👍💰~มาลาริน~ความพยายามอยู่ที่ไหนความสำเร็จอยู่ที่นั่น ดัชนีเชื่อมั่นเม.ย.สูงสุดในรอบ 40เดือน ส่งสัญญาณศก.ไทยพร้อมโตพุ่ง

กระทู้คำถาม

ส่งออก-ท่องเที่ยวโตดันเชื่อมั่นผู้บริโภคเม.ย.พุ่งสูงสุดในรอบ 40 เดือน




ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนเม.ย. พุ่งสูงสุดในรอบ 40 เดือน หลังส่งออกและท่องเที่ยว หนุนเศรษฐกิจฟื้น   ห่วงปัจจัยลบปัญหาการเมือง เลื่อนเลือกตั้ง ค่าครองชีพสูง

นายธนวรรธน์ พลวิชัย รองคณบดีฝ่ายวิจัยและผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนเม.ย.2561 อยู่ที่ 80.9 เพิ่มขึ้นจากเดือนมี.ค.ที่ 79.9 เป็นค่าดัชนีที่สูงสุดในรอบ 40 เดือน นับตั้งแต่เดือนม.ค.2558 ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในปัจจุบันอยู่ที่ 55.3 ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในอนาคตอยู่ที่ 91.9 ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับเศรษฐกิจโดยรวมอยู่ที่ 67.8 ดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับโอกาสในการหางานทำอยู่ที่ 75.8 และดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับรายได้ในอนาคตอยู่ที่ 99.1

สำหรับสาเหตุที่ทำให้ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคปรับตัวสูงขึ้น มาจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยที่เห็นได้อย่างชัดเจน โดยมีภาคการส่งออกและการท่องเที่ยวเป็นตัวขับเคลื่อน โดยการส่งออกเริ่มส่งผลดี มีการกระจายคำสั่งซื้อไปสู่ผู้ประกอบการ SMEs และด้านการท่องเที่ยว มีการเดินทางเข้ามาเที่ยวไทยเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจีน และยังได้รับผลดีจากกำลังซื้อที่เพิ่มขึ้นจากการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ ราคาสินค้าเกษตรปรับตัวดีขึ้นในรอบ 6-12 เดือน เช่น ข้าว มันสำปะหลัง และข้าวโพด ความกังวลต่อเศรษฐกิจโลกเริ่มคลี่คลาย และค่าเงินบาทที่เคยมองว่าจะเป็นปัญหาสำคัญ ก็ไม่แข็งค่าทะลุ 30 บาทต่อเหรียญสหรัฐ

ส่วนปัจจัยลบที่ฉุดความเชื่อมั่น ยังคงเป็นปัญหาการเมืองภายในประเทศที่อาจจะมีการเลื่อนการเลือกตั้งออกไปจากเดือนก.พ.2562 ราคาขายปลีกน้ำมันยังคงปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง สินค้าเกษตรบางรายการยังทรงตัวอยู่ในระดับต่ำ เช่น ปาล์มน้ำมัน และยางพารา เงินบาทแข็งค่า และปัญหาค่าครองชีพที่ยังคงทรงตัวในระดับสูงขึ้น

https://www.thaipost.net/main/detail/8344



เม.ย.ความเชื่อมั่นผู้บริโภคดีขึ้นอยู่ในระดับสูงสุดในรอบ 40 เดือน





นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า ผลของการสำรวจความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในเดือนเม.ย. 2561 ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคปรับตัวดีขึ้นอยู่ในระดับสูงสุดในรอบ 40 เดือนนับตั้งแต่เดือนม.ค. 2558 เป็นต้นมา เนื่องจากผู้บริโภครู้สึกว่าการส่งออกและการท่องเที่ยวที่เริ่มปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่องประกอบกับค่าแรงขั้นต่ำที่ปรับตัวสูงขึ้นตั้งแต่ต้นเดือนเม.ย. 2561 ส่งผลให้กำลังซื้อและภาวะเศรษฐกิจเริ่มปรับตัวดีขึ้นเป็นลำดับ ในมุมมองของผู้บริโภค

อย่างไรก็ตาม ผู้บริโภคยังมีความกังวลเกี่ยวกับราคาพืชผลทางการเกษตรที่ยังทรงตัวอยู่ในระดับต่ำทำให้กำลังซื้อทั่วไปในหลายจังหวัดทั่วประเทศขยายตัวในระดับต่ำ นอกจากนี้ ผู้บริโภคส่วนหนึ่งยังกังวลต่อผลกระทบจากการแข็งค่าของเงินบาทอย่างรวดเร็ว และการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำที่อาจส่งผลต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยในอนาคต นอกจากนี้ ผู้บริโภคยังมีความรู้สึกว่าเศรษฐกิจไทยฟื้นตัวไม่มากนัก อีกทั้งยังฟื้นตัวช้า และการฟื้นตัวยังกระจุกตัวไม่กระจายตัวทั่วทุกภูมิภาค

