คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 9
ขึ้นอยู่กับปัจจัย หลายๆ อย่าง นะครับ
สมมติ คุณจบใหม่ออกมา สมัครงานที่แรก ได้เข้าไปทำงาน ก็ต้องดูว่า คุณพอใจ คุณโอเค กับ งานที่ได้รับมอบหมาย แล้วเห็น เส้นทางการเติบโตข้างหน้าหรือไม่
บางคน จบใหม่ เข้าไปทำงานได้สัก 2 - 3 ปี บริษัทเห็นแววความเก่ง เค้าก็ดัน ก็ย้าย ให้ไปทำงานตำแหน่งที่สูงขึ้น เงินเดือนมันก็ก้าวกระโดดขึ้น แบบนี้ก็อยู่ไปยาวๆ
แต่บางบริษัท หรือ บางคน อยู่ไปก็ยังอยู่ที่เดิม หรือ ยังไม่ถูกใจงานที่ทำ หรือ มีที่ใหม่ เสนอเงินเดือนที่เยอะกว่า แบบนี้ก็เปลี่ยนงานเพื่อหาประสบการณ์ใหม่ เพื่ออัพเงินเดือนครับ
................
แต่ทั้งนี้ คำแนะนำจากรุ่นพี่อย่างผมก็คือ
1. อย่าเปลี่ยนงานบ่อยจนเกินไป ... ประเภท 6 เดือน ถึง ปี ก็เปลี่ยนละ ใน resume มาที เปลี่ยนงานมาเป็นสิบที่ อันนี้ ในมุมของคนสัมภาษณ์ ผมจะมองว่า คุณไม่มีน้ำอดน้ำทน ผมให้ตกก่อนเลย เพราะเอามาพอผมฝึกได้แป้บๆคุณก็ไป เสียเวลาผม
2. ยิ่งอายุมากขึ้น ยิ่งหางานยาก ... ยิ่งอายุขึ้นเลข 3 แล้ว ถ้าตำแหน่งที่หา ยังเป็น level พนง. บอกเลยว่า ยากครับ เพราะเค้าจ้างเด็กจบใหม่เงินเดือนถูกกว่า ยกเว้น คุณมีอะไรดี มีประสบการณ์ มีความเก่ง แต่ทั้งนี้ ถ้าอายุแตะเลข 3 ก็ควรมีตำแหน่ง supervisor หรือ หน.งาน ขึ้นไปได้แล้วล่ะ
3. ต่อจากข้อ 2 ถ้าคิดว่า เราได้ทำงานที่รักแล้ว เพื่อนร่วมงานโอเค หนทางก้าวหน้ามี เงินเดือนไม่ขี้เหร่ รวมถึง อายุเริ่มเยอะแล้ว ก็อยู่ยาวๆไป ลงหลักปักฐานซะ
.............
ประวัติผม
1. จบ ป.ตรี เริ่มทำงานที่แรก ตำแหน่ง Engineer เงินเดือน 13,500 บาท อยู่มา 3 ปีกว่า ได้ขยับเป็น หน.แผนก เงินเดือนขึ้นอีกหลายพัน แต่เป็นงานที่ไม่ชอบเท่าไหร่ งานสบายไป ชิลล์ๆ จนเสียดายความรู้ที่เรียนมา ก็เลยลาออก
2. ทำงานแห่งที่สอง บริษัทเล็กๆ ตำแหน่ง engineer เหมือนเดิม เงินเดือนขึ้นอีกหน่อย มี OT แต่เป็นคนละสายงานเลย ก็ทำได้ แต่ไม่ชอบเท่าไหร่ รู้สึกว่า ตัวเองทำได้ไม่ดี ทำได้เกือบปี เจ้านายเก่า โทร.มาตาม บอกว่า บริษัทในเครือมีตำแหน่งว่า เป็น section manager ก็เลยไป
3. ที่นี่ เงินเดือนกระโดดมา 2 กลางๆ ความรับผิดชอบมากขึ้น เป็นงานที่รัก ที่ชอบ อยู่ไปอยู่มา ได้โปรโมทเป็น ผช.ผู้จัดการฝ่าย เงินเดือนขยับขึ้น 2 เท่า มีรถประจำตำแหน่งใช้
