอุดตันตรงกรอบหน้าบ้าง
ยาวนานมากกับมหากาพย์กันแดดนี้ 55มาถึงตัวสุดท้ายแล้ววววกับ ANESSA Perfect UV Sunscreen SPF50 PA
- ความดีงาม -
กันแดดน้ำนม สัญชาติญี่ปุ่น มีส่วนผสมของวิตามินซี นอกจากกันแดดแล้ว
ยังบำรุงผิวไปในตัว มีส่วนผสมของตังกุย ช่วยฟื้นฟูผิวหลังจากโดนแดด ทำให้ผิวไม่แห้งกร้านจากแดด กันแดด กันน้ำ กันเหงื่อสามารถใช้ได้ทั้งผิวหน้าและผิวกาย
-เนื้อครีม -
เป็นกันแดดเนื้อน้ำนม ตัวที่สองของมหากาพย์นี้ เนื้อสีขาวใส เนื้อจะค่อนข้างเหลวดี เขย่าขวดก่อนใช้ เท ปาด ซึมไวดี แต่ติดที่กลิ่นแอลกอฮอลล์ฉุนไปนิดน้า
ราคา & ปริมาณ -
Anessa จะมาในปริมาณที่เยอะกว่าเพื่อนและมาในราคาที่สูงกว่าเช่นกัน
มาในขวดสีทอง ปริมาณ 80 ml. สนนราคาอยู่ที่ 859 บาท
เฉลี่ยต่อหน่วยก็ 10.73บาท จัดว่าอยู่ในเรทราคาของกันแดดที่สูงเหมือนกัน
-ประสิทธิภาพการคุมมัน -
มันเหนือคาดอยู่ เพราะก่อนซับหน้า ส่องกระจกดู มันไม่ได้ดูมันเมือก หรือเยิ้มเลย แต่ตอนซับมันความมันส่วนเกินก็ออกมาเยอะอยู่ สำหรับเราอาจจะหนักผิวบ้างถ้าใช้ในชีวิตประจำวัน แต่ถ้าใช้สำหรับไปทะเล หรือออกไปทำกิจกรรม
กลางแจ้งเราแนะนำตัวนี้นะ เราว่าเหมาะเลย
-ประสิทธิภาพการกันแดด -
เราจะใช้เวลาไปทะเล วันที่โดนแดดหนักมากๆ หรือไปออกกำลังกาย
จะไม่ได้ใช้สำหรับชีวิตประจำวัน เรารู้สึกว่ามัน Heavy Protection มาก ปกป้องผิวได้ดี แต่ความรู้สึกถ้าเอามาใช้ทุกวันมันหนักผิวเกินไป
สำหรับการรีวิวมหากาพย์ความดีงามของกันแดดทั้ง 6 ตัวนี้
เรื่องหลักๆ ที่เรามาพูดกันคือเรื่องคุมมัน เราเปรียบเทียบให้เห็นจะๆเลย
ว่าอันไหนขับความมันส่วนเกินออกมามากน้อยตามภาพเลย
ซึ่งแต่ละตัวมีทั้งข้อดี ข้อด้อยปะปนกันไป เราสรุปมาเป็นตารางให้ดูกัน
จากที่ลองใช้และวิเคราะห์มา นีเวียและลอรีอัล ดีทั้งคู่นะ แต่ขอมอบมงให้นีเวียเลยในเรื่องของประสิทธิภาพต่างๆ
และราคา เทใจให้นีเวียมากกว่านิดนึงตรงที่ว่ามันตอบโจทย์การคุมมันได้ดี
และซึมลงผิวง่ายมาก เหมาะกับหน้าร้อนนี้มากๆ
ส่วน ZA กับ Cutepress ก็โอเคอยู่ ที่ได้คะแนนน้อยกว่า เรามีติดตรงเนื้อมันซึมลงผิวได้ยากกว่า
ส่วน Biore / Anessa ในส่วนของกันแดดเนื้อน้ำนม ยังมีความอุดตันผิวบ้าง
อาจจะไม่ค่อยเหมาะกับที่จะใช้เป็น Routine Item สักเท่าไหร่นะ.. แต่เรื่องกันแดด
ก็ทำได้ดีเลยละ จัดอยู่ในเรท Heavy Protection เลย
สำหรับเพื่อนๆคนไหน อ่านจบแล้วลองเลือกใช้ให้เหมาะกับตัวเองน้า
มันดีทั้ง 6 ตัวแหละ แต่อยากแนะนำให้เลือกใช้ จากความชอบ และประเภทผิว
ของตัวเอง เพราะกันแดดดีๆ คู่ใจสักตัว ไม่ได้ดูกันแค่กันแดด คุมมันได้แค่นั้น
ต้องดูที่เหมาะกับความต้องการและไลฟ์สไตล์ของตัวเองมาก
ขอบคุณที่อ่านกันจบจนนะ ยาวหน่อย แต่ตั้งใจรีวิวแบบละเอียดให้ทุกคนได้อ่านกัน
สำหรับวันนี้ไปแล้ว บ๊ายบายจ้า ^^