รีวิวเรื่องที่ 10/100
เพิ่งได้มีโอกาสไปดูในโรงหนังมาสดๆร้อนครับและคันมือมากเลยต้องรีวิวซักหน่อยครับ แต่ถ้ารีวิวโดยไม่พูดถึงเนื้อเรื่องหรือซีนต่างๆที่เกิดขึ้นก็จะกลายเป็นรีวิวที่ไม่สนุกครับเลยจะขออนุญาต Spoil เนื้อเรื่องและซีนต่างๆในหนังด้วยนะครับ สำหรับใครที่ยังไม่ได้ดูแนะนำให้ไปดูมาก่อนนะครับ
ช่วงแรกที่ Trailer ของInfinity War ถูกปล่อยออกก็มีข่าวที่น่าเชื่อถือได้เรื่องที่อาจจะมีตัวละครสำคัญตายในเรื่อง ซึ่งผมก็ไม่ได้แปลกใจอะไรมากครับเพราะถ้าจะให้เนื้อเรื่องเข้มข้นและแสดงให้เห็นถึงความยิ่งใหญ่ของThanos จะต้องมีการฆ่าเหล่าHeroโชว์ให้คนดูเห็นอยู่แล้ว อีกทั้งตอนนี้มีตัวละครเยอะเกินความจำเป็นบวกกับการที่มีนักแสดงหลายคนกำลังจะหมดสัญญากับทางค่ายอีกด้วย ผมจึงทำใจไว้บ้างว่าตัวละครบางตัวที่สำคัญอาจไม่ได้ไปต่อ ซึ่งในTrailerเราได้เห็นถึงความน่ากลัวของThanosครับเช่น ฉากบีบหัวThorบ้าง, ต่อยIronmanกระเด็นบ้าง, จับกดSpidermanจนกลายเป็นเด็กไปเลยบ้าง เลยคิดว่าหนังเรื่องนี้สร้างมาให้ThanosและสมุนทุบAvengerให้เละคามือเล่นอย่างแน่นอน ผมคิดว่าหนังเรื่องนี้เป็นงานที่หินมากของทางMarvelในการbalanceความเด่นของตัวละครแต่ละตัวเพราะต้องยอมรับว่ามีตัวละครเยอะมากจริงๆครับสังเกตุได้จากPoster อีกทั้งต้องแบกรับความกดดันจากความคาดหวังของคนดูอีกเพราะนี่จะเป็นหนังที่ถูกคาดหมายให้เป็นเรื่องที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของทางค่าย ส่วนจะเป็นไปตามความคาดหวังของแฟนๆไหมต้องลองมาดูกันครับ
เนื้อเรื่องหลักว่าด้วยการตามหาInfinity stoneของThanosครับ ซึ่งต้องบอกก่อนเลยนะครับว่าThanosกลายเป็นตัวเอกของเรื่องไปโดยปริยายโดยมีเหล่าHeroแยกทีมกันไปตามจุดต่างๆเพื่อพยายามหยุดยั้งThanos จริงๆทางStudio สามารถเปลี่ยนชื่อเรื่องเป็น Thanos and his infinity Stone ได้เลยครับเพราะพี่แกเด่นจริงๆ Characterของพี่แกต่างกับที่ผมคิดไว้เยอะมากพอสมควรครับ เพราะว่าจุดประสงค์ของThanosไม่ใช่การทำเพื่อความต้องการส่วนตัวครับแต่จุดประสงค์ของเขากลับแฝงไว้ด้วยเจตนาทำเพื่อจักรวาลซะงั้น(ในความคิดของเขาเอง) คือการที่กำจัดจำนวนประชากรที่ล้นกาแล็กซี่เพื่อสร้างสมดุลและความสงบสุขของผู้คน(อารมณ์เล่นบทพระเจ้าล้างโลกแล้วสร้างสมดุลอะไรประมาณนั้นครับ)ซึ่งเอาจริงก็มีความคล้ายคลึงกับเจตนาของUltronนะครับคือล้างบางมนุษย์เพื่อรักษาโลกแต่Thanosจะมีดูมีเหตุผลมากกว่าคือล้างให้เหลือประชากรครึ่งหนึ่งครับไม่ใช่ล้างทั้งหมด ตอนแรกผมคาดหวังให้Thanosเป็นตัวร้ายบ้าคลั่งและร้ายกาจเหมือนในคอมมิคที่Thanosทำการล้างจักรวาลเพื่อความรักเห็นแก่ตัวที่มีต่อเทพแห่งความตายอย่างเดธ หรืออารมณ์Jokerที่ต้องการเห็นความพินาศของผู้คนเพื่อพิสูจน์ความคิดของตนเองอะไรประมาณนั้น