แล้วก็ไปขัดขาชาวบ้าน เลยโดนกระทืบลงมาตำแหน่งเดิม โดนลดเงินเดือน (ด้วยความฉลาด เลยไม่รู้ว่า มันผิดกฎหมาย) แล้วก็โดนย้ายแผนกไปดูงานซ่อมบำรุงรถบรรทุก แล้วก็โดนบีบออก ด้วยการลดตำแหน่งอีกรอบ เหลือ Engineer
ระหว่างนี้ ผมก็หางานใหม่ละ แต่ผมไม่เดินออกมาง่ายๆหรอก ถ้าจะออก ก็ 10 เดือน + ค่าตกใจ ตามกฎหมาย
4. จนได้ที่ใหม่ ไกลกว่าเดิม งานซ่อมบำรุง ตำแหน่ง Department Manager ผมเรียกเงินเดือนเท่าที่เก่าเลย
เค้าถามว่า "ทำไมเรียกน้อยจัง"
ผมบอกไปว่า "ก็ผมอยากให้บริษัทรับ แล้วดูฝีมือผมก่อน ถ้าผมทำงานดี ก็ค่อยขึ้นให้ผมแล้วกันครับ"
ผมอยู่ที่นี่มา 6 ปีละ ผมได้ขึ้นเงินเดือน 30% 1 ครั้ง / 15 % 1 ครั้ง นอกนั้นก็ปรับเท่าๆคนอื่นของบริษัท ... เงินเดือนขึ้นแบบก้าวกระโดดล่ะครับ มากกว่าเงินเดือนที่เค้ารับผมเข้ามาหลายเท่าละ
ปัจจุบัน ผมได้โปรโมทตำแหน่งใหม่ ละ อยู่ระหว่างรอดูผลงาน ถ้าผ่านก็ได้ปรับเงินเดือนขึ้นอีกครับ
.............
เล่าให้ฟัง เผื่อนำไปประยุกต์ใช้ ครับ
สมมติ คุณจบใหม่ออกมา สมัครงานที่แรก ได้เข้าไปทำงาน ก็ต้องดูว่า คุณพอใจ คุณโอเค กับ งานที่ได้รับมอบหมาย แล้วเห็น เส้นทางการเติบโตข้างหน้าหรือไม่
บางคน จบใหม่ เข้าไปทำงานได้สัก 2 - 3 ปี บริษัทเห็นแววความเก่ง เค้าก็ดัน ก็ย้าย ให้ไปทำงานตำแหน่งที่สูงขึ้น เงินเดือนมันก็ก้าวกระโดดขึ้น แบบนี้ก็อยู่ไปยาวๆ
แต่บางบริษัท หรือ บางคน อยู่ไปก็ยังอยู่ที่เดิม หรือ ยังไม่ถูกใจงานที่ทำ หรือ มีที่ใหม่ เสนอเงินเดือนที่เยอะกว่า แบบนี้ก็เปลี่ยนงานเพื่อหาประสบการณ์ใหม่ เพื่ออัพเงินเดือนครับ
................
แต่ทั้งนี้ คำแนะนำจากรุ่นพี่อย่างผมก็คือ
1. อย่าเปลี่ยนงานบ่อยจนเกินไป ... ประเภท 6 เดือน ถึง ปี ก็เปลี่ยนละ ใน resume มาที เปลี่ยนงานมาเป็นสิบที่ อันนี้ ในมุมของคนสัมภาษณ์ ผมจะมองว่า คุณไม่มีน้ำอดน้ำทน ผมให้ตกก่อนเลย เพราะเอามาพอผมฝึกได้แป้บๆคุณก็ไป เสียเวลาผม
2. ยิ่งอายุมากขึ้น ยิ่งหางานยาก ... ยิ่งอายุขึ้นเลข 3 แล้ว ถ้าตำแหน่งที่หา ยังเป็น level พนง. บอกเลยว่า ยากครับ เพราะเค้าจ้างเด็กจบใหม่เงินเดือนถูกกว่า ยกเว้น คุณมีอะไรดี มีประสบการณ์ มีความเก่ง แต่ทั้งนี้ ถ้าอายุแตะเลข 3 ก็ควรมีตำแหน่ง supervisor หรือ หน.งาน ขึ้นไปได้แล้วล่ะ
3. ต่อจากข้อ 2 ถ้าคิดว่า เราได้ทำงานที่รักแล้ว เพื่อนร่วมงานโอเค หนทางก้าวหน้ามี เงินเดือนไม่ขี้เหร่ รวมถึง อายุเริ่มเยอะแล้ว ก็อยู่ยาวๆไป ลงหลักปักฐานซะ
.............