ทั้งนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับเศรษฐกิจโดยรวม ดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับโอกาสหางานทำโดยรวม และดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับรายได้ในอนาคตอยู่ที่ระดับ 67.8 75.8 และ 99.1 ตามลำดับ โดยปรับตัวเพิ่มขึ้นทุกรายการ เมื่อเทียบกับดัชนีในเดือนมี.ค. 2561 ที่อยู่ในระดับ 66.8 74.9 และ 98.0 ตามลำดับ ทั้งนี้ ดัชนียังอยู่ในระดับต่ำกว่าปกติ (ที่ระดับ 100) แสดงว่าผู้บริโภคยังไม่มีความมั่นใจเกี่ยวกับสถานการณ์ทางเศรษฐกิจ โอกาสในการหางานทำ และรายได้ในอนาคตมากนัก

การปรับตัวเพิ่มขึ้นของดัชนีทุกรายการดังกล่าวส่งผลให้ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภค (Consumer Confidence Index: CCI) ปรับตัวดีขึ้น โดยอยู่ที่ระดับ 80.9 ซึ่งเป็นระดับที่สูงสุดในรอบ 40 เดือนนับตั้งแต่เดือนม.ค. 2558 เป็นต้นมา การที่ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคโดยรวมยังคงเคลื่อนไหวคงอยู่ต่ำกว่าระดับ 100 แสดงให้เห็นว่าผู้บริโภคยังคงเห็นว่าสถานการณ์เศรษฐกิจโดยรวมยังฟื้นตัวขึ้นไม่มากนัก ทั้งนี้ ผู้บริโภคยังมีความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ทางการเมืองของไทย สถานการณ์การเมืองระหว่างประเทศโดยเฉพาะเรื่องสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีน การฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยและเศรษฐกิจโลกที่ยังมีความผันผวนสูง ราคาพืชผลทางการเกษตรโดยเฉพาะข้าว ยางพารา อ้อย ปาล์มน้ำมันและราคาสินค้าปศุสัตว์ ที่ยังทรงตัวอยู่ในระดับต่ำ

สำหรับความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในปัจจุบันปรับตัวดีขึ้น โดยอยู่ที่ระดับ 55.3 ซึ่งเป็นระดับที่สูงสุดในรอบ 26 เดือนนับตั้งแต่เดือนก.พ. 2559 เป็นต้นมา ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในอนาคต (ในระยะ 6 เดือนข้างหน้า) ปรับตัวดีขึ้นเช่นเดียวกัน โดยปรับตัวดีขึ้นจากระดับ 90.8 เป็นระดับ ระดับ 91.9 ซึ่งเป็นระดับที่สูงสุดในรอบ 61 เดือนนับตั้งแต่เดือนเม.ย. 2556 เป็นต้นมา สะท้อนให้เห็นว่าผู้บริโภคยังมีความเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจไทยจะปรับตัวดีขึ้นในอนาคตอันใกล้ไม่มากนัก

การปรับตัวดีขี้นอย่างต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 ในเดือนนี้และอยู่ในระดับที่สูงสุดในรอบ 40 เดือนนับตั้งแต่เดือนม.ค. 2558 เป็นต้นมา เป็นจุดที่ต้องสังเกตต่อไปว่าความเชื่อมั่นของผู้บริโภคจะปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องหรือไม่ อย่างไร ในอนาคตเนื่องจากปัจจัยเสี่ยงของเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจไทยยังคงมีอยู่มาก อย่างไรก็ตาม หากผู้บริโภคเริ่มกลับมามีความมั่นใจอย่างต่อเนื่องทั้งสถานการณ์เศรษฐกิจและสถานการณ์ทางการเมืองทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ ตลอดจนภาวะเศรษฐกิจไทยเริ่มฟื้นตัวแบบกระจายตัวมากขึ้นภายในไตรมาส 2 ของปีนี้ จะส่งผลให้ผู้บริโภคเริ่มกลับมามีความมั่นใจในการบริโภคสินค้าและบริการมาขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ ซึ่งน่าจะมีส่วนสำคัญที่ทำให้เศรษฐกิจไทยฟื้นตัวเด่นชัดขึ้นในปลายไตรมาส 2 และเป็นปัจจัยเกื้อหนุนให้เศรษฐกิจไทยขยายตัวได้ในระดับ 4.2-4.6% ได้ในปี 2561

https://www.khaosod.co.th/economics/news_1035654


รัฐบาลลุงตู่แก้ปัญหาเศรษฐกิจได้แน่นอนแล้วค่ะ

แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่