ขณะเดียวกันการที่Thanosเป็นแบบนี้ก็ทำให้ตัวละครมีความลึกซึ้งและน่าสนใจมากขึ้นครับ เราจะเห็นได้ว่าในเรื่องThanosแทบไม่มีอาการแสดงความสะใจในสีหน้าหรือยิ้มแบบตัวร้ายให้เห็นมากนัก หน้าของเขาส่วนมากจะแสดงอารมณ์เข้มขรึมดูน่าเกรงขามมากกว่าโดยส่วนตัวผมว่าขัดกับภาพที่เราได้เห็นก่อนหน้านี้เช่น ในAfter CreditในAvengerที่หันมายิ้มจนหน้าขนลุกหรือในAge of Ultronที่เดินยิ้มโหดๆไปใส่ถุงมือ ตัวหนังมีการแบ่งทีมกันไปทำภารกิจได้อย่างลงตัวครับอีกทั้งยังแสดงให้เห็นถึงความสามารถของInfinity Stoneแต่ละเม็ดได้อย่างชัดเจนดี(สังเกตเวลาพี่แกใช้พลังนะครับถ้าเม็ดไหนมีแสงแสดงว่าใช้พลังเม็ดนั้นซึ่งบางครั้งก็ใช้พลังพร้อมกันสองเม็ดเลยก็บ่อย) สำหรับฝั่งHERO ผมว่าcharacterที่เด่นมากมาแรงแซงโค้งเลยเห็นจะเป็นGamoraครับเพราะนางมีซีนเดี่ยวของตัวเองเยอะมากเพราะนางมีความผูกพันธ์กับThanosในฐานะพ่อลูก อีกทั้งยังเป็นคนที่เฉลยให้เรารู้ด้วยว่าSoul Stoneที่จริงแล้วนั้นอยู่ที่ไหน ในเรื่องคุณจะได้เห็นถึงความสัมพันธ์พ่อลูกระหว่างThanosกับGamoraค่อนข้างเยอะพอสมควรครับซึ่งผมว่าทางMarvelทำออกมาได้ดีเลยทีเดียวทั้งบทพูดการแสดงสีหน้าของทั้งคู่ ใครจะไปคิดครับว่าจะได้เห็นตัวร้ายมหาโหดร้องไห้โชว์ซะงั้น!! ซึ่งซีนตอนที่ได้มาซึ่งSoul Stoneนั้นจะเห็นได้อย่างชัดเจนว่าThanosต้องการทำเพื่อจักรวาลไม่ใช่เพื่อตนเองครับ เพราะThanosรักGamoraมากถึงขนาดบอกว่าอยากให้หล่อนมานั่งเก้าอี้ต่อจากตนเลยด้วยซ้ำ แต่เพื่อให้ได้มาซึ่งSoul Stoneแม้จะต้องเสียลูกรักไปก็ยอม หนังยังแสดงให้เห็นอีกว่าThanosไม่ได้แยแสNebulaเลยสักนิด(รักลูกไม่เท่ากันน่าน้อยใจแทนเหมือนกันนะครับ) ส่วนHeroหลักๆกระจายบทกันได้ดีครับระหว่างตัวหลักอย่างThor, Ironman, Dr.Strange, Peter QuillและSpiderman ส่วนCaptain, Black Widow บทกลับdropลงไปอย่างเห็นได้ชัดครับมีบทบู๊เป็นส่วนใหญ่ ส่วนบทพูดเด็ดๆจากCaptainแทบไม่มีให้เห็นเหมือนภาคก่อนๆเลย Rocketยังคงเด่นใช่ได้แต่ดูเหมือนว่าจะปากร้ายน้อยลงไปนะครับในภาคนี้ส่วนGrootเป็นวัยรุ่นติดเกมส์ครับเล่นเกมส์เกือบทั้งเรื่องเลย55 Bruce BannerและDraxยังคงเป็นตัวละครสร้างเสียงหัวเราะได้ดีในหลายๆจังหวะครับต้องยอมรับว่าโดยเฉพาะDraxนี่มาถูกจังหวะมาก และในภาคนี้เรายังได้เห็นความรักของVisionและ Scarlet Witchอีกด้วยครับหลังจากภาคก่อนๆเห็นถึงความสนิทสนมของสองตัวละครนี้ พูดถึงVisionเหมือนคนป่วยที่รอการรักษาตลอดครับตั้งแต่โดนหอกของCorvus Glaiveเข้าไปในช่วงต้นเรื่อง ภาพของVisionที่ไร้เทียมทานจากภาคก่อนๆได้หายไปเลยครับ และมิซ้ำแล้วอีกยังโดนThanosย้อนเวลาไปดึงMind Stoneอย่างโหดเหี้ยมครับ เป็นตัวละครที่น่าสงสารจริงๆในเรื่องนี้ ส่วนในฉากต่อสู้ที่Wakandaก็มีฝ่าบาทBlack Panther, Okoye และBuckyที่เน้นไปแต่บทบู๊ซะมากกว่า