ประวัติผม
1. จบ ป.ตรี เริ่มทำงานที่แรก ตำแหน่ง Engineer เงินเดือน 13,500 บาท อยู่มา 3 ปีกว่า ได้ขยับเป็น หน.แผนก เงินเดือนขึ้นอีกหลายพัน แต่เป็นงานที่ไม่ชอบเท่าไหร่ งานสบายไป ชิลล์ๆ จนเสียดายความรู้ที่เรียนมา ก็เลยลาออก
2. ทำงานแห่งที่สอง บริษัทเล็กๆ ตำแหน่ง engineer เหมือนเดิม เงินเดือนขึ้นอีกหน่อย มี OT แต่เป็นคนละสายงานเลย ก็ทำได้ แต่ไม่ชอบเท่าไหร่ รู้สึกว่า ตัวเองทำได้ไม่ดี ทำได้เกือบปี เจ้านายเก่า โทร.มาตาม บอกว่า บริษัทในเครือมีตำแหน่งว่า เป็น section manager ก็เลยไป
3. ที่นี่ เงินเดือนกระโดดมา 2 กลางๆ ความรับผิดชอบมากขึ้น เป็นงานที่รัก ที่ชอบ อยู่ไปอยู่มา ได้โปรโมทเป็น ผช.ผู้จัดการฝ่าย เงินเดือนขยับขึ้น 2 เท่า มีรถประจำตำแหน่งใช้
แล้วก็ไปขัดขาชาวบ้าน เลยโดนกระทืบลงมาตำแหน่งเดิม โดนลดเงินเดือน (ด้วยความฉลาด เลยไม่รู้ว่า มันผิดกฎหมาย) แล้วก็โดนย้ายแผนกไปดูงานซ่อมบำรุงรถบรรทุก แล้วก็โดนบีบออก ด้วยการลดตำแหน่งอีกรอบ เหลือ Engineer
ระหว่างนี้ ผมก็หางานใหม่ละ แต่ผมไม่เดินออกมาง่ายๆหรอก ถ้าจะออก ก็ 10 เดือน + ค่าตกใจ ตามกฎหมาย
4. จนได้ที่ใหม่ ไกลกว่าเดิม งานซ่อมบำรุง ตำแหน่ง Department Manager ผมเรียกเงินเดือนเท่าที่เก่าเลย
เค้าถามว่า "ทำไมเรียกน้อยจัง"
ผมบอกไปว่า "ก็ผมอยากให้บริษัทรับ แล้วดูฝีมือผมก่อน ถ้าผมทำงานดี ก็ค่อยขึ้นให้ผมแล้วกันครับ"
ผมอยู่ที่นี่มา 6 ปีละ ผมได้ขึ้นเงินเดือน 30% 1 ครั้ง / 15 % 1 ครั้ง นอกนั้นก็ปรับเท่าๆคนอื่นของบริษัท ... เงินเดือนขึ้นแบบก้าวกระโดดล่ะครับ มากกว่าเงินเดือนที่เค้ารับผมเข้ามาหลายเท่าละ
ปัจจุบัน ผมได้โปรโมทตำแหน่งใหม่ ละ อยู่ระหว่างรอดูผลงาน ถ้าผ่านก็ได้ปรับเงินเดือนขึ้นอีกครับ
.............
เล่าให้ฟัง เผื่อนำไปประยุกต์ใช้ ครับ
แสดงความคิดเห็น
ย้ายงาน VS อยู่ยาวๆ ทางไหนกันที่ความก้าวหน้ามากกว่า ?
"วิธีที่จะทำให้เงินเดือนเยอะขึ้นที่ดีที่สุด คือการย้ายงาน"
น้องคนนี้จึงอยากถามมุมมองจากพี่ๆหลายๆท่าน ทั้งที่ผ่านชีวิตการทำงานและยังทำอยู่
ว่าประโยคคลาสิคนี้ ยังคงทันสมัยอยู่ไหมคะ ? ในส่วนตัวของน้องคิดว่าจริงมากๆ
แล้วท่านทั้งหลายล่ะ คิดเห็นกันว่าอย่างไรบ้าง ??? ร่วมแบ่งปันมุมมองกันคะ