จขกท. เป็นคนหนึ่งที่ชอบละครแนวบู๊ และติดตามละครบู๊ของหลายๆค่ายและหลายๆช่อง รวมทั้งค่ายไนน์บีเวอร์ทางช่องเจ็ด ซึ่ง จขกท. ก็ติดตามค่ายนี้มาตั้งแต่เรื่องแรกคือเนตรนาคราช มาจนถึงเรื่องล่าสุด คือเล็บครุฑ ก็เป็นอีกเรื่องที่ไม่ทำให้ผิดหวังเลย
จากที่ดูละครเรื่องนี้ และฟีดแบ็คในกระทู้, ทวิตต่างๆ ที่มีเสียงชมค่อนข้างมาก ทำให้ จขกท. คิดว่า บางที "การทำสิ่งที่เราถนัด ให้ดีที่สุด" ก็น่าจะเป็นการดีแล้ว
หนึ่งในคำชมที่หลายคนชมคือ "ละครบู๊ต้องช่องเจ็ด" อันนี้แสดงให้เห็นว่า แฟนคลับ, ผู้ชมจำนวนหนึ่งยอมรับว่าละครบู๊ของช่องเจ็ดนั้นค่อนข้างโดดเด่น ทั้งในด้านคิวบู๊ ฉากเตะต่อยที่ค่อนข้างสวย และองค์ประกอบด้านอื่นๆ ถ้าจะบอกว่า "นี่เป็นแนวที่ช่องถนัด" ก็คงไม่ผิดนัก
ที่ผ่านมา หลายคนอยากหรือพยายามที่จะให้ช่องเลิกการผลิตแนวนี้ หรือให้มีน้อยลง แล้วหันไปทำแนวอื่นที่ "ได้กระแส" มากกว่า
ซึ่งที่จริงก็เป็นการดี ถ้าช่องจะเริ่มทำแนวอื่นๆให้หลากหลายขึ้น จากเดิมที่หลากหลายอยู่แล้ว นอกเหนือจากเพื่อให้ได้กระแสมากขึ้น ก็เพื่อให้สมกับสโลแกนของช่อง "ช่องเจ็ด HD ทีวีเพื่อคุณ" (คำว่า "คุณ" ของช่อง น่าจะหมายถึงทุกคน ทุกเพศ ทุกวัย) ต่อไป
แต่ก็ไม่ใช่ว่า เมื่อเราจะทำสิ่งใหม่ แล้วจะต้องยกเลิกสิ่งที่เราทำถนัดทั้งหมด เพื่อไปทำสิ่งอื่นอย่างเต็มที่ (ต้องยอมรับว่าแนวบู๊นี่เป็นแนวของผู้ชายส่วนใหญ่ ไม่ใช่แนวผู้หญิง และมีความจริงอีกประการคือ ผู้หญิงนั้นสามารถสร้างกระแสได้ดีที่สุด เพราะฉะนั้นควรที่จะทำแนวเอาใจกลุ่มนี้ และกลุ่มวัยรุ่นผู้หญิงให้มากขึ้นบ้าง แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะละเลยสิ่งที่ถนัดมาทั้งหมด)
สิ่งที่ควรทำคือ "ทำสิ่งที่เราถนัด ให้ดีที่สุด" คือ ทำแนวบู๊ต่อไป แต่ทำให้ดีที่สุด คือโปรดัคชั่น บท และองค์ประกอบทุกๆอย่าง ออกมาให้ดีที่สุด ซึ่งตอนนี้ละครบู๊ของช่องเจ็ดหลายค่ายค่อนข้างดีแล้วในด้านคิวบู๊ (ซึ่งค่อนข้างดีมาโดยตลอด) ในด้านโปรดัคชั่น (ที่พัฒนาขึ้นมาก และยังสามารถพัฒนาได้อีกต่อไปเรื่อยๆ) ด้านหนึ่งที่หลายค่ายยังไม่ค่อยอยู่ตัวคือ เรื่องบท ซึ่งเป็นจุดที่ต้องปรับกันต่อไป ให้ทุกด้านออกมา "ดีที่สุด" ดังที่กล่าวไป หากได้เช่นนี้ ก็จะทำให้ได้ผลดีตามมา คือค่ายได้คำชม ช่องได้เรตติ้ง ได้กระแสตอบรับที่ดี
ความท้าทายอีกประการสำหรับค่ายที่จะเน้นละครบู๊ต่อไปคือ "นักแสดง" ในเรื่องบทบู๊นั้น กว่าจะสร้างนักแสดงสายบู๊ขึ้นมาคนหนึ่ง ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ และต้องใช้เวลา อย่างพี่ซี กว่าจะมาได้อย่างทุกวันนี้ ก็ต้องใช้เวลา เป็นโจทย์ใหญ่ของช่องและค่ายต่างๆเหมือนกัน ว่าจะให้เป็นอย่างไรต่อไป