มาทางฝั่งBlack Order ผิดหวังมากกับ4นักรบของThanos ยอมรับเลยว่าคาดหวังว่าจะเก่งกว่านี้และตอนแรกคิดว่าน่าจะมีสักตัวสองตัวที่อยู่รอดเพื่อช่วยThanosในภาคต่อไปแต่สุดท้ายท่าดีทีเหลวครับ เริ่มตั้งแต่ Ebony Maw ซึ่งตอนฉากบุกNew Yorkนี่โคตรเก่งครับเรียกได้ว่าทำเอาDr. Strangeสิ้นลายเลย แต่หันพลาดท่าตอนอยู่บนยานอวกาศด้วยมุขหนังAlienง่ายๆซะงั้น Proxima MidnightและCorvus Glaive คู่หูหอกไม่มีอะไรโดดเด่นครับร้ายกาจพอตัวแต่ถึงบทจะตายก็ง่ายเหลือเกิน Cull Obsidianเจ้ายักษ์ใหญ่สู้กับHulk Busterให้สูสีครับแต่ก็ไม่ได้มีอะไรน่าจดจำเช่นกัน คิดว่านอกจากEbony Maw Marvelควรจะมีลูกเล่นให้กับทีมตัวร้ายสุดแกร่งทีมนี้มากกว่านี้ครับ ไม่ใช่มีดีแค่ความแข็งแกร่งความเร็วเท่านั้น
ว่ากันด้วยเรื่องตัวละครตายนะครับถ้าดูมาแล้วจะรู้ว่าการตายในเรื่องแบ่งเป็นสองแบบ หนึ่งคือการตายก่อนThanosใช้พลังจากถุงมือและหลังใช้พลังนะครับ ซึ่งผมคิดว่าพวกที่หนึ่งที่ตายเนี่ยน่าจะเป็นตายแบบไม่กลับเช่น Loki, Heimdall, VisionและGamora ส่วนของGamoraยังข้องใจอยู่ว่าวิญญาณเธอถูกผนึกไปกับ Soul Stoneหรือเปล่า(เพราะในซีนท้ายที่Thanosโผล่ไปเจอGamoraวัยเด็กในสถานที่สีแดงนั้นเอง) ส่วนตัวละครอื่นๆที่สลายไปเพราะพลังของInfinity Stoneผมเชื่อว่าในภาคต่อไปยังมีสิทธิกลับมาได้นะครับ เพราะผมเชื่อว่าDr. Strangeน่าจะเห็นความเป็นไปได้ที่ชนะThanosตอนที่เขาใช้Time Stoneไปดูเหตุการณ์ความเป็นไปได้ที่จะเอาชนะThanosและเขาได้พบว่ามีโอกาส1ครั้งใน1,400ล้านครั้ง ซึ่งโอกาส1ครั้งนั้นอาจจะเป็นเหตุผลที่ทำให้เขายอมแลกTime StoneกับชีวิตของTony Starkมั้งครับ แม้จะไม่ได้ชนะตอนนี้แต่น่าจะส่งผลถึงชัยชนะในภาคต่อไปครับ ตัวละครกว่าครึ่งที่สลายไปจึงมีความเป็นไปได้ที่จะกลับมาได้ในภาคต่อไปนะครับ(อาจจะทำลายถุงมือแล้วล้างอำนาจหรือใช้Time Stoneย้อนเวลา อันนี้เดามั่วเองนะครับ) ต้องยอมรับว่าผมค่อนข้างช๊อคเหมือนกันที่ThanosรวบรวมInfinity Stoneทั้งหมดได้ในภาคนี้ภาคเดียวตอนแรกคิดว่าจะตามหาต่อในภาคต่อไปซะอีก ทำให้เดาไม่ถูกเลยครับว่าภาคต่อไปจะเกิดอะไรขึ้นต่อ มีข่าวว่าภาคต่อไปจะเป็น5ปีหลังจากเหตุการณ์ในภาคนี้นะครับเลยทำให้เดาไม่ออกไปกันใหญ่ ถือว่าทางMarvelค่อนข้างกล้าเหมือนกันที่ทำให้ตัวละครดังๆของทางค่ายหลายตัวอย่างSpiderman, Starlord, Dr.Strange,Black Pantherตายทั้งๆที่ตัวละครเหล่านี้ยังเหลือหนังภาคต่อของตนเองอีก(ส่วนOriginal Avengerอย่างIronman, Captain, Thor, Hulk, Black Widow รอดหมดนะครับ)
รีวิวตัวละคร(จะขอพูดแต่ตัวละครหลักๆนะครับ)
Thanos (Josh Brolin) เป็นบทที่มีความดราม่ามาพอๆกับบทบู๊เลยครับ แต่นักแสดงหน้าเก๋าผู้นี้ก็ทำออกมาได้ยอดเยี่ยมครับ ต้องคอยดูทิศทางในภาคต่อไปว่าThanosจะทำอะไรต่อไปนะครับ
