สวัสดีค่ะ จะขอปรึกษาหน่อยนะค่ะ
คือว่า เมื่อประมาณปลายปี2557แม่เราได้ไปออกรถมือ2 ชื่อผู้ซื้อคือน้าสะใภ้ ผู้ค้ำคือป้าเรา(พี่สาวพ่อ)แต่แม่คือผู้ชำระหนี้ ใช้รถมาได้ประมาณ1ปี พี่ชายเราขอยืมแม่ไปขับ (พี่ชายกับแม่อยู่คนละที่กัน) ช่วงนั้นระบบการเงินที่บ้านขัดข่องพอดี ประมาณเดือนกันยายนปี59แม่ไม่ได้ส่งค่างวดรถ1งวด ไฟแนนซ์ก็มายึดรถไป ในขณะที่รถอยู่กับพี่ชาย ทางไฟแนนซ์ไม่ได้โทรมาบอกก่อนล่วงหน้า เอกสารการซื้อขายรถ การผ่อนชำระค่างวดรถ อยู่ในรถทุกอย่างเลย พอต้นปี60 มีบุคคลหนึ่งโทรมาบอกว่าเป็นไฟแนนซ์ได้ส่งเอกสารการชำระหนี้ และหมายศาลไปที่บ้านผู้ซื้อ(น้าสะใภ้) น้าสะใภ้เลยถ่ายเอกสารส่งมา เขาให้เราจ่ายเดือนละ3พัน แม่ของเราเข้าใจว่า เป็นการชำระหนี้ค่างวดที่ติดค้างไว้ก่อนที่ไฟแนนซ์จะมาเอารถไป เลยยินยอมจ่ายเงินทั้งหมด6เดือน เดือนละ3000บาท (สิ้นสุดแค่นั้นแม่เราเลยคิดว่าไม่น่าจะมีอะไรค้างกันอีกเลยหยุดจ่าย จนถึงปัจจุบันนี้ มีคนโทรมาอีกแต่ไม่ใช่คนเดิมเขาบอกว่าเป็นเจ้าหน้าที่จากศูนย์รถที่เราไปเอามา จะขอเรียกเก็บค่าส่วนต่างรถเป็นจำนวนแสนกว่าบาท (บอกตัวเลขผ่านโทรศัพท์ไม่มีเอกสารมาอ้างอิง)เขาบอกให้แม่เราจ่าย โดยให้แม่เอากระดาษมาจดเลขรหัสลูกค้ากับเลขอ้างอิง(วันที่30/เมษา61) พอดีว่าเราขายของกันกว่าจะปิดร้านมันดึกเลยบอกเขาว่าธนาคารคงปิดหมดแล้วเขาบอกว่าไใ่เป็นไรจ่ายในเซเว่นก็ได้ แต่เราก็ยังไม่ได้จ่ายนะค่ะ เพราะรู้สึกว่าการที่เราจะชำระหนี้หรือตกลงอะไรกับใครมันต้องเป็นเอกสารลายลักษณ์อักษร
จึงอยากสอบถามผูรู้ว่าเราควรต้องทำอย่างไร ต้องรอหมายศาลมาใช่หรือไม่ แล้วเราสามารถดำเนินการได้โดยไม่ต้องเดือดร้อนชื่อผู้ซื้อกับผู้ค้ำได้ไหม
ปล.เอกสารใบแจ้งหนี้ที่เคยส่งมา ส่งมาครั้งสุดท้ายเมื่อต้นปี60และยังไม่มีเอกสารใดๆๆส่งมาอีกเลย