สวัสดีครับ วันนี้จะมารีวิวบ้านเก่าอายุมากกว่า 30 ปี ก่อนอื่นต้องเกริ่นก่อนว่าเจ้าของกระทู้ไม่ได้พักอยู่ที่บ้าน โดยอาศัยภาพจากที่คุณแม่ส่ง Line มาให้ดู เพื่ออัพเดทความคืบหน้าในการทำเท่านั้น!!! ภาพอาจจะเบลอบ้าง ขาดขั้นตอนต่างๆ ไปบ้าง ต้องขออภัย ไว้ณ ที่นี้ด้วยน๊าาาา
มาเข้าเรื่องกันเลย บ้านหลังนี้เป็นบ้านที่คุณตากับคุณยายร่วมสร้างกันมาก่อน พ.ศ. 2530 ส่วนเจ้าของกระทู้เองเกิด พ.ศ. 2535 ซึ่งรวมอายุบ้านแล้วก็ราวๆ 30 ปี เป็นบ้านที่ไม่มีแปรน สร้างกันตามใจฉันก็ว่าได้ ไม่มีห้องนอน มีแค่กระดานไม้อัดมากั้นเป็นห้องนอนไว้เพียงห้องเดียวเท่านั้น เจ้าของกระทู้เองเรียนจบมา ทำงานเก็บเงินได้ก้อนนึง และก็มีความคิดอยากจะรีโนเวทบ้านใหม่ให้คุณยายและคุณแม่ เลยโทรไปปรึกษาคุณแม่ว่าจะรีโนเวทบ้านให้คุณแม่ดำเนินการหาช่างได้เลย โดยที่มีงบอยู่ประมาณ 2 แสนกว่าบาท คุณแม่เลยไปปรึกษาคุณลุง จึงได้ช่างซึ่งเป็นญาติของภรรยาของคุณลุงนั่นเอง คุณแม่ก็เลยให้เจ้าของกระทู้โทรไปคุยกับช่างเพื่อบอกรายละเอียดว่าจะทำอะไรบ้าง ดังนี้
- กั้นห้องนอน 2 ห้อง
- ตีฝ้าเพดาน
- ปูกระเบื้อง
- ทาสีบ้าน
- เปลี่ยนหน้าต่างทั้งหมด
ช่างก็ได้เข้ามาที่บ้านเพื่อดูหน้างานว่าเป็นอย่างไร และวันรุ่งขึ้นก็เข้ามาก็ดำเนินการเลยครับ
1. รูปภายในบ้านก่อนการรีโนเวท
Plan ที่เจ้าของกระทู้คิดไว้ก็จะอยู๋ในลักษณะนี้
วันแรกที่ช่างเข้ามาก็รื้อผนังไม้ที่กั้นห้องนอนก่อนเป็นอันดับแรกเลย
และแล้วก็เจอเจ้าวายร้ายนี่ คุณปลวก.....
หลังจากที่ช่างได้ทำการรื้อผนังห้องแล้วก็ทำการก่ออิฐเพื่อกั้นเป็นห้องนอน
กั้นห้องเสร็จแล้ว ต่อไปช่างก็เริ่มตีฝ้าเพดาน เนื่องจากว่าบ้านของเจ้าของกระทู้มีช่องลมอยู่รอบบ้าน ช่างก็เลยอุดช่องลมโดยการใช้ปูนซีเมนต์โบกเข้าไป ตรงรูช่องลมแล้วก็ฉาบเรียบให้เป็นเนื้อเดียวกันกับผนังบ้าน ส่วนนี้เพื่อป้องกันคุณหนูเข้าไปเดินสวนสนามบนฝ้า นั่นเอง
ในการตีโครงฝ้า ช่างเสนอให้ทำฝ้าเพดานโดยใช้แผ่นฝาเฌอร่า โดยวางโครงด้วยไม้ เนื่องจากอายุการใช้งานจะทนทานและยาวนานกว่าฝ้าแบบทีบาร์
หลังจากที่ตีฝ้าเพดานเรียบร้อยแล้ว ก็ทำเปลี่ยนหน้าต่างบ้านทั้งหมด ซึ่งหน้าต่างบ้านของเจ้าของกระทู้เป็นหน้าต่างไม้ เจ้าของกระทู้มองว่ามันทำให้บ้านดูทึบ และดูเก่าไม่ทันสมัย เลยเปลี่ยนมาเป็นหน้าต่างกระจกใหม่ทั้งหมด
ต่อมาก็ทำการปูพื้นกระเบื้อง (ขั้นตอนนี้ไม่มีรูปภาพขณะที่ช่างทำงานเลยครับ) เอาเป็นภาพหลังจากปูพื้นกระเบื้องเสร็จเรียบร้อยแล้วกันน๊า ซึ่งเมื่อก่อนพื้นบ้านจะเป็นพื้นซีเมนต์ดิบๆ เลยครับไม่มีการปูกระเบื้องใดๆ ทั้งสิ้น ส่วนเรื่องลายกระเบื้องนั้นเจ้าของกระทู้ให้คุณแม่เป็นคนจัดการเลือกเองครับ
ก็จะได้ลายกระเบื้องมาในลักษณะนี้.......