Tony Stark/Ironman (Robert Downey Jr.) มีความเป็นไปได้สูงที่ภาคหน้าจะเป็นภาคสุดท้ายของเฮียครับ ยังคงการแสดงได้ตามมาตรฐานครับแม้เรื่องความกวนจะน้อยลงไปเยอะเมื่อเทียบกับ Peter Quill
Thor(Chris Hemsworth) บทเด่นมากครับและต้องบอกว่าเป็นหนึ่งในตัวละครที่น่าเห็นใจมากเพราะชีวิตบัดสบจริงๆครับ ทั้งแม่ตาย พ่อตาย จำเป็นต้องฆ่าพี่สาวตัวเอง น้องชายกำลังจะดีก็ถูกฆ่าอีก ชอบมากครับตอนที่ThorคุยกับRocketแม้เขาพยายามจะคุยให้เป็นเรื่องขำแต่ก็เก็บน้ำตาลูกผู้ชายไว้ไม่อยู่
Steve Rogers / Captain America (Chris Evans) บทพูดน้อยมากครับเพราะหนวดที่บังหน้าหล่อๆของเขาด้วยทำให้ผมรู้สึกว่าภาคนี้ไม่ค่อยรับรู้ถึงการแสดงออกทางสีหน้าของCaptainสักเท่าไหร่ เหมือนมีแค่อารมณ์เดียว
Bruce Banner / Hulk (Mark Ruffalo) ภาคนี้Hulkมาแค่ซีนแรกซีนเดียวนะครับส่วนที่เหลือ Banner มาเป็นสีสันให้เรื่องครับ ผมว่าทำไปทำมาบทของ Bruce BannerและHulkยิ่งอ่อนลงเรื่อยๆครับกลายเป็นตัวสร้างเสียงหัวเราะซะมากกว่า เลยคิดว่า%ที่จะได้มีหนังเดี่ยวของตัวเองยิ่งต่ำลงไปเรื่อยๆครับ
Peter Parker / Spider-Man(Tom Holland)บทค่อนข้างเด่นครับและหนุ่มTomก็เล่นได้ดีฉากสุดท้ายก่อนโดนสลายที่คร่ำครวญกับTony Stark แสดงให้เห็นว่าแม้เขาจะแข็งแกร่งแค่ไหนเขาก็ยังเป็นแค่เด็กน้อยคนหนึ่งเท่านั้น
Doctor Strange(Benedict Cumberbatch) เป็นบทที่มีซีนค่อนข้างเยอะและเป็นประโยชน์กับทีมอย่างมหาศาลครับ ส่วนเรื่องการแสดงหายห่วงเพราะ Benedict เป็นถึงนักแสดงที่เคยเข้าชิงOSCARอยู่แล้ว หวังว่าจะcomebackมาในภาคต่อไปให้ได้นะครับ เพราะผมเฝ้ารอหนังของDr. Strange ภาคสองอยู่
Peter Quill / Star-Lord(Chris Pratt)ภาคนี้เราจะได้เห็นความรักระหว่างPeterกับGamoraอยู่บ้างครับ และมีซีนวางแผนกับTonyและSpiderman ซึ่งทำให้เห็นว่า Starlordยังคงเป็นตัวละครที่โดดเด่นเชิดฉายอยู่เหมือนเดิมครับ (อีกทั้งดันสติแตกจนทำให้เสียแผนเองอีกต่างหาก)
Gamora (Zoe Saldana) อย่างที่บอกไปข้างต้นว่าบทเด่นมาก และบทที่เธอเล่นในเรื่องนี้ส่วนมากดันเป็นดราม่าเยอะมากกกว่าบู๊ซะด้วยครับ แต่Zoeยังแสดงออกมาได้ดีจนทำให้เราอินในทุกๆซีนของเธอ
จะพูดสรุปนะครับว่าหนังเรืองนี้ให้อะไรคุณได้บ้าง อย่างแรกเลยฉากต่อสู้ในเรื่องค่อนข้างจัดเต็มและทำออกมาได้ดีมากถึงมากที่สุดครับเป็นสิ่งที่ยอดเยี่ยมและทำมาได้ตามความคาดหวังครับสำหรับหนังSuper Hero สองหนังเรื่องนี้มีความลึกซึ้งของตัวละครและเนื้อหาที่เข้มข้นทำให้เป็นได้มากกว่าแค่หนังSuper Heroต่อยตีกันตามปกติครับ เพราะThanos(ตัวเอกของเรื่อง)มีเจตนารมณ์และหลัการณ์อันแกร่งกล้าแม้จะบิดเบี้ยวก็ตาม
