ทนายเครือข่ายธรรมกายสิ้นฤทธิ์!ดอดกราบขอขมาหลวงปู่พุทธะอิสระ
27 เม.ย.61 - ผู้ใช้บัญชีเฟซบุ๊ก Mahussajuk Sodee โพสต์รูปภาพพร้อมข้อความระบุว่าสืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2559 นายประสิทธิ์ สันจิตร ทนายความเครือข่ายธรรมกาย อ้างว่าเป็น ประธานเครือข่ายพิทักษ์พุทธ ได้บุกมาที่วัดอ้อน้อยเพื่อยื่นหนังสือกล่าวหาใส่ร้ายว่าพระพุทธะอิสระต้องอาบัติปาราชิกขาดจากความเป็นพระ เพราะเหตุลักทรัพย์ผู้อื่นตามสิกขาบทที่ 2 อันเป็นเท็จ พระพุทธะอิสระจึงสั่งให้ทนายความฟ้องเอาผิดนายประสิทธิ์ สันจิตร ต่อศาลจังหวัดนครปฐม ในคดีอาญาหมายเลขดำที่ 2189/2559
ต่อมาศาลไต่สวนเห็นว่าคดีมีมูลจึงให้รับฟ้องไว้พิจารณา ที่สุดในวันที่ 19 เมษายน 2561 ศาลจังหวัดนครปฐมออกนั่งพิจารณาคดี นายประสิทธิ์ สันจิตร ทนายธรรมกาย แถลงต่อศาลว่า บัดนี้ สำนึกได้ว่าสิ่งที่นำไปกล่าวหาพระพุทธะอิสระเป็นการใส่ร้ายนั้นเป็นความเท็จ ทำให้พระพุทธะอิสระได้รับความเสียหาย จึงขอศาลได้ให้โอกาสเข้าทำพิธี กราบขอขมาพระพุทธะอิสระ เมื่อเป็นดังนั้น ทนายความของพระพุทธะอิสระจึงโทรศัพท์ติดต่อไปยังพระพุทธะอิสระ และได้รับอนุญาตให้พานายประสิทธิ์ สันจิตรเข้ามากราบขอขมาได้ ในวันที่ 28 เมษายน 2561 เวลา 14.00 น. ณ ลานโพธิ์ วัดอ้อน้อย.ผู้ประสานงาน0863242287นายมหัศจักร โสดี
ก่อนหน้านี้ พระสุวิทย์ ธีรธมฺโม หรือ หลวงปู่พุทธะอิสระ เจ้าอาวาสวัดอ้อน้อย อำเภอกำแพงแสน จังหวัดนครปฐม โพสต์ข้อความ "พวกปากกล้าขาสั่น นี่แหละสันดานธาตุแท้ของสาวกธรรมกายล่ะ"ผ่านเพจเฟซบุ๊ก ระบุว่า "ท่านทั้งหลายลองอ่านถ้อยคำเว้าวอนของทนายประสิทธิ์ สาวกลัทธิจานบินที่ไปเขียนคำสารภาพบาปต่อหน้าศาลจังหวัดนครปฐมสดๆ ร้อนๆ เมื่อวาน ดูกันบ้างเผื่อจะเป็นเครื่องเตือนใจพวกปากกล้า ขาสั่นว่าท่านทั้งหลายที่ชอบเข้ามาด่าว่าใส่ร้าย
ถ้าคิดจะสู้กับพญาราชสีห์อย่างพุทธะอิสระก็ต้องกล้าติดคุกด้วย
อย่ามาทำพฤติกรรมปัญญาอ่อนซ้ำๆ ซากๆ เหมือนกันทั้งแก๊งค์แบบว่า
ปากกล้า เก่งอยู่แต่หน้าคีย์บอร์ดพอถูกหมายศาลเรียกทำเป็นคอตก หน้าซีด ขาสั่น แล้วออกมาว่า “ผมขอโทษ”
ไม่เข้าใจว่าทำไม พวกเผ่าพันธุ์นี้มันถึงได้กลัวความจริงกันนัก
หรือมันมีสันดานเช่นนี้กันทั้งแก๊ง
สู้อุตส่าห์ขวนขวายเล่าเรียนมาจนมีความรู้สอบได้เป็นถึงทนายความ มันน่าจะนำความรู้ไปช่วยคนที่เขาไม่มีความรู้
แต่ไอ้เผ่าพันธุ์จานบินนี่ ดันใช้ความรู้มาใส่ร้ายป้ายสีไม่เว้นแม้แต่พระสงฆ์องค์เจ้า
อย่างนี้มันต้องเอาให้เข็ดหลาบ"