เสร็จแล้วก็มาในส่วนของสีบ้านครับ ส่วนมีทำเจ้าของกระทู้กลุ้มใจมากเนื่องจากว่าต้องทาถึง 2 ครั้ง เพราะครั้งแรกเจ้าของกระทู้ได้คุยกับคุณแม่โดยผ่าน Line Vdo Call เพื่อเลือกสีโดยมีข้อสรุปมติกันว่าเอาสีโทนครีมๆ วนิลา มันแลดูนวลตา ไม่ฉูดฉาดจนเกินไปครับ เมื่อคุณแม่ไปซื้อสีมาไม่รู้ไปคุยกับทางร้านสีอะไรยังไง เพราะสีที่ได้มานั้นคนละโทนกับที่ตกลงกันไว้เล๊ยยยย 555+ ซึ่งเจ้าของกระทู้จะโทรไปสอบถามความก้าวหน้าทุกวัน แต่วันที่ทาสีนั้นคุณแม่จะไม่เปิด VDO Call ให้ดูเลย แต่เจ้าของกระทู้ก็โทรหาพี่ชายให้ส่งรูปมาให้ พอเห็นรูปแล้วถึงกับช็อค!!! 5555+
สีที่เราได้มีมติกันไว้ครับ
แต่สีที่คุณแม่ได้มาคือ............... (อ้าว...เห้ยไม่เหมือนที่คุยกันไว้นี่หน่า) 555+
เจ้าของกระทู้เห็นสีพื้นของตัวเองแล้วก็เลยรีบโทรหาคุณแม่เพื่อบอกให้ช่างหยุดทา และให้แม่ไปซื้อสีใหม่ทันที โดยบอกคุณแม่ว่าให้ซื้อสีมาทาใหม่ เลยนะ เอาสีไหนก็ได้ให้อยู่ในโทนสีครีม หรือวนิลาเหมือนที่เคยตกลงกันไว้ก่อนหน้านี้ คุณแม่ก็ขำใหญ่เลย และพูดว่าช่างทาสีเสร็จพอดีเลยลูก 5555+ T-T
และแล้วคุณแม่ก็ไปซื้อสีมาทาใหม่ในวันนั้นเลย และบอกให้ช่างทาใหม่เลย ช่างแจ้งว่าต้องรอให้สีแห้งก่อน 1-2 วัน ถึงจะทาได้
ทาสีใหม่แล้ว.... โอเคขึ้นมาหน่อย
มาถึงในส่วนของไฟนั้นเจ้าของกระทู้วาดแปลนไฟเองโดยออกแบบและส่งไปให้คุณแม่แจ้งช่างทำไฟครับ
แต่เมื่อเจ้าของกระทู้กลับไปดูบ้าน เจ้าของกระทู้เลยตัดโคมไฟช่อออก เพราะฝ้าเพดานบ้านไม่สูงมากนัก ถ้าติดโคมไฟช่อแล้วเกรงกว่าเจ้าของกระทู้จะเดินชน 5555+ และอีกอย่างเมื่อก่อนห้องนอนที่กั้นด้วยไม้นั้น มันคลุมเสากลางบ้านเอาไว้ พอรื้อห้องตรงนั้นออกทำให้เสานั้นอยู่กลางบ้านพอดี ช่างทำไฟเลยเสนอว่าให้ติดโคมไฟเล็กๆ รอบเสาทั้ง 4 ด้านโดยอยากให้หาอะไรมาปูเสานั้นไว้ ก็เลยได้ไอเดียเอาหินมาก่อไว้รอบเสาทั้งต้นเลย และก็ติดโคมไฟรอบ เลยดูเหมือนเป็นโคมไฟช่อแทน
โคมไฟติดรอบเสากลางบ้านเสร็จแล้ว หน้าตาก็จะประมาณนี้ครับ
เนื่องจากสภาพอากาศที่บ้านค่อนข้างร้อนเกือบทั้งปี เจ้าของกระทู้ก็เลยติดแอร์ไว้ในห้องนอนทั้ง 2 ห้อง ให้คุณแม่กับคุณยายไว้นอนสบายกันเลยทีเดียว