สรุปคือ Avenger infinity war คุ้มค่าแก่การรอยคอยครับ และThanosเป็นตัวร้ายที่คู่ควรจริงๆที่รอคอยมาตั้งแต่Avengerภาคแรก ทิศทางของหนังภาคต่อไปและหนังMarvelในอนาคตไม่สามารถคาดเดาได้จริงๆครับ เพราะทางStudioพร้อมที่จะหักอกของคนดูตลอดเวลาจริงๆ อย่างไรก็แล้วแต่ได้แต่หวังว่าจะมีแสงสว่างสำหรับHero Marvelอีกครั้งนะครับ
บทภาพยนต์: 9/10
ความสนุก: 10/10
การตัดต่อภาพและเสียง:8/10
[CR] รีวิว " Avenger infinity war (SPOIL ALERT)" (รีวิวหนัง100เรื่อง/100วัน)
ช่วงแรกที่ Trailer ของInfinity War ถูกปล่อยออกก็มีข่าวที่น่าเชื่อถือได้เรื่องที่อาจจะมีตัวละครสำคัญตายในเรื่อง ซึ่งผมก็ไม่ได้แปลกใจอะไรมากครับเพราะถ้าจะให้เนื้อเรื่องเข้มข้นและแสดงให้เห็นถึงความยิ่งใหญ่ของThanos จะต้องมีการฆ่าเหล่าHeroโชว์ให้คนดูเห็นอยู่แล้ว อีกทั้งตอนนี้มีตัวละครเยอะเกินความจำเป็นบวกกับการที่มีนักแสดงหลายคนกำลังจะหมดสัญญากับทางค่ายอีกด้วย ผมจึงทำใจไว้บ้างว่าตัวละครบางตัวที่สำคัญอาจไม่ได้ไปต่อ ซึ่งในTrailerเราได้เห็นถึงความน่ากลัวของThanosครับเช่น ฉากบีบหัวThorบ้าง, ต่อยIronmanกระเด็นบ้าง, จับกดSpidermanจนกลายเป็นเด็กไปเลยบ้าง เลยคิดว่าหนังเรื่องนี้สร้างมาให้ThanosและสมุนทุบAvengerให้เละคามือเล่นอย่างแน่นอน ผมคิดว่าหนังเรื่องนี้เป็นงานที่หินมากของทางMarvelในการbalanceความเด่นของตัวละครแต่ละตัวเพราะต้องยอมรับว่ามีตัวละครเยอะมากจริงๆครับสังเกตุได้จากPoster อีกทั้งต้องแบกรับความกดดันจากความคาดหวังของคนดูอีกเพราะนี่จะเป็นหนังที่ถูกคาดหมายให้เป็นเรื่องที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของทางค่าย ส่วนจะเป็นไปตามความคาดหวังของแฟนๆไหมต้องลองมาดูกันครับ
เนื้อเรื่องหลักว่าด้วยการตามหาInfinity stoneของThanosครับ ซึ่งต้องบอกก่อนเลยนะครับว่าThanosกลายเป็นตัวเอกของเรื่องไปโดยปริยายโดยมีเหล่าHeroแยกทีมกันไปตามจุดต่างๆเพื่อพยายามหยุดยั้งThanos จริงๆทางStudio สามารถเปลี่ยนชื่อเรื่องเป็น Thanos and his infinity Stone ได้เลยครับเพราะพี่แกเด่นจริงๆ Characterของพี่แกต่างกับที่ผมคิดไว้เยอะมากพอสมควรครับ เพราะว่าจุดประสงค์ของThanosไม่ใช่การทำเพื่อความต้องการส่วนตัวครับแต่จุดประสงค์ของเขากลับแฝงไว้ด้วยเจตนาทำเพื่อจักรวาลซะงั้น(ในความคิดของเขาเอง) คือการที่กำจัดจำนวนประชากรที่ล้นกาแล็กซี่เพื่อสร้างสมดุลและความสงบสุขของผู้คน(อารมณ์เล่นบทพระเจ้าล้างโลกแล้วสร้างสมดุลอะไรประมาณนั้นครับ)ซึ่งเอาจริงก็มีความคล้ายคลึงกับเจตนาของUltronนะครับคือล้างบางมนุษย์เพื่อรักษาโลกแต่Thanosจะมีดูมีเหตุผลมากกว่าคือล้างให้เหลือประชากรครึ่งหนึ่งครับไม่ใช่ล้างทั้งหมด ตอนแรกผมคาดหวังให้Thanosเป็นตัวร้ายบ้าคลั่งและร้ายกาจเหมือนในคอมมิคที่Thanosทำการล้างจักรวาลเพื่อความรักเห็นแก่ตัวที่มีต่อเทพแห่งความตายอย่างเดธ หรืออารมณ์Jokerที่ต้องการเห็นความพินาศของผู้คนเพื่อพิสูจน์ความคิดของตนเองอะไรประมาณนั้น