☂️🌞~มาลาริน~เวรกรรม!!!....ทนายเครือข่ายธรรมกายสิ้นฤทธิ์!ดอดกราบขอขมาหลวงปู่พุทธะอิสระ
ทนายเครือข่ายธรรมกายสิ้นฤทธิ์!ดอดกราบขอขมาหลวงปู่พุทธะอิสระ
27 เม.ย.61 - ผู้ใช้บัญชีเฟซบุ๊ก Mahussajuk Sodee โพสต์รูปภาพพร้อมข้อความระบุว่าสืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2559 นายประสิทธิ์ สันจิตร ทนายความเครือข่ายธรรมกาย อ้างว่าเป็น ประธานเครือข่ายพิทักษ์พุทธ ได้บุกมาที่วัดอ้อน้อยเพื่อยื่นหนังสือกล่าวหาใส่ร้ายว่าพระพุทธะอิสระต้องอาบัติปาราชิกขาดจากความเป็นพระ เพราะเหตุลักทรัพย์ผู้อื่นตามสิกขาบทที่ 2 อันเป็นเท็จ พระพุทธะอิสระจึงสั่งให้ทนายความฟ้องเอาผิดนายประสิทธิ์ สันจิตร ต่อศาลจังหวัดนครปฐม ในคดีอาญาหมายเลขดำที่ 2189/2559
ต่อมาศาลไต่สวนเห็นว่าคดีมีมูลจึงให้รับฟ้องไว้พิจารณา ที่สุดในวันที่ 19 เมษายน 2561 ศาลจังหวัดนครปฐมออกนั่งพิจารณาคดี นายประสิทธิ์ สันจิตร ทนายธรรมกาย แถลงต่อศาลว่า บัดนี้ สำนึกได้ว่าสิ่งที่นำไปกล่าวหาพระพุทธะอิสระเป็นการใส่ร้ายนั้นเป็นความเท็จ ทำให้พระพุทธะอิสระได้รับความเสียหาย จึงขอศาลได้ให้โอกาสเข้าทำพิธี กราบขอขมาพระพุทธะอิสระ เมื่อเป็นดังนั้น ทนายความของพระพุทธะอิสระจึงโทรศัพท์ติดต่อไปยังพระพุทธะอิสระ และได้รับอนุญาตให้พานายประสิทธิ์ สันจิตรเข้ามากราบขอขมาได้ ในวันที่ 28 เมษายน 2561 เวลา 14.00 น. ณ ลานโพธิ์ วัดอ้อน้อย.ผู้ประสานงาน0863242287นายมหัศจักร โสดี
ก่อนหน้านี้ พระสุวิทย์ ธีรธมฺโม หรือ หลวงปู่พุทธะอิสระ เจ้าอาวาสวัดอ้อน้อย อำเภอกำแพงแสน จังหวัดนครปฐม โพสต์ข้อความ "พวกปากกล้าขาสั่น นี่แหละสันดานธาตุแท้ของสาวกธรรมกายล่ะ"ผ่านเพจเฟซบุ๊ก ระบุว่า "ท่านทั้งหลายลองอ่านถ้อยคำเว้าวอนของทนายประสิทธิ์ สาวกลัทธิจานบินที่ไปเขียนคำสารภาพบาปต่อหน้าศาลจังหวัดนครปฐมสดๆ ร้อนๆ เมื่อวาน ดูกันบ้างเผื่อจะเป็นเครื่องเตือนใจพวกปากกล้า ขาสั่นว่าท่านทั้งหลายที่ชอบเข้ามาด่าว่าใส่ร้าย
ถ้าคิดจะสู้กับพญาราชสีห์อย่างพุทธะอิสระก็ต้องกล้าติดคุกด้วย
อย่ามาทำพฤติกรรมปัญญาอ่อนซ้ำๆ ซากๆ เหมือนกันทั้งแก๊งค์แบบว่า
ปากกล้า เก่งอยู่แต่หน้าคีย์บอร์ดพอถูกหมายศาลเรียกทำเป็นคอตก หน้าซีด ขาสั่น แล้วออกมาว่า “ผมขอโทษ”
ไม่เข้าใจว่าทำไม พวกเผ่าพันธุ์นี้มันถึงได้กลัวความจริงกันนัก
หรือมันมีสันดานเช่นนี้กันทั้งแก๊ง
สู้อุตส่าห์ขวนขวายเล่าเรียนมาจนมีความรู้สอบได้เป็นถึงทนายความ มันน่าจะนำความรู้ไปช่วยคนที่เขาไม่มีความรู้
แต่ไอ้เผ่าพันธุ์จานบินนี่ ดันใช้ความรู้มาใส่ร้ายป้ายสีไม่เว้นแม้แต่พระสงฆ์องค์เจ้า
อย่างนี้มันต้องเอาให้เข็ดหลาบ"