สวัสดีครับ เริ่มเลยนะครับ อย่าเพิ่งขี้เกียจอ่านกันนะครับ ^^
ขี้เกียจแรก ขี้เกียจหาข้อมูลครับ สมัยนี้ใครๆเวลาจะไปเที่ยวที่ไหนก็ต้องหาข้อมูลใช่มั๊ยครับ อ่านรีวิวตามที่ต่างๆ แต่เรานี้ไม่เลย
รู้แต่ว่าแฟนบอกว่าอยากไปเที่ยวหลีเป๊ะจังตัวเอง เราก็ได้แต่เออๆ ตามใจไปก็ไป แต่ยังไม่รู้จะไปตอนไหน จะไปเมื่อไหร่
(ทั้งๆที่เป็นมนุษย์เงินเดือนทั้งคู่ แบบนี้ไม่ดีนะครับ แต่ก็ยังทำ ขอโทษครับ 555)
ขี้เกียจที่สอง ซื้อทัวร์ครับ เหมาะมากครับกับการสนองความขี้เกียจของตัวเอง เพราะขี้เกียจหารถ หาเรือ จ่ายจุกจิก
จึงไปเดินงานเกี่ยวกับท่องเที่ยวที่เมืองทอง (จำไม่ได้ว่าชื่องานอะไร) กะว่าจะไปหาตั๋วหลีเป๊ะนี้แหละครับเดินวนไปวนมาหลายบูท
มีที่ดังๆมาออกหลายที่ โปรโมทกันตั้งแต่ 2,999-3,999 บาท แต่เดินไปสะดุดบูทนึงครับเซลล์เค้าแนะนำดีให้ข้อเสนอมาหลายราคา
ไม่รีบร้อนจะยัดขายให้ดี เปิดๆดูไปถูกใจเอาโรงแรม Akira ซึ่งราคาค่อนข้างสูงทีเดียว แต่ก็ใจง่ายเอาที่นี้แหละ
เช็ควันว่าง เช็คห้องว่าง เค้าช่วยดูเที่ยวบินให้ด้วยว่าเวลาไหนที่เหมาะสม เตือนให้เราไปลางานด้วยฮาๆ
รูดบัตรไม่ชาร์จอีก แหมยิ่งชอบเลยฮะ
ซื้อจริงจ่ายจริง ไม่มีม้า แต่คราวหน้าพี่จะลดให้ก็ยินดีครับ
ระหว่างรอเดินทางก็ได้ยินข่าวเรื่องคนซื้อทัวร์หลีเป๊ะแล้วโดนหลอกเราก็แอบใจสั่น แต่เหมือนเค้ารู้ใจ
รีบส่ง Line มาหาคอนเฟิร์มเที่ยวบินก็เลยสบายใจไปหน่อยนึงครับ
ก่อนวันเดินทาง 1 วันมีเบอร์แปลกๆโทรเข้ามาเพียบ ทั้งจาก บ.ทัวร์ ซึ่งย้ำกับเราว่ามีอะไรโทรหาได้ตลอด
โทรมาทั้งคนประสานงานรถตู้ คนขับรถตู้ ทำให้เรายิ่งมั่นใจว่ายังไงไปถึงหาดใหญ่แล้ว ไม่เคว้งแน่นอน
มาก็นก กลับก็นก
ตัดมาที่วันเดินทางออกเดินทางวันที่ 26/3/61 ถึงสนามบินหาดใหญ่ตอน 07.20 น.แต่คนขับบอกให้รอคณะอื่น
ที่เค้าจะลงเครื่องตอน 8.10 ไปพร้อมกันได้ขึ้นรถจริงตอน 8.30 น.