ขณะเดียวกันการที่Thanosเป็นแบบนี้ก็ทำให้ตัวละครมีความลึกซึ้งและน่าสนใจมากขึ้นครับ เราจะเห็นได้ว่าในเรื่องThanosแทบไม่มีอาการแสดงความสะใจในสีหน้าหรือยิ้มแบบตัวร้ายให้เห็นมากนัก หน้าของเขาส่วนมากจะแสดงอารมณ์เข้มขรึมดูน่าเกรงขามมากกว่าโดยส่วนตัวผมว่าขัดกับภาพที่เราได้เห็นก่อนหน้านี้เช่น ในAfter CreditในAvengerที่หันมายิ้มจนหน้าขนลุกหรือในAge of Ultronที่เดินยิ้มโหดๆไปใส่ถุงมือ ตัวหนังมีการแบ่งทีมกันไปทำภารกิจได้อย่างลงตัวครับอีกทั้งยังแสดงให้เห็นถึงความสามารถของInfinity Stoneแต่ละเม็ดได้อย่างชัดเจนดี(สังเกตเวลาพี่แกใช้พลังนะครับถ้าเม็ดไหนมีแสงแสดงว่าใช้พลังเม็ดนั้นซึ่งบางครั้งก็ใช้พลังพร้อมกันสองเม็ดเลยก็บ่อย) สำหรับฝั่งHERO ผมว่าcharacterที่เด่นมากมาแรงแซงโค้งเลยเห็นจะเป็นGamoraครับเพราะนางมีซีนเดี่ยวของตัวเองเยอะมากเพราะนางมีความผูกพันธ์กับThanosในฐานะพ่อลูก อีกทั้งยังเป็นคนที่เฉลยให้เรารู้ด้วยว่าSoul Stoneที่จริงแล้วนั้นอยู่ที่ไหน ในเรื่องคุณจะได้เห็นถึงความสัมพันธ์พ่อลูกระหว่างThanosกับGamoraค่อนข้างเยอะพอสมควรครับซึ่งผมว่าทางMarvelทำออกมาได้ดีเลยทีเดียวทั้งบทพูดการแสดงสีหน้าของทั้งคู่ ใครจะไปคิดครับว่าจะได้เห็นตัวร้ายมหาโหดร้องไห้โชว์ซะงั้น!! ซึ่งซีนตอนที่ได้มาซึ่งSoul Stoneนั้นจะเห็นได้อย่างชัดเจนว่าThanosต้องการทำเพื่อจักรวาลไม่ใช่เพื่อตนเองครับ เพราะThanosรักGamoraมากถึงขนาดบอกว่าอยากให้หล่อนมานั่งเก้าอี้ต่อจากตนเลยด้วยซ้ำ แต่เพื่อให้ได้มาซึ่งSoul Stoneแม้จะต้องเสียลูกรักไปก็ยอม หนังยังแสดงให้เห็นอีกว่าThanosไม่ได้แยแสNebulaเลยสักนิด(รักลูกไม่เท่ากันน่าน้อยใจแทนเหมือนกันนะครับ) ส่วนHeroหลักๆกระจายบทกันได้ดีครับระหว่างตัวหลักอย่างThor, Ironman, Dr.Strange, Peter QuillและSpiderman ส่วนCaptain, Black Widow บทกลับdropลงไปอย่างเห็นได้ชัดครับมีบทบู๊เป็นส่วนใหญ่ ส่วนบทพูดเด็ดๆจากCaptainแทบไม่มีให้เห็นเหมือนภาคก่อนๆเลย Rocketยังคงเด่นใช่ได้แต่ดูเหมือนว่าจะปากร้ายน้อยลงไปนะครับในภาคนี้ส่วนGrootเป็นวัยรุ่นติดเกมส์ครับเล่นเกมส์เกือบทั้งเรื่องเลย55 Bruce BannerและDraxยังคงเป็นตัวละครสร้างเสียงหัวเราะได้ดีในหลายๆจังหวะครับต้องยอมรับว่าโดยเฉพาะDraxนี่มาถูกจังหวะมาก และในภาคนี้เรายังได้เห็นความรักของVisionและ Scarlet Witchอีกด้วยครับหลังจากภาคก่อนๆเห็นถึงความสนิทสนมของสองตัวละครนี้ พูดถึงVisionเหมือนคนป่วยที่รอการรักษาตลอดครับตั้งแต่โดนหอกของCorvus Glaiveเข้าไปในช่วงต้นเรื่อง ภาพของVisionที่ไร้เทียมทานจากภาคก่อนๆได้หายไปเลยครับ และมิซ้ำแล้วอีกยังโดนThanosย้อนเวลาไปดึงMind Stoneอย่างโหดเหี้ยมครับ เป็นตัวละครที่น่าสงสารจริงๆในเรื่องนี้ ส่วนในฉากต่อสู้ที่Wakandaก็มีฝ่าบาทBlack Panther, Okoye และBuckyที่เน้นไปแต่บทบู๊ซะมากกว่า
