Park bom อดีตสมาชิก 2NE1 ให้สัมภาษณ์ครั้งแรกประเด็น “ติดยา” และอาการป่วยที่ไม่เคยบอกใคร

ในวันที่ 24 เม.ย ที่ผ่านมา รายการ PD Notebook ทางช่อง MBC ได้หยิบเอาประเด็นยาเสพติดและอายุที่แท้จริงของ Park Bom อดีตสมาชิกเกิร์ลกรุ๊ป 2NE1 กลับมาพูดอีกครั้ง, เพียง 1 วันหลังจากที่รายการออนแอร์ไป ชื่อของ Park Bom ถูกเซิร์ชมากที่สุดในเวลาต่อมา และตกเป็นที่วิพากย์วิจารณ์ของชาวเน็ตจำนวนมาก

ล่าสุดวานนี้ Park Bom ได้เข้าพบกับสำนักข่าว Sport Kyunghyang เพื่อให้สัมภาษณ์ชี้แจงส่วนตัวเกี่ยวกับประเด็นในอดีตของเธอ ซึ่งถือว่าเป็นครั้งแรกในรอบ 4 ปี ที่เธอปรากฏตัวต่อหน้าสื่อ









“คนสนิทบอกฉันมาค่ะ ฉันถึงได้มีโอกาสดูรายการ PD Notebook พร้อมกันกับพ่อแม่ของฉัน ครั้งนี้ดูเหมือนว่าพวกท่านจะมีภูมิคุ้มกันเกี่ยวกับข่าวติดยาของฉันไปแล้ว พวกท่านทำเพียงแค่ถอนหายใจออกมา มันยากนะที่ต้องเห็นพวกท่านเป็นแบบนี้ ครั้งแรกที่ข่าวลือถูกปล่อยออกมา พวกท่านถามฉันว่า “เธอเล่นยาจริงๆหรอ?” แต่ในครั้งนี้พวกท่านแค่ถอนหายใจ”



“ถ้าฉันเคยเล่นยาจริงๆ ฉันจะไม่รู้สึกแย่แบบนี้เลย แต่นี่ฉันไม่แม้แต่เคยแตะมันซักครั้ง ฉันไม่เคยเล่นยา และฉันเคยโดนตรวจสอบด้วย ผลตรวจคือฉันบริสุทธิ์”



“ฉันมีอาการป่วยส่วนตัวค่ะ มีความจำเป็นต้องใช้ยาตั้งแต่มัธยมปลาย ฉันเป็นโรค ADD (โรคสมาธิสั้น) โรคนี้ไม่ค่อยเป็นที่รู้จักในเกาหลีมากนัก โทมัส เอดิสัน ที่ถูกยกย่องว่าเป็น “ยอดนักประดิษฐ์” แห่งประวัติศาสตร์ ท่านก็เป็นโรคนี้เช่นเดียวกับฉันค่ะ โรคนี้เพิ่งเป็นที่รู้จักเมื่อไม่นานมานี้ แต่ปัจจุบันที่นี่ยังไม่มียาที่รักษาได้เฉพาะทาง ฉันจึงจำเป็นต้องใช้ยาที่รักษาโรค AHAD (โรคไฮเปอร์) ผลการรักษาจึงไม่ดีเท่าที่ควรและฉันก็ต้องอดทนกับมันเป็นอย่างมาก”




/เท่าที่หาข้อมูลมา จริงๆ แล้ว ADD กับ AHAD มีอาการคล้ายๆ กัน แต่ ADD อาจหมายถึงอาการสมาธิสั้นแต่ไม่ซน ไม่กระทบกับการใช้ชีวิตมากนัก และยารักษาสำหรับ  ADD ในเกาหลีที่ Bom เคยใช้ตอนอยู่ที่อเมริกาไม่ถูกกฎหมายในเกาหลี จึงจำเป็นต้องใช้ยารักษา AHAD แทน (ผู้ป่วย ADD มักมีอาการซึมเศร้าแทรกซ้อนด้วย) ถ้ามีส่วนใดผิดพลาดแย้งได้นะคะ
อ้างอิง https://www.honestdocs.co/adhd



“ฉันถูกประนามว่าเป็นผู้ต้องหาลักลอบยาเสพติดเข้าประเทศเมื่อฉันซื้อยา Adderall จากอเมริกา, สำหรับในอเมริกา ยาตัวนี้เป็นยาทั่วไปที่ใช้รักษาโรคที่ฉันเป็น ด้วยความที่ฉันไม่รู้ว่ายาตัวนี้ไม่ถูกกฎหมายในเกาหลี ฉันเลยสั่งซื้อมันมาจากอเมริกาค่ะ แต่คนที่นี่กลับคิดว่าฉันลักลอบเข้ายาบ้า เพียงเพราะยาตัวนี้มีส่วนประกอบของ amphetmines นี่มันคือเหตุผลที่ฉันไม่สามารถใช้ยาเพื่อรักษาโรคของตัวเองได้งั้นหรอ?”




/ที่เกาหลี ยา amphetamines ยังคงผิดกฎหมาย และ Bom สั่งซื้อยาโดยไม่มีใบรับรองการสั่งซื้อจากแพทย์ด้วยความไม่รู้



“ที่ทางรายการนำเสนออายุของฉันว่าฉันกำลังจะ 40 ถามทุกคนรอบตัวฉันได้เลยค่ะ, ฉันเกิดปี 1984 ฉันอายุ 34 ปีค่ะ จะเป็นไปได้ยังไงที่ฉันแก่กว่าพี่สาวตัวเอง?”