ซึ่งจุดนี้โอเคครับเพราะจะได้แวะกินกาแฟเข้าห้องน้ำกินยาแก้เมารถ เมาเรือกันให้เรียบร้อย
หลับแปบเดียวถึงแล้วครับท่าเรือปากบารา จากนั้นก็มีคนประสานงานเรือโทรเข้ามาว่าให้นั่งรอก่อน
จะให้นั่งสปีดโบ๊ทไปพร้อมกับคณะอื่น(คนละคณะกับรถตู้) แล้วก็ส่งไกด์มาคุยกับเราแก้เบื่อไปพลางๆ
ขึ้นเรือ จุดแรกที่แวะคือ อุทยานแห่งชาติตะรุเตา ตามโปรแกรมเค้าจะต้องแวะเกาะไข่ด้วยแต่มีคลื่นลมจึงขอพาแวะวันกลับแทน
มาถึงต้องถ่ายรูปกับป้ายซะหน่อย ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน
ถึงแล้วครับหลีเป๊ะ มาถึงเกาะมีคนจากโรงแรมมาถือป้ายรอรับ และแบกกระเป๋าไปให้ด้วย ก่อนจะนั่งรถสองแถวฟรีไปโรงแรม
หิวแล้วครับ ล้างหน้าล้างตาไปเดิน walking street เลยเจอร้านนี้ครับ เปาโลพิซซ่า
พิซซ่าเตาถ่าน ถาดละ 100 บาท กินกันคนละถาดกับแฟน อิ่มเลยครับ
เช้าวันรุ่งขึ้นกินอาหารเช้าโรงแรมก่อนไปที่เรือตามเวลานัด 9.00 น. ตอนแรกไกด์บอกเราเมื่อวานว่าให้สอบถามโรงแรม
เพื่อให้มาส่งที่เรือถ้าเกิดว่าเรือจอดที่หน้าหาดพัทยาที่เราพักไม่ได้อาจจะจอดที่ท่าเรือหน้าโรงเรียนซึ่งเป็นอีกฝั่ง
พอถามหน้า front เค้าบอกไม่ไปส่งนะครับ ยกเว้นแต่ check -in หรือ check-out เค้าจะไปรับไปส่งถึงเรือ
ก็โอเคครับเข้าใจได้ แต่โชคดีที่ติดต่อเรือแล้ววันนี้เรือเข้ามารอที่หน้า walking street เดินไปนิดเดียวก็ถึง
ไกด์ประจำทริปของเราครับ น้องจอน ดูแลดีครับ
ดำน้ำกันเต๊อะ
ดำน้ำโซนใน ที่แวะให้มี เกาะอาดัง เกาะราวี เกาะยาง เกาะหินงาม ร่องน้ำจาบัง
ซึ่งร่องน้ำจาบังเราไม่ประทับใจที่สุด เพราะเรือหนาแน่นมาก คนเยอะมากไม่เจออะไรเลยนอกจากเท้าคนข้างหน้า
เพราะต้องเกาะเชือกค่อยๆไต่กันไป สุดท้ายเราไม่รอไปจนรอบทุ่น ตัดสินใจโผไปเกาะเชือกเรือตัวเองกลับเลย
ความหนาแน่นของเรือที่มารอให้นักท่องเที่ยวลงไปที่ร่องน้ำจาบัง
เกาะหินงาม งามจริงๆแต่ระวังลื่นและสวมรองเท้าด้วยนะครับ ร้อนมากๆ
หลังจากอาบน้ำแล้วท้องร้อง ต้องหาอะไรกิน เรากลับไปที่ walking street อีกครับ
วันนี้ตั้งใจจะหาอาหารกินแบบเต็มที่ เลยฝากท้องไว้ที่ร้าน King Crab
รูปอาหาร ขอลงรูปรวมๆนะครับ
ค่าใช้จ่าย ทั้งหมดในรูปรวมเบียร์ขวดใหญ่ และน้ำแข็งถังแล้วอยู่ที่ 1,500 บาท อาหารสด รอไม่นาน รสชาติจัดจ้านดีครับ
ชาชักเตอร์บิลัง แถวยาว ชาชักอร่อยดี โรตีเราว่าเฉยๆก็คงแล้วแต่คนชอบนะ