มาทางฝั่งBlack Order ผิดหวังมากกับ4นักรบของThanos ยอมรับเลยว่าคาดหวังว่าจะเก่งกว่านี้และตอนแรกคิดว่าน่าจะมีสักตัวสองตัวที่อยู่รอดเพื่อช่วยThanosในภาคต่อไปแต่สุดท้ายท่าดีทีเหลวครับ เริ่มตั้งแต่ Ebony Maw ซึ่งตอนฉากบุกNew Yorkนี่โคตรเก่งครับเรียกได้ว่าทำเอาDr. Strangeสิ้นลายเลย แต่หันพลาดท่าตอนอยู่บนยานอวกาศด้วยมุขหนังAlienง่ายๆซะงั้น Proxima MidnightและCorvus Glaive คู่หูหอกไม่มีอะไรโดดเด่นครับร้ายกาจพอตัวแต่ถึงบทจะตายก็ง่ายเหลือเกิน Cull Obsidianเจ้ายักษ์ใหญ่สู้กับHulk Busterให้สูสีครับแต่ก็ไม่ได้มีอะไรน่าจดจำเช่นกัน คิดว่านอกจากEbony Maw Marvelควรจะมีลูกเล่นให้กับทีมตัวร้ายสุดแกร่งทีมนี้มากกว่านี้ครับ ไม่ใช่มีดีแค่ความแข็งแกร่งความเร็วเท่านั้น
ว่ากันด้วยเรื่องตัวละครตายนะครับถ้าดูมาแล้วจะรู้ว่าการตายในเรื่องแบ่งเป็นสองแบบ หนึ่งคือการตายก่อนThanosใช้พลังจากถุงมือและหลังใช้พลังนะครับ ซึ่งผมคิดว่าพวกที่หนึ่งที่ตายเนี่ยน่าจะเป็นตายแบบไม่กลับเช่น Loki, Heimdall, VisionและGamora ส่วนของGamoraยังข้องใจอยู่ว่าวิญญาณเธอถูกผนึกไปกับ Soul Stoneหรือเปล่า(เพราะในซีนท้ายที่Thanosโผล่ไปเจอGamoraวัยเด็กในสถานที่สีแดงนั้นเอง) ส่วนตัวละครอื่นๆที่สลายไปเพราะพลังของInfinity Stoneผมเชื่อว่าในภาคต่อไปยังมีสิทธิกลับมาได้นะครับ เพราะผมเชื่อว่าDr. Strangeน่าจะเห็นความเป็นไปได้ที่ชนะThanosตอนที่เขาใช้Time Stoneไปดูเหตุการณ์ความเป็นไปได้ที่จะเอาชนะThanosและเขาได้พบว่ามีโอกาส1ครั้งใน1,400ล้านครั้ง ซึ่งโอกาส1ครั้งนั้นอาจจะเป็นเหตุผลที่ทำให้เขายอมแลกTime StoneกับชีวิตของTony Starkมั้งครับ แม้จะไม่ได้ชนะตอนนี้แต่น่าจะส่งผลถึงชัยชนะในภาคต่อไปครับ ตัวละครกว่าครึ่งที่สลายไปจึงมีความเป็นไปได้ที่จะกลับมาได้ในภาคต่อไปนะครับ(อาจจะทำลายถุงมือแล้วล้างอำนาจหรือใช้Time Stoneย้อนเวลา อันนี้เดามั่วเองนะครับ) ต้องยอมรับว่าผมค่อนข้างช๊อคเหมือนกันที่ThanosรวบรวมInfinity Stoneทั้งหมดได้ในภาคนี้ภาคเดียวตอนแรกคิดว่าจะตามหาต่อในภาคต่อไปซะอีก ทำให้เดาไม่ถูกเลยครับว่าภาคต่อไปจะเกิดอะไรขึ้นต่อ มีข่าวว่าภาคต่อไปจะเป็น5ปีหลังจากเหตุการณ์ในภาคนี้นะครับเลยทำให้เดาไม่ออกไปกันใหญ่ ถือว่าทางMarvelค่อนข้างกล้าเหมือนกันที่ทำให้ตัวละครดังๆของทางค่ายหลายตัวอย่างSpiderman, Starlord, Dr.Strange,Black Pantherตายทั้งๆที่ตัวละครเหล่านี้ยังเหลือหนังภาคต่อของตนเองอีก(ส่วนOriginal Avengerอย่างIronman, Captain, Thor, Hulk, Black Widow รอดหมดนะครับ)
รีวิวตัวละคร(จะขอพูดแต่ตัวละครหลักๆนะครับ)
Thanos (Josh Brolin) เป็นบทที่มีความดราม่ามาพอๆกับบทบู๊เลยครับ แต่นักแสดงหน้าเก๋าผู้นี้ก็ทำออกมาได้ยอดเยี่ยมครับ ต้องคอยดูทิศทางในภาคต่อไปว่าThanosจะทำอะไรต่อไปนะครับ