“มันเป็นเวลากว่า 5 ปีแล้วที่ฉันเลิกร้องเพลง เป็นเพราะฉันได้รับความเกลียดชังจากผู้คน มันทำให้ฉันไม่อยากเป็นนักร้องค่ะ แต่แล้วหลังจากที่ฉันได้ดูรายการ “PD Notebook” ฉันกลับรู้สึกว่าฉันต้องเป็นนักร้องให้ได้ ฉันจะยอมแพ้ให้กับสิ่งที่ฉันต้องการมากที่สุดและฉันทำได้ดีมากที่สุด เพราะโดนโจมตีหลังจากที่ทุกคนเข้าใจฉันผิดๆ ได้ยังไงกัน, ฉันรู้สึกขอบคุณ YG ที่สร้างฉัน และแน่นอนว่าอยากจะขอบคุณท่านประธาน Yang Hyun Suk หลายคนเข้าใจผิดคิดว่าฉันโกรธเกลียดพวกเขา แต่ความจริงคือไม่ใช่เลย และแน่นอน ฉันอยากจะกลับมาประสบความสำเร็จในฐานะนักร้อง เพื่อที่ฉันจะได้ซื้อตึกหลังใหญ่ให้กับพ่อแม่ที่พยายามดิ้นรนเพื่อฉันมาตลอด”


“ชุดที่ฉันกำลังใส่ตอนนี้ ฉันซื้อมาเมื่อ 5 ปีก่อน ฉันไม่ได้ออกไปซื้อเสื้อผ้าอย่างสบายใจมาเป็นเวลากว่า 5 ปีแล้วค่ะ แม้แต่จะเดินออกไปไหนมาไหนบนถนน ฉันจะรู้สึกระแวงผู้คนว่าพวกเขาจะพูดถึงฉันยังไง ฉันไม่มีรถ เลยทำได้แต่วิ่งไปรอบๆ ผู้คนแบบนั้น ฉันดื่มไม่เก่ง แต่มันก็มีบ้างที่ฉันดื่ม, หัวใจของฉันมันเจ็บปวดเหลือเกิน แต่ฉันทำได้แค่บังคับให้ตัวเองต้องอดทนกับมัน แค่เพียงพวกเขาเข้าใจในสิ่งที่ฉันกำลังต้องเจอ ไม่ต้องเข้าใจมันทั้งหมดหรอก แค่เพียวเสี้ยวนึงก็ได้ ถ้าเป็นแบบนั้นฉันคิดว่าฉันคงสามารถกลับมาร้องพลงได้อีกครั้ง คุณแค่คอยเฝ้ามองฉันได้ไหม?”




/ Bom พยายามจะสื่อว่า เธออยากให้ทุกคนมองเธอใหม่ ให้โอกาสเพื่อให้เธอสามารถกลับมาอยู่ในวงการร้องเพลงได้อีกครั้งนึง เพราะที่ผ่านมาเธอโดนกระแสลบมาตลอด จนไม่กล้าพอที่จะทำงานต่อค่ะ








หลังจากที่ Bom ดูรายการ PD Notebook จบ เธอได้เขียนจดหมายเพื่อที่จะแชร์ให้กับแฟนๆ ลงบนโซเชี่ยลมีเดียร์ของเธอ แต่เธอไม่กล้าพอเลยมอบมันให้กับผู้สื่อข่าว โดยในเนื้อหามีใจความเกี่ยวกับโรค ADD และคำพูดถึงแฟนๆ ของเธอ “หัวใจของฉันมันเจ็บปวดจริงๆ เพราะฉันไม่สามารถจะบอกอะไรพวกคุณได้เลย .. พวกคุณไม่รู้เลยว่าฉันรู้สึกขอบคุณพวกคุณมากแค่ไหนและฉันเจ็บปวดแค่ไหน ที่พวกคุณยังคอยตั้งตารอพวกเราที่แยกย้ายไปทำงานเดี่ยวกันหมด”

“ฉันขอโทษที่ฉันไม่กล้าพอที่จะเขียนจดหมายฉบับนี้ให้เร็วกว่านี้ เพราะฉันใช้เวลาไปกับการจมอยู่กับความเจ็บปวด และฉันก็ต้องขอโทษทุกๆ คนที่ต้องมาเดือดร้อนเพราะฉันด้วยค่ะ”





*จะมีการแปลจดหมายฉบับเต็มของ Bom ในคอมเมนท์และความเคลื่อนไหวของบรรดาชาวเน็ตเกาหลีมาให้อ่านต่อนะคะ
**บทความมีการช่วยเหลือกันทั้งจากล่ามเกาหลีและอังกฤษ เพื่อให้ได้ใจความที่เหมาะสม ถูกต้อง และเข้าใจง่ายสำหรับผู้อ่านที่เป็นคนไทย หากมีข้อความที่คลาดเคลื่อนต้องขออภัยด้วยนะคะ และอยากขอความร่วมมือทุกๆ คนที่ได้เข้ามาอ่าน ช่วยกันแชร์บทความนี้กันไปเยอะๆ นะคะ ช่วยเหลือกันไม่ใช่ฐานะแฟนคลับ แต่ในฐานะมนุษย์คนนึง ที่ช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ด้วยกันค่ะ
อ้างอิง http://entertain.naver.com/read?oid=144&aid=0000548932&lfrom=twitter
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่