พอทุกอย่างในบ้านเสร็จเรียบร้อยแล้วก็ถึงขั้นตอนของเฟอร์นิเจอร์และผ้าม่าน อันนี้คุณแม่ให้เจ้าของกระทู้เป็นคนเลือกสีและแบบเอง แต่ตอนที่เลือกนั้นคุณแม่ก็ร่วมในวงสนทนาด้วย เจ้าของกระทู้ชอบม่านแบบทึบๆ สีโมเดิร์นๆ หน่อย แต่พอเจ้าของกระทู้เลือกคุณแม่ก็ไอทุกที 5555+ คุณแม่ชอบสีชมพู สีเขียว แต่เจ้าของกระทู้ชอบสีเข้มๆ เทาๆ ดำๆ เลยแข็งใจให้คุณแม่ไอต่อไป และตัดสินใจเลือกเอาสีเทาเป็นผ้าม่านจีบ ผ้ากัน UV ในระดับนึง
เวลาโดนแดดก็กันแสงได้ในระดับนึง
อันนี้เป็นภาพหลังจากรีโนเวทเสร็จเรียบร้อยแล้วครับ
กระทู้นี่เป็นกระทู้รีโนเวทบ้านที่ภูมิใจมากๆ เพราะเจ้าของกระทู้ทำงานเก็บเงิน เพื่อทำตามความฝันคืออยากจะรีโนเวทบ้านให้คุณแม่และคุณยาย วันนี้เจ้าของกระทู้ทำมันได้ในอายุ 25 ย่าง 26 ปี ทำได้แค่นี้ก็ภูมิใจมากๆ แล้วครับ และก็ต้องขอคงขอบคุณคุณลุงที่คอยให้ความช่วยเหลือ ขับไปซื้อของต่างๆ จนบ้านเสร็จ และขอขอบคุณทุกๆ ท่านที่ติดตามและอ่านกระทู้จนจบครับ หากผิดพลาดประการใดก็ต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยครับ
[CR] รีโนเวทเล็กๆ บ้านเก่าของคุณยาย
มาเข้าเรื่องกันเลย บ้านหลังนี้เป็นบ้านที่คุณตากับคุณยายร่วมสร้างกันมาก่อน พ.ศ. 2530 ส่วนเจ้าของกระทู้เองเกิด พ.ศ. 2535 ซึ่งรวมอายุบ้านแล้วก็ราวๆ 30 ปี เป็นบ้านที่ไม่มีแปรน สร้างกันตามใจฉันก็ว่าได้ ไม่มีห้องนอน มีแค่กระดานไม้อัดมากั้นเป็นห้องนอนไว้เพียงห้องเดียวเท่านั้น เจ้าของกระทู้เองเรียนจบมา ทำงานเก็บเงินได้ก้อนนึง และก็มีความคิดอยากจะรีโนเวทบ้านใหม่ให้คุณยายและคุณแม่ เลยโทรไปปรึกษาคุณแม่ว่าจะรีโนเวทบ้านให้คุณแม่ดำเนินการหาช่างได้เลย โดยที่มีงบอยู่ประมาณ 2 แสนกว่าบาท คุณแม่เลยไปปรึกษาคุณลุง จึงได้ช่างซึ่งเป็นญาติของภรรยาของคุณลุงนั่นเอง คุณแม่ก็เลยให้เจ้าของกระทู้โทรไปคุยกับช่างเพื่อบอกรายละเอียดว่าจะทำอะไรบ้าง ดังนี้
- กั้นห้องนอน 2 ห้อง
- ตีฝ้าเพดาน
- ปูกระเบื้อง
- ทาสีบ้าน
- เปลี่ยนหน้าต่างทั้งหมด
ช่างก็ได้เข้ามาที่บ้านเพื่อดูหน้างานว่าเป็นอย่างไร และวันรุ่งขึ้นก็เข้ามาก็ดำเนินการเลยครับ
1. รูปภายในบ้านก่อนการรีโนเวท
Plan ที่เจ้าของกระทู้คิดไว้ก็จะอยู๋ในลักษณะนี้
วันแรกที่ช่างเข้ามาก็รื้อผนังไม้ที่กั้นห้องนอนก่อนเป็นอันดับแรกเลย
และแล้วก็เจอเจ้าวายร้ายนี่ คุณปลวก.....