Tony Stark/Ironman (Robert Downey Jr.) มีความเป็นไปได้สูงที่ภาคหน้าจะเป็นภาคสุดท้ายของเฮียครับ ยังคงการแสดงได้ตามมาตรฐานครับแม้เรื่องความกวนจะน้อยลงไปเยอะเมื่อเทียบกับ Peter Quill
Thor(Chris Hemsworth) บทเด่นมากครับและต้องบอกว่าเป็นหนึ่งในตัวละครที่น่าเห็นใจมากเพราะชีวิตบัดสบจริงๆครับ ทั้งแม่ตาย พ่อตาย จำเป็นต้องฆ่าพี่สาวตัวเอง น้องชายกำลังจะดีก็ถูกฆ่าอีก ชอบมากครับตอนที่ThorคุยกับRocketแม้เขาพยายามจะคุยให้เป็นเรื่องขำแต่ก็เก็บน้ำตาลูกผู้ชายไว้ไม่อยู่
Steve Rogers / Captain America (Chris Evans) บทพูดน้อยมากครับเพราะหนวดที่บังหน้าหล่อๆของเขาด้วยทำให้ผมรู้สึกว่าภาคนี้ไม่ค่อยรับรู้ถึงการแสดงออกทางสีหน้าของCaptainสักเท่าไหร่ เหมือนมีแค่อารมณ์เดียว
Bruce Banner / Hulk (Mark Ruffalo) ภาคนี้Hulkมาแค่ซีนแรกซีนเดียวนะครับส่วนที่เหลือ Banner มาเป็นสีสันให้เรื่องครับ ผมว่าทำไปทำมาบทของ Bruce BannerและHulkยิ่งอ่อนลงเรื่อยๆครับกลายเป็นตัวสร้างเสียงหัวเราะซะมากกว่า เลยคิดว่า%ที่จะได้มีหนังเดี่ยวของตัวเองยิ่งต่ำลงไปเรื่อยๆครับ
Peter Parker / Spider-Man(Tom Holland)บทค่อนข้างเด่นครับและหนุ่มTomก็เล่นได้ดีฉากสุดท้ายก่อนโดนสลายที่คร่ำครวญกับTony Stark แสดงให้เห็นว่าแม้เขาจะแข็งแกร่งแค่ไหนเขาก็ยังเป็นแค่เด็กน้อยคนหนึ่งเท่านั้น
Doctor Strange(Benedict Cumberbatch) เป็นบทที่มีซีนค่อนข้างเยอะและเป็นประโยชน์กับทีมอย่างมหาศาลครับ ส่วนเรื่องการแสดงหายห่วงเพราะ Benedict เป็นถึงนักแสดงที่เคยเข้าชิงOSCARอยู่แล้ว หวังว่าจะcomebackมาในภาคต่อไปให้ได้นะครับ เพราะผมเฝ้ารอหนังของDr. Strange ภาคสองอยู่
Peter Quill / Star-Lord(Chris Pratt)ภาคนี้เราจะได้เห็นความรักระหว่างPeterกับGamoraอยู่บ้างครับ และมีซีนวางแผนกับTonyและSpiderman ซึ่งทำให้เห็นว่า Starlordยังคงเป็นตัวละครที่โดดเด่นเชิดฉายอยู่เหมือนเดิมครับ (อีกทั้งดันสติแตกจนทำให้เสียแผนเองอีกต่างหาก)
Gamora (Zoe Saldana) อย่างที่บอกไปข้างต้นว่าบทเด่นมาก และบทที่เธอเล่นในเรื่องนี้ส่วนมากดันเป็นดราม่าเยอะมากกกว่าบู๊ซะด้วยครับ แต่Zoeยังแสดงออกมาได้ดีจนทำให้เราอินในทุกๆซีนของเธอ
จะพูดสรุปนะครับว่าหนังเรืองนี้ให้อะไรคุณได้บ้าง อย่างแรกเลยฉากต่อสู้ในเรื่องค่อนข้างจัดเต็มและทำออกมาได้ดีมากถึงมากที่สุดครับเป็นสิ่งที่ยอดเยี่ยมและทำมาได้ตามความคาดหวังครับสำหรับหนังSuper Hero สองหนังเรื่องนี้มีความลึกซึ้งของตัวละครและเนื้อหาที่เข้มข้นทำให้เป็นได้มากกว่าแค่หนังSuper Heroต่อยตีกันตามปกติครับ เพราะThanos(ตัวเอกของเรื่อง)มีเจตนารมณ์และหลัการณ์อันแกร่งกล้าแม้จะบิดเบี้ยวก็ตาม
บทภาพยนต์: 9/10
ความสนุก: 10/10
การตัดต่อภาพและเสียง:8/10