บรรยากาศ Walking Street วันศุกร์
ถึงวันกลับนั่งเรือลำเดิมกลับเรือออก 9.00 น. แวะเกาะไข่ตามสัญญา
เกาะไข่ เค้าบอกลอดถ้าใหญ่ออกถ้ำเล็กจะเจอรักนิรันดร์
แต่บางคู่อาจจะมาลอดถ้ำเล็กออกถ้ำใหญ่ เพื่อหวังผลตรงข้ามได้นะครับ
ธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์
สรุป ประทับใจมากครับเกาะหลีเป๊ะ ชอบมาก สวยมาก มีโอกาสอยากไปอีก
ลาไปด้วยภาพนี้ เพื่อเป็นการยืนยันคำพูดที่ว่า
ถ้าผู้หญิงมีความสุข เราก็จะมีความสุข
สวัสดีครับ
[CR] เที่ยวหลีเป๊ะ แบบคนขี้เกียจ
ขี้เกียจแรก ขี้เกียจหาข้อมูลครับ สมัยนี้ใครๆเวลาจะไปเที่ยวที่ไหนก็ต้องหาข้อมูลใช่มั๊ยครับ อ่านรีวิวตามที่ต่างๆ แต่เรานี้ไม่เลย
รู้แต่ว่าแฟนบอกว่าอยากไปเที่ยวหลีเป๊ะจังตัวเอง เราก็ได้แต่เออๆ ตามใจไปก็ไป แต่ยังไม่รู้จะไปตอนไหน จะไปเมื่อไหร่
(ทั้งๆที่เป็นมนุษย์เงินเดือนทั้งคู่ แบบนี้ไม่ดีนะครับ แต่ก็ยังทำ ขอโทษครับ 555)
ขี้เกียจที่สอง ซื้อทัวร์ครับ เหมาะมากครับกับการสนองความขี้เกียจของตัวเอง เพราะขี้เกียจหารถ หาเรือ จ่ายจุกจิก
จึงไปเดินงานเกี่ยวกับท่องเที่ยวที่เมืองทอง (จำไม่ได้ว่าชื่องานอะไร) กะว่าจะไปหาตั๋วหลีเป๊ะนี้แหละครับเดินวนไปวนมาหลายบูท
มีที่ดังๆมาออกหลายที่ โปรโมทกันตั้งแต่ 2,999-3,999 บาท แต่เดินไปสะดุดบูทนึงครับเซลล์เค้าแนะนำดีให้ข้อเสนอมาหลายราคา
ไม่รีบร้อนจะยัดขายให้ดี เปิดๆดูไปถูกใจเอาโรงแรม Akira ซึ่งราคาค่อนข้างสูงทีเดียว แต่ก็ใจง่ายเอาที่นี้แหละ
เช็ควันว่าง เช็คห้องว่าง เค้าช่วยดูเที่ยวบินให้ด้วยว่าเวลาไหนที่เหมาะสม เตือนให้เราไปลางานด้วยฮาๆ
รูดบัตรไม่ชาร์จอีก แหมยิ่งชอบเลยฮะ
ซื้อจริงจ่ายจริง ไม่มีม้า แต่คราวหน้าพี่จะลดให้ก็ยินดีครับ
ระหว่างรอเดินทางก็ได้ยินข่าวเรื่องคนซื้อทัวร์หลีเป๊ะแล้วโดนหลอกเราก็แอบใจสั่น แต่เหมือนเค้ารู้ใจ
รีบส่ง Line มาหาคอนเฟิร์มเที่ยวบินก็เลยสบายใจไปหน่อยนึงครับ
ก่อนวันเดินทาง 1 วันมีเบอร์แปลกๆโทรเข้ามาเพียบ ทั้งจาก บ.ทัวร์ ซึ่งย้ำกับเราว่ามีอะไรโทรหาได้ตลอด
โทรมาทั้งคนประสานงานรถตู้ คนขับรถตู้ ทำให้เรายิ่งมั่นใจว่ายังไงไปถึงหาดใหญ่แล้ว ไม่เคว้งแน่นอน
มาก็นก กลับก็นก
ตัดมาที่วันเดินทางออกเดินทางวันที่ 26/3/61 ถึงสนามบินหาดใหญ่ตอน 07.20 น.แต่คนขับบอกให้รอคณะอื่น
ที่เค้าจะลงเครื่องตอน 8.10 ไปพร้อมกันได้ขึ้นรถจริงตอน 8.30 น.