หลังจากที่ช่างได้ทำการรื้อผนังห้องแล้วก็ทำการก่ออิฐเพื่อกั้นเป็นห้องนอน
กั้นห้องเสร็จแล้ว ต่อไปช่างก็เริ่มตีฝ้าเพดาน เนื่องจากว่าบ้านของเจ้าของกระทู้มีช่องลมอยู่รอบบ้าน ช่างก็เลยอุดช่องลมโดยการใช้ปูนซีเมนต์โบกเข้าไป ตรงรูช่องลมแล้วก็ฉาบเรียบให้เป็นเนื้อเดียวกันกับผนังบ้าน ส่วนนี้เพื่อป้องกันคุณหนูเข้าไปเดินสวนสนามบนฝ้า นั่นเอง
ในการตีโครงฝ้า ช่างเสนอให้ทำฝ้าเพดานโดยใช้แผ่นฝาเฌอร่า โดยวางโครงด้วยไม้ เนื่องจากอายุการใช้งานจะทนทานและยาวนานกว่าฝ้าแบบทีบาร์
หลังจากที่ตีฝ้าเพดานเรียบร้อยแล้ว ก็ทำเปลี่ยนหน้าต่างบ้านทั้งหมด ซึ่งหน้าต่างบ้านของเจ้าของกระทู้เป็นหน้าต่างไม้ เจ้าของกระทู้มองว่ามันทำให้บ้านดูทึบ และดูเก่าไม่ทันสมัย เลยเปลี่ยนมาเป็นหน้าต่างกระจกใหม่ทั้งหมด
ต่อมาก็ทำการปูพื้นกระเบื้อง (ขั้นตอนนี้ไม่มีรูปภาพขณะที่ช่างทำงานเลยครับ) เอาเป็นภาพหลังจากปูพื้นกระเบื้องเสร็จเรียบร้อยแล้วกันน๊า ซึ่งเมื่อก่อนพื้นบ้านจะเป็นพื้นซีเมนต์ดิบๆ เลยครับไม่มีการปูกระเบื้องใดๆ ทั้งสิ้น ส่วนเรื่องลายกระเบื้องนั้นเจ้าของกระทู้ให้คุณแม่เป็นคนจัดการเลือกเองครับ
ก็จะได้ลายกระเบื้องมาในลักษณะนี้.......
เสร็จแล้วก็มาในส่วนของสีบ้านครับ ส่วนมีทำเจ้าของกระทู้กลุ้มใจมากเนื่องจากว่าต้องทาถึง 2 ครั้ง เพราะครั้งแรกเจ้าของกระทู้ได้คุยกับคุณแม่โดยผ่าน Line Vdo Call เพื่อเลือกสีโดยมีข้อสรุปมติกันว่าเอาสีโทนครีมๆ วนิลา มันแลดูนวลตา ไม่ฉูดฉาดจนเกินไปครับ เมื่อคุณแม่ไปซื้อสีมาไม่รู้ไปคุยกับทางร้านสีอะไรยังไง เพราะสีที่ได้มานั้นคนละโทนกับที่ตกลงกันไว้เล๊ยยยย 555+ ซึ่งเจ้าของกระทู้จะโทรไปสอบถามความก้าวหน้าทุกวัน แต่วันที่ทาสีนั้นคุณแม่จะไม่เปิด VDO Call ให้ดูเลย แต่เจ้าของกระทู้ก็โทรหาพี่ชายให้ส่งรูปมาให้ พอเห็นรูปแล้วถึงกับช็อค!!! 5555+
สีที่เราได้มีมติกันไว้ครับ
แต่สีที่คุณแม่ได้มาคือ............... (อ้าว...เห้ยไม่เหมือนที่คุยกันไว้นี่หน่า) 555+
เจ้าของกระทู้เห็นสีพื้นของตัวเองแล้วก็เลยรีบโทรหาคุณแม่เพื่อบอกให้ช่างหยุดทา และให้แม่ไปซื้อสีใหม่ทันที โดยบอกคุณแม่ว่าให้ซื้อสีมาทาใหม่ เลยนะ เอาสีไหนก็ได้ให้อยู่ในโทนสีครีม หรือวนิลาเหมือนที่เคยตกลงกันไว้ก่อนหน้านี้ คุณแม่ก็ขำใหญ่เลย และพูดว่าช่างทาสีเสร็จพอดีเลยลูก 5555+ T-T