ประมาณนี้ ใครคิดเห็นอย่างไรลองมาแสดงความเห็นกันดู
จากเนตรนาคราชถึงเล็บครุฑ : บางที "การทำสิ่งที่เราถนัด ให้ดีที่สุด" ก็น่าจะเป็นการดีแล้ว
จากที่ดูละครเรื่องนี้ และฟีดแบ็คในกระทู้, ทวิตต่างๆ ที่มีเสียงชมค่อนข้างมาก ทำให้ จขกท. คิดว่า บางที "การทำสิ่งที่เราถนัด ให้ดีที่สุด" ก็น่าจะเป็นการดีแล้ว
หนึ่งในคำชมที่หลายคนชมคือ "ละครบู๊ต้องช่องเจ็ด" อันนี้แสดงให้เห็นว่า แฟนคลับ, ผู้ชมจำนวนหนึ่งยอมรับว่าละครบู๊ของช่องเจ็ดนั้นค่อนข้างโดดเด่น ทั้งในด้านคิวบู๊ ฉากเตะต่อยที่ค่อนข้างสวย และองค์ประกอบด้านอื่นๆ ถ้าจะบอกว่า "นี่เป็นแนวที่ช่องถนัด" ก็คงไม่ผิดนัก
ที่ผ่านมา หลายคนอยากหรือพยายามที่จะให้ช่องเลิกการผลิตแนวนี้ หรือให้มีน้อยลง แล้วหันไปทำแนวอื่นที่ "ได้กระแส" มากกว่า
ซึ่งที่จริงก็เป็นการดี ถ้าช่องจะเริ่มทำแนวอื่นๆให้หลากหลายขึ้น จากเดิมที่หลากหลายอยู่แล้ว นอกเหนือจากเพื่อให้ได้กระแสมากขึ้น ก็เพื่อให้สมกับสโลแกนของช่อง "ช่องเจ็ด HD ทีวีเพื่อคุณ" (คำว่า "คุณ" ของช่อง น่าจะหมายถึงทุกคน ทุกเพศ ทุกวัย) ต่อไป
แต่ก็ไม่ใช่ว่า เมื่อเราจะทำสิ่งใหม่ แล้วจะต้องยกเลิกสิ่งที่เราทำถนัดทั้งหมด เพื่อไปทำสิ่งอื่นอย่างเต็มที่ (ต้องยอมรับว่าแนวบู๊นี่เป็นแนวของผู้ชายส่วนใหญ่ ไม่ใช่แนวผู้หญิง และมีความจริงอีกประการคือ ผู้หญิงนั้นสามารถสร้างกระแสได้ดีที่สุด เพราะฉะนั้นควรที่จะทำแนวเอาใจกลุ่มนี้ และกลุ่มวัยรุ่นผู้หญิงให้มากขึ้นบ้าง แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะละเลยสิ่งที่ถนัดมาทั้งหมด)
สิ่งที่ควรทำคือ "ทำสิ่งที่เราถนัด ให้ดีที่สุด" คือ ทำแนวบู๊ต่อไป แต่ทำให้ดีที่สุด คือโปรดัคชั่น บท และองค์ประกอบทุกๆอย่าง ออกมาให้ดีที่สุด ซึ่งตอนนี้ละครบู๊ของช่องเจ็ดหลายค่ายค่อนข้างดีแล้วในด้านคิวบู๊ (ซึ่งค่อนข้างดีมาโดยตลอด) ในด้านโปรดัคชั่น (ที่พัฒนาขึ้นมาก และยังสามารถพัฒนาได้อีกต่อไปเรื่อยๆ) ด้านหนึ่งที่หลายค่ายยังไม่ค่อยอยู่ตัวคือ เรื่องบท ซึ่งเป็นจุดที่ต้องปรับกันต่อไป ให้ทุกด้านออกมา "ดีที่สุด" ดังที่กล่าวไป หากได้เช่นนี้ ก็จะทำให้ได้ผลดีตามมา คือค่ายได้คำชม ช่องได้เรตติ้ง ได้กระแสตอบรับที่ดี
ความท้าทายอีกประการสำหรับค่ายที่จะเน้นละครบู๊ต่อไปคือ "นักแสดง" ในเรื่องบทบู๊นั้น กว่าจะสร้างนักแสดงสายบู๊ขึ้นมาคนหนึ่ง ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ และต้องใช้เวลา อย่างพี่ซี กว่าจะมาได้อย่างทุกวันนี้ ก็ต้องใช้เวลา เป็นโจทย์ใหญ่ของช่องและค่ายต่างๆเหมือนกัน ว่าจะให้เป็นอย่างไรต่อไป
ประมาณนี้ ใครคิดเห็นอย่างไรลองมาแสดงความเห็นกันดู