ซึ่งจุดนี้โอเคครับเพราะจะได้แวะกินกาแฟเข้าห้องน้ำกินยาแก้เมารถ เมาเรือกันให้เรียบร้อย
หลับแปบเดียวถึงแล้วครับท่าเรือปากบารา จากนั้นก็มีคนประสานงานเรือโทรเข้ามาว่าให้นั่งรอก่อน
จะให้นั่งสปีดโบ๊ทไปพร้อมกับคณะอื่น(คนละคณะกับรถตู้) แล้วก็ส่งไกด์มาคุยกับเราแก้เบื่อไปพลางๆ
ขึ้นเรือ จุดแรกที่แวะคือ อุทยานแห่งชาติตะรุเตา ตามโปรแกรมเค้าจะต้องแวะเกาะไข่ด้วยแต่มีคลื่นลมจึงขอพาแวะวันกลับแทน
มาถึงต้องถ่ายรูปกับป้ายซะหน่อย ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน
ถึงแล้วครับหลีเป๊ะ มาถึงเกาะมีคนจากโรงแรมมาถือป้ายรอรับ และแบกกระเป๋าไปให้ด้วย ก่อนจะนั่งรถสองแถวฟรีไปโรงแรม
หิวแล้วครับ ล้างหน้าล้างตาไปเดิน walking street เลยเจอร้านนี้ครับ เปาโลพิซซ่า
พิซซ่าเตาถ่าน ถาดละ 100 บาท กินกันคนละถาดกับแฟน อิ่มเลยครับ
เช้าวันรุ่งขึ้นกินอาหารเช้าโรงแรมก่อนไปที่เรือตามเวลานัด 9.00 น. ตอนแรกไกด์บอกเราเมื่อวานว่าให้สอบถามโรงแรม
เพื่อให้มาส่งที่เรือถ้าเกิดว่าเรือจอดที่หน้าหาดพัทยาที่เราพักไม่ได้อาจจะจอดที่ท่าเรือหน้าโรงเรียนซึ่งเป็นอีกฝั่ง
พอถามหน้า front เค้าบอกไม่ไปส่งนะครับ ยกเว้นแต่ check -in หรือ check-out เค้าจะไปรับไปส่งถึงเรือ
ก็โอเคครับเข้าใจได้ แต่โชคดีที่ติดต่อเรือแล้ววันนี้เรือเข้ามารอที่หน้า walking street เดินไปนิดเดียวก็ถึง
ไกด์ประจำทริปของเราครับ น้องจอน ดูแลดีครับ
ดำน้ำกันเต๊อะ
ดำน้ำโซนใน ที่แวะให้มี เกาะอาดัง เกาะราวี เกาะยาง เกาะหินงาม ร่องน้ำจาบัง
ซึ่งร่องน้ำจาบังเราไม่ประทับใจที่สุด เพราะเรือหนาแน่นมาก คนเยอะมากไม่เจออะไรเลยนอกจากเท้าคนข้างหน้า
เพราะต้องเกาะเชือกค่อยๆไต่กันไป สุดท้ายเราไม่รอไปจนรอบทุ่น ตัดสินใจโผไปเกาะเชือกเรือตัวเองกลับเลย
ความหนาแน่นของเรือที่มารอให้นักท่องเที่ยวลงไปที่ร่องน้ำจาบัง
เกาะหินงาม งามจริงๆแต่ระวังลื่นและสวมรองเท้าด้วยนะครับ ร้อนมากๆ
หลังจากอาบน้ำแล้วท้องร้อง ต้องหาอะไรกิน เรากลับไปที่ walking street อีกครับ
วันนี้ตั้งใจจะหาอาหารกินแบบเต็มที่ เลยฝากท้องไว้ที่ร้าน King Crab
รูปอาหาร ขอลงรูปรวมๆนะครับ
ค่าใช้จ่าย ทั้งหมดในรูปรวมเบียร์ขวดใหญ่ และน้ำแข็งถังแล้วอยู่ที่ 1,500 บาท อาหารสด รอไม่นาน รสชาติจัดจ้านดีครับ
ชาชักเตอร์บิลัง แถวยาว ชาชักอร่อยดี โรตีเราว่าเฉยๆก็คงแล้วแต่คนชอบนะ
บรรยากาศ Walking Street วันศุกร์
ถึงวันกลับนั่งเรือลำเดิมกลับเรือออก 9.00 น. แวะเกาะไข่ตามสัญญา
เกาะไข่ เค้าบอกลอดถ้าใหญ่ออกถ้ำเล็กจะเจอรักนิรันดร์
แต่บางคู่อาจจะมาลอดถ้ำเล็กออกถ้ำใหญ่ เพื่อหวังผลตรงข้ามได้นะครับ
ธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์
สรุป ประทับใจมากครับเกาะหลีเป๊ะ ชอบมาก สวยมาก มีโอกาสอยากไปอีก
ลาไปด้วยภาพนี้ เพื่อเป็นการยืนยันคำพูดที่ว่า
ถ้าผู้หญิงมีความสุข เราก็จะมีความสุข
สวัสดีครับ