และแล้วคุณแม่ก็ไปซื้อสีมาทาใหม่ในวันนั้นเลย และบอกให้ช่างทาใหม่เลย ช่างแจ้งว่าต้องรอให้สีแห้งก่อน 1-2 วัน ถึงจะทาได้
ทาสีใหม่แล้ว.... โอเคขึ้นมาหน่อย
มาถึงในส่วนของไฟนั้นเจ้าของกระทู้วาดแปลนไฟเองโดยออกแบบและส่งไปให้คุณแม่แจ้งช่างทำไฟครับ
แต่เมื่อเจ้าของกระทู้กลับไปดูบ้าน เจ้าของกระทู้เลยตัดโคมไฟช่อออก เพราะฝ้าเพดานบ้านไม่สูงมากนัก ถ้าติดโคมไฟช่อแล้วเกรงกว่าเจ้าของกระทู้จะเดินชน 5555+ และอีกอย่างเมื่อก่อนห้องนอนที่กั้นด้วยไม้นั้น มันคลุมเสากลางบ้านเอาไว้ พอรื้อห้องตรงนั้นออกทำให้เสานั้นอยู่กลางบ้านพอดี ช่างทำไฟเลยเสนอว่าให้ติดโคมไฟเล็กๆ รอบเสาทั้ง 4 ด้านโดยอยากให้หาอะไรมาปูเสานั้นไว้ ก็เลยได้ไอเดียเอาหินมาก่อไว้รอบเสาทั้งต้นเลย และก็ติดโคมไฟรอบ เลยดูเหมือนเป็นโคมไฟช่อแทน
โคมไฟติดรอบเสากลางบ้านเสร็จแล้ว หน้าตาก็จะประมาณนี้ครับ
เนื่องจากสภาพอากาศที่บ้านค่อนข้างร้อนเกือบทั้งปี เจ้าของกระทู้ก็เลยติดแอร์ไว้ในห้องนอนทั้ง 2 ห้อง ให้คุณแม่กับคุณยายไว้นอนสบายกันเลยทีเดียว
พอทุกอย่างในบ้านเสร็จเรียบร้อยแล้วก็ถึงขั้นตอนของเฟอร์นิเจอร์และผ้าม่าน อันนี้คุณแม่ให้เจ้าของกระทู้เป็นคนเลือกสีและแบบเอง แต่ตอนที่เลือกนั้นคุณแม่ก็ร่วมในวงสนทนาด้วย เจ้าของกระทู้ชอบม่านแบบทึบๆ สีโมเดิร์นๆ หน่อย แต่พอเจ้าของกระทู้เลือกคุณแม่ก็ไอทุกที 5555+ คุณแม่ชอบสีชมพู สีเขียว แต่เจ้าของกระทู้ชอบสีเข้มๆ เทาๆ ดำๆ เลยแข็งใจให้คุณแม่ไอต่อไป และตัดสินใจเลือกเอาสีเทาเป็นผ้าม่านจีบ ผ้ากัน UV ในระดับนึง
เวลาโดนแดดก็กันแสงได้ในระดับนึง
อันนี้เป็นภาพหลังจากรีโนเวทเสร็จเรียบร้อยแล้วครับ
กระทู้นี่เป็นกระทู้รีโนเวทบ้านที่ภูมิใจมากๆ เพราะเจ้าของกระทู้ทำงานเก็บเงิน เพื่อทำตามความฝันคืออยากจะรีโนเวทบ้านให้คุณแม่และคุณยาย วันนี้เจ้าของกระทู้ทำมันได้ในอายุ 25 ย่าง 26 ปี ทำได้แค่นี้ก็ภูมิใจมากๆ แล้วครับ และก็ต้องขอคงขอบคุณคุณลุงที่คอยให้ความช่วยเหลือ ขับไปซื้อของต่างๆ จนบ้านเสร็จ และขอขอบคุณทุกๆ ท่านที่ติดตามและอ่านกระทู้จนจบครับ หากผิดพลาดประการใดก็ต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยครับ